The king of War - บทที่ 345 เชิญท่านลงโทษ
คำพูดของหยางเฉินราวกับสายฟ้าฟาด ระเบิดดังอยู่ข้างหูทุกคน
เพียงแค่ตะลึงไปในพริบตาเดียวแบบนั้น หยูเสี่ยวเวยก็ได้สติกลับมาแล้ว ทำหน้าโกรธเคือง ชี้นิ้วไปยังหน้าประตู “หยางเฉิน ที่นี่ไม่ต้อนรับนาย เชิญนายกลับไป!”
“หัวหน้าหยูคะ คุณทำแบบนี้ ไม่เกินเหตุไปหน่อยเหรอ?”
ในที่สุดหวางเยี่ยนทนไม่ไหวแล้ว พูดแบบตาแดงก่ำ “โดยเฉพาะเขาเป็นเพื่อนสมัยเรียนของคุณ ต่อให้ซื้อไม่ได้จริงๆ คุณก็ไม่ควรเหยียดหยามเขาแบบนี้!”
“ทุกวันล้วนมีลูกค้ามาที่เมืองเทียนฝู่ แต่คนที่ยินยอมซื้อจริงๆ มีสักกี่คนกัน?”
“ยิ่งไปกว่านั้นคุณผู้ชายท่านนี้บอกว่าจะซื้อแล้ว ทำไมคุณถึงแน่ใจว่าเขาซื้อไม่ได้?”
เดิมทีในใจหวางเยี่ยนยังมีความรู้สึกโมโหต่อหยูเสี่ยวเวยระดับหนึ่ง แต่ไม่นานเธอก็ตอบสนองกลับมาแล้ว
ตั้งแต่วันแรกที่เธอเริ่มเข้ามาเมืองเทียนฝู่ หยูเสี่ยวเวยก็เป็นปรปักษ์กับตนเองอย่างมาก
เพียงเพราะว่าวันนั้นที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เดิมทีต้อนรับลูกค้าที่มีเจตนาจะซื้อของคนหนึ่งแล้ว แต่กลับถูกหยูเสี่ยวเวยตัดหน้าไป ตอนนั้นหวางเยี่ยนพูดเพียงแค่ว่า “หัวหน้าหยูคะ ฉันคิดว่าฉันสามารถแนะนำคุณผู้ชายท่านนี้ชัดเจนได้ค่ะ”
เพราะเรื่องนี้ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หยูเสี่ยวเวยจึงจงใจทอดทิ้งตนเอง ทุกครั้งที่ร้านมีลูกค้า ล้วนจะถูกหล่อนจัดการให้คนอื่น
ดังนั้นเข้าทำงานมาใกล้จะสามเดือนเต็ม หยางเฉินจึงเป็นลูกค้าคนแรกที่เธอต้อนรับ
ได้ยินคำพูดของหวางเยี่ยน ชั่วขณะนั้นหยูเสี่ยวเวยท่าทางโกรธแค้น ยื่นมือคิดจะตบหน้าเข้าไปทีหนึ่ง
“หมับ!”
แต่ในเวลานี้เอง หยางเฉินยื่นแขนข้างหนึ่งออกมาฉับพลัน คว้าบนข้อมือของหยูเสี่ยวเวยไว้แล้ว “เธอทำเกินเหตุไปแล้ว!”
หวางเยี่ยนหน้าตาตกใจ เมื่อสักครู่เธอคิดว่าฝ่ามือของหยูเสี่ยวเวยต้องตบลงบนหน้าของตนเองแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าถูกหยางเฉินห้ามเอาไว้แล้ว
ส่วนหยูเสี่ยวเวยก็ตกใจอย่างมากเช่นกัน ก่อนหน้านี้ตอนอยู่มหาวิทยาลัย หยางเฉินคือคนตัวเล็กๆ ที่เผชิญสภาพเลวร้ายอย่างไรก็มักยอมทนมาตลอด เคยต่อต้านตั้งแต่เมื่อไรกัน?
วันนี้ คาดไม่ถึงเพื่อผู้หญิงที่รู้จักกันเลยคนหนึ่ง เขาจับข้อมือของตนเองไว้แล้ว
“หยางเฉิน นายกล้าแตะต้องฉัน?”
หยูเสี่ยวเวยหน้าโมโหเต็มที่ในชั่วขณะหนึ่ง “นายรู้หรือเปล่าว่าแฟนของฉันเป็นใคร?”
“แฟนของเธอเป็นใคร เกี่ยวข้องกับฉันด้วยเหรอ?”
หยางเฉินพูดจาแบบหน้าตาไร้อารมณ์ จากนั้นปล่อยมือของหยูเสี่ยวเวยแล้ว
“ตึก! ตึก! ตึก!”
เมื่อสักครู่หยูเสี่ยวเวยออกแรงดิ้นรนมาโดยตลอด พอหยางเฉินปล่อยมือกะทันหัน หล่อนจึงถอยหลังติดกันไปหลายก้าว หลังจากซวนเซก้นก็กระแทกพื้นนั่งลงไปแล้ว
“พี่เสี่ยวเวย!”
เหล่าพนักงานขายพวกนั้น เวลานี้ต่างร้องตกใจขึ้นมา พุ่งเข้ามาแล้ว
หยูเสี่ยวเวยหน้าตาอับอายและโกรธเต็มที่ หลังจากเพื่อนร่วมงานพยุงขึ้นมา โกรธจนควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ กัดฟันแน่นพูดว่า “หยางเฉิน ในเมื่อนายกล้าลงมือกับฉัน งั้นอย่าโทษว่าฉันไม่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนแล้วกัน!”
พูดจบ หล่อนหยิบมือถือออกมาแล้วเริ่มโทรศัพท์ไป “ที่รัก ฉันอยู่ในร้าน ถูกคนทำร้ายแล้ว คุณรีบเข้ามาเร็ว!”
ชั่วขณะนั้นหวางเยี่ยนร้อนใจแล้ว ใกล้จะร้องไห้ด้วย รีบบอกทันที “คุณผู้ชายคะ แฟนของหยูเสี่ยวเวยคือผู้จัดการของเมืองเทียนฝู่ค่ะ มีอำนาจอยู่ที่นี่ใหญ่มาก สามารถสั่งย้ายยามทั้งหมดที่เมืองของเล่นโบราณศตวรรษได้อย่างง่ายดาย คุณรีบไปจะดีกว่า!”
สำหรับความจิตใจดีของหวางเยี่ยน หยางเฉินกลับรู้สึกชื่นชมอยู่ในใจอย่างมาก
สำหรับเขานั้น แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยนตูยังจะไม่สนใจ แล้วผู้จัดการของเมืองของเล่นโบราณเล็กๆ คนหนึ่ง เขาจะไปสนใจได้อย่างไรกัน?
“อยากหนี? สายไปแล้ว!” หยูเสี่ยวเวยพูดแบบโมโห
“หยูเสี่ยวเวย เธอมีอะไรก็มาลงที่ฉัน คุณผู้ชายท่านนี้ไม่เกี่ยวอะไรด้วย!”
หวางเยี่ยนก้าวเท่าออกมาอย่างกล้าหาญ ขวางไว้ด้านหน้าของหยางเฉิน พูดจาแบบท่าทางโกรธเคือง
“เธอเป็นนังตัวแสบคนหนึ่ง คิดว่าตัวเองเกาะขาของเศรษฐีบ้านนอกเอาไว้ได้จริงๆ แล้วหรือไง?”
“ฉันจะบอกเธอให้นะ เธอก็คือยัยโง่คนหนึ่ง เจ้าหมอนี่อยากหลอกเธอชัดๆ อยู่ต่อหน้าเธอ จงใจทำท่าทางอยากซื้อของเล่นโบราณ จากนั้นรอตอนจ่ายเงิน ก็จะบอกเธอว่าเขาลืมเอาบัตรมา”
“นี่คือกลลวงของพวกสวะที่ทะนงตัวชอบสร้างปัญหาอย่างเขา!”
หยูเสี่ยวเวยพูดจาแบบเยาะเย้ยไม่หยุด
หวางเยี่ยนเม้มริมฝีปากแดงแน่น ตาแดงก่ำพูดว่า “ต่อให้เขาเป็นคนแบบนั้นจริง ฉันก็ยอม! แต่ฉันยังอยากบอกว่ามีอะไรเธอก็มาลงที่ฉัน!”
“ที่รัก เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว?”
ในเวลานี้เอง ชายวัยกลางคนที่อ้วนพุงโตคนหนึ่งวิ่งเข้ามาแล้ว
บนยอดศีรษะของชายวัยกลางคนหัวล้านหมดแล้ว ดวงตาชั่วร้าย พอมองก็รู้เป็นประเภทที่มั่วโลกีย์เกินควร
“ที่รักคะ คือเจ้าหมอนี่ เมื่อกี้ผลักฉันจนล้มลงพื้นเลย”
แวบเดียวหยูเสี่ยวเวยก็กระโจนเข้าไปในอ้อมอกของชายวัยกลางคน พูดด้วยท่าทางที่น่าสงสารจับใจ
หยางเฉินตอนที่มองเห็นชายวัยกลางคน อดส่งเสียงหัวเราะไม่ได้ “หยูเสี่ยวเวย เธอแน่ใจเหรอว่าเขาคือแฟนเธอ ไม่ใช่พ่อเธอ?”
ทั้งเหตุการณ์เงียบงัน!
ทุกคนล้วนมองหยางเฉินด้วยหน้าตาตกใจ
หยูเสี่ยวเวยอ้าปากค้างเล็กน้อย ถลึงตาโตแล้ว ไม่นานหน้าตาหล่อนอับอายและโกรธเต็มที่พลันพูดว่า “หยางเฉิน นายมันสารเลว กล้ามาหัวเราะเยาะฉัน?”
ชายวัยกลางคนทำหน้าโกรธเคืองเหมือนกัน มองหยางเฉินตวาดใส่ “ไอ้หนุ่ม นี่นายกำลังวอนหาที่นาย!”
“ที่จริงฉันกำลังคิดอยู่ว่าเมืองเทียนฝู่ใหญ่ขนาดนี้ ทำไมถึงเงียบเหงาจัง แม้แต่ลูกค้ายังมีไม่กี่คน ในที่สุดตอนนี้ฉันก็เข้าใจแล้ว”
หยางเฉินส่ายหน้า พูดเยาะเย้ย “เพราะตั้งแต่บนลงล่าง ล้วนเป็นพวกโง่กลุ่มหนึ่ง ธุรกิจของเมืองเทียนฝู่จะดีไปได้อย่างไรกัน?”
พูดจบ เขามองทางหวางเยี่ยนทันใด “ไปกับฉัน ฉันจะให้งานที่ดีกว่าที่นี่หลายเท่ากับเธอเอง!”
หวางเยี่ยนสั่นไปทั้งตัว วินาทีนี้ใจลอยอยู่บ้าง
คำพูดของหยูเสี่ยวเวย ทำให้เธอเกิดความสงสัยต่อเจตนาของหยางเฉินที่มาซื้อของเล่นโบราณที่นี่ขึ้นมา
แต่เวลานี้ บุคลิกบนตัวของหยางเฉิน ยังมีความจริงจังในสายตาด้วย ไม่เหมือนกับหลอกลวง เธอจึงเชื่อโดยทันที หยางเฉินไม่ใช่คนประเภทนั้นที่หยูเสี่ยวเวยว่า
“ค่ะ ฉันจะไปกับคุณ!”
หวางเยี่ยนยิ้มสดใสขึ้นมาฉับพลัน
ไม่ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ อย่างน้อยตอนนี้เธออยากออกไปอย่างเชิดหน้าชูตา
“ฉันอนุญาตให้แกไปแล้วเหรอ?”
ในเวลานี้เอง แฟนของหยูเสี่ยวเวยพูดขึ้นมาด้วยท่าทางโกรธจัดทันใด
หลังจากคำพูดของเขาจบลง พนักงานรักษาความปลอดภัยที่มือถือกระบองยางสิบกว่าคนพุ่งเข้ามาจากด้านนอกแล้ว
“ผู้จัดการหลี่ครับ ใครกล้าก่อเรื่องที่เมืองเทียนฝู่ นี่คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วเหรอ?”
พนักงานรักษาความปลอดภัยที่เป็นหัวหน้าคนนั้น พูดแบบหัวร้อนมาก
แฟนของหยูเสี่ยวเวยยื่นมือชี้ไปที่หยางเฉิน กัดฟันแน่นพูดว่า “คือเจ้าหมอนี่ ตีมันให้หนักสักยกหนึ่ง จากนั้นทิ้งออกไปจากเมืองของเล่นโบราณศตวรรษ!”
“ฉันดูสิว่าใครกล้า?”
ในเวลานี้เอง เสียงที่เย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน
สายตาของทุกคนมองไปทิศทางของเสียงตามๆ กัน เห็นเพียงภาพเงาของชายหนุ่มคนหนึ่ง กำลังก้าวเท้ามา ด้านข้างของเขา และยังมีบอดี้การ์ดสองคนที่สวมชุดสูทติดตามมาด้วย
ตอนมองเห็นชายหนุ่มคนนี้ แฟนของหยูเสี่ยวเวยสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ในชั่วขณะนั้น รีบเขาไปพูดว่า “ประธานเฉิน ท่านมาได้อย่างไรกันครับ?”
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ แต่ว่าภายใต้การจับจ้องของทุกคน รีบเดินไปทิศทางของหยางเฉินแล้ว
“คุณหยางครับ ผมมาช้าแล้ว ทำให้ท่านได้รับความไม่เป็นธรรม! ขอให้คุณหยางลงโทษด้วยครับ!”
ชายหนุ่มมาถึงตรงหน้าหยางเฉินแบบกลัวตัวสั่นงก ก้มหน้าลง แม้แต่เงยหน้ามองหยางเฉิน เหมือนยังไม่กล้าเลย
ฉากนี้ ทำเอาทุกคนตกใจค้างแล้ว
แฟนของหยูเสี่ยวเวยดวงตาเบิกโต สั่นเทาขึ้นมาทั้งตัวแบบควบคุมไม่ได้
หยูเสี่ยวเวยดูตกใจกลัวอย่างยิ่ง มองภาพคนที่สวมชุดเรียบง่ายคนนั้นด้วยท่าทางอึ้งทึ่ง “นี่……นี่เป็นไปไม่ได้!”
หวางเยี่ยนที่อยู่ข้างกายหยางเฉินก็หน้าตกใจเต็มที่ มือข้างหนึ่งปิดปากไว้โดยจิตใต้สำนึก