The king of War - บทที่ 676 ตายด้วยกัน
สีหน้าโม่ตงซวี่แข็งทื่อไป เขารู้ว่าวันนี้ตัวเองคงหนีไม่พ้นแล้วจริงๆ
เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลิ้มรสการถูกทรยศหักหลังจากทุกคน
ซุนเหม่ยจวนเองก็ยิ้มอย่างเหยียดหยัน “โม่ตงซวี่ คุณนี่ไร้เดียงสาจริงๆเลยนะ คิดจริงๆรึว่าทุกคนจะโง่เหมือนฉันกับซ่งหวาหย่า”
“ที่จริงพวกเราไม่ได้โง่หรอก แต่เพราะพวกเราต่างเคยรักคุณมาก คิดว่าคุณคือที่พึ่งของพวกเราในชีวิตนี้ แต่แล้วความเป็นจริงล่ะ? คุณทำให้พวกเรารู้ความจริงทุกอย่าง”
ได้ยินคำพูดของซุนเหม่ยจวนแล้ว ซ่งหวาหย่าพลันรู้สึกเข้าอกเข้าใจ
ถ้าเธอโง่มากจริงๆๆ แล้วความสามารถด้านธุรกิจที่แสดงออกมาล่ะ จะอธิบายเรื่องนั้นยังไง
แต่เพราะเธอเคยรักโม่ตงซวี่ ถึงได้เชื่อคนที่ตัวเองรักโดยไม่มีข้อแม้
และเพราะตัวเองรักอย่างตาบอดถึงได้เกือบฆ่าตัวตาย ที่เธอนึกขอบคุณในตอนนี้คือเธอถูกช่วยไว้ได้ในตอนนั้น ไม่อย่างนั้นถ้าตัวเองตายไปก็คงไม่ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของโม่ตงซวี่
“คุณหยาง ลูกสาวของผมสำนึกผิดแล้วครับ ได้โปรดไว้ชีวิตเธอเถอะครับ”
ซุนซวี่เองก็ปริปาก “ถ้าคุณหยางไม่รังเกียจ หลังจากนี้ไปคุณก็คือคนที่มีเกียรติที่สุดของตระกูลซุน ผมยอมรับคำสั่งจากคุณ”
“คุณหยางคะ ฉันสำนึกผิดแล้ว ถ้าคุณยังไม่หายโมโหจะฆ่าฉันก็ได้ค่ะ ขอเพียงคุณเหลือทางรอดให้ตระกูลซุน”
ซุนเหม่ยจวนก็พูดด้วยตาแดงก่ำ
ทีแรก เธอเองก็รักโม่ตงซวี่มาก ดังนั้นตอนที่โม่ตงซวี่รังแกหยางเฉินและซ่งหวาหย่า เธอจึงดูถูกหยางเฉินและซ่งหวาหย่ามาก
แต่ตอนนี้เธอเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของโม่ตงซวี่แล้ว ถึงได้พบว่าหยางเฉินนั้นบุคลิกสูงส่ง ไม่ใช่คนธรรมดา
เพียงแต่ ทุกอย่างสายไปแล้ว
“เสี่ยวหย่า เรื่องนี้ให้เธอตัดสินใจแล้วกัน ถ้าเธอรู้สึกว่าให้อภัยผู้หญิงคนนี้ได้ฉันจะไว้ชีวิตผู้หญิงคนนี้ ถ้าเธอไม่ให้อภัย งั้นหลังจากคืนนี้เยี่ยนตูจะไม่มีตระกูลซุนอีก ผู้หญิงคนนี้ก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น”
จู่ๆหยางเฉินก็มองซ่งหวาหย่าและถาม
ซ่งหวาหย่าเองก็ตกใจ ตอนนั้นตระกูลซ่งไม่ต้องการตัวเอง บีบบังคับครอบครัวของเธอให้ออกจากตระกูลซ่ง คิดไม่ถึงว่าในวันนี้เพียงประโยคเดียวของตัวเองก็สามารถตัดสินชะตากรรมของตระกูลไฮโซชั้นสูงที่อยู่ระดับเดียวกับตระกูลซ่งได้
ชั่วขณะนั้น ทุกคนเพ่งสายตามาที่ซ่งหวาหย่า
“พี่หยาง เธอเองก็เหมือนกับฉัน เป็ยคนน่าสงสาร เราให้โอกาสเธออีกครั้งดีมั้ยคะ” ซ่งหวาหย่าถามด้วยท่าทีระมัดระวัง
หยางเฉินภูมิใจมากที่เห็นซ่งหวาหย่าจิตใจดีขนาดนี้
เขาไม่คิดจะล้างบางตระกูลซุนจริงๆ และไม่ได้จะฆ่าซุนเหม่ยจวน ที่มอบสิทธิ์การตัดสินชะตากรรมของตระกูลซุนให้เธอก็เพื่อให้ตระกูลซุนรู้ว่าซ่งหวาหย่าเป็นคนช่วยตระกูลซุนไว้
“ขอบคุณคุณหนูซ่ง ขอบคุณคุณหนูซ่ง!”
หลังจากซุนซวี่และซุนเหม่ยจวนอึ้งไปชั่วขณะก็มีสีหน้าซาบซึ้ง ซุนซวี่พูดด้วยท่าทีตื้นตัน “คุณหนูซ่ง จากนี้ไปคุณเองก็เป็นหนึ่งในแขกผู้มีเกียรติสูงสุดของพวกเราตระกูลซุน หากมีตรงไหนที่ตระกูลซุนของเรามีประโยชน์ต่อคุณ ว่ามาได้เลย ฉันไม่ปฏิเสธเด็ดขาด”
“ขอบคุณนะ คุณหนูซ่ง” ซุนเหม่ยจวนเองก็ตาแดงก่ำ พูดด้วยสีหน้าซาบซึ้ง
หยางเฉินพยักหน้า มองซุนซวี่พร้อมเอ่ย “ในเมื่อน้องสาวของฉันตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยลูกสาวของคุณไป ฉันจะไว้ชีวิตลูกสาวคุณไปก่อน หากมีอีกครั้ง ฉันไม่ปล่อยไว้แน่”
“คุณหยางวางใจได้เลยครับ ไม่มีครั้งหน้าแน่นอน!” ซุนซวี่รีบรับประกัน
ซุนเหม่ยจวนก็เอ่ยขึ้น “คุณหยาง ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆค่ะ หลังจากนี้หากเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับคุณ ฉันจะปฏิบัติด้วยอย่างมีมารยาททั้งหมด”
หยางเฉินไม่ได้สนใจซุนเหม่ยจวน แต่มองซุนซวี่และกล่าวต่อ “ลูกสาวคุณรอดจากโทษถึงตายได้ แต่โทษอื่นไม่อาจรอดไปได้ เอาตามที่คุณพูดก่อนหน้านี้ ถ้าหลังจากนี้ตระกูลซุนศิโรราบต่อฉัน ทั้งหมดถือว่าหายกัน”
เมื่อได้ฟังดังนั้นซุนซวี่รีบพยักหน้า “ได้ครับ ตั้งแต่นี้ต่อไปคุณก็คือเจ้านายแห่งตระกูลซุน ผมเป็นเพียงตัวแทนของตระกูลซุน ขอเพียงคุณออกคำสั่ง ทั้งตระกูลซุนพร้อมจะรับใช้คุณ”
ซุนซวี่รู้สึกดีใจ แม้ว่าเขาจะต้องเชื่อฟังหยางเฉิน ฟังแล้วเหมือนตระกูลซุนจะเสียเปรียบ แต่เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉินแล้ว แม้กระทั่งแข็งแกร่งอย่างตระกูลไช่ยังหายไปในชั่วข้ามคืน
ทั้งหมดนี้เพียงพอจะบ่งบอกได้ว่าหยางเฉินยังมีเบื้องหลังที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้
ได้ทำงานให้กับคนเช่นนี้ ถือเป็นเกียรติของเขา
บางทีตระกูลซุนอาจจะแข็งแกร่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเพราะเรื่องนี้ก็ได้
ภายในห้องราชา รวมถึงคนอื่นๆที่ได้ยินบทสนทนาระหว่างหยางเฉินและซุนซวี่ต่างอึ้งกันหมด
ในระดับอย่างพวกเขา แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูถือว่าเป็นตระกูลไฮโซที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว บัดนี้ผู้นำตระกูลซุนกลับศิโรราบต่อหยางเฉิน หรือก็คือตำแหน่งของหยางเฉินคนเดียวเหนือกว่าแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูหรือนี่?
และตระกูลของพวกเขาอย่าว่าแต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเลย แม้แต่ระดับของตระกูลไช่ยังไม่เทียบเท่า สำหรับพวกเขามีสิทธิ์แค่แหงนหน้ามองหยางเฉินเท่านั้น
“ตอนนี้นายยังมีอะไรจะพูดอีกมั้ย?” จู่ๆหยางเฉินก็หันไปมองโม่ตงซวี่และถาม
โม่ตงซวี่ในเวลานี้ก้มหน้าจนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ แต่หยางเฉินรู้สึกถึงความแค้นอย่างรุนแรงในใจของโม่ตงซวี่
เห็นได้ชัดว่าความแค้นนี้มีต่อซ่งหวาหย่าและเขาเท่านั้น
หากไม่ใช่พวกเขา โม่ตงซวี่ได้กลายเป็นผู้จัดการทั่วไปของซุนซื่อกรุ๊ปแล้ว ในอนาคตภรรยาของเขาได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลอีกด้วย
ส่วนเขา เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเป็นสามีของผู้นำตระกูลซุน สถานะของเขาในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็จะเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่
แต่ตอนนี้ถูกทำลายโดยหยางเฉินและซ่งหวาหย่าจนหมด
“คุณหยางครับ ขอร้องล่ะไว้ชีวิตผมเถอะครับ หลังจากนี้ไปผมเป็นเพียงสุนัขรับใช้ข้างกายคุณ คุณให้ผมกัดใครผมก็จะไปกัดคนนั้น โฮ่งๆๆ!”
จู่ๆโม่ตงซวี่ก็เงยหน้า ขอร้องพลางโขกหัวลงกับพื้นไม่หยุด และเลียนแบบท่าหมาเห่า
ทุกคนต่างมีสีหน้าดูแคลน โม่ตงซวี่เปลี่ยนโลกทัศน์ของพวกเขาเสียใหม่ได้ครั้งแล้วครั้งเล่าจริงๆ
หยางเฉินกลับนิ่งเฉย เขาหัวเราะเย็นๆ “อยากเป็นหมาของฉันต้องมีค่าพอนะ ส่วนนาย ไม่มีค่า”
เมื่อได้ฟังดังนั้น โม่ตงซวี่รู้สึกถูกหยามเหยียดอย่างแรง เมื่อไหร่กันที่เขาตกต่ำถึงขั้นที่ยอมเป็นหมายังโดนคนอื่นรังเกียจเลย
“เพราะผู้หญิงชั่วๆอย่างเธอ เธอเป็นคนทำลายฉัน ต่อให้ตายฉันก็จะลากเธอไปด้วย”
โม่ตงซวี่ยืนขึ้นกะทันหันและพุ่งไปหาซ่งหวาหย่าด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
เขาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าซ่งหวาหย่าแต่แรก ลุกขึ้นปุ๊บจึงอยู่ใกล้ซ่งหวาหย่าที่สุด ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ในมือเขาปรากฏกริชสั้นเป็นประกาย และแทงไปที่ซ่งหวาหย่า
ซ่งหวาหย่าอยู่แค่ตรงหน้าโม่ตงซวี่ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆโม่ตงซวี่จะทำร้ายเธอ
ขณะนั้น เธอยืนอยู่ที่เดิมหน้าตาตะลึง สายตาเต็มไปด้วยความหวาดผวา คิดจะหลบแต่ทำไม่ได้เลย
เธอได้แต่ยืนมองกริชสั้นในมือโม่ตงซวี่ที่เข้าใกล้ตัวเองขึ้นเรื่อยๆ
นาทีนี้ ในหัวของเธอพลันมีภาพจำแวบผ่านไปมา ล้วนแต่เป็นอดีตที่เคยใช้ร่วมกับโม่ตงซวี่
แต่จนนาทีนี้เธอถึงตระหนักได้ว่าโม่ตงซวี่ในตอนนั้นไม่ได้คบกับเธอเพราะความรัก