The king of War - บทที่ 424 ฉันตอบตกลงทั้งหมด
สำหรับจูกว่างจือ หานเซี่ยวเทียนไม่ไว้หน้าให้เลยสักนิด ฉือเจียงกับจูกว่างจื้อถูกหานเซี่ยวเทียนดุในที่สาธารณะ ทำให้ผู้ชมจำนวนมากตกตะลึงในที่เกิดเหตุ
“เชี่ย! วันนี้มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน!”
“ตระกูลหานแห่งเจียงผิง กลับหาเรื่องสมาคมบูโดกับตระกูลจูแห่งหนันยังโดยตรง คิดจะหนึ่งต่อสองเหรอ?”
“พวกคุณไม่ได้ยินความลับเหล่านั้นที่เจ้าบ้านหานพูดจริง ๆเหรอ? คุณหยางเคยฆ่าผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโดด้วย!”
ทันใดนั้นสถานกาณ์ก็ดุเดือด สีหน้าของทุกคนนิ่งไปเลย
“เห็นไหม? นี่ก็คือผู้ชายของฉันสวุลี่ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโดยังกล้าฆ่าเลย!”
ในฝูงชน สีหน้าของสวุลี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าราชาเจียงผิงเป็นใคร แต่เธอก็ถือว่าราชาเจียงผิงเป็นผู้ชายของเธอในหัวใจ
ดวงตาของหลัวหยวนหยวนก็เปล่งประกายเช่นกัน:”ผู้ชายแบบนี้ จึงเป็รฮีโร่ของทุกคน!”
“ราชาเจียงผิง น่าทึ่งจริงๆ!”หวางหงกล่าวชมอย่างไม่ปกปิด
หยางเฉินทำหน้าซื่อ
ในที่นั่งระดับสูง หญิงวัยกลางคนสวมชุดกี่เพ้ามองไปรอบ ๆ เวทีด้วยรอยยิ้มที่ขี้เล่นบนใบหน้าของเธอ
ในความเห็นของเธอ ยิ่งราชาเจียงผิงแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
พอราชาเจียงผิงสามารถเป็นผู้ชนะในวันนี้ได้ ขอแต่เธอสามารถหาวิธีที่จะทำให้ฉินซีเป็นผู้หญิงของราชาเจียงผิงได้ เธอไม่เพียงสามารถช่วยตระกูลควบคุมเจียงผิงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถควบคุมหนันยังได้อีกด้วย
วันนี้ ที่วันนี้เธอมา ก็เพื่อมาชมการแสดง
ยิ่งกว่านั้น เธอก็อยู่ข้างทางราชาเจียงผิง
“คุณป้า ทำไมราชาเจียงผิงยังไม่ออกมาล่ะ?”
ข้างๆ หญิงวัยกลางคน ผู้หญิงที่สวยงาม พูดอย่างเบื่อหน่าย
ผู้หญิงคนนี้ก็คือเย่ม่านนั่นเอง และผู้หญิงที่สวยงามก็คือเย่เสี่ยวเตี๋ย
สำหรับราชาเจียงผิง เย่เสี่ยวเตี๋ยไม่เคยคิดที่จะอยู่กับชายผู้นี้ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนเลย
ที่มากับเย่ม่านในนี้ ก็แค่เพื่อรับมือกับตระกูล
แต่ตอนนี้ แม้แต่ใบหน้าที่แท้จริงของราชาเจียงผิง ก็ยังไม่มีใครเห็น และเธออยากหาเหตุผลออกไป ก็ทำไม่ได้
เย่ม่านพูดด้วยรอยยิ้มว่า:”เสี่ยวเตี๋ย ไม่ต้องห่วง ยังไม่ถึงเวลาแข่งเลยไม่ใช่เหรอ? เธอรออย่างใจเย็น ยังไงก็ได้เห็นสามีในอนาคตของเธออยู่ดี”
เย่เสี่ยวเตี๋ยเบ้ปาก และพูดอย่างโกรธเคือง:”ฉันจะไม่แต่งงานกับเขา!”
“เธอรู้ไหมว่า ถ้าราชาเจียงผิงชนะในวันนี้ ไม่ใช่แค่เจียงผิงเท่านั้น แต่หนันยังก็จะถูกเขาควบคุมอีกด้วย ชายหนุ่มหล่อที่อายุน้อยเช่นนี้ ถึงจะอยู่ในเยี่ยนตู ก็ไม่มี เธอจะพลาดไปเหรอ?”
เย่ม่านถาม
ใบหน้าที่สวยงามของเย่เสี่ยวเตี๋ยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น:”ต่อให้เขาดีแค่ไหน เขาก็ไม่เข้าตาฉันหรอก ในหัวใจของฉัน มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น!”
“เสี่ยวเตี๋ย ป้าไม่เข้าใจจริงๆ เธอจงใจสร้างผู้ชายที่ไม่มีจริง เพื่อไม่อยากแต่งงาน? หรือว่าเธอมีคนที่ชอบแล้วจริงๆ?” เย่ม่านถามอย่างสงสัย
“คุณป้า ที่ฉันพูดเป็นความจริงแน่นอน!”เย่เสี๋ยวเตี๋ยพูดอย่างไม่พอใจ
เมื่อมั่นใจคำตอบแล้ว ในที่สุดเย่ม่านก็วางใจแล้ว จู่ๆก็พูดขึ้น:”เสี่ยวเตี๋ย เธอไม่อยากแต่งงานกับราชาเจียงผิงจริงๆเหรอ?”
“ไม่อยาก!”เย่เสี่ยวเตี๋ยตอบอย่างไม่ลังเล
“ได้ ถ้าเธอยอมช่วยป้าทำอะไรสักอย่าง ป้าสัญญา จะไม่ให้เธอแต่งกับเขา!”
หลังจากเงียบไปสักครู่ จู่ๆเย่ม่านก็ตัดสินใจ พูดอย่างจริงจัง
“คุณป้า พูดจริงเหรอ?”
เย่เสี่ยวเตี๋ยลุงขึ้นมาทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เย่ม่านยิ้ม:”เด็กโง่ ป้าเคยหลอกเธอด้วยเหรอ?”
“ฉันรักป้ามากเลย!”
เย่เสี่ยวเตี๋ยตื่นเต้นจริงๆ กอดเย่ม่านแล้วหอมแก้มเธอแรงๆ
เย่ม่านพูดอย่างไม่พอใจ:”ในที่สาธารณะ ดูไม่ดีเลยนะ!”
เย่เสี่ยวเตี๋ยแลบลิ้น และพูดอย่างมีความสุข:”ฉันตื่นเต้นเกินไปหน่อยไง! ป้าพูดเลย อยากให้ฉันทำอะไร? แม้ว่าจะต้องฝ่ามีดอุปสรรค์อะไร ฉันตอบตกลงทั้งหมด!”
“รองานต่อสู้จบก่อน ป้าจะบอกเธอ!”เย่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม แต่แอบเริ่มวางแผนอย่างรอบคอบในใจแล้ว
หากเรื่องนี้ทำเสร็จ ไม่เพียงแต่งานที่ได้รับมอบหมายจากตระกูลจะสำเร็จเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้แม่ลูกจดจำกันได้อย่างสบายใจ
ในตอนที่เย่ม่านกำลังคิดแผน ว่าจะให้ฉินซีจำได้ยังไง และวิธีโน้มน้าวให้ฉินซีเข้าหาราชาเจียงผิง ในกลางเวที มีการต่อสู้ที่ดุเดือดเริ่มขึ้น
“หานเซี่ยวเทียน หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว! ตระกูลจูของฉัน ต้องให้เด็กที่ยังไม่หย่านมมาช่วยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แม้ว่าวันนั้นเขาจะไม่ปรากฏตัว ตระกูลจูก็มีผู้แข็งแกร่งที่จะจัดการกับสมาคมบูโดได้”
จูกว่างจื้อพูดอย่างโมโหและอับอาย
โดนหานเซี่ยวเทียนเปิดเผยความจริงในวันนั้น เขาจึงไม่ยอมรับโดยธรรมชาติ ไม่เช่นนั้น ก็เท่ากับกำลังบอกว่าตระกูลจูด้อยกว่าตระกูลหานนั่นสิ?
“สายตาของผู้ชมเปล่งประกาย ไม่ว่าคุณจะเถียงยังไงก็ไม่ไป็นไร รอคุณหยางได้เป็นผู้นำในวันนี้ ทุกคนจะรู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดถึงนั้นจริงหรือไม่!”
หานเซี่ยวเทียนพูดเยาะเย้ย
เขาเชื่อใจหยางเฉิน 100%
“พวกคุณพูดไร้สาระมากจริงๆ!”
ในขณะนั้น ชายวัยกลางคนที่นั่งตรงกลางทางสมาคมบูโด ก็พูดออกมาอย่างทนไม่ไหว
คนที่พูดก็คือหนิวเกนหุย
ก่อนหน้าที่ที่ตระกูลจู จางเหิงที่ถูกหยางเฉินฆ่าตาย ก็คือศิษย์เอกของเขา
เสียงของเขาดังราวกับกระดิ่ง เหมือนฟ้าร้อง ระเบิดทันที
หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปยังเวที
ในขณะนี้ เวลาที่กำหนดไว้สำหรับงานต่อสู้ก็มาถึงเช่นกัน
หนิวเกนหุยมาที่ขอบเวที ดึงเชือกที่ขอบเวทีด้วยมือทั้งสองแล้วดึงออกอย่างแรง
จากนั้น ด้วยความยืดหยุ่นของเชือก ร่างกายของหนิวเกนหุยก็ลอยขึ้นไปในอากาศทันที
“ตุบ!”
เสียงที่ดัง ขาทั้งสองข้างของหนิวเกนหุยลงพื้น
และพื้นดินที่อยู่ใต้เท้าของเขา ก็พังทลายและเต็มไปด้วยฝุ่นทันที
ฉากนี้ทำให้ทุกคนตะลึง ทุกคนมองไปยังร่างที่อยู่ตรงกลางเวทีด้วยความสยดสยอง
“นี่……ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?”
“กระโดดสูงห้าหกเมตรได้ เหยียบจนพื้นแตก!”
“ถ้าเขาเตะใครไป เกรงว่าคงจะตายล่ะมั้ง?”
ทุกคนซุบซิบกัน ในสายตาของพวกเขานอกจากตกใจ ก็คือตกใจ
เดิมทีผู้แข็งแกร่งที่พวกตระกูลร่ำรวยเชิญมา คิดจะลองลงเล่น ตอนนี้ทุกคนต่างก็เลือกที่จะเงียบ
ผู้แข็งแกร่งแบบนี้ มันเกินจินตนาการของพวกเขาไปแล้ว จัดคนขึ้นไปตอนนี้ ก็เหมือนหาเรื่องตายไม่ใช่รึไง?
“มาสิ! ให้ฉันดูว่า ผู้แข็งแกร่งในเจียงผิงและหนันยัง จะเก่งแค่ไหนกัน?”
สายตาของหนิวเกนหุยกวาดสายตาผู้ชม สีหน้าดูเย็นชาและกระหายเลือด
ทุกคนที่มองมาที่เขา ต่างก็ก้มหน้าและไม่มีใครกล้ามองเขา
“ในเมื่องานต่อสู้จัดขึ้นที่เจียงผิง เจียงผิงก็ส่งคนไปสู้ก่อน!”
จูกว่างจื้พูดกับหานเซี่ยวเทียน และสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
เดิมทีเขาคิดว่าหัวหน้าสำนักหลงของสำนักมังกรเสือที่เชิญมา จะสามารถเอาชนะได้ง่าย แต่ใครจะรู้ เมื่อกี้หัวหน้าสำนักหลงบอกเขาว่า คู่ต่อสู้แข็งแกร่งมาก และเขาไม่แน่ใจว่าจะชนะ
ในเวลานี้ เขาทำได้เพียงหวังว่า เจียงผิงจะส่งคนไปเผาผลาญพลังการต่อสู้ของหนิวเกนหุยก่อน ค่อยส่งหัวหน้าสำนักหลงไปต่อสู้
หานเซี่ยวเทียนเหลือบมองเขาอย่างแผ่วเบา แล้วมองไปที่เหยเจ๋อข้างหลังเขา:”การต่อสู้ครั้งนี้ ฝากให้นายแล้วนะ!”
“ได้!”
เหยเจ๋อพูดคำเดียว แล้วเดินไปที่เวที
แม้ว่าการออกรบของเขาจะไม่ตกตะลึงเหมือนหนิวเกนหุย แต่ก็ทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความคาดหวัง