The king of War - บทที่ 730 การแก้แค้นเริ่มต้นขึ้น
หยางเฉินเหลือบมองหลีจื้อขุยอย่างไม่แยแส แล้วเบนสายตาไปมองหลีเจ๋อที่กำลังรีบวิ่งเข้ามา
ในเวลานี้ หลีเจ๋อวิ่งเหยาะๆ ตรงเข้ามาด้วยสีหน้าดูกังวล
“พ่อ! พ่อมาถึงเสียที ไอ้หนุ่มคนนี้แหละ เขาประกาศว่าจะฆ่าผม แถมยังบอกอีกว่าต่อให้พ่อมา ก็ไม่กล้าแตะต้องเขาแม้แต่ปลายนิ้ว แล้วยังเรียกคนมามากมายแบบนี้ด้วย”
หลีจื้อขุยรีบวิ่งไปข้างหน้าแล้วกล่าวขึ้น
แม่เสี่ยวจวินก็ก้าวเข้าไปหาเช่นกันแล้วพูดว่า “พ่อคะ ไอ้สารเลวนี่มีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็คือยัยตัวแสบที่ตบหลานชายของพ่อ พ่อต้องผดุงความยุติธรรมให้พวกเรานะคะ!”
“เผียะ!”
หลีเจ๋อตบหน้าแม่เสี่ยวจวิน แม่เสี่ยวจวินเซล้มลงกับพื้น
ในเวลานี้ ทุกคนล้วนตกตะลึง
หลีเจ๋อตบลูกสะใภ้ของตัวเองทำไม?
“พ่อคะ! ตบฉันทำไมกัน?”
แม่เสี่ยวจวินถามด้วยสีหน้างุนงง
“ฉันจะตบเธอนั่นแหละ ตบปากที่อวดดีของเธอ!” หลีเจ๋อพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
ในเวลานี้ อย่าว่าแต่ตบแม่เสี่ยวจวินเลย เขายังคิดจะฆ่าผู้หญิงคนนี้ด้วยซ้ำ
“พ่อครับ! ก็เห็นอยู่ว่าลูกสาวของไอ้สารเลวนั่นตีหลานชายของพ่อ ทำไมพ่อมาตบอาอวี้ล่ะ?”
หลีจื้อขุยก็งงเช่นกัน พลางถามด้วยความสงสัย
แต่ใครจะรู้ หลีเจ๋อพลิกฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของหลีจื้อขุยอีกครั้ง
“ฉันให้กำเนิดคนโง่อย่างแกมาได้ยังไงกัน?”
สองตาของหลีเจ๋อเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ตบหลีจื้อขุยแล้ว ก็ยังปรี่เข้าไปเตะอีกหลายครั้ง
หลีจื้อขุยไม่กล้าโต้กลับ ทำได้เพียงป้องกันตัว ร้องคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด “พ่อครับ พ่อตีผิดคนแล้ว! ตีผิดคนแล้ว! ลูกสาวของไอ้สารเลวนั่นตบหลานชายของพ่อ พ่อควรไปตีเขา”
“แกหุบปากซะ!”
หลีเจ๋อโกรธจนแทบบ้า ประเคนทั้งหมัดและเท้าใส่หลีจื้อขุย
ก่อนหน้านี้เขาได้บอกให้หลีจื้อขุยคุกเข่าขอความเมตตาให้ได้รับการให้อภัยจากหยางเฉิน แต่ตอนนี้หลีจื้อขุยไม่เพียงไม่ขอโทษ แต่กลับเอาแต่ด่าหยางเฉินว่าไอ้สารเลว
แม่เสี่ยวจวินยังด่าลูกสาวของหยางเฉินว่ายัยตัวแสบ นี่กำลังรนหาที่ตายกันอยู่เหรอ?”
หยางเฉินเอามือกอดอก มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อย่างเย็นชาและไม่ได้พูดอะไร
หม่าชาวยืนอยู่ข้างกายเขาราวกับหอคอยโลหะ
ชายร่างกำยำนับร้อยคนที่อยู่รอบๆ ยืนนิ่งรอฟังคำสั่งของหยางเฉินอยู่ทางด้านหนึ่ง
ส่วนบรรดาผู้คนที่รายล้อมอยู่ได้ตกตะลึงพรึงเพริดกันไปตั้งนานแล้ว
พวกเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเลย ตอนแรกยังคิดว่าถ้าหลีเจ๋อมา หยางเฉินต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน แต่ในเวลานี้ หยางเฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิม ตรงกันข้ามกลับเป็นหลีจื้อขุยที่ถูกหลีเจ๋อประเคนทั้งหมัดและเท้าใส่
หลีเจ๋อลงมืออย่างไม่ปรานี ใบหน้าของหลีจื้อขุยกำลังจะเต็มไปด้วยเลือดในไม่ช้า
“คุณหยาง ผมขอโทษ ผมไม่ได้ดูแลลูกชายของผมให้ดี!”
หลีเจ๋อเดินมาตรงหน้าหยางเฉิน โค้งให้เล็กน้อย แล้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ้อนวอน “คุณหยาง ช่วยไว้ชีวิตลูกชายผมด้วยเถอะ!”
เปรี้ยง!
ในเวลานี้ ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึง!
คำพูดของหลีเจ๋อเปรียบเสมือนฟ้าผ่าฟาดลงกลางใจหลีจื้อขุยและแม่เสี่ยวจวิน
ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกเหมือนสะดุ้งตื่นจากความฝัน
หลีเจ๋อในฐานะเจ้าบ้านตระกูลหลี ตอนนี้เขายอมก้มหัวขอโทษหยางเฉิน แล้วยังขอร้องให้หยางเฉินไว้ชีวิตหลีจื้อขุยอีก
จนกระทั่งในเวลานี้เอง หลีจื้อขุยก็นึกขึ้นได้ทันทีว่า เหตุใดหลีเจ๋อถึงบอกให้คุกเข่าขอความเมตตาเขาในโทรศัพท์ก่อนหน้านี้
ที่ตบเขาเมื่อครู่ก็เพื่อแสดงท่าทีให้หยางเฉินเห็น
แม่เสี่ยวจวินก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก นึกได้ว่าตัวเองดันตบลูกสาวของหยางเฉินไปด้วย แถมยังเอาแต่เรียกว่ายัยเด็กแสบ มันทำให้เธอนึกอยากจะตบปากตัวเองนัก
หยางเฉินพูดอย่างเฉยชา “คุณยังไม่มีสิทธิ์พูดอะไร หุบปากแล้วยืนเฉยๆ ผมจะจัดการเอง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลีเจ๋อก็แย่ลงจนถึงขีดสุด พลางกัดฟันพูดว่า “คุณหยาง ต้องทำยังไงคุณถึงจะหายโกรธ?”
“เผียะ!”
หยางเฉินตบหน้าหลีเจ๋อแล้วตวาดใส่ “คุณนั่นแหละหุบปาก!”
คราวนี้หลีเจ๋อรู้สึกหวาดกลัวจนถึงขีดสุด เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในตระกูลเฉิน หยางเฉินก็ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคืองเช่นนี้ แต่ตอนนี้นั้นโกรธเกรี้ยวอย่างคาดไม่ถึง
มันแสดงให้เห็นว่า ตอนนี้หยางเฉินโกรธมากและผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก
ผู้คนที่รายล้อมอยู่เบิกตาโพลง บางคนขยี้ตาอย่างแรง นึกว่าตัวเองตาฝาดไป
เป็นถึงเจ้าบ้านตระกูลหลี แต่กลับถูกหยางเฉินตบหน้าอย่างไม่คาดคิด ประเด็นสำคัญคือ หลีเจ๋อไม่กล้าพูดอะไรอีกจริงๆ
เมื่อหลีจื้อขุยและแม่เสี่ยวจวินเห็นหลีเจ๋อถูกตบหน้า จึงรู้ว่าตัวตนของหยางเฉินนั้นน่ากลัวเพียงใด
คนคนหนึ่งกล้าตบเจ้าบ้านตระกูลหลี แม้แต่ผู้นำของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูยังไม่กล้าเลย?
“รถของพวกคุณผมจ่ายเงินชดใช้ไปหนึ่งพันล้านแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องคิดบัญชีบ้างแล้ว บัญชีที่พวกคุณตบพ่อตาของผม ตบลูกสาวของผม”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็มองไปที่หลีจื้อขุยและแม่เสี่ยวจวินพร้อมกับกล่าวขึ้น
โดยเฉพาะแม่เสี่ยวจวิน สายตาของหยางเฉินมีประกายอาฆาตระยิบระยับ
ผู้หญิงคนนี้กล้าตบเสี้ยวเสี้ยว จำเป็นต้องจ่ายให้หนัก
“พลั่ก!”
ในที่สุดหลีจื้อขุยก็กระจ่างแจ้ง รีบคุกเข่าลงแทบเท้าของหยางเฉินและอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “คุณหยาง ผมผิดไปแล้ว เงินหนึ่งพันล้านนั่น ผมจะคืนให้คุณทันที ได้โปรดปล่อยผมไป ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ จะเอาเงินมาคืนคุณเดี๋ยวนี้”
“เผียะ!”
พอเห็นแม่เสี่ยวจวินยังมึนงงอยู่ หลีจื้อขุยก็ตบหน้าแม่เสี่ยวจวิน แล้วตวาดใส่ว่า “ยัยบ้าเอ๊ย เธอเป็นคนก่อเรื่อง ยังไม่คุกเข่าลงขอร้องคุณหยางให้ปล่อยเธอไปอีก?”
ตอนนั้นเองที่แม่เสี่ยวจวินเหมือนสะดุ้งตื่นจากฝัน รีบคุกเข่าลงข้างๆ หลีจื้อขุย แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “คุณหยาง ฉันมันสารเลวที่กล้าตีลูกสาวของท่าน รนหาที่ตายจริงๆ”
“เผียะๆๆ…”
ทันใดนั้นแม่เสี่ยวจวินก็ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเอง ตบไปพูดไป “ฉันปากพล่อยไปเองดี สมควรถูกตบ!”
“คุณหยาง ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ วันหลังจะไม่กล้าอีกแล้ว ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
แววตาของหยางเฉินสงบนิ่ง มองลงมาที่ทั้งสองคนและพูดว่า “คนอย่างผม ปกติแล้วเป็นคนคุยง่าย อารมณ์ดี แต่คนรักของผมเป็นดั่งเกล็ดมังกรที่แตะต้องไม่ได้ ส่วนลูกสาวของผม ยิ่งเป็นเกล็ดมังกรในเกล็ดมังกร”
“มือของคุณข้างไหนที่ตบลูกสาวของผม ผมจะหักข้างนั้น ส่วนเรื่องที่คุณด่าลูกสาวของผมก็ยิ่งคิดบัญชีได้ไม่ยาก ต่อไปอย่าคิดจะได้พูดจาอีกเลย นี่คือโทษของคุณ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด แม่เสี่ยวจวินก็หวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ หยางเฉินไม่เพียงแต่จะหักมือเธอ แต่ยังจะทำให้เธอกลายเป็นใบ้อีกด้วย
หลีจื้อขุยก็หวาดผวาเช่นกัน พยายามโขกคำนับขอความเมตตา “คุณหยาง พวกเราสำนึกผิดแล้วจริงๆ สำนึกผิดแล้วจริงๆ”
“คุณด้วย บัญชีแค้นที่ตีพ่อตาของผม ก็คิดง่ายเหมือนกัน”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็มองไปที่หลีจื้อขุยแล้วกล่าวว่า “ฝั่งผมมีพี่น้องอยู่หนึ่งร้อยคน ให้เตะคุณคนละหนึ่งครั้ง ถ้าคุณยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ก็ถือว่าคุณโชคดี!”
“เอาล่ะ เริ่มได้!”
ทันทีที่หยางเฉินออกคำสั่ง หม่าชาวก็เดินตรงเข้าไปหาแม่เสี่ยวจวิน
ชายฉกรรจ์หนึ่งร้อยคนที่เหลือก็ตรงเข้าไปรายล้อมหลีจื้อขุยไว้
พอเห็นผู้คนมืดฟ้ามัวดินโอบล้อมตัวเองเข้ามา หลีจื้อขุยก็กลัวจนแทบฉี่ราด
แค่มองก็รู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดา