The king of War - บทที่ 531 การต่อสู้ด้วยชีวิต
การเป็นนายพลบู๊ของสมาคมบูโด ถึงคิดจะหนี ก็ต้องหาเหตุผลที่สมเหตุสมผล
แต่วินาทีต่อมา เกิดเรื่องที่ทำให้คนตระกูลเย่อ้าปากค้าง
คนที่มีสีหน้าอวดดี และพูดว่าไม่มีใครขวางเขาได้เมื่อครู่ ตอนนี้กลับคิดที่จะหนี
ผู้มีฝีมือแสดงฝีมือออกมา เพียงพริบตาก็ตัดสินผู้แพ้ชนะได้
แค่การเคลื่อนไหวของหยางเฉินเมื่อครู่ แถมยังพละกำลังที่ใช้จับข้อมือทรราช เพียงพอที่จะบอกว่า ทรราชไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉิน
ในเมื่อรู้ว่าสู้ไม่ได้ แต่ยังฝืนสู้ต่อ นั่นไม่ใช่วีรบุรุษ แต่คือคนโง่ ที่รนหาที่ตาย
“อยากหนีเหรอ แกคิดว่าจะหนีรอดไหม”
หม่าชาวแสยะยิ้มอันร้ายกาจ จากนั้นเขาจึงขยับเท้า วิ่งตามทรราชไป
หยางเฉินยืนอยู่ที่เดิม โดยไม่มีทีท่าจะลงมือ
ถ้าเขาจะลงมือจริงๆ คงฆ่าทรราชไปตั้งแต่ตอนที่ช่วยเย่ม่านแล้ว แต่เขาไม่ทำ และให้โอกาสนี้แก่หม่าชาว
ความสามารถของหม่าชาว พอๆ กับลือเหมิงที่โดนเขาฆ่า ในเมื่อทรราชมาแก้แค้นแทนลือเหมิง แถมยังขู่ให้หยางเฉินมาตาย พละกำลังเขาต้องเหนือกว่าลือเหมิงแน่นอน
ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ สามารถพบเจอได้ แต่ไม่สามารถเรียกร้องมันมาได้ คงเป็นโชคชะตา
ความสามารถของหม่าชาวในตอนนี้ ถึงจุดสุดยอดแล้ว ถ้าอยากทะลุ ก็ต้องผ่านการต่อสู้ด้วยชีวิตเท่านั้น
ช่วงที่ใกล้ตาย จะสามารถปลดปล่อยศักยภาพอย่างเต็มที่
“พลั่ก!”
หม่าชาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาใช้ความเร็วทั้งหมด ลอยตัวขึ้นกลางอากาศ และยกขาถีบอย่างแรง
ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกใจ ทรราชถูกถีบจนลอยกระเด็นออกไป
“ไอ้เลว แกรนหาที่ตาย!”
เมื่อทรราชเห็นว่าเป็นฝีมือของหม่าชาว เขาจึงตวาดออกมา
นายพลบู๊ผู้ยิ่งใหญ่ของสมาคมบูโด หัวหน้าสมาคมมอบชื่อทรราชให้เขา เพียงพอที่จะอธิบายความแข็งแกร่งของเขา
แต่เมื่อครู่โดนหยางเฉินข่มขู่ จนทำให้เขาต้องหนี
ตอนนี้ยังโดนผู้ติดตามของหยางเฉินถีบอีก นี่เป็นความอับอายครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเขา
“แกมันก็แค่คนโง่เท่านั้น คิดว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานจริงๆ เหรอ”
หม่าชาวแสยะยิ้มเย้ยหยัน “แค่สู้กันยังไม่กล้า กล้าขู่ให้พี่เฉินมาตายอย่างนั้นเหรอ”
“ไอ้กระจอก แกกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ!”
ทรราชตวาดออกมา เขาโกรธจนตัวสั่นไปหมด
เขาหันไปจ้องหยางเฉินโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าหยางเฉินยืนอยู่ที่เดิม และไม่มีทีท่าว่าจะสู้กับเขา เขาถึงกับโล่งใจ
“ฉันรนหาที่ตายจริง แต่แก ทำให้ฉันตายได้หรือเปล่าล่ะ” หม่าชาวแสยะยิ้ม
“พลั่ก!”
ทรราชไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาขยับเท้าอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าไปหาหม่าชาว
หม่าชาวอยากสู้อยู่แล้ว เขาอยากใช้การต่อสู้ เพื่อทะลุขีดจำกัดตัวเอง หยางเฉินมองอยู่ข้างหลัง เขาจะกลัวได้อย่างไร
ร่างกายของหม่าชาวเหมือนสายฟ้า และพุ่งเข้าไปเช่นกัน
“พลั่กๆๆ!”
ชั่วพริบตา ร่างของทั้งสองปะทะกัน
ทั้งสองคนมีรูปร่างกำยำ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ การที่ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ แน่นอนว่าทำให้ทุกคนตะลึง
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า คนในตระกูลเย่ถึงกับอึ้ง
เดิมทีพวกเขาคิดว่า ต้องให้หยางเฉินลงมือ ถึงจะหยุดทรราชได้ แต่ตอนนี้ หยางเฉินไม่ได้อะไรเลย แค่หม่าชาวคนเดียว ก็สามารถทำให้ทรราชบาดเจ็บได้
“สวะ แกมีแรงแค่นี้เหรอ”
“อ่อนแอกว่าลือเหมิง ที่โดนฉันฆ่าก่อนหน้านี้เสียอีก”
“ขยะแบบแก ยังสู้ฉันไม่ได้ คิดจะเอาชีวิตพี่เฉินงั้นเหรอ”
“ไอ้โง่ เข้ามาสิ! สู้สิ! อย่าเอาแต่คิดหนี!”
“พี่เฉินอยู่ แกจะหนีได้เหรอ”
หม่าชาวโจมตีอย่างบ้าคลั่ง พลางพูดเยาะเย้ยทรราชไม่หยุด
ความสามารถของทรราช เหนือกว่าลือเหมิงแน่นอน แต่เพราะหยางเฉินมองอยู่ เขาจึงไม่อยากสู้กับหม่าชาวอย่างสุดชีวิต
เขาไม่ได้โง่ ถึงจะชนะหม่าชาวได้ หยางเฉินก็ไม่ปล่อยเขาไว้แน่นอน
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะหนีอย่างไร และไม่ได้ปลดปล่อยพละกำลังที่แท้จริงออกมา
การที่หม่าชาวเยาะเย้ย ทำให้ทรราชอึดอัดใจมาก เขาโกรธจนหน้าดำคล้ำเครียด สีหน้าเขาดูไม่ดีมาก เขากัดฟันพูดว่า “ไอ้กระจอก แกอยากฆ่าฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็แค่ขยะ ชนะฉันให้ได้ก่อนค่อยพูด อยากได้ชีวิตฉัน แกมีฝีมือหรือเปล่า”
หม่าชาวแสยะยิ้มเย็นชา พูดจบ เขาขยับเท้าและพุ่งเข้าไปอีกครั้ง
“ยินดีด้วย แกยั่วให้ฉันอยากฆ่าได้สำเร็จ!”
แววตาของทรราชเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทันใดนั้นเขาปลดปล่อยพละกำลังออกมา
“ไสหัวไป!”
หม่าชาวเหวี่ยงหมัดออกไป ทรราชตวาดขึ้น และจับหมัดของหม่าชาวเอาไว้
จากนั้นเขาจึงแทงเข่าใส่ท้องหม่าชาว
หม่าชาวงอตัวลงอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกว่าในท้องปั่นป่วนไป ความเจ็บปวดแล่นเข้ามา กล้ามเนื้อท้องของเขาหดเกร็ง ทำให้เจ็บปวดเป็นอย่างมาก
“อ่อนแอ!”
ทรราชแสยะยิ้ม เขากำหมัด และกำลังพุ่งไปกระแทกขมับของหม่าชาวอย่างแรง
ถ้าขืนโดนหมัดนี้ ถึงหม่าชาวจะไม่ตาย ก็ต้องอยู่ในอาการบ้านหมุนสักระยะ
เหมือนรู้ว่ากำลังตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต เมื่อเห็นหมัดของทรราช กำลังจะพุ่งเข้ามา หม่าชาวสะกดกลั้นความเจ็บปวดตรงท้อง และกระทืบเท้าทันที
“ไสหัวไป!”
หม่าชาวตวาดออกมา แต่เขาไม่ได้หลบหมัดของทรราช และยกขาถีบออกไป
“พลั่ก!”
หมัดของทรราชเฉียดผมของหม่าชาวไป แต่ขาของหม่าชาว ถีบลงตรงท้องของเขา
ร่างกำยำของทรราช ลอยอยู่กลางอากาศ และกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง
เสียงดังสนั่น ราวกับแผ่นดินไหว
คนตระกูลเย่ตกตะลึง พวกเขาเคยเห็นผู้แข็งแกร่งต่อกรกัน แต่ยังไม่เคยเห็นผู้แข็งแกร่งระดับนี้ ต่อกรกันเลย
คิดถึงการแข่งขันสากลที่เคยดู และดูการต่อสู้ด้วยมือเปล่าในตอนนี้ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
นี่คือการต่อสู้ด้วยชีวิตอย่างแท้จริง!
เย่จี้จงรู้สึกเสียใจและเกลียดผสมกันไปหมด เขารู้ว่าวันนี้ ทรราชไม่มีทางชนะ
ถึงเขาจะชนะได้ แต่ก็ยังมีคนที่พละกำลังแข็งแกร่งอย่างหยางเฉิน
ถ้าทรราชแพ้ หยางเฉินจะปล่อยตระกูลเย่ไปได้อย่างไร
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ความคิดบ้าๆ ลอยเข้ามาในหัวเย่จี้จง เขากดโทรออก อย่างไม่ลังเล จากนั้นจึงพูดเพียงสี่คำ “เตรียมตัวลงมือ”
กระทั่งตอนนี้ ทรราชเพิ่งจะปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา
หลังจากที่เขาสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉิน และรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ เขาจึงคิดหนี
แต่คิดไม่ถึงว่า ขนาดผู้ติดตามข้างกายหยางเฉิน ยังแข็งแกร่งถึงขั้นนี้
เว้นแต่เขาจะทุ่มสุดตัว ถึงจะหนี ก็คงไม่มีหวัง
“นี่สิถึงจะสนุก!”
หม่าชาวรับหมัดของทรราช หลังจากถีบทรราชลอยกระเด็น เขาเลียริมฝีปากด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ไอ้กระจอก แกรู้ไหมว่าฉันเกลียดคนแบบไหนที่สุด”
ทรราชลุกขึ้นจากพื้น สีหน้าของเขาไร้ความเจ็บปวด เหมือนคนที่โดนหม่าชาวถีบเมื่อครู่ ไม่ใช่เขา
ตอนนี้ บนตัวเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต โถมเข้าไปหาหม่าชาวไม่หยุด