The king of War - บทที่ 435 ยิ่งนัดเดียวได้นกสามตัว
การปรากฏตัวของเย่เสี่ยวเตี๋ยนั้นเห็นชัดว่าเย่ม่านโกรธมาก
ทว่าเย่เสี่ยวเตี๋ยยังคงวางตัวตามสบาย ยิ้มนิดๆ “คุณป้าคะ เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับฉันได้ยังไง?”
“เกี่ยวอะไรกับเธอ?”
เย่ม่านไต่ถาม ตีนกาปรากฏขึ้นตามการขมวดคิ้ว
“ฉันก็แค่อยากมาเตือนคุณป้าหน่อย ว่าอย่าลืมภารกิจที่มาเจียงโจวครั้งนี้ ไม่ว่ายังไง ฉันก็คือตระกูลหลักของตระกูลเย่ ใช่ไหม?”
เย่เสี่ยวเตี๋ยพูดพลางยิ้ม ราวกับไม่เห็นความโมโหของเย่ม่าน
หยางเฉินกับฉินซีฟังจนมึนงงไปหมด แต่เย่ม่านกลับเข้าใจความหมายนั้นชัด
ที่ตระกูลเย่ให้เย่ม่านมาเจียงโจวก็เพื่อให้เธอหาวิธีตามตัวราชาเจียงผิงให้พบ ทั้งใช้เย่เสี่ยวเตี๋ยเป็นหมากในการเกี่ยวดอง
ถึงฉินซีจะเป็นลูกแท้ๆ ของเย่ม่าน แต่ก็เป็นแค่ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเย่ม่านเท่านั้น
แต่เย่เสี่ยวเตี๋ยสิ ถึงจะเป็นตระกูลหลักของตระกูลเย่ มีแต่เธอที่อยู่กับราชาเจียงผิงแล้วถึงเป็นประกันผลประโยชน์ของตระกูลเย่ได้
“เธอไม่ได้บอกกับฉัน ว่าเธอไม่เห็นด้วยและมีอคติกับภารกิจครั้งนี้เหรอ?”
เย่ม่านหน้าเปลี่ยนสีทันที และถึงรู้ว่าเย่เสี่ยวเตี๋ยคิดยื่นมือเข้าแทรก
เดิมทีเธอคิดจะให้ฉินซีแต่งงานกับราชาเจียงผิง ไม่เพียงแต่นับแม่นับลูกกัน ทั้งยังได้บรรลุภารกิจด้วย ขณะเดียวกันยังเสริมฐานะของตนในตระกูลเย่ได้อีก
แทบจะเป็นการยิงนัดเดียวได้นกสามตัว!
แต่…แผนการนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเย่เสี่ยวเตี๋ยยอมสละการแต่งงาน
แต่บัดนี้ฉินซีมาหาตนก่อน เมื่อเธอกับฉินซีได้นับแม่นับลูกกันแล้ว ต่อไปก็แค่โน้มน้าวให้หยางเฉินยอมช่วยเหลือตระกูลเย่ เท่านี้ภารกิจก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
แต่คิดไม่ถึงว่าเย่เสี่ยวเตี๋ยจะกลับคำในช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้
ดูก็รู้ว่าตอนนี้เย่ม่านโมโหแค่ไหน
“นั่นเป็นก่อนการต่อสู้ แต่ตอนนี้ฉันต้องคว้ามาให้ได้!”
รอยยิ้มบนใบหน้าเย่เสี่ยวเตี๋ยหายไปทันที พูดด้วยสีหน้าจริงจังและมุ่งมั่น
“พวกคุณหยุดกันก่อนได้ไหมคะ?”
ฉินซีพูดด้วยความโมโห “ฉันไม่สนว่าระหว่างพวกคุณจะมีบุญคุณความแค้นอะไรกัน แต่โปรดอย่าทำให้ฉันเสียเวลา!”
เวลานี้สายตาของฉินซีไม่มีความตื่นเต้นที่ได้พบแม่แท้ๆ แล้ว ทั้งยังหงุดหงิดอยู่หน่อยๆ
เมื่อนั้นเย่ม่านกับเย่เสี่ยวเตี๋ยถึงหยุดต่อล้อต่อเถียงกัน
“บอกฉัน ว่าทำไมถึงทิ้งฉันไป?”
ฉินซีถามขึ้นอีกครั้ง
“เสี่ยวซี เรื่องพวกนั้นมันผ่านไปแล้ว พวกเราไม่พูดถึงอีกดีไหม? เธอรู้แค่ว่าพวกเราเป็นแม่ลูกกัน ฉันรักเธอมาก แค่นี้ก็พอแล้ว!”
เย่ม่านไม่ยอมพูดความจริง ยังคิดปกปิดต่อ
“คุณป้า แม่ลูกไม่เจอกันนานขนาดนี้ แต่คุณป้ากลับไม่พูดความจริง นี่มันดูไม่จริงใจเลยนะ ถ้าฉันเป็นพี่ ฉันต้องไม่ยอมรับคุณป้าเป็นแม่แน่”
เย่เสี่ยวเตี๋ยกอดอกพลางหรี่ตาพูด เธออยากทำให้เรื่องยิ่งวุ่น
“เธอเงียบไปเลย!”
เย่ม่านโมโหตวาด
เย่เสี่ยวเตี๋ยไม่ได้โมโห เพียงแต่ยิ้มอมพะนำ ท่าทางราวกับกำลังดูเรื่องสนุก
“ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ทำไมถึงทิ้งฉัน?”
ใบหน้าฉินซีเผยความโกรธ ตาแดงถาม
เธอผิดหวังและเสียใจมาก
เธอเคยจินตนาการเป็นร้อยพันครั้ง ว่าหากได้พบกับพ่อแม่ที่แท้จริง จะเป็นภาพน่าประทับใจอย่างไร
เธอเคยพยายามหาเหตุผลให้พ่อแม่ พวกเขาไม่ไม่ตั้งใจทิ้งเธอใช่ไหม?
หรืออาจเพราะเธอถูกคนร้ายลักพาตัวไป?
ขอเพียงเป็นการสูญหายตามปกติ เธอก็จะให้อภัยพ่อแม่ทั้งหมด แต่ตอนนี้…เย่ม่านคิดปิดบัง นั่นทำให้เธอโกรธและรู้สึกผิดปกติมาก
เมื่อครู่เย่เสี่ยวเตี๋ยก็บอกแล้วว่า ‘เพราะอำนาจ’
หรือว่าที่พ่อแม่ทิ้งเธอก็เพื่อสิ่งนั้น?
“เสี่ยวซี กว่าพวกเราแม่ลูกจะได้เจอกัน อย่าพูดเรื่องเศร้าพวกนั้นเลย ดีไหม?”
เย่ม่านระส่ำเล็กน้อย จู่ๆ ก็เดินขึ้นหน้ามาจับแขนทั้งสองของฉินซี
“หยางเฉิน เรากลับกันเถอะ!”
ฉินซีสลัดหลุดออกจากมือเย่ม่าน จากนั้นก็คล้องแขนหยางเฉินแล้วเดินออกไป
“ครับ!”
หยางเฉินพยักหน้า ปล่อยให้ฉินซีลากตัวเอง
“เสี่ยวซี อย่าเพิ่งไป! อย่าเพิ่งไป!”
ทันใดนั้นเย่ม่านก็ร้อนรน วิ่งออกไปขวางทางฉินซี ตาแดงพูด “เสี่ยวซี ฉันเป็นแม่แท้ๆ ของเธอนะ! ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว หรือว่าเธอไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ?!”
“หลายปีมานี้ฉันคิดถึงคุณทั้งวันทั้งคืน คิดว่าต้องมีสักวันที่เราจะได้พบกัน”
“กว่าจะได้เจอกัน คุณรู้ไหวว่าฉันดีใจแค่ไหน?”
“แมมบ้าแดงกรุ๊ปเป็นธุรกิจที่ฉันสร้างขึ้นกับมือ ไม่เกี่ยวกับตระกูลเย่ ต่อไปมันก็จะมอบให้เธอแบบสมบูรณ์”
“นอกแมมบ้าแดงกรุ๊ป ยังมีทุกอย่างของฉันในตระกูลเย่ เธอก็จะเป็นผู้สืบทอดมันด้วย”
“ที่มาครั้งนี้ ก็เพราะฉันจะมารับเธอกลับตระกูลเย่ เมืองเล็กๆ อย่างเจียวโจวไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่หรอกนะ”
เย่ม่านแตกตื่นผิดปกติ เวลานี้ไหนเลยจะเหมือนผู้หญิงผู้รากมากดี? เหมือนหญิงคลุ้มคลั่งต่างหาก
ฟังดูแล้ว…ความคิดถึงมากมายของเธอที่มีต่อฉินซี ไหนจะแมมบ้าแดงกรุ๊ปที่จะมอบให้ฉินซี แล้วยังจะยกทุกอย่างในตระกูลเย่ให้เธออีก
ทว่าทุกสิ่งที่เธอจะมอบให้นั้น ล้วนแต่มีคำว่า ‘อนาคต’
จากต้นจนจบ เธอไม่ได้บอกสาเหตุที่ทิ้งฉินซี
ท่าทีในถ้อยคำก็แข็งกร้าวมาก จะให้ฉินซีกลับตระกูลแย่ แต่ไม่ถามความเห็นชอบจากเธอเลยสักนิด
ผู้หญิงแบบนี้กลับเป็นแม่บังเกิดเกล้าของฉินซีได้
ดวงตาฉินซีมีน้ำตาเอ่อล้น แต่นั่นไม่ใช่เพราะเธอตื่นเต้น หากแต่เป็นความผิดหวัง
การพบปะอันสวยงามในใจเธอกลับเต็มไปด้วยอำนาจและผลประโยชน์
เย่เสี่ยวเตี๋ยยืนหัวเราะคิกคักดูทุกสิ่งอยู่ด้านข้าง
“ต่อไปฉันไม่อยากเห็นคุณอีก!”
ทันใดนั้นฉินซีก็เอ่ยปากขึ้น
สิ้นเสียงแล้วก็เดินจากไปทันที
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
การต่อต้านครั้งแล้วครั้งเล่าของฉินซีทำให้เย่ม่านเดือดพลุ
“ไม่ว่ายังไง ฉันก็เป็นคนให้ชีวิตเธอ!”
“ถึงตอนนั้นฉันจะทิ้งเธอ แต่มันก็เปลี่ยนความจริงที่เธอเป็นลูกฉันไม่ได้!”
“ตอนนี้ฉันไม่ได้ปรึกษาเธอ แต่สั่งให้เธอกลับตระกูลเย่กับฉันพรุ่งนี้!”
เย่ม่านพูดอย่างบีบคั้น ท่าทางบ้าอำนาจ
หยางเฉินมองด้วยสายตาเย็นยะเยือก เขาไม่ใช่ไม่อยากช่วยฉินซี แต่ผู้หญิงอย่างเย่ม่านไม่คู่ควรเป็นแม่ของฉินซีต่างหาก
ก็เหมือนกับตระกูลฉินในตอนนั้น มีแต่อดกลั้นกับความเจ็บปวด ให้ฉินซีได้เห็นความต่ำช้าไร้ยางอายของตระกูลฉินกับตาตนเองเท่านั้น ถึงทำให้เธอสิ้นหวังและตัดความคิดถึงเธอไปได้
เย่ม่านตรงหน้านี้ก็เช่นกัน
ฉินซีที่เป็นผู้หญิงมีเมตตาขนาดนี้ เย่ม่านจะอยู่ร่วมกับเธอดีๆ ได้อย่างไร? ต้องหาเรื่องให้เธอลำบากใจอยู่แล้ว
ฉินซีมองเย่ม่านแบบไม่อยากจะเชื่อ ราวกับคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างนี้ออกมาได้
“คุณให้ชีวิตฉัน แต่หลายปีมานี้ คุณเคยให้ความรักกับฉันสักนิดไหม?”
“คุณเคยดูแลฉันสักวันไหม?”
“คุณรู้ไหม ว่าตอนที่ฉันรู้ว่าตัวเองถูกเก็บมาเลี้ยง ฉันสิ้นหวังขนาดไหน?”
“กว่าจะรู้ว่าแม่แท้ๆ ตัวเองยังอยู่บนโลกนี้ คุณรู้ไหมว่าฉันตั้งตารอคอยแค่ไหน?”