The king of War - บทที่ 632 เกิดเรื่องกับศาสตราจารย์
ซ่งหวาเหว่ยถูกพาออกไป เยี่ยนเฉินกรุ๊ปกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
“ประธานหยางครับ ขอบคุณมากนะครับ!”
ซ่งหวายี่เดินมาขนาบข้างของหยางเฉิน แล้วพูดอย่างซาบซึ้ง
เขารู้อยู่แล้ว ถ้าเป็นใช่เขา เกรงว่าซ่งหวาเหว่ยคงจะกลายเป็นศพไปแล้ว
หยางเฉินพยักหน้าเบาๆ“จากนี้ไป คุณทำงานที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้สบายใจเถอะครับ แน่นอนว่า ถ้าคุณยังสนใจเรื่องการสืบทอดตำแหน่งของตระกูลซ่ง คุณกลับไปได้ทุกเมื่อเลยครับ”
หลังจากที่เห็นความแข็งแกร่งของหยางเฉินที่แสดงออกมา มีหรือที่ซ่งหวายี่จะอยากได้ตำแหน่งสืบทอดของตระกูลซ่งอีก?
เขาส่ายหน้าไปมา แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“ประธานหยางวางใจเถอะครับ ในเมื่อผมเลือกจะตามรับใช้คุณแล้ว จากนี้ผมก็คือคนของคุณ มีอะไรให้รับใช้ คุณบัญชาได้เลยครับ!”
มาวันนี้ เขาเริ่มเรียกหยางเฉินว่าประธานหยาง เห็นได้ชัดว่ายอมรับการเป็นพนักงานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว
หยางเฉินพยักหน้า“ดี งั้นจากนี้ไป ที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป พวกคุณก็ฟังคำสั่งจากประธานลั่วได้เลย”
“ครับ!”
ซ่งหวายี่ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจที่ต้องฟังคำสั่งจากลั่วปิง
หลังจากที่หยางเฉินจากไป ซ่งหวายี่ก็หันหลังเดินขึ้นตึกไปหาลั่วปิง
“ประธานลั่วครับ จากนี้ไปเราก็คือเพื่อนร่วมงานกันแล้วมีอะไรให้รับใช้ คุณสั่งมาได้เลยนะครับ เราจะไม่ปฏิเสธใดๆทั้งสิ้น”
หลังจากที่ซ่งหวายี่เห็นลั่วปิง เขาก็วางตัวต่ำมาก
หลี่ไห่หรงกับซ่งหวาหย่าอยู่ด้วยเช่นกัน ลั่วปิงหัวเราะแล้วพูดว่า“ท่านประธานอยากจะเปิดตลาดต่างประเทศมาตลอด ผมพึ่งปรึกษากับไห่หรง คิดจะส่งพวกคุณไปต่างประเทศ ช่วยเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเปิดตลาดในต่างประเทศ ไม่ทราบว่าคุณคิดยังไงครับ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ในใจของซ่งหวายี่ถึงกับตกตะลึง
สำหรับเขาแล้ว การเข้าร่วมกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหยางเฉิน มันก็เพียงพอแล้ว ต่กลับคิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะมอบหมายหน้าที่ การเปิดตลาดในต่างประเทศให้กับพวกเขา
นี่เป็นความเชื่อใจสูงสุดที่มอบให้กับพวกเขา
การเปิดตลาดต่างประเทศ มันเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ แต่หยางเฉินกลับไว้ใจยกตลาดต่างประเทศ มอบหมายให้พวกเขาทั้งสามคนดูแลรับผิดชอบ
“ผมไม่มีความเห็นอะไรครับ ประธานลั่วจัดการได้เลยครับ!”
หลังจากตกตะลึงในเวลาสั้นๆ ซ่งหวายี่ก็พยักหน้าพูด
หลี่ไห่หรงเองก็พูดอย่างยิ้มๆว่า“ฉันก็ไม่มีความเห็นค่ะ!”
ลั่วปิงมองไปที่ซ่งหวาหย่า หลี่ไห่หรงกับซ่งหวายี่ เห็นได้ชัดว่าสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง เว้นแต่ซ่งหวาหย่า เหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย
“คุณซ่งล่ะครับ?”ลั่วปิงมองไปที่ซ่งหวาหย่า
วินาทีนี้ หลี่ไห่หรงกับซ่งหวายี่ก็มองไปที่ซ่งหวาหย่า พวกเขาเป็นคนที่ใกล้ชิดสนิทกับซ่งหวาหย่าที่สุด แน่นอนว่าพวกเขารู้ดีเหตุใดซ่งหวาหย่าถึงได้มีสีหน้าท่าทางแบบนี้
“ฉัน……”
ซ่งหวาหย่าเหมือนจะตัดสินใจแล้ว ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ถูกหลี่ไห่หรงตัดบท พูดอย่างยิ้มๆว่า“แม่กับพี่ชายของลูกไม่มีความเห็นอะไร ลูกคงจะไม่มีความเห็นอะไร ใช่ไหม?”
ลั่วปองไม่รู้ว่าซ่งหวาหย่าคิดอะไร ได้แค่มองอีกฝ่ายด้วยสายตาแปลกใจ
ซ่งหวาหย่าดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ เธอมองไปที่แม่ของตนเอง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“ฉันก็ไม่มีความเห็นค่ะ!”
“ดีครับ ในเมื่อทั้งสามท่านไม่มีความเห็น เป็นการตัดสินใจที่น่ายินดีมาก ตลาดต่างประเทศของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป มอบหมายให้พวกคุณแล้วกันนะครับ”
ลั่วปิงพูดไปยิ้มไป“ช่วงหลายวันมานี้ พวกคุณไปศึกษาทำความคุ้นเคยกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก่อนแล้วกันนะครับ รอผมจัดการเรื่องต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว จะให้พวกคุณเดินทางไปทำงานที่บริษัทลูกที่ต่างประเทศทันที”
“ได้ค่ะ!งั้นต้องขอรบกวนประธานลั่วหน่อยนะคะ”หลี่ไห่หรงพูดอย่างยิ้มๆ
ลั่วปิงจัดห้องทำงานให้พวกเขาหนึ่งห้อง
“เสี่ยวหย่า แม่รู้ว่าเมื่อกี้ลูกอยากจะพูดอะไร แต่แม่ต้องห้ามลูกไว้!”
เมื่อไม่มีคนนอกแล้ว หลี่ไห่หรงก็ดึงมือลูกสาว แล้วพูดอย่างอ่อนโยน
ซ่งหวาหย่าดวงตาแดงก่ำ แต่กลับแสร้งพูดอย่างสงบ“ตอนแรกหนูอยากตอบรับประธานลั่วอยู่แล้ว”
หลี่ไห่หรงค่อยๆถอนหายใจ รู้ดีว่าซ่งหวาหย่าไม่อยากยอมรับต่อหน้าเธอก็เท่านั้น
แต่คำพูดพวกนี้ ในฐานะคนเป็นแม่ เธอจำเป็นต้องพูดไว้ก่อน
“เสี่ยวหย่า แม่รู้ดีว่าลูกชอบหยางเฉิน แต่ลูกต้องรู้ว่า เขาแต่งงานแล้ว หนุ่มหล่อที่มีความสามารถอย่างเขา ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบหรอกนะ”
“อาศัยจังหวะที่ลูกพึ่งตกหลุมรักเขา แม่จะต้องหยุดยั้งความรักที่ลูกมีต่อเขาให้ได้”
“ชาตินี้ จะไม่มีทางเป็นไปได้ จากนี้ไป ตั้งใจทำงานของพวกเราให้ได้ มุ่งมั่นให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปมั่งคั่งให้มากกว่านี้ ถึงจะสามารถสะท้อนคุณค่าของเราได้”
หลี่ไห่หรงพูดอย่างจริงจัง
ซ่งหวายี่ถอนหายใจ ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรก เมื่อคืนเขาไม่พาซ่งหวาหย่าไปคลับหวงจินด้วยหรอก
เขารู้ดี ที่หยางเฉินแสดงออกมาทุกอย่าง เป็นสิ่งที่ดึงดูดเพศหญิงมาก
ถ้าหยางเฉินยังไม่แต่งงาน เขาไม่มีทางคัดค้านความชอบที่ซ่งหวาหย่ามีต่อหยางเฉินหรอก กระทั่งยังจะช่วยซ่งหวาหย่า ทั้งคู่ได้สมหวัง
แต่ว่า หยางเฉินแต่งงานแล้ว อีกทั้งภรรยาของเขา ยังทำอะไรมามากมาย
ความรักแบบนี้ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่มีหวังที่จะได้เข้าไปแทรกกลางหรอก
“แม่ค่ะ อย่าพูดอีกเลย หนูไม่ได้บอกว่าชอบสักหน่อย แค่คิดว่าเขาเก่งมาก เท่านั้นเอง หนูรู้ดีว่าควรจะทำอะไรยังไง”
ใบหน้าของซ่งหวาหย่าเผยให้เห็นรอยยิ้มฝืนๆ“แม่วางใจเถอะค่ะ หนูจะไปต่างประเทศกับแม่ค่ะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่ไห่หรงก็ไม่เซ้าซี้อะไรอีก แต่พูดขึ้นมาว่า“ในเมื่อเราเข้าร่วมกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว ถ้าอย่างนั้นจากวันนี้เป็นต้นไป ก็เริ่มทำงานกันเถอะ!ใช้เวลาที่เร็วที่สุด ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ภายในเยี่ยนเฉินกรุ๊ปกัน”
“ครับ/ค่ะ!”
ซ่งหวายี่กับซ่งหวาหย่าตอบรับพร้อมกันด้วยสีหน้าจริงจัง
อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินกำลังเหม่อลอยอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง ลั่วปิงก็อยู่ด้วยเช่นกัน กำลังรายงานความก้าวหน้าของเมืองจิ่วโจว
“ท่านประธานครับ จู่ๆผมก็เริ่มรู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอแล้วสิครับ อยากจะรอวันที่เมืองจิ่วโจวถูกสร้างขึ้น”
หลังจากที่รายงานจบ ลั่วปิงก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า“ศาสตราจารย์ตู้ทำออกแบบเสร็จแล้วนะครับ คาดว่าหลังจากหนึ่งสัปดาห์ แบบจำลองของเมืองจิ่วโจวก็จะออกมาแล้ว”
“ถึงเวลานั้น ผมคิดว่าจะทำแบบจำลองของเมืองจิ่วโจวออกมา แล้วพาคุณไปดูด้วยกันครับ”
หยางเฉินพยักหน้า“ไม่ว่ายังไง จะต้องรับประกันความปลอดภัยของศาสตราจารย์ตู้”
ศาสตราจารย์ตู้เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในอุตสาหกรรมการก่อสร้างในประเทศ การออกแบบของเขา หยางเฉินวางใจมากๆ แต่กลัวว่าจะมีคนไม่หวังดีต่อศาสตราจารย์ตู้
เนื่องจากพื้นที่ผืนนั้น ตระกูลเฉาซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลเดอะคิงก็อยากได้พื้นที่เช่นกัน ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะมาไม้ไหน
ลั่วปิงรับยืนยัน“คุณสบายใจได้เลย ทางด้านศาสตราจารย์ตู้ ผมจัดบอดี้การ์ดไว้สี่นาย ไม่มีทางให้ศาสตราจารย์ตู้เป็นอะไรไปหรอกครับ”
“งั้นก็ดี!”หยางเฉินกล่าว
แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆมือถือของลั่วปิงก็ดังขึ้นมา
เขารีบรับสาย แต่ไม่นาน สีหน้าของเขาก็ซีดเผือด แล้วพูดอย่างร้อนใจว่า“ผมจะไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลยครับ!”
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
รอจนลั่วปิงวางสายไป หยางเฉินก็ขมวดคิ้วถาม
“ศาสตราจารย์ตู้ได้รับบาดเจ็บ กำลังถูกรถพยาบาลส่งไปรักษา บอกว่าอาการไม่ค่อยดี”
ลั่วปิงพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ
หยางเฉินที่พึ่งเตือนไป ว่าให้รักษาความปลอดภัยของศาสตราจารย์ตู้ ไม่ถึงหนึ่งนาที ก็ได้รับข่าวว่าศาสตราจารย์ตู้ได้รับบาดเจ็บ
ลั่วปิงรู้สึกผิดมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งอธิบาย เขาเดินไปด้วย พูดไปด้วยว่า“ท่านประธานครับ ตอนนี้ผมต้องไปโรงพยาบาล!”