The king of War - บทที่ 698 ทำลายวรยุทธผม
เซวหยวนป้าที่ยังชื่นชมหยางเฉินอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนสีหน้าทันที ต้องการจะทำลายวรยุทธหยางเฉินแทน
สำหรับผู้มีวรยุทธนั้น การถูกทำลายวรยุทธนั้นอยู่ก็เหมือนตาย
เป็นเพียงเพราะเซวหยวนป้าถูกใจความสามารถของหยางเฉิน แต่หยางเฉินไม่ยินดีติดตามเขา จึงต้องการทำลายวรยุทธเขา จะเห็นได้ว่าเซวหยวนป้าเป็นคนเผด็จการแค่ไหน
หานเซี่ยวเทียนรู้จักตัวตนของหยางเฉิน จึงไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่นิด เขายิ้มเยาะ “ไม่เจียมกะลาหัว!”
กวนเจิ้งซานและซูเฉิงอู่ที่ยืนอยู่ถัดจากหานเซี่ยวเทียน ทั้งสองตกใจเมื่อได้ยินประโยคที่หานเซี่ยวเทียนพูดออกมาเบาๆ
เซวหยวนป้าคือคนที่มีโอกาสจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลเซวในอนาคต เหตุใดหานเซี่ยวเทียนจึงคิดเช่นนี้ เซวหยวนป้าไม่เจียมกะลาหัวเมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉินงั้นเหรอ?
“เตรียมรับให้ดี!”
เหมิงตันคำราม กระทืบเท้าอย่างแรง อาศัยแรงดีดตัวพุ่งเข้าหาหยางเฉินอย่างฉับพลัน
แต่หยางเฉินยังคงยืนอยู่กับที่ ไม่มีแม้แต่ทีท่าว่าจะหลบหลีก
เมื่อเซวข่ายเห็นภาพนี้แววตาก็เต็มไปด้วยการเย้ยหยัน “ที่แท้ก็คนโง่ แม้ในตระกูลเซว ความสามารถของเหมิงตันก็สามารถติดห้าอันดับแรก คุณยังไม่รู้จักหลบหลีก ถ้าไม่ใช่รนหาที่ตายแล้วเรียกว่าอะไร?”
แต่ทว่าทันทีที่เขาพูดจบ เหมิงตันก็พุ่งเข้าไปถึงตรงหน้าหยางเฉินแล้ว เขาปล่อยหมัดเข้าชกหน้าอกของหยางเฉิน
“พรึ่บ!”
เมื่อเห็นว่ากำปั้นของเหมิงตันกำลังจะกระแทกหน้าอกของหยางเฉิน ในช่วงเวลาที่สำคัญหยางเฉินก็เหยียดแขนออกมาและคว้าข้อมือของเหมิงตันที่ชกเข้ามาเอาไว้
“อะไรนะ?”
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”
เมื่อเซวหยวนป้าและเซวข่ายเห็นภาพนี้ ใบหน้าก็ถอดสีทันที พลันอุทานด้วยความตกใจ
ส่วนเหมิงตันที่ถูกหยางเฉินคว้าข้อมือไว้ ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
หมัดเมื่อครู่นั้น เขารู้ดีที่สุดว่าใช้กำลังไปเท่าไหร่ แม้แต่สิงโตก็อาจตายได้ด้วยหมัดนี้
แต่ทว่าในเวลานี้ หยางเฉินกลับคว้าข้อมือของเขาไว้ได้อย่างคาดไม่ถึง
ประเด็นคือหมัดของเขาได้สัมผัสเสื้อผ้าของหยางเฉินแล้ว
ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เหมิงตันไม่มีทางเชื่ออย่างเด็ดขาด
หรือพูดได้อีกอย่างว่า หยางเฉินจงใจลงมือในขณะที่หมัดของเขาสัมผัสถูกเสื้อผ้าของตัวเอง
พลังควบคุมที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว ก็อาจจะไม่มีก็ได้?
เหมิงตันพยายามสะบัดให้หลุดจากมือของหยางเฉิน แต่กลับต้องตกใจเมื่อพบว่า มือของหยางเฉินจับข้อมือของเขาไว้แน่นเหมือนคีม เขาสะบัดอย่างไรก็ไม่หลุด
ไม่เพียงแต่สายตาเท่านั้น แต่ยังมีความรวดเร็วในการตอบสนอง รวมถึงพละกำลังอย่างสมบูรณ์ ล้วนทำให้เหมิงตันรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
“นี่น่ะหรือความสามารถของยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว?”
หยางเฉินหัวเราะเยาะ มองไปที่เซวหยวนป้าอย่างยั่วเย้า
เซวหยวนป้าตกใจอึ้งไปแล้ว ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง จนกระทั่งในตอนนี้เขาถึงตระหนักได้ว่า ตัวเองนั้นดูผิดไป
หยางเฉินมีอายุเพียง 27 ปี ก็มีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวเช่นนี้แล้ว ในอีกสิบปีข้างหน้าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน?
แม้แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว ถึงตอนนั้นก็อาจจะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาก็ได้?
แม้จะผ่านไปอีกสิบปี หยางเฉินก็มีอายุไม่เกิน 38 ปี ส่วนยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว ก็จะเป็นยอดฝีมือขั้นสุดยอดที่ดื่มด่ำอยู่ในเส้นทางวรยุทธมาเป็นเวลา 40-50 ปี
ในแง่ของพรสวรรค์ในทางวรยุทธ หยางเฉินนั้นทิ้งห่างยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซวหลายขุม
“ปล่อยผม!”
เหมิงตันกัดฟันพูด
เขาพยายามสะบัดออก แต่ก็ไม่ได้ผล เมื่อเขาพยายามใช้มืออีกข้างโจมตีหยางเฉิน ก็ถูกมืออีกข้างหนึ่งของหยางเฉินคว้าไว้
ขณะที่กำลังคิดจะใช้ขาทั้งสองโจมตีหยางเฉิน ก็ถูกขาของหยางเฉินตอบโต้กลับไป
ภายในเวลาสั้นๆ เพียงสิบวินาที เหมิงตันได้ใช้ทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับหยางเฉินได้แม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับเป็นแขนขาของเขาที่ออกอาการชา
“แกร๊ก!”
สิ้นเสียงเหมิงตัน เสียงแตกหักของกระดูกที่คมชัดก็ดังขึ้นทันที
ภายใต้สายตาที่จับจ้องจากผู้คน ข้อมือของเหมิงตันงอพับเก้าสิบองศา เผยให้เห็นกระดูกสีขาวที่น่าสยดสยอง
ภาพนี้ทำให้ทุกคนในที่นี้ตกใจ
สองตาของเหมิงตันเบิกโพลง เหงื่ออันเย็นเยียบปกคลุมทั่วร่างกาย ความเจ็บปวดจากกระดูกข้อมือหักเกือบทำให้เขาหมดสติไป แต่เขายังไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้คร่ำครวญใดๆ ออกมา
“คุณบอกว่า จะทำลายวรยุทธผมเหรอ?”
หยางเฉินแค่หักข้อมือของเหมิงตัน ก่อนจะมองไปที่เซวหยวนป้า แล้วถามด้วยสีหน้าเย็นชา
พร้อมๆ กับเดินเข้าไปหาเซวหยวนป้าทีละก้าว
ในฐานะเจ้าชายสามของตระกูลเซว เขาไม่เคยถูกคุกคามแบบนี้มาก่อน
ในเวลานี้ เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม แม้แต่กำลังตอบโต้ยังไม่มี ได้แต่มองดูหยางเฉินเข้ามาใกล้ตนเรื่อยๆ ตาปริบๆ
ทุกคนต่างตกใจ อีกฝ่ายมีแนวโน้มที่จะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลเซวในอนาคต แต่หยางเฉินยังกล้ามาคุกคามเขา?
เซวหยวนป้านั้นเป็นยอดฝีมือในด้านวรยุทธ ในเวลานี้เมื่อเห็นว่าหยางเฉินกำลังเดินเข้ามาใกล้ตนทีละก้าว แต่เขากลับไม่รู้ว่าจะตอบโต้กลับอย่างไร
แม้แต่ความสามารถก็ยังทิ้งห่างเหมิงตันไปไกล ขนสักเส้นของหยางเฉินก็ยังไม่ได้สัมผัส ตรงกันข้ามข้อมือของเขากลับถูกหยางเฉินหัก แล้วนับประสาอะไรกับเซวหยวนป้า?
ทั้งเจ้าบ้านข่งและเจ้าบ้านเติ้งมีแต่ความเสียใจ ความแข็งแกร่งที่หยางเฉินได้แสดงออกมาในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เกรงกลัวตระกูลเซวเลย
เมื่อครู่ขณะที่หยางเฉินกำลังจะออกไปและถามว่าใครยินดีจะไปกับเขา เห็นได้ชัดว่ากำลังให้โอกาสพวกเขาอยู่ แต่พวกเขากลับสูญเสียมันไปเพราะความเกรงกลัวเซวหยวนป้า
ในใจซูเฉิงอู่รู้สึกยินดีปรีดา หยางเฉินไม่ทำให้เขาผิดหวังอย่างที่คาดไว้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือพบเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งเพียงใด ก็เหมือนว่าเขาจะไม่เคยพ่ายแพ้เลย
จนกระทั่งในเวลานี้ เขาถึงตระหนักได้ว่า เหตุใดตระกูลอวี๋เหวินถึงกำชับให้เขาเลือกยืนอยู่ข้างหยางเฉินไม่ว่าจะในยามใด
ที่แท้ ไม่ใช่เพราะหยางเฉินพึ่งพาตระกูลอวี๋เหวิน แต่เป็นเพราะตระกูลอวี๋เหวินรู้ความสามารถของหยางเฉินดี
“คุณหยาง คุณอย่าเพิ่งวู่วาม!”
เมื่อเห็นว่าหยางเฉินเข้ามาอยู่ตรงหน้าเซวหยวนป้าแล้ว เซวข่ายก็รีบบอกว่า “พ่อผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณ เขาแค่ชื่นชมคนที่มีพรสวรรค์ด้วยใจจริง ต้องการให้คุณเข้าร่วมตระกูลเซว”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชายตัวเอง เซวหยวนป้าถึงได้สติ รีบบอกว่า “ใช่ๆๆ ผมแค่เห็นว่าคุณหยางเป็นคนมีความสามารถ ดังนั้นจึงอยากดึงให้มาเป็นพวก ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ เลย”
“แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ลำพังตัวผมยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเชื้อเชิญคุณหยางด้วยตัวเอง มีเพียงพ่อของผมเท่านั้นที่มีคุณสมบัตินี้”
“ถ้าคุณหยางไม่รังเกียจ ผมจะเรียนเชิญคุณมาเป็นขุนนางของตระกูลเซวในนามของคุณพ่อ ขอเพียงยามใดที่ตระกูลเซวเกิดเรื่องใหญ่ ต้องการให้คุณหยางออกหน้า แค่คุณหยางออกหน้าก็พอ ค่าจ้างรายปีคือสองพันล้าน!”
เมื่อได้ยินเซวหยวนป้าบอกว่าค่าจ้างรายปีคือสองพันล้าน ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึง
เช่นนั้นค่าจ้างเป็นเวลาสิบปีก็คือสองหมื่นล้าน!
ประเด็นสำคัญคือ แค่หยางเฉินออกหน้าให้เมื่อตระกูลเซวเกิดเรื่องใหญ่ แล้วตระกูลมหาเศรษฐีอย่างตระกูลเซว จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นได้สักกี่ครั้ง?
แม้ว่าจะคำนวณเป็นรายปี แต่นั่นก็หมายความว่า หยางเฉินออกหน้าครั้งเดียว ค่าจ้างคือสองพันล้าน
หยางเฉินไม่พูดอะไร เพียงมองเซวหยวนป้าด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
เซวหยวนป้าถูกจ้องมองจนรู้สึกอึดอัด เขากลัวว่าหากหยางเฉินไม่พอใจ ยกมือสั่งให้ทำลายวรยุทธเขา เช่นนั้นชีวิตของเขาต้องจบลง
“สามพันล้าน!”
ทันใดนั้นเซวหยวนป้าก็กัดฟันพูดออกมา “ค่าจ้างรายปีสามพันล้าน ค่าจ้างนี้ได้แซงหน้ายอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซวไปแล้ว ขอเพียงคุณหยางยินดี ผมสามารถจ่ายค่าจ้างล่วงหน้าให้คุณได้เลย”