The king of War - บทที่ 537 อำนาจของจินกาง
จากนั้นผู้แข็งแกร่งในชุดต่อสู้ของสมาคมบูโดปรากฏตัวขึ้น ในคฤหาสน์ตระกูลเย่
คนในตระกูลเย่ สั่นไปทั้งตัว สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
กองทัพผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโด มาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ
ขณะที่คนในตระกูลเย่กำลังตกใจ เหล่าผู้แข็งแกร่งท่าทางน่ากลัว ปรากฏตัวขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งหมดสิบคนเต็มๆ!
ถึงคนจะไม่เยอะ แต่ที่สำคัญคือท่าทางของพวกเขาน่ากลัวมาก ความอาฆาตรุนแรง ปกคลุมทั่วคฤหาสน์ตระกูลเย่
คนที่เป็นหัวหน้า มีท่าทางน่ากลัวกว่าใคร
ยืนเหมือนเทพเจ้าอยู่ตรงนั้น ความน่ากลัวที่แผ่ออกมา เหล่าผู้แข็งแกร่งกดดันตระกูลเย่
ขณะนั้น เขามองไปยังร่างกำยำที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้น เป็นมือปืนที่เย่จี้จงจ้างมา เขายิงคนผิดเป็นทรราช
“ตระกูลเย่กล้าดี ถึงขนาดกล้ายิงนายพลบู๊ของสมาคมบูโด!”
คนที่เป็นหัวหน้า เบิกตาโต และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
แรงอาฆาตอันน่ากลัว เหมือนพละกำลังอันยิ่งใหญ่ กดดันคนของตระกูลเย่
รูปร่างของเขาไม่ได้บึกบึนเหมือนทรราช สูงประมาณ 1.75 เมตร รูปร่างของเขาดูสมส่วนมาก
แต่ภายในร่างกายอันสมส่วน มีความน่ากลัวแอบซ่อนอยู่ ราวกับสามารถระเบิดพลังอันมหาศาลออกมา
“เรื่องนี้ เกิดความเข้าใจผิดขึ้น คุณอย่าเพิ่งโมโห!”
เย่ม่านสะกดกลั้นความกลัวในใจ และก้าวไปข้างหน้า เธอทำเป็นมองคนที่เป็นหัวหน้าอย่างแน่วแน่
คนที่เป็นหัวหน้าเลิกคิ้วขึ้น และพูดอย่างเย็นชา “ตระกูลเย่ไม่มีคนอื่นแล้วเหรอ ถึงให้ผู้หญิงออกมาพูดกับฉัน”
น้ำเสียงของเขา เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และแฝงไปด้วยการดูถูก
“ฉันเย่ม่าน เจ้าบ้านคนใหม่ของตระกูลเย่”
เย่ม่านแนะนำตัวเอง จากนั้นจึงถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร”
คนที่เป็นหัวหน้าเลิกคิ้วขึ้น เขาแสยะยิ้ม “ตระกูลเย่คงไม่มีใครแล้วสินะ ถึงให้ผู้หญิงมาเป็นเจ้าบ้าน”
“ฉันชื่อจินกาง อันดับสามในสมาคมบูโด ประธานใหญ่สมาคมบูโด สาขาเขตจิ่วโจว”
ถึงจินกางจะไม่สบอารมณ์ แต่เขาก็บอกชื่อตัวเอง
แต่เมื่อเขาพูดออกมา คนในตระกูลเย่ ต่างมีสีหน้าสิ้นหวัง
พวกเขาเคยได้ยินชื่อของจินกาง เป็นชื่อต้องห้าม ในเมืองเยี่ยนตู
เพราะเขาคือประธานใหญ่ของสมาคมบูโด ที่ประเทศจิ่วโจว
สมาคมบูโดมีสาขาทั่วโลก แต่สาขาที่เมืองเยี่ยนตู เป็นเพียงสาขาในประเทศจิ่วโจว
และสาขาในเมืองเยี่ยนตู มีชื่อเรียกว่าสาขาหลักเขตจิ่วโจว หัวหน้าสาขาคอยดูแลแต่ละสาขาในจิ่วโจว
เรียกได้ว่า ในเมืองเยี่ยนตู จินกางเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในสมาคมบูโด และเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในสมาคมบูโดที่จิ่วโจว
ผู้แข็งแกร่งฐานะเช่นนี้ มาตระกูลเย่ด้วยตัวเอง ไม่บอกก็รู้ว่าคนในตระกูลเย่สิ้นหวังแค่ไหน
เย่ม่านหน้าซีดเผือด เธอคิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ จินกางจะมา บางทีวันนี้อาจเป็นวันที่ตระกูลเย่ย่อยยับก็ได้!
“หัวหน้าจิน ฉันขอโทษจริงๆ กับการตายของทรราช! แต่จริงๆ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด หวังว่าคุณจะเมตตา ปล่อยตระกูลเย่ไปสักครั้ง”
“แน่นอนว่าจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้ ตระกูลเย่ จะพยายามชดใช้ความสูญเสีย ให้กับสมาคมบูโด อย่างสุดความสามารถ”
เย่ม่านเงียบอยู่ครู่หนึ่ง และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แววตาของเธอเต็มไปด้วยการอ้อนวอน
ตอนนี้เธอไม่กลัวตายแล้ว
ถึงเธอจะได้ตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเย่ดังหวัง แต่ความเป็นจริง เธอไม่อยากได้ สิ่งที่เธอทำตอนนี้ คือการพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่า ตัวเธอเองไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชายตระกูลเย่
เย่จี้จงสั่งฆ่าคนรักของเธอ ลูกสาวอย่างเธอ ไม่สามารถแก้แค้นเย่จี้จงด้วยมือตัวเองได้ ดังนั้นเธอจึงต้องควบคุมตระกูลเย่ ถึงจะแก้แค้นได้
ตอนนี้ ในเมื่อเธอเป็นผู้นำตระกูลเย่แล้ว เธอต้องเตรียมใจสละชีพ เพื่อตระกูลได้ทุกเมื่อ
“ชดใช้งั้นเหรอ”
จินกางแสยะยิ้ม “นายพลบู๊ของสมาคมบูโดตายแล้ว เธอบอกฉันมาสิ ว่าตระกูลเย่จะชดใช้ด้วยอะไร”
“ถึงจะชดใช้ด้วยตระกูลทั้งตระกูล ก็ไม่สามารถเอาชีวิตของนายพลบู๊กลับมาได้!”
“ผ่านคืนนี้ไป จะไม่มีตระกูลเย่ในเมืองเยี่ยนตูอีก!”
จินกางพูดด้วยสีหน้าเย็นชา แค่ประโยคเดียว สามารถตัดสินและนับเวลาถอยหลัง ความย่อยยับของตระกูลเย่
“คุณจิน……”
สีหน้าของเย่ม่านเปลี่ยนสี เธอกำลังจะอ้อนวอน
“เธอฟังที่ฉันพูดไม่เข้าใจเหรอ”
จินกางเลิกคิ้วขึ้น ความอาฆาตฉายวาบในแววตาของเขา จากนั้นเขามองไปรอบๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครคือหยางเฉิน ไสหัวออกมาตายซะดีๆ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของจินกาง จู่ๆ แววตาของทุกคนต่างมองไปที่หยางเฉิน
เป็นไปตามคาด จินกางพุ่งเข้าไปหาหยางเฉิน เขาแค่ถือโอกาสทำลายตระกูลเย่เท่านั้น!
“ตุ้บ!”
ขณะนั้น เย่ม่านคุกเข่าลงกับพื้น เธอพูดอ้อนวอนว่า “คุณจิน ปล่อยตระกูลเย่ไปสักครั้งเถอะ!”
หยางเฉินกำลังเปิดเผย ตอนนี้เธอตื่นตระหนกมาก
ทั้งชีวิตของเธอ มีเพียงการแก้แค้น และละเลยความรักที่มีต่อลูกสาว
จนกระทั่งตอนที่ชีวิตอยู่ในเงื้อมมือของทรราช เธอเพิ่งตระหนักถึงสิ่งที่ต้องการที่สุด คือความสามัคคีกันในครอบครัว
สามีเธอตายไปแล้ว เหลือเพียงแค่ลูกสาวที่ยังมีชีวิตอยู่ เธอทนไม่ได้ ที่จะให้ลูกสาวเป็นเหมือนเธอ สูญเสียคนรักไปตั้งแต่ยังสาว
“เจ้าบ้าน!”
เมื่อคนในตระกูลเย่เห็นดังนั้น ต่างมีสีหน้าสะเทือนใจ และรีบตะโกนออกมา
ผู้แข็งแกร่งตระกูลเย่ ต่างพากันเข้ามา พวกเขามองผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโด ด้วยแววตาดุร้าย
ถึงจะสู้ไม่ได้ แต่พวกเขาไม่มีวันถอย
“ถอยไปให้หมด!”
เย่ม่านตวาดขึ้น ผู้แข็งแกร่งตระกูลเย่จึงจำใจถอยออกไป
จินกางสนุกกับภาพตรงหน้า แววตาของเขาเย็นชา และพูดว่า “ฉันจะทำลายตระกูลเย่คืนนี้ ต้องคืนนี้เท่านั้น”
ขณะนั้น เย่ม่านที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น กระโจนเข้าไปกอดขาจินกาง และตะโกนว่า “หยางเฉิน หนีไป!”
ภาพตรงหน้า สะเทือนใจหยางเฉินมาก
ถึงเย่ม่านจะเปลี่ยนไปมาก ถึงขนาดคุกเข่าให้จินกาง เพื่อขอให้ปล่อยตระกูลเย่ แต่ก็ยังไม่สามารถลบภาพของเย่ม่านในใจหยางเฉินได้
แต่ทว่าตอนนี้ เย่ม่านกอดขาจินกางเอาไว้ เพื่อให้เขาหนี
“เธอรนหาที่ตาย!”
แววตาของจินกางเย็นชา ความอาฆาตฉายขึ้นมา เขาใช้ขาอีกข้างเตะไปที่หัวเย่ม่าน
เย่ม่านรู้สึกถึงพละกำลังอันน่ากลัว กำลังพุ่งมาที่หัวของตัวเอง ตอนนี้ แววตาของเธอไร้ความหวาดกลัว มีเพียงความแน่วแน่ ที่จะหยุดจินกางเอาไว้เท่านั้น
“พลั่ก!”
ขณะที่ขาของจินกางกำลังจะถูกหัวของเย่ม่าน ในช่วงคับขัน ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา
วินาทีต่อมา ร่างของจินกาง ถอยกรูดไปข้างหลัง 5-6 ก้าว
ภาพตรงหน้า ทำให้ทุกคนตกใจ และพากันมองร่างของชายหนุ่มคนนั้น
เย่ม่านยังตกใจไม่หาย เมื่อเธอพบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ และหยางเฉินมายืนขวางหน้าเธอเอาไว้ ดวงตาทั้งสองข้างของเธอมีน้ำตารื้นขึ้นมา
“ผมบอกแล้วว่าคืนนี้คุณจะทำอะไรก็ได้ หน้าที่ผมมีเพียงอย่างเดียว ก็คือคุ้มครองคุณให้ปลอดภัย!”
เสียงที่แน่วแน่และก้าวร้าวดังขึ้น มันมาจากร่างที่ดูผอม แต่กลับสูงสง่ามาก