CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

The king of War - บทที่ 683 เกิดความเห็นต่างรุนแรง

  1. Home
  2. The king of War
  3. บทที่ 683 เกิดความเห็นต่างรุนแรง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เห็นบรรดาคนตระกูลกวนมีความจริงใจขนาดนี้ หยางเฉินให้รู้สึกปลื้มอยู่เป็นอันมาก

เดิมก็มีคิดอยู่ว่า ตระกูลกวนที่เป็นสุดยอดมหาเศรษฐีระดับท้องถิ่น ต่อเมื่อก้าวขึ้นไปถึงระดับมณฑลแล้ว ก็คงลืมหมด ไม่รู้ว่าทั้งหมดเพราะใครให้มา

แรกเริ่มนั้น ขณะที่ตระกูลกวนไม่เห็นใส่ใจในตัวหยางเฉิน หยางเฉินก็คิดจะละทิ้งตระกูลกวนแล้ว แต่ในเมื่อพวกเขายังรู้สำนึกผิด ก็ยังพออภัยให้ได้

“ความคิดผมตรงกับความคิดของท่านผู้นำเฒ่าตระกูลหาน พวกคุณไปเจรจากันก่อน ถ้าหากตระกูลเซวไม่ยอมตกลง ยังยืนกรานจะให้มหาเศรษฐีทั้งสามมณฑลต้องยอมสวามิภักดิ์ งั้นก็เปิดศึก!”

หยางเฉินเอ่ยปากพูดเรียบ ๆ

แท้จริงแล้วเขาก็ไม่ต้องการมีเรื่องบาดหมางกับตระกูลหลวง ไม่ว่าตระกูลหลวงก็ดี หรือตระกูลราชวงศ์ ล้วนระดับสุดยอดมหาเศรษฐีที่มีน้ำหนักทางสังคมภายในประเทศจิ่วโจว

ความรุ่งเรืองของเหล่าบรรดามหาเศรษฐีนี้ เป็นตัวบ่งชี้ถึงความร่ำรวยรุ่งโรจน์ของประเทศจิ่วโจวเลยทีเดียว

หากแม้นจะต้องถล่มตระกูลเซวให้ล่มสลายไปจริง สำหรับประเทศจิ่วโจวแล้ว มันจะเป็นความสูญเสียที่ใหญ่หลวงยิ่ง

ฉะนั้น เพียงขอให้ตระกูลเซวไม่ทำอะไรจนเกินเหมาะ หยางเฉินก็จะไม่ก้าวก่ายกับตระกูลเซวได้

“ได้ครับ ในเมื่อคุณหยางท่านพูดอย่างนี้ ผมก็จะปฏิบัติตามที่ท่านว่า หากตระกูลเซวไม่ยอมเจรจา ก็เปิดศึก!”

กวนเจิ้งซานเอ่ยปากตอบไปอย่างไม่ลังเล

“ฮ่า ฮ่า เยี่ยม!”

หานเซี่ยวเทียนพูดด้วยเสียงหัวเราะอย่างดัง ให้เห็นความที่สะใจ

สีหน้าซูเฉิงอู่ออกความเห็นขัดแย้ง ความก้าวหน้าของตระกูลซูในวันนี้ ในข้อเท็จจริงก็มีเกี่ยวข้องกับหยางเฉิน แต่เขายังมีความสัมพันธ์กับตระกูลอวี๋เหวินอย่างมาก ๆ

ในสายตาของเขา ตระกูลอวี๋เหวินมีฐานะยืนอยู่ในระดับสุดยอดมหาเศรษฐีในประเทศจิ่วโจวแล้ว เวลานี้เกิดมีตระกูลเซวขึ้นมาอีก ทั้งยังเป็นตระกูลมหาเศรษฐีที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่กว่าตระกูลอวี๋เหวินหลายเท่า

แล้วจะอาศัยเพียงพวกเขาไม่กี่ตระกูลนี้ จะต้านรับกันไหวจริงหรือ?

แต่ทว่า ตระกูลอวี๋เหวินเคยกำชับเขาไว้แต่แรกแล้วว่า กับหยางเฉินท่านนี้ ไม่ว่าจะกรณีไหน ๆ จะต้องเชื่อใจเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น

ด้านหนึ่งยืนตรงข้ามกับตระกูลเซว อีกด้านหนึ่งหยางเฉิน ซูเฉิงอู่เองตัดสินใจไม่ถูกในเวลาเดียวกัน

“กวนเจิ้งซาน คุณจะบ้าไปแล้วหรือ?”

สีหน้าจินจื้อหมิงกับเหลี่ยงเหวินคางเปลี่ยนไปกันทันที ต่างพากันถามใส่กวนเจิ้งซานอย่างกราดเกรี้ยว

“ไอ้นี่มันตัวอะไรกัน?ทำไมพวกคุณยอมเอาทั้งอนาคตของตระกูลกวน ไปฝากไว้กับเด็กหนุ่มที่ขนยังขึ้นไม่เต็มคนนี้?”

เหลียงเหวินคางพูดใส่ด้วยความโกรธ

จินจื้อหมิงก็ถามไปอย่างโมโหว่า “คุณทำแบบนี้ ไม่เพียงผลักไสตระกูลกวนเข้าไปในทางตัน อีกยังพากลุ่มพันธมิตรพวกเรา โดนผลักตามเข้าไปในทางมรณะด้วย!”

“หุบปาก!”

กวนเจิ้งซานตวาดใส่ด้วยความโมโห “คุณหยางเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงศักดิ์ที่สุดของตระกูลกวน อีกทั้งเป็นผู้มีเกียรติศักดิ์สูงที่สุดของตระกูลมหาเศรษฐีในมณฑลเจียงผิงทั้งหมด พวกเจ้านี่แหละเป็นตัวอะไรกัน มีหน้ามาข้องใจสงสัยคุณหยาง?”

ก็ได้ตัดสินใจเลือกแล้ว กวนเจิ้งซานก็ต้องไม่ทำให้หยางเฉินผิดหวังอีก

จินจื้อหมิงและเหลี่ยงเหวินคางต่างงงเป็นไก่ตาแตก เหมือนคิดไม่ถึง แค่กับเด็กหนุ่มวัยยี่สิบเศษ กวนเจิ้งซานถึงขนาดกล้าด่าว่าพวกเขาเป็นตัวอะไรต่อหน้าธารกำนัล

ต่างคนก็อยู่ในฐานะมหาเศรษฐีชั้นสุดยอด ถึงแม้กวนเจิ้งซานจะอยู่ในระดับอาวุโส แต่ก็ไม่มีเหตุผลพอที่จะเอาอารมณ์คำพูดแบบนี้มาใช้

“ไอ้กลุ่มพวกขี้ขลาดที่คิดว่าตัวเองคิดถูก ในเมื่อพวกแกไม่กล้าจะเปิดศึกกับตระกูลเซว งั้นก็ไสหัวกันกลับไปรอที่บ้านตระกูลตัวเอง ไปนั่งรอตระกูลเซวไปเก็บกวาดพวกแกเถอะ!”

หานเซี่ยวเทียนพูดไปหัวเราะเย้ยหยันไป

เมื่อสักครู่ ท่าทีจินจื้อหมิงกับเหลี่ยงเหวินคางที่แสดงออกต่อตระกูลเซว ก็ได้กระตุ้นความโกรธของหานเซี่ยวเทียนแล้ว มาตอนนี้เจ้าสองคนนี้ยังกล้ามาหมิ่นประมาทหยางเฉินว่าเป็นตัวอะไร ยิ่งทำให้ไม่มีอะไรต้องให้อภัยอีกแล้ว

“ไอ้ขี้ขลาด?”

จินจื้อหมิงพูดด้วยความโกรธ “ถ้าพวกผมขี้ขลาด ก็คงไม่มาหาพวกคุณเพื่อปรึกษากัน ร่วมกันวางแผนขับไล่ศัตรูกันแล้ว”

เหลียงเหวินคางพูดเสียงเยือก “พวกคุณช่างไม่รู้จักดีชั่ว พวกเราสู้อุตส่าห์ข้ามมณฑลมาช่วยพวกคุณ พวกคุณกลับใช้มารยาทแบบนี้ ช่างทำให้พวกเราผิดหวังจริง ๆ!”

“ท่านผู้นำทุกท่าน โปรดระงับอารมณ์กันหน่อย เรื่องนี้มันเกี่ยวพันกับสภาวะสมดุลของพวกเราสามมณฑล ไม่ว่ามีอิทธิพลภายนอกใด ๆ แทรกแซงเข้ามา ย่อมทำให้ความสมดุลนี้ต้องพังทลายไปได้”

ซูเฉิงอู่ก็รีบก้าวเข้ามา พูดโน้มน้าวเข้าหาความปรองดอง “พวกเราต้องการใช้ความร่วมมือกัน จึงจะต้านรับปัญหายุ่งยากที่กำลังเผชิญได้ มิฉะนั้นแล้วลำพังแต่ละตระกูลบ้าน ต่างก็ไม่สามารถต้านทานตระกูลเซวได้”

“ผู้นำตระกูลซู ไม่ใช่พวกเราไม่ยอมให้ความร่วมมือนะ แต่เป็นเพราะตระกูลกวนกับตระกูลหานไม่ยอม ตระกูลเซวก็ใกล้จะมาถึงแล้ว ดูพวกเขาทำสิ แล้วพวกเรายังมีอะไรต้องคุยอีก?”

เหลียงเหวินคางพูด

“ถึงตอนนี้มีแต่เปิดศึกกับยอมสวามิภักดิ์สองทางเลือก พวกคุณไม่ยอมเปิดศึก แล้วยังมีทางเลือกอะไรอีก?” หานเซียวเทียนพูดด้วยเสียงหัวเราะเย้ย

จินจื้อหมิงจ้องหานเซี่ยวเทียนด้วยแววตาเย็นเยือกพูดไปว่า “สองทางเลือกก็เป็นแค่ความคิดของคุณเอง แต่เท่าที่ผมดู ยังมีทางเลือกที่สาม!”

“อ้าว?ผู้นำตระกูลจินยังมีแผนต้านรับอีกหรือ?”

ซูเฉิงอู่เกรงว่าหานเซี่ยวเทียนจะตะแบงใส่กับจินจื้อหมิงอีก รีบเข้ามาสรุปถาม

จินจื้อหมิงผงกหัวรับแล้วพูด “พวกเราห้าตระกูล ตอนนี้ก็สรุปเป็นแนวเดียวกันแล้วว่า ต่างยอมรับวิธีการนั่งลงเจรจากับตระกูลเซว ไม่มีปัญหานะ?”

หลายคนนั้นก็ไม่พูดว่าอะไร ก็ถือว่ายอมรับโดยปริยาย

“ความคิดของผมง่าย ๆ นั้นก็คือเจรจากันก่อน จะให้สวามิภักดิ์กับตระกูลเซว คงไม่ยอมรับแน่นอน แต่ถ้าตระกูลเซวยังขืนจะใช้อำนาจบาตรใหญ่ ก็คงอาจจะขอให้ต่างฝ่ายต่างถอยกันคนละก้าว ยอมรับให้ตระกูลเซวมาขยายกิจการในสามมณฑลของพวกเรา เริ่มตั้งฐานทำเป็นธุรกิจสาขาของตระกูลเซว”

จินจื้อหมิงว่า “ถึงเวลานั้น สาขาตระกูลเซว คงจะต้องเป็นอีกหนึ่งตระกูลมหาเศรษฐีระดับยอดในสามมณฑลของเรา สำหรับพวกเราด้วยกันแล้ว มันไม่น่าจะเป็นผลเสีย ตรงข้ามกันเสียอีกว่าน่าจะต้องเป็นผลดี”

“ถึงเวลานั้น ให้เป็นพวกตระกูลมหาเศรษฐีอื่น มาอยู่ต่อหน้าพวกเรา ก็จะไม่กล้าอวดเบ่งละ”

เหลี่ยงเหวินคางรีบผงกหัวเห็นด้วย “ผู้นำจินพูดถูกต้อง พวกเรายินยอมให้กิจการสาขาของตระกูลเซวมาตั้งในสามมณฑลของพวกเราได้”

“นี่แหละแผนดำเนินการที่ดีด้วยกันทั้งสองฝ่ายจริง ๆ”

แม้ซูเฉิงอู่เอง ก็ยังผงกหัวพูดไป

“ลมตดทั้งสองฝ่ายสิ!”

หานเซี่ยวเทียนพูดอย่างเสียอารมณ์ “เดี๋ยวอย่าเพิ่งพูด ตระกูลเซวจะตกลงหรือไม่นั่น ถ้าพูดถึงตกลง สาขาตระกูลเซวตั้งขึ้นมาแล้ว มันก็คงค่อย ๆ กลืนพวกมหาเศรษฐีของทั้งสามมณฑล!”

“กับการที่จะให้มหาเศรษฐีสามมณฑลนี้สวามิภักดิ์ด้วย ก็เพียงเสียเวลาเพิ่มเท่านั้น ด้วยกำลังของตระกูลเซว ไม่พ้นเดือน ก็จะสามารถครอบคลุมมหาเศรษฐีทั้งสามมณฑลนี้ได้แล้ว พวกคุณเชื่อไหม?”

กวนเจิ้งซานก็ผงกหัวพูดว่า “ท่านผู้นำหานพูดไม่ผิด และอย่างน้อยมณฑลเจียงผิงของพวกผม จะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด ที่จะให้ตระกูลเซวมาตั้งสาขาที่นี่”

“พวกคุณนี่ก็ไม่เอา นั่นก็ไม่ได้ นั่นก็คือใจตั้งแน่นอนไว้แล้ว จะเปิดศึกกับตระกูลเซวแน่?”

จินจื้อหมิงพรวดพราดพูดขึ้นมาอย่างฉุนเฉียว

“เปิดศึกก็ต้องเปิดศึก พวกคุณใครไม่กล้า ก็ไสหัวกลับเมืองหนันหยังและตงหยางไปเถอะ!”

หานเซี่ยวเทียนพูดไปอย่างไม่มีเกรงใจ

กวนเจิ้งซานแม้จะไม่โฉ่งฉ่างเหมือนหานเซี่ยวเทียน แต่ก็แสดงท่าทีชัดเจน “แคว้นเจียงผิง จะไม่ยอมให้ตระกูลเซวเข้ามาตั้งรกรากเด็ดขาด!”

สามสุดยอดตระกูลมหาเศรษฐีแห่งมณฑลเจียงผิง ตอนนี้ก็เหลือเพียงซูเฉิงอู่ที่ยังไม่แสดงท่าที

จินจื้อหมิงและเหลี่ยงเหวินคางมีสีหน้าที่ดูไม่น่าดูขึ้นมา การที่พวกเขามาบ้านตระกูลกวนโดยพลการนี้ ก็เพื่อจะมาดึงหาตระกูลเข้าเป็นแนวร่วมให้กว้างใหญ่ขึ้น ทำแบบนี้ได้จึงมีคุณสมบัติพอที่จะไปนั่งคุยเจรจาโดยตรงกับตระกูลเซว เมื่อหลังจากพวกเขาได้เข้าประจำการในสามมณฑล

แต่ทว่า พวกเขาก็ยังคงมองตระกูลเซวต่ำไปอีกไกล อย่าว่าแต่แค่เพียงห้าตระกูลมหาเศรษฐีของพวกเขาเลย ต่อให้ระดมเอามหาเศรษฐีทั้งสามมณฑลมาร่วมมือกัน ก็ยังไม่มีศักดิ์ศรีพอที่จะไปคุยกับตระกูลเซวได้

“ก็ดี ดีมาก ๆ ในเมื่อพวกคุณจะรนหาที่ตาย ถ้างั้นพวกผมไม่ขอเล่นด้วยแล้ว!”

จินจื้อหมิงกระแทกขาลุกพรวดยืนขึ้น พูดเสียงเยือก “ไม่มีพวกคุณ พวกเราก็หาตระกูลแนวร่วมของพวกเราเองได้อีกนั่นแหละ!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 683 เกิดความเห็นต่างรุนแรง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์