The king of War - บทที่ 636 พวกคุณแพ้แล้ว
หลังจากที่หยางเฉินชำระสำเร็จ ผ่านไปไม่นานพนักงานก็เอาชิปกองใหญ่ออกมา
“สองร้อยล้าน!”
หยางเฉินโยนชิปกองใหญ่ออกไป ดูเหมือนสำหรับเขาแล้ว เงินสองร้อยล้านเหมือนค่าขนมอะไรอย่างนั้น เขาไม่เป็นกังวลแม้แต่น้อยว่าจะแพ้
“1.25พันล้าน!”
มีคนอุทานขึ้นมาว่า“รอบนี้รวมชิปทั้งหมด1.25พันล้านแล้ว!”
พวกไอ้หัวล้านหน้าเสียมาก ถ้าพวกเขาไม่สละไพ่ ก็ต้องวางเดิมพัน แต่วางเดิมพัน จะต้องลงสี่ร้อยล้าน
“เวลาผมมีค่ามากนะ ถ้าพวกคุณไม่มีปัญญาเล่น ก็สละไพ่แล้วออกไปซะ!”หยางเฉินเร่งเร้า
“สี่ร้อยล้าน!”
ไอ้หัวล้านมองดูไพ่ของตัวเองแวบหนึ่ง แล้วกัดฟันวางเดิมพัน
ที่เหลือคนหลังจากสบตากันเสร็จ แล้วลงตาม“สี่ร้อยล้าน!”
“รวมยอดเดิมพัน 2.25พันล้าน!”มีคนอุทานขึ้นมาอีกครั้ง
“สี่ร้อยล้าน!”
หยางเฉินวางเดิมพันต่อ
“แปดร้อยล้าน!”
พวกไอ้หัวล้านวางเดิมพันต่อ
“ยอดวางเดิมพัน 4.65พันล้าน!”
วินาทีนี้ทุกคน รู้สึกชินชากับการวางเดิมพันมหาศาลครั้งแล้วครั้งเล่า โดยในการวางเดิมพันทุกครั้ง เริ่มมีคนรายงานยอดวางเดิมพัน
เดิมทีหยางเฉินยังเหลือห้าสิบล้าน แต่ก็เอาชิปหนึ่งพันล้าน วางเดิมพันต่ออีกหกร้อยล้าน มาวันนี้ในมือเหลืออีก4.5ร้อยล้าน
ถึงเขาจะเปิดไพ่ ก็ต้องวางเดิมพันแปดร้อยล้าน
ในขณะที่ทุกคนตั้งตารอคอย ว่าเขาจะทำอย่างไร เขาก็หยิบบัตรATMออกมาอีกครั้ง“เอามาให้ผมอีกหนึ่งหมื่นล้าน!”
ผึ่ง!
ทุกคนตกตะลึงไปตามๆกัน!
ตาแรก หยางเฉินชนะ ด้วยชิปหนึ่งร้อยล้าน!
ตาที่สอง เขาชนะ ด้วยชิปหนึ่งพันล้าน!
นี่เป็นตาที่สาม เงินวางเดิมพันมากขึ้น แต่หยางเฉินก็บ้าระห่ำขึ้นเช่นกัน ครั้งนี้จะเอาชิปออกมาหนึ่งหมื่นล้าน
สองสามครั้งก่อนรูดการ์ดสำเร็จมาตลอด มันทำให้ผู้คนเชื่อไปแล้ว ว่าครั้งนี้หยางเฉินสามารถเอาเงินออกมาได้หนึ่งหมื่นล้านจริงๆ
พวกไอ้หัวล้านถึงกับเหงื่อตก สามารถเอาออกมาได้หนึ่งร้อยล้าน พูดได้แค่ว่าหยางเฉินเป็นคนไม่ธรรมดา เอาเงินออกมาได้หนึ่งพันล้าน นี่แสดงให้เห็นว่าหยางเฉินยากที่จะคาดเดา เอาเงินออกมาได้หนึ่งหมื่นล้าน นี่เป็นคนที่พวกเขาไม่สามารถล่วงเกินได้
“คุณผู้ชายครับ คุณอย่ารีบเปลี่ยนชิปเลย คุณว่าเอาแบบนี้ดีไหมครับ?”
ไอ้หัวล้านปาดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“ถ้าผมจำไม่ผิด ในมือของคุณน่าจะยังมี6.5ร้อยล้าน คุณใช้6.5ร้อยล้านเปิดไพ่ คุณเห็นว่ายังไงครับ?”
หยางเฉินเหลือบตามองไอ้หัวล้านแวบหนึ่ง“คุณคิดว่า ผมไม่มีเงินหรอ?”
เมื่อเห็นท่าทีนอบน้อมของไอ้หัวล้าน แล้วมองดูท่าทีสงบเงียบของหยางเฉิน ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจ หยางเฉินเป็นคนที่ไม่ธรรมดา
เขากล้าเข้ามาคลับหวงจินแล้ววางเดิมพันใหญ่ขนาดนี้กับคลับหวงจิน ต้องมีความมั่นใจมากๆ ไม่กลัวอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
ความมั่นใจแบบนี้ คนธรรมดาทั่วไปที่ไหนจะมีมัน?
“เอาชิปมาอีกหนึ่งหมื่นล้าน!”หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“คุณผู้ชายครับ ต้องขอโทษด้วยครับ ชิปของเรา เปลี่ยนได้แค่ครั้งละหนึ่งพันล้านครับ”
พนักงานที่รับผิดชอบจำหน่ายชิป พูดด้วยตัวที่สั่นเทา
หยางเฉินทรงพลังมาก ซึ่งมันทำให้เขาไม่กล้ามองสบตากับหยางเฉิน
คลับหวงจินมีการจำกัดการแลกเปลี่ยนชิปที่ไหนกันล่ะ?
เพียงแค่หลังจากที่คลับหวงจินสร้างสำเร็จ ยังไม่เคยมีใครที่แลกเงินหนึ่งหมื่นล้านภายในครั้งเดียวแบบนี้
“งั้นก็เอามาให้ผมอีกหนึ่งหมื่นล้าน!”หยางเฉินพูดอย่างใจเย็น
ผ่านไปไม่นาน หลังจากที่พนักงานรูดการ์ดหนึ่งพันล้านสำเร็จ ก็รีบนำชิปมาให้เขา
“1.65พันล้าน!”
หยางเฉินเอาชิปที่อยู่ในมือทั้งหมดลงเดิมพัน
เขารู้ดี คลับหวงจินไม่กล้าเล่นต่อไป ตานี้ อาจจะเป็นตาสุดท้ายแล้วก็ได้
ตานี้เงินวางเดิมพันสะสม สูงจนน่ากลัวถึง6.3พันล้าน
พวกไอ้หัวล้านรู้สึกว่าลมหายใจกำลังจะหยุดลง เดิมหยางเฉินไม่ได้เปิดไพ่อยู่แล้ว ถึงพวกเขาจะวางเดิมพัน ก็ต้องวาง3.3พันล้าน แต่ถ้าเปิดไพ่ ก็ต้องลงสองเท่า นั่นก็คือ6.6พันล้าน
ประเด็นคือ ถ้าพวกเขาจะวางเดิมพันต่อไป จากการแสดงออกของหยางเฉินก่อนหน้านี้ ต้องแลกชิปต่ออย่างแน่นอน
ถึงเวลานั้นถ้าพวกเขายังอยากเปิดไพ่อีก ก็จะต้องวางเดิมพันด้วยจำนวนเงินที่มากขึ้น
หลังจากที่ทุกคนสบตากันแล้ว ไอ้หัวล้านก็กัดฟันพูดขึ้นมาว่า“6.6พันล้าน เปิดไพ่!”
เดิมเป็นการอนุญาตจากคลับหวงจินอยู่แล้ว ถึงจะแพ้ คลับหวงจินก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบอยู่ดี
“1.29หมื่นล้าน!”
มีคนรายงานยอดสะสมเดิมพัน ทุกคนที่ได้ยินเงินจำนวนสูงลิบลิ่ว ก็แทบจะอยากเป็นลม
แต่คนจำนวนมาก ตอนนี้อารมณ์พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น เกรงว่าจะไม่เคยพบเห็นการพนันที่น่ากลัวขนาดนี้ ในชีวิตมาก่อน
“Aโพดำ!”
ไอ้หัวล้านเปิดหงายไพ่ของตัวเองบนโต๊ะโป๊กเกอร์
สองคนที่เหลือก็เปิดไพ่ตามๆกัน คนหนึ่งคือKโพแดง Kข้าวหลามตัด
ผู้คนเห็นหน้าไพ่ของทั้งสามคน ก็ถึงกับตกตะลึง
ถ้ามีแค่คนคนเดียวมีไพ่ที่ใหญ่ก็ไม่เป็นไร แต่ทั้งสามคน กลับเป็นไพ่ใหญ่ทั้งหมด นอกจากหยางเฉินจะจั่วได้โจ๊กเกอร์ เขาถึงจะสามารถชนะได้
แต่ตานี้ หยางเฉินได้โจ๊กเกอร์ไปแล้ว ความน่าจะเป็นในการหยิบได้ไพ่คิงนั้น ยากกว่าการถูกรางวัลที่หนึ่งของลอตเตอรี่เสียอีก
ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่กลับไม่มีใครคิดว่าหยางเฉินจะแพ้
และพวกไอ้หัวล้านทั้งสามคน ก็มองไปที่หยางเฉินด้วยความกังวล
มุมปากของหยางเฉินแสยะยิ้มขึ้น อย่างมาดร้าย“พวกคุณแพ้แล้ว!”
เมื่อสิ้นเสียง เขาก็หงายไพ่ของตัวเองออกมา
“โจ๊กเกอร์!”
“โจ๊กเกอร์อีกแล้ว!”
“เป็นไปได้ยังไง?”
……
ในตอนที่ทุกคนเห็นไพ่โจ๊กเกอร์ของหยางเฉิน ถึงกับตกตะลึงกันถ้วนหน้า พวกไอ้หัวล้านตกใจมาก อ้าปากตาค้าง
“เพี๊ยะ!”
หลังจากตกตะลึงช่วงเวลาสั้นๆ ไอ้หัวล้านก็ลุกขึ้นมาตบโต๊ะ แล้วพูดด้วยสีหน้าโมโห“แกขี้โกง!”
หยางเฉินนั่งตัวตรง แล้วพูดอย่างเริงร่า“ไพ่เป็นของคลับหวงจิน โต๊ะโป๊กเกอร์ก็เป็นของคลับหวงจิน เจ้ามือการพนันก็เป็นคนของคลับหวงจิน แม้แต่พวกคุณ ก็เป็นคนของคลับหวงจิน ตั้งแต่ต้นจนจบ มีแค่ตอนเปิดไพ่เท่านั้น ที่ผมได้แตะต้องไพ่ คุณบอกมาสิ ว่าผมโกงยังไง?”
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันจะขอตรวจไพ่!”
ไอ้หัวล้านคำรามด้วยความโกรธ
หยางเฉินกางมือสองข้าง“ตามสบาย!”
ภายใต้สายตาของทุกคน ไอ้หัวล้านเริ่มทำการตรวจสอบ จนตรวจไพ่สุดท้ายเสร็จ
ไอ้หัวล้านถึงได้รู้สึกหมดเรี่ยวแรง นั่งก้นจ้ำเบ้ากับเก้าอี้โป๊กเกอร์ เขาเป็นยอดฝีมือในการเล่นไล่ หลายปีมานี้ ชนะการแข่งขันมานับไม่ถ้วน แต่กลับไม่เคยแพ้ยับเยินขนาดนี้มากก่อน
แม้เงินที่เสียไปจะไม่ใช่ของเขาก็ตาม แต่มันทำให้เขาได้รับความทุกข์ทรมานอย่างหนัก
“เล่นต่อ!”
หยางเฉินยังคงเงียบสงบเหมือนก่อนหน้านี้ นำชิปทั้งหมดของตัวเองไปกองไว้ตรงหน้า แล้วพูดกับเจ้ามือการพนันที่กำลังเหม่อลอย
“ไอ้หนุ่ม กล้าโกงในคลับหวงจินของเรา แกมันกล้ามากนะ!”
ในเวลานี้เอง มีเสียงเหน็บแนมดังขึ้นมา
ทุกคนต่างพากันมองไป เห็นแค่ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่มีผู้แข็งแกร่งชุดดำหลายคนเป็นบริวาร ค่อยๆก้าวเดินมา
“ทุกท่าน ผมคือเฉาฮุยผู้รับผิดชอบดูแลคลับหวงจิน ต้องขออภัยด้วยครับ เพราะมีคนโกงในที่ของเรา พวกเราจึงต้องจัดการเรื่องนี้ ทุกท่านได้โปรดรีบออกไปด้วยครับ!”
สายตาของเฉาฮุยกวาดมองไปรอบๆ แล้วพูดอย่างยิ้มๆ“วันนี้สมาชิกทุกคนที่อยู่ที่นี่ แต่ละคนจะได้งดเว้นค่าธรรมเนียมหนึ่งเดือนครับ!”
ถ้าทุกคนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็โง่เต็มทนแล้วล่ะ แต่ละคนรีบลุกเดินออกไปอย่างรวดเร็ว