The king of War - บทที่ 513 หนูท้องแล้วค่ะ
ด้วยว่า นี่คือการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่ว่าจะเป็นหยางเฉินหรือเย่ชังใครจะเป็นฝ่ายชนะ ผู้ที่ได้ประโยชน์สุดท้าย ก็คือตัวเขา
“คุณพ่อ ท่านจะทำอะไรค่ะ?”
ในช่วงวิกฤตเหมือนชีวิตแขวนบนเส้นด้ายนี้ เงาสวยอรชรร่างหนึ่ง ขวางเข้ามาหน้าหยางเฉินในทันใด จ้องเย่ชังถามเสียงดังด้วยความโกรธ
“เสี่ยวเตี๋ย!”
เห็นเป็นเสี่ยวเตี๋ย เย่ชังหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ตวาดไปว่า “แกถอยไปให้พ้น!”
เย่เสี่ยวเตี๋ยขบกรามแน่น ตาทั้งคู่แดง น้ำตาใสกลิ้งอยู่บริเวณขอบตา
หล่อนจ้องตาเขม็งที่เย่ชัง กัดฟันพูดไปว่า “คุณพ่อ ท่านฆ่าเขาไม่ได้!”
คนอื่นอาจจะไม่รู้แจ้งชัดถึงความเก่งกาจของหยางเฉิน แต่หญิงสาวคนที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากหยางเฉิน หล่อนย่อมรู้อย่างแน่ชัด
ชายหนุ่มที่สามารถช่วยหล่อนให้รอดพ้นจากโจรสลัดหลายสิบคนที่มีปืนกลอยู่ในมือ มีหรือจะปล่อยให้ปืนในมือเพียงกระบอกเดียวของเย่ชังทำร้ายได้?
หล่อนจำเป็นต้องเข้าห้าม และเป็นการช่วยชีวิตพ่อของตัวเองในขณะเดียวกัน
ที่จริงหยางเฉินกำลังจะลงมือแล้ว แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นที่เย่เสี่ยวเตี๋ยอ้าแขนทั้งสองออกขวางอยู่ข้างหน้าตัวเขา ใจของเขาสะท้านวาบอย่างรุนแรง
ในปีนั้น ตอนที่เขากับคุณแม่ถูกขับออกจากตระกูลอวี๋เหวิน ไล่ให้ออกพ้นไปจากเยี่ยนตู คุณแม่ของเขาก็อยู่ในสภาพเหมือนกับเย่เสี่ยวเตี๋ยในขณะนี้ กางแขนออกทั้งสอง ปกป้องให้ตัวเขาอยู่ข้างหลังของหล่อน
เหตุการณ์เมื่อครู่นี้ เย่ชังก็ได้ค่อย ๆ ขยับนิ้วแล้ว เพียงใช้แรงอีกนิดเดียว ก็จะทำให้นกสับทำงานแล้ว
ในห้วงวิกฤตอันตรายขนาดนี้ เย่เสี่ยวเตี๋ยปรากฏตัวมาอย่างไม่สะทกสะท้าน ใช้ร่างอันบอบบางของตัวเอง เข้ามาปิดป้องขวางทางปืน
จะให้ไม่ประทับใจ นั่นคงไม่ใช่ละ
ถึงแม้ไม่รู้ได้ว่า เย่เสี่ยวเตี๋ยฝ่าอันตรายเข้ามาขวางทางกระสุนเพื่อช่วยชีวิตเขาเพื่ออะไร แต่ก็ยอมรับได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ อย่างน้อยก็ได้ทำให้หยางเฉินรู้สึกไปในทางที่ดี
ต่อให้ว่าต้องฆ่าล้างตระกูลเย่ให้หมด เขาก็จะไม่ลงมือทำกับผู้หญิงคนนี้เป็นเด็ดขาด
“ต่อหน้าต่อตาข้า มันบังอาจให้คนของมันฆ่าซุจิ้นประธานบริษัทการบันเทิงจิ้งอาน อีกทั้งทำร้ายรองเจ้าสำนักโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียนจนสาหัส ยิ่งไปกว่านั้นยังถล่มสี่องครักษ์ของข้าจนยับ!”
เย่ชังพูดด้วยสีหน้าโกรธแค้น “มีแต่ต้องฆ่ามันให้ตายคามือ จึงจะกู้ศักดิ์ศรีเอาหน้าตระกูลเย่ของข้ากลับคืนมาได้ แกหลีกออกไปให้พ้น วันนี้ มันต้องตาย!”
“คุณพ่อ เสี่ยวเตี๋ยตั้งแต่เล็กจนโตป่านนี้ ไม่เคยขอร้องอะไรจากคุณพ่อเลย วันนี้ ถือว่าให้หนูขอท่านเถอะ อย่าฆ่าเขาเลย ได้ไหมคะ?”
ตาทั้งคู่ของเย่เสี่ยวเตี๋ยแดงก่ำ พูดเสียงสะอื้น แววตาเต็มด้วยการเว้าวอน
ตั้งแต่รู้ข่าวหยางเฉินแต่งงานแล้ว และยังมีลูกสาวน่ารักคนหนึ่ง หล่อนก็รู้สึกเหมือนหัวใจแหลกสลายแล้ว
หล่อนเคยพยายามเด็ดขาดที่จะลืมหยางเฉิน แต่ทุกครั้งที่ตั้งใจ ก็อดไม่ได้ให้ต้องคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะในครั้งนั้น ภาพต่าง ๆ ก็กลับลอยเด่นชัดมาให้เห็นในสมอง
นี้จึงไม่เพียงทำให้ลืมหยางเฉินไม่ได้ กลับยิ่งตอกย้ำความคิดถึงหนักลงไปอีก
กลับเป็นว่าผู้ชายคนที่เก็บจำฝังลึกในตัวของหล่อนคนนี้ ตอนนี้มาเผชิญหน้ากับพ่อของหล่อนเองอย่างต้องเอาเป็นเอาตายกันไปข้างหนึ่ง
ทั้งสองฝ่าย ต่างก็เป็นผู้ชายที่หล่อนรักเป็นที่สุด ไม่ว่าใครจะต้องถูกทำร้าย สำหรับหล่อนแล้ว ล้วนแต่เป็นความกระทบกระแทกที่สุดแสนหนัก
ฉะนั้นในตอนที่เย่ชังกำลังจะลั่นไกยิงใส่หยางเฉินนั้น หล่อนไม่ลังเลแม้แต่น้อย กระโดดเอาตัวเองเข้าขวางพร้อมรับกระสุนปืนแทนหยางเฉิน
สำหรับหล่อนเอง หล่อนยอมที่จะตายเอง แต่จะไม่ยอมให้ผู้ชายที่หล่อนรักมากทั้งสองต้องห้ำหั่นกันเอง
“ถอยออกไปให้พ้น!ไม่อย่างนั้น ข้าจะฆ่าแกทิ้งไปด้วยกันเลย!”
ให้หัวใจเย่เสี่ยวเตี๋ยต้องแหลกสลายจริงคือ การตั้งใจจะฆ่าหยางเฉินของเย่ชังนั้นจริงจังถึงขนาดนี้ ซ้ำร้ายยังประกาศว่า พร้อมจะฆ่าเธอทิ้งไปด้วยกัน
แม้กระทั่งพ่อแท้ ๆ ของตัวเองยังไร้น้ำใจขนาดนี้ มิน่าเล่าว่าตัวหล่อนเองอยู่ในบ้านตระกูลเย่นั้นไม่มีฐานะอะไรกับเขาเลย
“ถ้าหนูบอกว่า หนูมีท้องซึ่งเป็นหลานชายของท่าน ท่านยังจะฆ่าหนูมั้ย?”
เย่เสี่ยวเตี๋ยขบริมฝีปาก มองไปที่พ่อของหล่อนด้วยสีหน้าจริงจัง
“แกว่าอะไรนะ?”
มือของเย่ชังที่ถือปืนอยู่ สั่นสะท้านขึ้นทีหนึ่ง สีหน้างุนงง
ขณะเดียวกัน ในนัยน์ตาทั้งคู่ ยังส่อเห็นแววตื่นเต้นดีใจ
ในตระกูลเย่ ผู้หญิงอยู่ในฐานะที่ต่ำมาก แต่ถ้าหากว่าผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์เป็นผู้ชาย นั้นจะกลายเป็นอีกคนละเรื่องทีเดียว
“หนูท้องแล้วค่ะ!”
เย่เสี่ยวเตี๋ยกัดฟันพูดไปว่า “ได้ไปตรวจยืนยันแล้ว เป็นลูกชาย!”
“ฮา ๆ ๆ ๆ ๆ…..”
เย่ชังดีใจบ้าขึ้นมาทันที แหงนหน้าหัวเราะดังลั่น
พักใหญ่ ตากร้าวแข็งทั้งคู่จ้องมองเย่เสี่ยวเตี๋ย ตะคอกถามไป “เป็นลูกใคร?”
“ของเขาคะ!”
ในความตกตะลึงของคนทั้งหมด เย่เสียวเตี๋ยเดินเบียดเข้าไปข้างกายหยางเฉิน มองหยางเฉินอย่างอ่อนหวานแล้วพูด
คำพูดของเย่าเสี่ยวเตี๋ยหลุดออกจากปาก ทำเอาทั้งบริเวณตกตะลึง
เย่ชังอ้าปากค้าง ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี
แม้ตัวหยางเฉินเอง ก็ยังมึน ตัวเรากับผู้หญิงคนนี้ไม่เคยได้มีอะไรกันเลย จะมีลูกด้วยกันได้ยังไง?
เพียงครู่เดียว เขาก็เข้าใจแจ่มแจ้งของสาเหตุ เจ้าเด็กผู้หญิงโง่คนนี้ ตั้งใจจะช่วยตัวเรา จึงได้ยอมสละความเป็นพรหมจรรย์ของชื่อเสียงตัวเอง
เย่หวูซวงที่ยืนอยู่ข้างเย่ชัง สีหน้าตื่นตกใจ เขาก็เคยรู้อยู่ เย่เสี่ยวเตี๋ยเคยถูกเย่ม่านพาไปเจียงโจว เพื่อจะไปแต่งงานกับหยางเฉิน
ส่วนในเรื่องราวรายละเอียดของเขาทั้งสองจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่เคยได้รู้เรื่อง
มาตอนนี้ เย่เสี่ยวเตี๋ยจู่ ๆ กระโดดออกมาขวางทางกระสุนปืนให้หยางเฉิน แล้วยังบอกว่ามีท้องเป็นลูกชายกับหยางเฉิน เขาไม่ติดใจสงสัยเลย
สีหน้าของเย่หวูซวงดูไม่ได้เป็นอย่างหนัก จากพลังฝีมือของหยางเฉินที่สำแดงออกมาให้เห็นตอนนี้ หากแม้นมาเป็นเขยตระกูลเย่ การขึ้นดำรงในตำแหน่งหัวหน้าตระกูลของเย่ชัง ก็จะมั่นคงดั่งขุนเขาไถ้ซาน
แล้วตัวเขาจะมีโอกาสอะไรได้อีก?
คิดได้มาถึงนี่ จิตใจภายในให้เร่าร้อนหงุดหงิด
“เธอท้องแล้ว?เป็นลูกชายด้วย!แต่เด็กคนนี้ เป็นลูกของไอ้หมอนี่?”
เย่ชังยื่นมือชี้ไปที่หยางเฉิน ถามไปทั้งใบหน้าที่มีแต่แววฉงน
แม้กระทั่งว่าได้วางปืนลงเมื่อไหร่ยังไม่รู้สึก
ท่าทางเย่เสี่ยวเตี๋ยแสดงออกอย่างเขินอาย ยืนเคล้าคลออยู่เคียงข้างหยางเฉิน ออกเสียงมาในลำคอว่า “อือม์”
มาขณะนี้ เย่ชังก็เป็นที่แน่ใจว่า เย่เสี่ยวเตี๋ยมีลูกชายอยู่ในท้องกับหยางเฉิน แต่พอคิดถึงเหตุการณ์ที่หยางเฉินก่อขึ้นในวันนี้ เขาก็ยังให้รู้สึกโกรธอยู่เป็นอย่างมาก
แต่ทว่ามาคิดลึก ๆ อีกที เขาก็เริ่มเห็นได้ว่าเป็นโอกาสของการลงเอยที่ดีได้
ดูหยางเฉินที่มีหม่าชาวที่เป็นถึงยอดฝีมือแดนอ้านจิ้นยืนอยู่ข้างตัว ถ้าได้มาเป็นลูกเขยของตัวเอง สำหรับเขาแล้ว ก็เท่ากับเสือติดปีก
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เราเองใยต้องยืนกรานจะฆ่าหยางเฉินอีก?
แต่ในขณะนั้นเอง หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้นมาในทันใด พูดด้วยเสียงเยือกว่า “คุณสาวเย่ โปรดกรุณาระวังคำพูดด้วย!ผมได้เคยไปมีสัมพันธ์อะไรลึกซึ้งกับคุณเมื่อไหร่กัน?อีกอย่างคือ ลูกสาวผมก็อายุห้าขวบแล้ว ผมจะไปมีลูกกับคุณได้ยังไงกัน?”
พอพูดคำนี้ออกไป คนที่อยู่ต่างตะลึงงันกันไปทั้งหมด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตระกูลเย่วันนี้ ทำให้แต่ละคนรู้สึกเหมือนกับมีของให้กินเป็นระลอกไม่รู้จบ
เย่เสี่ยวเตี๋ยก็ยิ่งมึนไปหนัก หล่อนเองตั้งใจจะช่วยหยางเฉิน หยางเฉินทำไมกลับพูดออกมาให้เป็นอย่างนี้ไปได้?
ต่อให้หยางเฉินจะมีพลังฝีมือเก่งกล้าอีกแค่ไหน ที่นี่มันบ้านตระกูลเย่ ในตระกูลเย่ก็มีสุดยอดฝีมืออีกเป็นจำนวนมาก
สองแขนย่อมยากที่จะสู้สี่มือ หยางเฉินจะรอดชีวิตออกไปได้หรือไม่ ก็ยังเป็นปัญหาอยู่
“ไอ้เด็กน้อย แกนี่คิดจะกินเสร็จเช็ดเกลี้ยง แล้วคิดจะเบี้ยวได้หรือไง?”
ซึมเซ่อไปพักหนึ่งผ่านไป เย่ชังรีบดึงเอาสติกลับมา พูดออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
ลูกสาวของเขาเอง รักนวลสงวนตัวยิ่งกว่าอะไร ตัวเขาเองนั้นรู้ดีกว่าใคร
เย่เสี่ยวเตี๋ยลองพูดออกไปต่อหน้าธารกำนัลอย่างนี้ ว่ามีท้องกับหยางเฉิน มันต้องเป็นเรื่องจริงอย่างเด็ดขาด
อีกทั้งสายตาของเย่เสี่ยวเตี๋ยที่มองหยางเฉินนั้น ชัดแจ๋วเห็นได้ว่าเต็มไปด้วยความรัก ตัวเขาเป็นพ่อ ไหนเลยจะดูไม่ออก