The king of War - บทที่ 440 เริ่มการประมูล
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ผู้หญิงสวยก็มักจะเป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนอยู่ดี
และการปรากฏตัวของเย่เสี่ยวเตี๋ยสามารถดึงดูดสายตาของผู้คนส่วนมากภายในโถงงานประมูล
ถึงขนาดที่ผู้หญิงบางคนก็เกิดความรู้สึกต้อยต่ำขึ้นมา
หยางเฉินชำเหลืองมองเย่เสี่ยวเตี๋ยเพียงพริบตา พลางเอ่ยปากพูดอย่างเฉยชา : “ผมไม่ชอบคนตระกูลเย่!”
เพียงคำพูดเดียว ทำให้มือน้อยๆ ของเย่เสี่ยวเตี๋ยที่กำลังเอื้อมออกมาถึงกับชะงักกลางอากาศ
เป็นเพราะเย่ม่าน หยางเฉินจึงไม่มีความรู้สึกดีกับตระกูลเย่
หญิงสาวแสนสวยไร้ที่ติตรงหน้านี้ ถึงแม่จะไม่ลงรอยกับเย่ม่านอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็เป็นเพราะมีชื่อของตระกูลเย่ห้อยนำหน้า จึงทำให้หยางเฉินไม่รู้สึกชื่นชอบ
ถึงอย่างนั้นเย่เสี่ยวเตี๋ยก็ไม่ได้รู้สึกเขินอาย เธอยิ้มพลางชักมือกลับ ก่อนจะนั่งลงข้างไหยางเฉิน แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม : “คุณหยาง คุณเข้าใจตระกูลเย่ผิดแล้วค่ะ!”
หยางเฉินกระตุกเสื้อนั่งยืดหลังตรง สายตาจ้องไปข้างหน้าไม่ว่อกแว่ก พร้อมตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย : “เข้าใจผิดหรือเปล่าไม่จำเป็นต้องพูด ที่แน่ๆ ก็คือไม่ชอบ”
เย่เสี่ยวเตี๋ยส่ายหน้า จ้องมองไปยังใบหน้าด้านข้างของหยางเฉินอย่างจริงจัง: “คุณหยาง คุณไม่ควรเอาความไม่พอใจในตัวเย่ม่าน มาเหมารวมกับคนตระกูลเย่ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับตระกูลเย่เลยสักนิด!”
ในที่สุดหยางเฉินก็ยอมหันไปมองเย่เสี่ยวเตี๋ย ทว่าในแววตากลับเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด
จะต้องเป็นเรื่องระหว่างสองสิ่งที่มีความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ ถึงจะมีการไม่พอใจ และใครทำสิ่งที่ไม่ยุติธรรมต่อใครเท่านั้น
หรือจะพูดว่าความหมายของเย่เสี่ยวเตี๋ยก็คือตระกูลเย่อันใหญ่โตมีอำนาจที่ไม่ทัดเทียมกับหยางเฉิน
ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้เธอจึงไม่หวังให้หยางเฉินเกลียดชังตระกูลเย่ เพียงเพราะแต่เย่ม่านคนเดียว
“บอกตามตรงนะคะ ก่อนที่จะเดินทางมาเจียงโจวครั้งนี้ ผู้นำตระกูลเย่ หรือก็คือคุณปู่ของฉัน เขาได้กำชับกับคุณป้าเป็นพิเศษเลยว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าไปมีความบาดหมางกับราชาเจียงผิงเด็ดขาด”
“แต่คุณป้า กลับเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวไปสร้างความไม่พอใจแก่คุณหยาง”
“ซึ่งเมื่อพูดไปแล้ว ก็มีเพียงแค่เย่ม่านคนเดียวที่มีความบาดหมางกับคุณ เพราะอย่างไรเสียความตั้งใจเดิมทีของตระกูลเย่คือการสร้างพันธมิตรที่ดีกับคุณ”
เย่เสี่ยวเตี๋ยยิ้มจางๆ : “ดังนั้นฉันจึงอยากจะบอกว่าการที่คุณหยางเกลียดชังตระกูลเย่ เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม!”
ต้องยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้มีความหลักแหลมอย่างมาก เพียงคำพูดไม่กี่คำก็สามารถลดความไม่พอใจของหยางเฉินที่มีต่อเธอได้แล้ว
เพราะถึงอย่างไรสิ่งที่เธอพูดก็คือความจริง
ความไม่พอใจของหยางเฉินที่มีต่อตระกูลเย่ เกิดมาจากเย่ม่านผู้หญิงใจร้ายคนนี้
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเย่ม่านหวังหาประโยชน์จากตัวฉินซี มีหรือที่หยางเฉินจะเกลียดชังเธอ ?
และไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก หยางเฉินจะเป็นฝ่ายรุกไปสร้างพันธมิตรกับตระกูลเย่เสียด้วยซ้ำ
เขาอยากจะลงหลักปักฐานในเมืองเยี่ยนตู โดยท่ไม่ต้องยืมอำนาจจากชายแดนเหนือ แต่การไม่ได้แรงสนับสนุนใดๆ เลยก็ถือว่าเป็นเรื่องยาก
ซึ่งถ้าหากสามารถได้รับการสนับสนุนจาก ตระกูลเย่ นี่ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาเลยทีเดียว
ในชายแดนเหนือ ตอนที่ต่อสู้กับศัตรูภายนอก ยังพอจะสามารถใช้แผนการและอำนาจเบ็ดเสร็จได้ แต่เมื่ออยู้ดานนอกเขตชายแดนเหนือ กลับเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ทันใดนั้นหยางเฉินก็ยิ้มขึ้นมาพลางถาม: “คุณชื่ออะไร?”
“เย่เสี่ยวเตี๋ย!”
ในใจของเย่เสี่ยวเตี๋ยเกิดความตื้นตันขึ้นมาไม่น้อย ทว่าภายในแววตากลับมีความผิดหวังอยู่ด้วยเล็กน้อย
เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าหยางเฉินลืมเธอไปแล้ว
เมื่อหนึ่งปีก่อน ในตอนที่เธอเกือบจะถูกล่วงละเมิดจากโจรสลัด หยางเฉินก็เหมือนตกลงมาจากฟ้า ในตอนที่เธอถูกช่วยเหลือ ทำให้เธอตกหลุมรักหยางเฉินตั้งแต่แรกพบทันที
หลังจากที่ช่วยเธอ ตัวเธอนั้นยังไม่ทันได้พูดอะไรกับหยางเฉินเลย หยางเฉินก็แยกทางไปแล้ว
ไม่ง่ายเลยกว่าจะตามหาหยางเฉินจนพบ แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแต่งงานแล้ว
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เย่เสี่ยวเตี๋ยก็ยังคงไม่คิดจะยอมแพ้
“เย่เสี่ยวเตี๋ย ชื่อเพราะดีนี่!” หยางเฉินยิ้ม
เมื่อพูดจบ เขาก็ดึงสายตากลับไปมองด้านหน้า
ส่วนคนที่ฉลาดหลักแหลมอย่างเย่เสี่ยวเตี๋ยก็เกิดความปีติขึ้นมาในใจทันที
ถึงแม้หยางเฉินจะพูดเพียงประโยคเดียว แต่กลับทำให้เธอมองเห็นความหวัง ความหวังที่สามารถทำให้เธอได้เข้าใกล้กับหยางเฉิน และยังเป็นความหวังของตระกูลเย่ที่หาได้ยากอีกด้วย
ในฐานะผู้หญิงของตระกูลเย่ การมีอยู่ของคนที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับนี้อย่างหยางเฉิน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในทุกตระกูล สิ่งนี้เย่เสี่ยวเตี๋ยเข้าใจเป็นอย่างดี
ตอนนี้เธอรู้สึกโชคดีขึ้นมาทันทีที่ผู้นำ ตระกูลเย่ไม่ได้มีความหลักแหลมและอำนาจดั่งผู้นำในตระกูลใหญ่คนอิ่นๆ
แล้วคนอย่างหยางเฉิน ก็เป็นพวกที่ชอบใช้ไม้อ่อนมากกว่าเสียด้วย !
ทางด้านหวงเจิ้งที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะรู้จักเย่เสี่ยวเตี๋ยอยู่แล้ว แววตาของเขาในตอนนี้จึงเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด
เขาเคยสืบรู้มาว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเป็นสิ่งที่สำคัญต่อหยางเฉินเป็นอย่างมาก เขาถึงได้ใช้ผลประโยชน์ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาข่มขู่หยางเฉินเพื่อให้ยอมจำนนต่อตระกูลหวง
แต่เขาไม่คิดเลยว่าคน ตระกูลเย่จะเข้ามาเอี่ยวเรื่องนี้ด้วย
เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้เขารู้สึกมีแรงกดดันเพิ่มากขึ้นไปอีก
“ที่พึ่งของนาย ยังมีตระกูลเย่ด้วยงั้นหรอ?”
หวงเจิ้งพึมพำเบาๆ
ถึงแม้เขาจะเคยสืบเรื่องของหยางเฉินมา แต่กลับใช้ประโยชน์ได้มากนัก
และแล้วก็ถึงเวลาสิบโมงตรง พลางการประมูลก็เริ่มขึ้น
การประมูลในวันนี้คือที่ดินจำนวนหนึ่งของเมืองเจียงโจว
แต่เป้าหมายของหยางเฉินมีเพียงที่ดินติดแม่น้ำผืนนั้นเท่านั้น สำหรับที่อื่นๆ นั้นเขาไม่ได้มีความสนใจเลยแม้แต่น้อย
เหล่ามหาเศรษฐีที่กำลังกังวลเรื่องที่หยางเฉินจะเข้าร่วมการประมูลที่ดิน เมื่อได้เห็นว่าหยางเฉินได้เมินเฉยมาหลายที่แล้ว พวกเขาต่างก็ถอนหายใจโล่งอกออกมา
การประมูลเป็นไปอย่างดุเดือด และการเสนอลุกขึ้นเสนอราคาในห้องโถงก็เกิดขึ้นอย่างไม่รู้จักจบ
“ต่อไป พวกเราจะเปิดประมูลป้ายทะเบียน 2019-C-125 ที่ดินตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของแม่น้ำเหล่าหลง มีพื้นที่ทั้งหมด 4258 ตารางเมตร ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 108ล้านหยวน”
“การประมูลในรอบนี้ เริ่มแล้วครับ!”
กรรมการการประมูลคือนักประมูลชายวัยกลางสวมแว่นขอบทองคนหนึ่ง หลังจากที่เสียงของเขาสิ้นสุดลง การประมูลก็ได้เริ่มขึ้น
ครั้งนี้ก็เป็นเหมือนกับการประมูลทุกรอบที่ผ่านมา การประมูลคึกคักเป็นอย่างมาก เพียงไม่นานก็มีคนเสนอราคาขึ้น : “120ล้านหยวน!”
“150ล้านหยวน!”
“180ล้านหยวน!”
……
“230ล้านหยวน!”
เมื่อการเสนอราคาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่เข้าประมูลก็ยิ่งลดน้อยลงไปด้วย เพียงไม่นานก็เหลือเพียงแค่สองคนที่ยังคงประมูลต่อเท่านั้น
“240ล้านหยวน!”
เมื่อมีคนเสนอราคาขึ้น
อีกฝ่ายที่เมื่อได้ยินเสียงเสนอราคาก็ถึงกับแสดงสีหน้าผิดหวัง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาต้องยอมแพ้การประมูลแล้ว
“240ล้วนหยวน ครั้งที่หนึ่ง!”
“240ล้าน!”
“240ล้านหยวน……”
ในตอนที่กรรมการการประมูลกำลังจะยกค้อนขึ้นเพื่อขานร้องในครั้งที่สาม จู่ๆ เสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้น : “250ล้านหยวน!”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น สายตาของทุกคนก็ถูกดึงดูดมารวมกันโดยทันที
ชายวัยกลางคนที่กำลังจะชนะการประมูล เดิมทีมีสีหน้าที่ไม่พอใจ แต่เมื่อเขาหันไปเห็นว่าคนที่เสนอประมูลราคาคือหยางเฉิน สีหน้าก็หมองลงอย่างทันควัน
“ที่แท้คุณเฉินก็ถูกใจที่ดินผืนนี้ด้วย งั้นผมหวางซองก็ขอยอมแพ้แล้วกัน!”
ชายวัยกลางคนพูดด้วยรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว
ในเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเป็นคู่แข่งกับหยางเฉินได้ อย่างนั้นก็ยอมแพ้เสียเองดีกว่า เพราะไม่แน่อาจจะสามารถทำความรู้จักกับหยางเฉินได้
สาเหตุที่หยางเฉินต้องรอให้การประมูลใกล้จบ นั่นเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นคนที่ทำลายการประมูลในครั้งนี้
“ยินดีกับคุณหยางด้วย ที่สามารถครอบครองที่ดินริมแม่น้ำเหล่าหลง !”
“ยินดีด้วยครับคุณหยาง!”
“ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเหล่าหลงก็เป็นอสังหาริมทรัพย์ของคุณหยางอยู่แล้ว ทางฝั่งตะวันออกก็คงจะต้องเป็นของคุณหยางเท่านั้นถึงจะเหมาะสมที่สุด”
ในตอนนี้ เหล่ามหาเศรษฐีต่างก็เริ่มเปิดปากสนทนากัน
“500ล้านหยวน!”
และในขณะที่ทุกคนกำลังแสดงความยินดีกับการชนะประมูลของหยางเฉินอยู่นั้น แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาขัดกับสถานการณ์
แล้วในทันที ใบหน้าของทุกคนก็เต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะเหลียวมองไปยังคนที่เสนอราคาด้วยความเหลือเชื่อ
ในงานนี้ ยังมีใครที่ไม่รู้จักฐานะของหยางเฉินอีกงั้นหรือ?
เขาถึงกับเข้าร่วมการประมูลแล้ว นี่ยังมีใครกล้ามาแย่งกับเขาอีก ไม่กลัวว่าจะไปขัดแย้งกับคุณหยางเลยอย่างนั้นหรอ ?
เดิมที 250ล้านหยวนก็สามารถครอบครองที่ดินผืนนี้ได้แล้ว แต่เพียงเพราะคำพูดเดียว ราคาก็พุ่งเป็นเท่าตัวในทันที