The king of War - บทที่ 494 ไม่ต้องห่วงหนู
หยางเฉินกล่าวยิ้มๆ “ถ้าอย่างนั้นก็ยินดีด้วยนะ”
แน่นอนว่าเขาจะไม่บอกหานเฟยเฟยว่างานที่หานเฟยเฟยได้ ไม่ใช่แค่พนักงานต๊อกต๋อย แต่เป็นเลขาของผู้จัดการใหญ่แห่งเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
มีไม่กี่คนที่หยางเฉินเชื่อใจ ตระกูลหานแห่งเจียงผิงถือเป็นตระกูลที่เชื่อใจได้ ตัวหยางเฉินเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับหานเซี่ยวเทียนอยู่แล้ว
หานเฟยเฟยในฐานะหลานสาวที่หานเซี่ยวเทียนรักมากที่สุด ย่อมได้รับความไว้วางใจ
หากสามารถอบรมสั่งสอนหานเฟยเฟยให้เก่งกาจขึ้นมา จะเป็นกำลังเสริมที่ดีของตัวเอง
หลังจากที่ทั้งสองกินข้าวกันเสร็จ ท้องฟ้าก็มืดสนิท
หยางเฉินไปส่งหานเฟยเฟยจนถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยเมืองเยี่ยนตู พร้อมกล่าวยิ้มๆ “เธอเข้าไปเถอะ ฉันก็ต้องไปแล้ว”
ในตอนนั้นเอง จิตสังหารอันน่ากลัวก็สำแดงออกมา
หยางเฉินแค่รู้สึกว่ามีความหนาวเหน็บปรากฏขึ้นด้านหลัง เขาก็เอื้อมมือออกไปโอบหานเฟยเฟยมาอยู่ในอ้อมแขนอย่างไม่ลังเล
หานเฟยเฟยรู้สึกเพียงว่าภาพตรงหน้าเบลอไปหมด ก่อนที่ตัวเองจะถูกโอบเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งกรง แล้วจากนั้น ขาสองข้างของตัวเองก็ลอยขึ้นจากพื้นดิน ออกไปจากที่เดิมในเวลาพริบตา
“ตู้ม!”
วินาทีที่ทั้งสองออกมา จุดที่หานเฟยเฟยอยู่เมื่อกี้ก็ปรากฏร่างกำยำดุจหินผาร่างหนึ่ง
ส่วนพื้นหินใต้เท้าของแหลกเป็นสิบๆชิ้นประหนึ่งแก้วอันเปราะบาง
ในเวลานั้น ตาแดงก่ำเขาเป็นเหมือนสัตว์ป่า จ้องมองหยางเฉินอย่างเอาเป็นเอาตาย
“แกเป็นใคร?” หยางเฉินขมวดคิ้วถาม
“ฉันคือคนที่จะมาเอาชีวิตแก!”
อีกฝ่ายเลียริมฝีปากแดงฉานของตัวเอง วินาทีต่อมา ก็ขยับเท้าอย่างฉับพลัน พื้นดินระเบิดทันที ฝุ่นผงปลิวว่อน
ส่วนร่างของเขาได้หายไปจากที่เดิมแล้ว และพุ่งตรงมาหาหยางเฉิน
หานเฟยเฟยอีกด้านกลัวจนหน้าถอดสี ปากเธออ้าออกเล็กน้อย สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
สายตาหยางเฉินก็ปรากฏความหนักใจนิดหน่อย พลังที่ชายร่างกำยำคนนี้แผ่ซ่านออกมาช่าวน่าตื่นตกใจจริงๆ
ต่อให้เป็นตงเชยที่เคยประมือกับเขา ก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายร่างกำยำคนนี้
ตงเชยเคยเป็นยอดฝีมืออันดับสามของตระกูลหวง กำลังของชายร่างกำยำตรงหน้านี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าตงเชยเลย นั่นก็หมายความว่าชายร่างกำยำผู้นี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู หรืออาจจะเป็นยอดฝีมือของสมาคมบูโด
และตระกูลที่มีหนี้แค้นกับตัวเองจริงๆ นอกจากตระกูลหวงและตระกูลเย่แล้ว ก็มีแต่ตระกูลอวี๋เหวิน แล้วก็มีสมาคมบูโด
ตระกูลหวงเพิ่งจะศิโรราบต่อเขา ระหว่างเขาและตระกูลเย่ก็ถือว่ามีข้อตกลงร่วมมือลับๆกันแล้ว
ส่วนสมาคมบูโด พวกเขาเป็นพวกโจ่งแจ้งอึกทึก สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนๆกัน ซึ่งก็คือเครื่องแบบของสมาคม บูโด
ในขณะที่ชายร่างกำยำตรงหน้าไม่ได้แต่งกายด้วยเครื่องแบบของสมาคมบูโด
หากว่าตามนี้แล้ว เขาต้องเป็นยอดฝีมือของตระกูลอวี๋เหวินเท่านั้น และเป็นคนที่อยู่อันดับต้นๆภายในตระกูลด้วย
“ไสหัวไปซะ!”
เสี้ยววินาทีนั้น ชายร่างกำยำก็ได้พุ่งมาอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน
หยางเฉินคำรามอย่างโกรธจัด ปล่อยหมัดออกไปอย่างราบเรียบ
“ปึ้ง!”
ร่างของชายร่างกำยำที่พุ่งไปหาหยางเฉินชะงักงัน ทันใดนั้นพลังอันแข็งแกร่งก็ปะทะเข้ากับหน้าอกของเขา และร่างกายของเขาก็ปลิวออกไปประหนึ่งปืนใหญ่ที่ถูกยิง
หานเฟยเฟยอีกด้านอึ้งไป เธอรู้ว่าหยางเฉินเป็นคนแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่เคยเห็นด้านที่น่ากลัวขนาดนี้ของหยางเฉิน
หมัดเดียว ก็สามารถต่อยยอดฝีมือของเยี่ยนตูจนกระเด็นออกไปไกลถึงเจ็ดแปดเมตร
วินาทีที่ชายร่างกำยำโดนหมัดของหยางเฉิน หัวใจของเขาก็ตะลึงถึงขีดสุด
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่เก่งกาจที่สุดของตระกูลอวี๋เหวิน เขาอยู่ในระดับที่สามารถเดินกร่างไปทั่วเมืองเยี่ยนตูได้
บัดนี้กลับโดนเด็กหนุ่มอายุเพียงยี่สิบกว่าปีต่อยจนกระเด็นออกไปเจ็ดแปดเมตร
ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็เทียบไม่ได้
เขาไม่ใช่ใครอื่น ยอดฝีมือระดับต้นๆข้างกายหยูเหวินหวู เหยถ่าที่อาสามาฆ่าหยางเฉินนั่นเอง
จนถึงนาทีนี้ เหยถ่าถึงรู้ว่าเจ้านายของตัวเองไม่รู้จักหยางเฉินเลยสักนิด ที่รู้คงจะแค่ผิวเผินเท่านั้น
คนแบบนี้หยูเหวินหวูอย่าไปแหยมด้วยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องนำภัยถึงชีวิตมาสู่ตัวเองแน่นอน
“ไสหัวกลับไปบอกหยูเหวินหวูซะ หากเขากล้ามาหาเรื่องฉันอีก ต่อให้เขาเป็นทายาทของตระกูลอวี๋เหวินฉันก็จะฆ่าเขาโดยไม่ลังเล!”
ในขณะที่เหยถ่ามัวแต่ตะลึงอยู่ หยางเฉินก็เดินมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และมองเขาอย่างผู้เหนือกว่าพลางเอ่ย
ความเย็นชาของสายตานั้น ประหนึ่งกำลังมองคนที่ตายไปแล้ว
เหยถ่าอึ้งกว่าเดิม หยางเฉินถึงขั้นรู้ว่าหยูเหวินหวูเป็นคนส่งเขามา
แค่พริบตาเดียวเท่านั้น เขาก็ปกปิดสายตาตัวเองได้ แต่หยางเฉินจับได้เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อกี้หยางเฉินแค่ลองหยั่งเชิงดูเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่หยูเหวินหวูส่งมาจริงๆ จิตสังหารบนใบหน้ารุนแรงกว่าเดิม
เหยถ่าตระหนักได้ว่าตัวเองได้เปิดเผยทุกอย่างไปแล้ว นึกเคืองโกรธในใจ แต่สำนึกตอนนี้ก็สายไปแล้ว เขาคลานขึ้นจากพื้นเงียบๆ มองหยางเฉินอย่างมีความหมาย ก่อนจะหันหลังจากไปทันที
เขาเพิ่งเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว สายตาก็ฉายแววแน่วแน่ ออกแรงกระทืบเท้าก่อนที่ตรงนั้นจะเหลือเพียงเงาของเขา และตัวเขาพุ่งไปหาหานเฟยเฟยที่อยู่ด้านข้าง
ทุกอย่างเกิดขึ้นกระทันหันเกินไป หยางเฉินคิดไม่ถึงเลยว่าเขาปล่อยอีกฝ่ายไปแล้ว อีกฝ่ายยังบังอาจมายุ่งกับหานเฟยเฟยอีก
นี่ไม่ใช่การรนหาที่แล้วจะให้เรียกว่าอะไร?
“กรี๊ด~”
หานเฟยเฟยกรีดร้องเสียงแหลม ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พูดขึ้นด้วยเสียงสั่นเทา “นาย…นายจะทำอะไร?”
“แกถอยหลังไปซะ!”
เหยถ่าไม่ตอบ แต่หันมองหยางเฉินเย็นๆพลางกล่าว
จิตสังหารปรากฏอยู่ในแววตาของหยางเฉิน เขาหรี่ตาพลางเอ่ย “ฉันไว้ชีวิตแก แต่แกคิดจะทิ้งโอกาสนั้นใช่มั้ย?”
สิ่งที่หยางเฉินทนไม่ได้ที่สุดมีเพียงสองเรื่อง
เรื่องแรกคือมีคนคิดฆ่าตัวเอง อีกเรื่องก็คือมีคนใช้คนรอบข้างตัวเองมาขู่ตัวเอง
แต่เหยถ่าดันกระทำทั้งสองเรื่อง
แค่คิดก็รู้แล้วว่าจิตสังหารที่หยางเฉินมีต่อเหยถ่าในตอนนี้นั้นรุนแรงแค่ไหน
“เลิกพูดมากได้แล้ว!”
เหยถ่าตะคอกเสียงเย็น “แกน่าจะรู้นะว่าถ้าฉันจะเอาชีวิตของผู้หญิงคนนี้ง่ายแค่หยิบมือ”
“ในเมื่อแกรู้ว่าฉันเป็นคนของคุณชายปิง ก็น่าจะรู้ว่าเป้าหมายของฉันมีแค่แก”
“ตอนนี้ แกไปกับฉันซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงคนนี้ซะ!”
หยางเฉินรู้สึกได้ว่าถ้าตัวเองไม่ตกลง เหยถ่าจะฆ่าหานเฟยเฟยจริงๆ
ก่อนที่คนๆนี้มาหาตัวเอง ก็ไม่คิดจะกลับไปโดยที่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว
หยูเหวินหวูเอ๊ยหยูเหวินหวู มีหน่วยกล้าตายเช่นนี้อยู่ในมือด้วยหรือนี่
“พี่หยางคะ พี่ไม่ต้องห่วงหนู ถ้าพี่ไปกับเขา เขาไม่ยอมปล่อยพี่ไว้แน่ๆค่ะ ถึงตอนนั้นหนูก็ต้องตายอยู่ดี”
อยู่ๆหานเฟยเฟยก็ตะโกน แม้จะกลัวจนตัวสั่นเทา แต่ก็บอกให้หยางเฉินไม่ต้องห่วงเธอ
“หุบปาก!”
เหยถ่าตะคอกเสียงกร้าว ห้านิ้วของมือขวาพลันบีบคอของหานเฟยเฟย
เสียงของหานเฟยเฟยหายไปทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทว่าสายตาของเธอไม่มีแววหวาดกลัวเลยสักนิด
เธอส่งสายตาให้หยางเฉินตลอด ราวกับจะบอกว่า ไม่ต้องห่วงหนู