The king of War - บทที่ 469 โลกมันกลม
เพราะยังไง ภารกิจฆ่าหยางเฉิน หวงเทียนเชิงเป็นคนสั่ง
สุดท้ายหยางเฉินไม่ตาย กลับไปหาเรื่องที่บ้านตระกูลหวง หวงเทียนเชิงจะสามารถมอบตำแหน่งผู้สืบทอดให้เขาอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
ตระกูลหวงในทางด้านความรักใคร่ แม้ว่าจะเลือดเย็นมาก แต่ว่าหวงจง กลับฆ่าลูกสาวแท้ๆของหวงเทียนเชิง
แค่หวงเทียนเชิงยังอยู่ เขาจะไม่มีทางมอบตำแหน่งผู่สืบทอดให้เชาง่ายๆแน่นอน
ถ้าหยางเฉินไปหาเรื่องตระกูลหวง หวงเทียนเชิงยิ่งสามารถหาทางปฏิเสธไม่ให้เขากลายเป็นผู้สืบทอดได้
“ฉันไว้ชีวิตคุณ ไม่ใช่ว่าสามารถยอมให้คุณยั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่า ภายในสิบวิ ออกไปจากสายตาของฉัน มิเช่นนั้น ตาย!”
หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา
พอสบตากับหยางเฉิน หวงจงก็อดสั่นไม่ได้ เขารู้สึกราวกับว่าเขาถูกจ้องมองโดยสัตว์ร้าย ร่างกายของเขาก็หนาวเย็น
เขาไม่สงสัยเลยว่า ถ้าเขาไม่ออกไปจากสายตาของหยางเฉินภายในสิบวินาที หยางเฉินจะฆ่าเขาจริงๆ
“หวังว่าคุณจะคิดดีๆ ค่อยตัดสินใจว่าจะไปบ้านตระกูลหวงไหม?”
หวงจงทิ้งประโยคดังกล่าว แล้วรีบหลีกทางปล่อยให้หยางเฉิน
เมื่อเห็นหยางเฉินเดินออกไป ดวงตาของหวงจงเต็มไปด้วยความกังวล เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีและกดหมายเลขโทรออก
“คุณปู่ ภารกิจล้มเหลว! ตอนนี้เขากำลังไปบ้านตระกูลหวง เขาบอกว่าเขาจะฆ่าคนที่อยากให้เขาตาย!”
หวงจงพูด
เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มันเกินขอบเขตความสามารถในการจัดการของเขา ได้แต่รายงานตามความจริงกับหวงจงเฉิน ปู่ของเขาตามความจริงเท่านั้น
หวงเทียนเฉินซึ่งอยู่คฤหาสน์ห่างไกลจากบ้านตระกูลหวง ไม่แปลกใจเมื่อได้ยินคำพูดของหวงจง เขาแค่พูดนิ่งๆ:”รู้แล้ว นายต้องเข้าไปแทรกเรื่องนี้อีก แล้วจำไว้อย่าไปบอกใคร!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวงจงก็ตกใจ คุณปู่ตั้งใจจะช่วยหยางเฉินเหรอ?
เพราะไม่ว่ายังไง หากบอกเรื่องนี้กับหวงเทียนเชิง ขอแต่ตระกูลหวงสามารถฆ่าหยางเฉินได้อย่างง่ายดาย ก็ถือเป็นบุญ ไม่แน่หวงเทียนเชิงอาจจะให้อภัยแก่ความล้มเหลวของภารกิจได้
แต่ว่า คุณปู่กลับอยากปกปิดเรื่องนี้ งั้นก็หมายความว่า เขาจะสละโอกาสนี้ แล้วรอให้หยางเฉินไปที่บ้านตระกูลหวงเพื่อจัดการกับหวงเทียนเชิงเหรอ?
“นายได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่า?”
หวงจงลืมตอบเพราะกำลังคิดอยู่ ซึ่งทำให้หวงเทียนเฉินไม่พอใจทันที และถามอย่างเย็นชา
หวงจงตกใจและพูดอย่างรวดเร็ว:”คุณปู่ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร!”
“ดี ตอนนี้นายกลับบ้านตระกูลหวง รอดูการแสดงซะ!” หวงเทียนเฉินสั่ง
เยี่ยนตู ในคฤหาสน์ตระกูลหวง
หวงเทียนเฉินที่เพิ่งวางสาย ยกยิ้มมุมปาก และพูดช้าๆว่า:”นึกไม่ถึงเลยว่ารุ่นหลังของตระกูลอวี๋เหวิน เติบโตขึ้นถึงระดับในปัจจุบันแล้ว”
“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าที่นายหายไป 5 ปี นายไปทำอะไรมากันแน่? แล้วเกิดอะไรขึ้น? ถึงมีความสามารถเช่นนั้นในระยะเวลาอันสั้น”
“ฉันเกรงว่าตอนนี้ตระกูลอวี๋เหวิน คงจะเสียใจกับการตัดสินใจในตอนนั้นแล้วสินะ?”
หวงเทียนเฉินพูดกับตัวเอง:”จู่ๆฉันก็คาดหวังกับการแสดงของนาย ในบ้านตระกูลหวง”
ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินออกจากโรงแรมเยี่ยนตู
“ไอ้หนู หยุด!”
ไม่นึกเลบว่า ทันทีที่เขาและหม่าชาวเดินออกจากโรงแรม จู่ๆก็มีเสียงโกรธดังขึ้นข้างหลังเขา
เห็นร่างชายหนุ่มที่มีร่างกำยำสองคนขวางทางหยางเฉิน
หยางเฉินขมวดคิ้วและมองไปที่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาหน้านิ่ง
ชายหนุ่มคนนี้ก็คือ หวังหยู่ รุ่นหลังของตระกูลหวังที่เขาเคยเห็นเมื่อตอนที่เขาอยู่ที่สนามบินก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้ที่เจอหวังหยู่ที่สนามบิน เขาสวมชุดหูฟัง และสวมเสื้อผ้าสไตล์ฮิปฮอปแบบหลวมๆ
แต่ว่า เขาถูกหม่าชาวเตะ เสื้อผ้าสกปรก ผมยุ่งหมด
ในตอนนี้ หวางหยู่เปลี่ยนไปสวมชุดทางการ เขาดูเหมือนฮิปฮอปที่เคยเห็นที่สนามบินก่อนหน้านี้ตรงไหน?
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมาที่โรงแรมเยี่ยนตู เพื่อเข้าร่วมงานแต่งงาน
เกรงว่าเขาคงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงแรม ขนาดผู้นำของตระกูลหวางก็ถูกหยางเฉินฆ่าด้วยมือเอง ไม่เช่นนั้น เขาคงจะไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าหยางเฉิน
“พวกคุณนี่เอง นี่ถือว่าโลกมันกลมรึเปล่า?”
“เดิมฉันส่งคนไปหาพวกคุณแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าพวกคุณจะมาหาเอง”
“เห็นว่าพวกคุณเป็นชาวต่างชาติ และไม่รู้จักฉัน ฉันสามารถไว้ชีวิตพวกคุณได้”
“คุกเข่าขอโทษฉัน และลอดใต้หว่างขา และตัดแขนคนละข้าง ความแค้นของเมื่อก่อนๆ ถือว่าจบกัน!”
หวังหยู่พูดด้วยใบหน้าที่หยิ่งผยอง บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ข้างหลังเขายืนอยู่ข้างหลังเขา จ้องมองที่หยางเฉินและหม่าชาวอย่างถมึงทึง
“ในเจียงโจว ดูเหมือนจะไม่เคยเจอคนโง่มากมายขนาดนี้ ทำไมจึงมีคนโง่มากมายในใจกลางเมืองของประเทศจิ่วโจวด้วย?”
หยางเฉินถามขึ้นทันที คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“เป็นเพราะว่าเยี่ยนตูเป็นเมืองหลวงของจิ่วโจว ผู้คนจำนวนมากคุ้นเคยกับศักดิ์ศรี โดยอาศัยภูมิหลังของตระกูลเพื่อช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ”
หม่าชาวเยาะเย้ยแล้วพูดประชดประชันว่า:”บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาทำสิ่งเลวร้ายเหล่านี้มากเกินไป จนทำให้พวกเขาไม่เห็นใครอยู่ในสายตา คิดว่าใครๆ ก็ต้องคุกเข่าทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มตอนเห็นพวกเขา ถึงจะแสดงตำแหน่งอันทรงเกียรติของความชอบธรรมในตนเองได้?”
หยางเฉินพยักหน้าเล็กน้อย เหมือนครุ่นคิด แล้วพูดว่า:”ไม่คิดเลยว่า หลังจากที่คุณมาอยู่เยี่ยนตูสักระยะหนึ่ง คุณจะเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย ใช้ได้ มีความพัฒนา!”
เมื่อได้ยินคำชมของหยางเฉิน หม่าชาวยิ้ม:”ขอบคุณสำหรับคำชมครับพี่เฉิน!”
เมื่อเห็นหยางเฉินและหม่าชาวพูดคุยด้วยเสียงหัวเราะเหมือนไม่มีใครอยู่ หวังหยู่รู้สึกว่าเขาถูกเพิกเฉยจริงๆ และใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเขาก็เต็มไปด้วยความโมโห
“ไอ้บ้า พวกแกกล้าเมินฉันเหรอ!”
หวังหยู่โกรธมากและพูดอย่างโกรธเคือง
หยางเฉินถามอย่างกะทันหัน:”คุณบอกว่าคุณเป็นคนของตระกูลหวัง ปู่ของคุณชื่อหวังหู่ใช่ไหม?”
“ไอ้หนู ดูเหมือนว่าคุณจะรู้ว่าปู่ของฉันเป็นใคร”
“กลัวแล้วสินะ?”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ยังไม่รีบคุกเข่าขอความเมตตา บางทีฉันอาจจะให้ทางรอดกับคุณได้อีก”
เมื่อได้ยินว่าหยางเฉินรู้จักหวังหู่ หวังหยู่คิดว่าหยางเฉินกลัว ทันใดนั้นก็ดูภูมิใจและได้ใจ พูดโดยมองไปที่หยางเฉิน
จู่ๆ หยางเฉินก็ส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้มว่า:”ถ้าเป็นเช่นนั้น งั้นฉันคงจะไม่ได้เข้าใจผิด เมื่อกี้เอง ปู่ของคุณ ถูกฉันฆ่าตายแล้ว”
“ไอ้เลว แกกล้าดูถูกปู่ของฉัน!”
“ฉันเป็นหลานชายของผู้นำตระกูลหวัง รู้ไหมว่าตระกูลหวังหมายถึงอะไรไหม?”
“ตระกูลหวังกำลังทำงานให้ตระกูลหวงในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู คุณกล้าเมินฉันแบบนี้ แสดงว่าคุณกำลังเมินตระกูลหวง”
“ตอนนี้ฉันจะสอนบทเรียนให้คุณในนามของตระกูลหวง เพื่อที่จะให้ชาวต่างชาติอย่างคุณจะได้รู้ว่าชะตากรรมของการขัดใจฉันเป็นอย่างไร!”
หวังหยู่โมโหเพราะคำพูดของหยางเฉิน ระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์
สีหน้าของหยางเฉินเต็มไปด้วยความขี้เล่น และพูดด้วยรอยยิ้ม:”เมื่อกี้ ฉันฆ่าคุณปู่ของคุณต่อหน้าตระกูลหวง ตอนนี้ฉันกำลังคิดจะไปบ้านตระกูลหวง ไปฆ่าคนที่กำลังอยากตายเล่นสักหน่อย”