The king of War - บทที่ 459 ผมอยากมาสู่ขอ
“ลูกชาย!”
เสียงร้องตะโกนที่เศร้าสลดเสียงหนึ่งดังขึ้นทั่วทั้งห้องโถงงานเลี้ยงในทันใด นี่ถึงดึงทุกคนจากความรู้สึกตื่นตกใจกลับมาได้
ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทคนหนึ่ง บนหน้าอกยังติดดอกไม้สดช่อหนึ่งไว้ พุ่งเข้ามาแบบเดินโซซัดโซเซ
เรียกหวังไห่ว่าลูกชาย สถานะของผู้ชายคนนี้ ชัดแจ้งออกมาให้เห็นแล้ว
ลูกชายคนโตของตระกูลหวัง บิดาของหวังไห่ หวังหงเชียน!
วันนี้คนที่จะแต่งงานกับอ้ายหลิน เป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของเขา
วันมงคลสมรสของลูกชายคนหนึ่ง คาดไม่ถึงจะกลายเป็นวันที่น่าโศกเศร้าของลูกชายอีกคนหนึ่ง
ยังเป็นวันที่ความโศกเศร้าและความปลื้มปีติผสมปนเปกันเสียจริง!
“แก……แกกล้าฆ่าลูกชายฉันเลยเหรอ!”
“แกต้องตาย แกต้องตายแบบอนาถมาก!”
“ฉันจะกินเลือดของแก กินเนื้อของแกด้วย!”
หวังหงเชียนกอดศพของหวังไห่ไว้ กัดฟันแน่นพูดขึ้นมา เสียงเศร้าสลดอย่างยิ่ง บนหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธมหาศาล
ถ้าเป็นไปได้ เขาคงฆ่าหม่าชาวอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย เพื่อแก้แค้นให้ลูกชายของตนเอง
หยางเฉินไม่สงสัยสักนิดเดียว ถ้าเขาและหม่าชาวเป็นเพียงแค่คนธรรมดา หวังหงเชียนคงทำแบบนี้ไปแล้วจริงๆ
ในสายตาของหวังหงเชียนถูกจิตอาฆาตแค้นที่รุนแรงปกคลุมเต็มที่ไปหมด
ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนให้ตายได้ อย่างนั้นหยางเฉินและหม่าชาวคงโดนเขาฆ่าตายไปนับครั้งไม่ถ้วนตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเฉินเหมือนเป็นคนนอกเหตุการณ์คนหนึ่ง นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างหน้าตาไร้อารมณ์ เพียงแค่มีบางทียกถ้วยชาพอร์ซเลนขึ้นมา ดื่มหมดถ้วยในทีเดียว จากนั้นหม่าชาวจะรีบเทให้เต็มทันที
ที่เขามาวันนี้ เพียงเพื่อสนับสนุนหม่าชาวและอ้ายหลิน ขอเพียงหม่าผ่านการรับมือไปได้ เขาก็ไม่คิดจะออกหน้า
“พ่อหนุ่ม สรุปนายเป็นใครกัน?”
“นึกไม่ถึงจะกล้าฆ่าคนในงานมงคลสมรสของพวกเราตระกูลอ้ายและตระกูลหวัง พวกนายคิดจะอาศัยแค่กำลังพวกนายสองคน มาต่อต้านตระกูลใหญ่สองแห่งอย่างพวกฉันเหรอ?”
“ถ้าวันนี้พวกนายให้คำอธิบายไม่ได้ งั้นก็อย่าคิดจะเดินออกไปจากโรงแรมเยี่ยนตูสักก้าวเดียว!”
เวลานี้ เป็นภาพของชายวัยกลางคนลุกขึ้นมาแล้ว ที่หน้าอดติดดอกไม้สดช่อหนึ่งเหมือนกัน มองทางหยางเฉินและหม่าชาวด้วยหน้าตาเคร่งขรึมพูดขึ้นมา
เขาบอกว่าตระกูลอ้ายของพวกเรา จึงย่อมเป็นคนของตระกูลอ้ายเป็นธรรมดา หน้าอกติดดอกไม้ คงเป็นได้เพียงบิดาของอ้ายหลิน อ้ายหมิงซวี่!
ถ้าตอนนี้เขาลุกออกมา ผลลัพธ์จะร้ายแรงมาก
ตระกูลหวงเบื้องหลังของตระกูลหวัง ไม่ใช่จะมาหาเรื่องได้ง่ายๆ
ถ้าเป็นคนของตระกูลหวังพูดแบบนี้ บางทีหม่าชาวคงฆ่ากลับไปอย่างไม่ลังเลสักนิด แต่เห็นได้ชัดว่าคนที่ลุกออกมาคืออ้ายหมิงซวี่ บิดาของอ้ายหลิน
ถ้าหม่าชาวอยากจะแต่งงานกับอ้ายหลิน จะต้องได้รับการยินยอมของอ้ายหมิงซวี่ให้ได้
ทันใดนั้นหม่าชาวก้มหน้าลงแล้ว แม้กระทั่งไม่กล้าสบตากับอ้ายหมิงซวี่ นี่กลับทำให้อ้ายหมิงซวี่สงสัยอยู่บ้าง
คนใจเหี้ยมที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาคนนี้ เหมือนกลัวตนเองอยู่บ้าง?
เป็นภาพลวงตาเหรอ?
ไม่ใช่อย่างแน่นอน!
ในเวลานี้เอง หยางเฉินที่ไม่ขยับมาโดยตลอดในสายตาของทุกคนค่อยๆ ลุกขึ้น มองทางอ้ายหมิงซวี่ด้วยท่าทางนิ่งสงบ
“ผมมาในวันนี้ เพื่อเป็นตัวแทนของหม่าชาวพี่น้องของผม มาสู่ขอกับทางคุณลุงอ้ายครับ!”
หยางเฉินเอ่ยปากกะทันหัน เสียงดังกังวาน “หวังว่าคุณลุงอ้ายจะช่วยเรื่องแต่งงานของพี่น้องผมและอ้ายหลินให้สมหวังได้!”
เขาพูดประโยคนี้ออกไป คนในงานต่างส่งเสียงฮือฮา
แม้แต่อ้ายหมิงซวี่เองยังเบิกดวงตาโตเช่นกัน
“อะไรนะ? เขาอยากมาสู่ขอกับทางอ้ายหมิงซวี่?”
“อ้ายหมิงซวี่มีลูกสาวเพียงคนเดียว ก็คืออ้ายหลินผู้เชี่ยวชาญสาวสวยด้านการแพทย์คนนั้นที่วันนี้จะแต่งงานเข้าตระกูลหวัง”
“มิน่าพวกเขาถึงอยากก่อเรื่อง ที่แท้เพื่อผู้หญิงคนนั้น”
……
รอบด้านล้วนเป็นเสียงถกเถียงกัน สีหน้าของทุกคนในตระกูลหวังกลับดูแย่จนถึงขีดสุดแล้ว
คนของตระกูลอ้าย สีหน้าดูไม่ดีเหมือนกัน
หยางเฉินบอกว่าอยากมาสู่ขอแทนหม่าชาว ไม่เพียงกำลังตบหน้าตระกูลหวังเท่านั้น ในขณะเดียวกันยังเป็นการตบหน้าของตระกูลอ้ายด้วย
ถ้าเรื่องนี้ไม่สามารถจัดการอย่างเหมาะสมเรียบร้อยได้ ตระกูลหวังต้องเคียดแค้นตระกูลอ้ายเป็นแน่
เบื้องหลังของตระกูลหวังเป็นถึงตระกูลหวง
นึกถึงจุดนี้ สีหน้าอ้ายหมิงซวี่ยิ่งดูไม่ดี
“พ่อหนุ่ม นายกำลังพูดจาเหลวไหลอะไรกัน? วันนี้เป็นวันมงคลสมรสของลูกสาวฉัน นี่นายกำลังยั่วยุอยู่เหรอ?”
อ้ายหมิงซวี่หรี่ตาจ้องหยางเฉิน สอบถามอย่างเย็นชา
ไม่รอหยางเฉินตอบอะไร ในที่สุดหม่าชาวก็เงยหน้าขึ้น สบตาทั้งสองของอ้ายหมิงซวี่ไปตรงๆ พูดด้วยท่าทางจริงจัง “คุณลุงอ้ายครับ พวกเราไม่ได้ยั่วยุครับ แต่ว่ามาสู่ขอจริงๆ หวังว่าท่านจะสามารถตอบรับเรื่องแต่งงานของผมกับอ้ายหลินด้วยครับ!”
ท่าทีของหม่าชาวจริงใจที่สุด เขาแน่ใจมากว่าเขารักอ้ายหลิน
ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน เขามั่นใจว่าในใจอ้ายหลินก็มีเขาอยู่
เพื่ออ้ายหลินแล้ว เขาสามารถยอมรับทุกอย่างได้!
อ้ายหมิงซวี่เป็นบิดาของอ้ายหลิน เขาย่อมไม่สามารถพูดจาโต้กลับได้ ยิ่งจะไม่ใช้กำลังต่อสู้ด้วย
“หึ!”
อ้ายหมิงซวี่พูดจาเยาะเย้ย “เหลวไหล! วันนี้ฉันเพิ่งเจอนายเป็นครั้งแรก นายก็บอกกับฉันว่าอยากมาสู่ขอ? นายคิดจริงหรือว่าฉันจะเชื่อ? พวกนายมาก่อเรื่องกันชัดๆ”
“พ่อหนุ่ม ระวังปากจะพาซวยไว้หน่อย!”
“นายกล้ามาฆ่าคนของตระกูลหวังในงานมงคลของลูกสาวฉัน เรื่องนี้จำเป็นต้องให้คำอธิบายกับตระกูลหวัง ไม่อย่างนั้นตระกูลอ้ายของฉันจะไม่ปล่อยนายไปเด็ดขาด!”
อ้ายหมิงซวี่รีบแสดงท่าทีทันใด ภายในคำพูดล้วนกำลังแบ่งความสัมพันธ์กับหม่าชาวแบบชัดเจน
ขณะเดียวกันก็กำลังบอกตระกูลหวังว่าเขาไม่รู้จักหม่าชาว และจะไม่ยอมรับการสู่ขอของหม่าชาวด้วย
แต่จะช่วยเหลือตระกูลหวังจัดการชายหนุ่มสองคนนี้ไปด้วยกัน
สีหน้าหม่าชาวดูแย่อย่างมาก พูดด้วยท่าทางจริงจัง “คุณลุงอ้ายครับ ผมกับอ้ายหลินเรารักกันด้วยใจจริง ขอร้องท่านให้โอกาสผมสักครั้งนะครับ!”
“พ่อหนุ่ม อย่ามาพูดจาเหลวไหล! ลูกสาวฉันเดิมทีไม่เคยมีความรัก จะมาบอกว่ารักกับนายได้อย่างไรกัน?”
ชั่วขณะนั้นอ้ายหมิงซวี่โกรธจัด โบกฝ่ามือใหญ่ “เข้ามาสิ จับตัวเจ้าหนุ่มที่พูดจาเหลวไหลคนนี้เอาไว้ให้ฉัน!”
หลังจากที่เขาพูดออกมา ชายกำยำรูปร่างสูงใหญ่หลายคนรีบพุ่งเข้ามาทางหม่าชาวทันที ชั่วพริบตาเดียวล้อมรอบเขาไว้ตรงกลาง
หยางเฉินขมวดคิ้วแล้ว หรี่ตาจ้องอ้ายหมิงซวี่ “คุณไม่แยกแยะระหว่างถูกผิด อยากมาจับตัวพี่น้องของผมไป ถามผมแล้วหรือยัง?”
“นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? มีสิทธิ์อะไรมาก้าวก่ายเรื่องตระกูลอ้ายของฉัน?”
อ้ายหมิงซวี่พูดอย่างโมโห “ถ้านายกล้าพูดไร้สาระอีก อย่าโทษฉันว่าไม่เกรงใจกับนายแล้วกัน!”
“ผมก็อยากจะดูสักหน่อยว่าคุณจะไม่เกรงใจกับผมแบบไหน!”
กลิ่นอายของหยางเฉินระเบิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว มองทางอ้ายหมิงซวี่ด้วยสีหน้าเย็นชา
สำหรับคนของตระกูลอ้าย เขาไม่อยากใช้กำลังมากดขี่ แต่ถ้าตระกูลอ้ายไม่สนใจความสุขของอ้ายหลิน บีบบังคับเธอแต่งเข้าตระกูลหวัง
อย่างนั้นเขาก็จะใช้กำลังต่อตระกูลอ้ายโดยไม่สนใจอะไรอีก!
อ้ายหมิงซวี่ถูกพลังอำนาจบนตัวของหยางเฉินกดเอาไว้แล้ว
ตระกูลหวังนั่นรู้จักสถานะของหยางเฉิน และเข้าใจเป้าหมายหลักของงานแต่งในครั้งนี้ด้วย แต่ตระกูลอ้ายไม่รู้ชัดเจน
ตระกูลอ้ายรู้เพียงว่าตระกูลหวงมาสู่ขอเพื่อตระกูลหวังด้วยตนเอง พวกเขาไม่กล้าผิดใจตระกูลหวง ดังนั้นถึงรีบร้อนเช่นนี้ วันก่อนหน้าเพิ่งมาสู่ขอกันไป วันต่อมาก็จัดพิธีแต่งงานแล้ว
“พ่อหนุ่ม นี่คือความจริงใจที่นายอยากมาสู่ขอ?”
อ้ายหมิงซวี่พูดด้วยความเดือดดาล “ข่มขู่ฉันต่อหน้าคนอื่น?”
คำพูดของเขาเพิ่งเอ่ยออกมา ก็มองเห็นผู้ชายที่สวมชุดสูทหลายคนถือกล่องหลายใบเดินเข้ามาแล้ว
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนต่างตกอยู่ด้านบนกล่องหลายใบนี้
เวลานี้ ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทคนหนึ่งก้าวเดินออกมา ในมือถือรายการส่งของขวัญใบหนึ่งไว้ รีบอ่านออกมาในทันที
“แหล่งรายได้ทั้งหมดตั้งอยู่ศูนย์การค้าเทียนเหอที่เมืองหนันยัง สายหนึ่ง!”
“มีมาอย่างยาวนาน ตั้งอยู่ที่ต้าเหอกรุ๊ปของมณฑลเจียงผิง หุ้นจำนวนเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์!”