The king of War - บทที่ 591 ฉันเป็นพ่อแก
“แกรู้จักผู้นำของพวกฉัน?” ซุนกว่างขมวดคิ้วนิดหนึ่ง
“ฉันไม่เพียงรู้จักผู้นำพวกแกธรรมดาขนาดนั้น เขายังเคยคุกเข่าอ้อนวอนฉันด้วย” หยางเฉินพูดไปตามความจริง
“ไอ้หนุ่ม แกตายแน่ กล้าเหยียดหยามผู้นำตระกูลซุนของพวกฉัน ตระกูลซุนจะไม่ปล่อยแกไว้” ซุนกว่างตะโกนไป
เขาไม่เชื่อคำพูดของหยางเฉินแน่นอน
“งั้นเหรอ?”
หยางเฉินหัวเราะเยาะ ทันใดนั้นหยิบมือถือออกมา “ในเมื่อแกไม่เชื่อ งั้นฉันจะโทรศัพท์หาซุนซวี่ด้วยตัวเอง”
พูดจบ ไม่รอให้ซุนกว่างพูดจา หยางเฉินต่อสายโทรศัพท์ไปหาซุนซวี่แล้ว
“ไอ้หนุ่ม แกนี่ยังเสแสร้งจริงๆ ฉันจะดูหน่อยสิ แกจะโทรศัพท์หาผู้นำของพวกฉันได้หรือเปล่า”
ซุนกว่างไม่รีบร้อน พูดจายิ้มกริ่ม “แกอย่าบอกฉันว่า เจ้าบ้านซุนไม่รับโทรศัพท์ข้ออ้างงี่เง่าอะไรแบบนี้นะ”
ในมือถือดังติดต่อกันสักพักหนึ่ง ซุนซวี่ไม่ได้รับโทรศัพท์ทั้งนั้น
“ไอ้หนุ่ม อย่าแสดงเลย ผู้นำของพวกฉันรู้จักกับลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่งได้ยังไงกัน? ฉันเตือนแกให้ผู้หญิงของแกมาอยู่เป็นเพื่อนฉันคืนหนึ่งแบบเชื่อฟังดีกว่า ไม่อย่างนั้นพิการแขนขาแล้ว งั้นคงไม่ดีเท่าไร”
ซุนกว่างพูดจาด้วยท่าทางเย้ยหยัน
หยางเฉินจำใจอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าซุนซวี่กล้าไม่รับโทรศัพท์ของเขา บางทีอาจมีธุระอะไรอยู่จริงๆ มั้ง!
ตอนซุนกว่างเพิ่งพูดจบ มือถือของหยางเฉินดังขึ้นมากะทันหัน
หยางเฉินหยิบขึ้นดู คือซุนซวี่โทรมา เขามองซุนกว่างแบบมีความหมายลึกซึ้งพลางพูดว่า “โทรศัพท์ผู้นำของพวกแก”
“เสแสร้ง! เสแสร้งต่อไป! ฉันดูการแสดงของแกอยู่” เดิมทีซุนกว่างไม่เชื่อ
หยางเฉินกดเปิดลำโพงโดยตรง จากนั้นมีเสียงที่สะพรึงกลัวดังขึ้นมาแล้ว “คุณหยาง ขอโทษครับ เมื่อสักครู่ผมกำลังอาบน้ำ พอมองเห็นสายโทรศัพท์ของท่าน ก็โทรกลับมาหาท่านในวินาทีแรกเลยครับ ไม่ทราบว่าคุณหยางมีอะไรอยากแนะนำครับ?”
หยางเฉินพูดจานิ่งๆ “ฉันอยู่หน้าประตูโรงแรมเยี่ยนตู เจอคนโง่ที่บอกว่าเป็นคนตระกูลซุนเข้า ข่มขู่ว่าอยากให้ภรรยาฉันอยู่เป็นเพื่อนเขาคืนหนึ่ง”
“อะไรนะ? เป็นเจ้าสารเลวคนไหนครับ? นึกไม่ถึงกล้าพูดจาแบบนี้กับคุณหยาง เขาอยากตายเหรอ? คุณหยางครับ คุณเอาโทรศัพท์ให้เขา ผมจะคุยกับเขาครับ”
ชั่วขณะนั้นซุนซวี่ระเบิดอารมณ์โกรธ
หยางเฉินยิ้มกริ่มมองหน้าซุนกว่าง ยื่นมือถือเข้าไปแล้ว “เอา ผู้นำพวกแกมีเรื่องจะคุยกับแก!”
ซุนกว่างกลับหัวเราะเยาะเย้ย “แกแสดงได้เหมือนมาก นึกไม่ถึงยังมีคนร่วมมือแสดงละครกับแกด้วย”
พูดจบ เขารับโทรศัพท์จากมือหยางเฉินมา พูดด้วยท่าทางโอหัง “แกแม่งเป็นใครกัน? กล้าปลอมตัวเป็นผู้นำตระกูลซุน?”
“ฉันคือซุนซวี่ แกแม่งเป็นใคร?” ซุนซวี่ตะโกนอย่างโมโห
“ไอ้พวกโง่ ถ้าแกเป็นซุนซวี่ ฉันก็เป็นพ่อของซุนซวี่แล้ว มาร่วมมือกับไอ้โง่คนนี้หลอกฉัน?” เดิมทีซุนกว่างไม่เชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นซุนซวี่
ซุนซวี่ใกล้จะโมโหจนแทบบ้าแล้ว “ฉันคือซุนซวี่ผู้นำของตระกูลซุนจริงๆ!”
“ฉันเป็นพ่อของซุนซวี่จริงๆ!”
ซุนกว่างหัวเราะหึๆ พูดไป
“แกรอฉันไว้เถอะ ตอนนี้ฉันจะไปหาแกที่โรงแรมเยี่ยนตู” ซุนซวี่คำรามอย่างโกรธเคือง
“ฉันรอแกอยู่ที่นี่ ภายในสิบนาที ถ้าแกไม่มา ก็เป็นหลานฉัน!”
ซุนกว่างพูดจบ กดตัดสายโทรศัพท์ทันที
หลังซุนกว่างวางสายโทรศัพท์ไป ทำท่าโอหังได้ใจ “ไอ้หนุ่ม ตอนนี้ยังมีอีกสิบนาทีงานประมูลถึงเริ่มต้น ฉันให้เวลาพวกแกสิบนาที ดูสิว่าผู้นำตระกูลซุนในปากแก จะมาหรือเปล่า”
หยางเฉินพูดอย่างยิ้มกริ่ม “งั้นรอเป็นเพื่อนแกสักสิบนาทีแล้วกัน”
ครั้งก่อนที่ตระกูลเย่ ฉินซีเคยเห็นซุนซวี่คุกเข่าอ้อนวอน แน่นอนว่าย่อมไม่กังวลอะไร
“ฉินซี สามีคนนี้ของเธอไม่เพียงเป็นสวะ ยังเป็นคนโง่ด้วย นึกไม่ถึงกล้าแกล้งทำเป็นรู้จักกับเจ้าบ้านซุน”
“วันนี้ ฉันจะได้ดูละครสนุกฉากหนึ่งแล้ว”
หลิวเถียนหัวเราะเยาะติดกัน
เมื่อสักครู่หยางเฉินตบหล่อนไปทีหนึ่งแล้ว ตอนนี้บนหน้ายังร้อนผะผ่าวอยู่
ตอนนี้มีเพียงให้หยางเฉินกับฉินซีชดใช้อย่างสาสมแล้ว หล่อนถึงจะสามารถรู้สึกถึงความสุขของการแก้แค้น
“รอเดี๋ยวจะมีละครสนุกฉากหนึ่งจริงๆ ฉันก็รอคอยมากเหมือนกัน!” ฉินซีพูดแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
หลิวเถียนเยาะเย้ย “งั้นพวกเรามารอดูกัน!”
เวลาผ่านไปแต่ละวินาทีแต่ละนาที ชั่วพริบตาเดียว แปดนาทีผ่านไปแล้ว
ซุนกว่างมองดูเวลา พูดอย่างยิ้มกริ่ม “ไอ้หนุ่ม แปดนาทีแล้ว ฉันรอแกสองนาทีสุดท้าย ถ้าคนที่ร่วมแสดงละครกับแกยังไม่มา จุดจบของแกจะอนาถมาก”
เขาเพิ่งพูดจบลง พาซซาทสีดำคันหนึ่งก็จอดอยู่ข้างกายสามสี่คนนี้ ผู้ชายกำยำสูงใหญ่ที่ชั่วร้ายอำมหิตสี่คนเดินออกมาจากในรถแล้ว
“ประธานซุน เป็นใครหาเรื่องคุณแล้วครับ? ผมจะจัดการมันให้ตายเอง!”
ชายกำยำที่เป็นหัวหน้า พาคนเดินมาทางซุนกว่าง พลางเอ่ยปากถาม
ซุนกว่างยิ้มบอกว่า “คือไอ้หนุ่มคนนี้ เขาตบคู่หมั้นฉันทีหนึ่ง ยังขู่ว่ารู้จักกับเจ้าบ้านซุนด้วย”
“ไอ้โง่จากที่ไหนกัน? นึกไม่ถึงแม้แต่คู่หมั้นของประธานซุนยังกล้าตบ มือข้างไหนที่ตบ ตัดทิ้งก่อนค่อยว่ากัน!”
ชายกำยำที่เป็นหัวหน้าถลึงตาขวางใส่หยางเฉินแล้วพูดขึ้น จากนั้นสั่งกับสามคนที่อยู่ด้านข้าง “พวกนายไปหักแขนข้าวหนึ่งของมันทิ้งก่อน!”
“ครับ พี่เฟย!”
ทั้งสามคนตอบรับพร้อมกัน จากนั้นเดินเข้าไปยังหยางเฉินแล้ว
ชั่วขณะนั้นฉินซีประหม่าอยู่บ้าง จับชายเสื้อของหยางเฉินไว้โดยจิตใต้สำนึก หยางเฉินทำหน้าเฉยชา
ซุนกว่างนี่คือกำลังหาที่ตายของแท้
“ไอ้หนุ่ม ล่วงเกินประธานซุนเข้า แกหาเหาใส่หัวตัวเอง!”
ชายกำยำสามคนเดินมาถึงข้างกายหยางเฉิน อยากลงมือต่อหยางเฉิน
“เอี๊ยด~”
ในเวลานี้เอง เสียงยางล้อรถเสียดสีกับพื้นแบบแสบแก้วหูดังขึ้น ตามมาด้วยมองเห็นโรลส์รอยซ์สีดำคันหนึ่งเบรกฉับพลัน จอดอยู่ด้านข้างผู้คนอย่างมั่นคง
ซุนกว่างและคนอื่นๆ ต่างมองทางโรลส์รอยซ์คันนี้ด้วยท่าทางตกใจ
ตอนที่พวกเขามองเห็นซุนซวี่เดินออกจากในรถ หลายคนตกใจค้างแล้ว
“เจ้าบ้านซุน ท่าน ท่านมาได้อย่างไรกันครับ?”
ซุนกว่างมองเห็นซุนซวี่ แทบจะตกใจจนวิญญาณหลุดลอย รีบเดินเข้าไปทันที ถามด้วยความระมัดระวัง
ซุนซวี่สีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว ไม่มองซุนกว่างสักแวบเดียว รีบเดินไปยังทิศทางของหยางเฉินโดยเร็ว ด้านหลังยังมีบอดี้การ์ดชุดดำสองคนตามมาด้วย
ซุนกว่างตะลึงไปก่อน จากนั้นบนหน้าปรากฏรอยยิ้มที่หยอกเย้าออกมา “ดูแล้ว เจ้าบ้านซุนคงรู้ว่า มีคนแอบอ้างชื่อของเขาอยู่ที่นี่ นี่คือมาคิดบัญชีแล้ว”
“ฉันบอกแล้วไง! สามีของฉินซีเป็นเพียงลูกเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่ง รู้จักเจ้าบ้านซุนได้อย่างไร? นึกไม่ถึงยังกล้าพูด ตัวเองมาเข้าร่วมแข่งขันประมูลที่ดินผืนนั้นของเขตชานเมืองทิศใต้ น่าตลกสิ้นดีเลย”
หลิวเถียนหัวเราะอยู่แล้วพูดไป ในสายตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น รอไม่ไหวอยากจะดูหยางเฉินโดนบอดี้การ์ดของซุนซวี่เล่นงานเขาจนตายแล้ว
“ตึก!”
ขณะที่ซุนกว่างและหลิวเถียนทำท่าทางภูมิใจ รอดูเรื่องสนุกอยู่นั้น ซุนซวี่คุกเข่าทั้งคู่ลงกับพื้นแบบหนักอึ้ง
“คุณหยาง ขอโทษครับ เป็นผมอบรมไม่เข้มงวด นึกไม่ถึงจะมีคนกล้าบุ่มบ่ามใส่ท่าน ขอให้ท่านลงโทษด้วยครับ!”
ซุนซวี่หน้าเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ ก้มหน้าอยู่ แม้แต่ความกล้าในการสบตาหยางเฉินยังไม่มี
ชายหนุ่มที่สามารถกำราบแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูได้ อยากทำลายตระกูลซุนของเขา ใช้การแสดงอย่างง่ายดายออกมา ล้วนเกินไปอยู่บ้าง
ปัจจุบันนี้ คาดไม่ถึงคนของตระกูลซุนจะกล้ามีแผนร้ายต่อภรรยาของหยางเฉิน แค่คิดก็รู้ ในใจซุนซวี่มีความหวาดกลัวมากแค่ไหน
วินาทีนี้ ทั้งหมดเงียบเป็นเป่าสาก!