The king of War - บทที่ 735 สถานการณ์ไม่สู้ดี
สิบนาทีต่อมา ฉินซีและลือหยิงได้มาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
ในห้องส่วนตัว ลือหยิงสั่งอาหารมาสามอย่างพร้อมกับซุป และชาส้มโออีกหนึ่งกา
“ตอนนี้กำลังรณรงค์เรื่องประหยัดอาหารไม่ใช่เหรอ? เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กันเถอะ ประธานฉินน่าจะไม่ขัดข้องนะคะ?”
ลือหยิงถามด้วยรอยยิ้ม
ฉินซีย่อมไม่มีอะไรขัดข้อง เธอรีบพยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อยู่กับประธานลือแล้วฉันรู้สึกสบายใจดี การร่วมมือของเราต้องราบรื่นมากแน่ๆ”
ระหว่างรออาหารลือหยิงจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อประธานฉินพูดถึงความร่วมมือ ฉันก็จะไม่อ้อมค้อมนะคะ เรามาเข้าประเด็นกันเลย”
“บอกตามตรงว่าบริษัทของเราค่อนข้างถูกใจโครงการเมืองจิ่วโจวในเขตชานเมืองของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เราตั้งใจจะลงทุนในโครงการนี้เป็นจำนวนหนึ่งหมื่นล้าน”
เมื่อได้ยินว่าลือหยิงต้องการจะลงทุนในโครงการเมืองจิ่วโจว ฉินซีก็มีสีหน้าผิดหวังในทันที
แม้ว่าเธอเพิ่งมาถึงเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเมื่อวานนี้ แต่เธอก็มีความเข้าใจโครงการสำคัญๆ ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปดี
สำหรับโครงการเมืองจิ่วโจว เยี่ยนเฉินกรุ๊ปไม่ได้วางแผนที่จะรับเงินลงทุนเลย พวกเขาต้องการถือหุ้น 100% ของโครงการนี้
“ประธานลือ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ โครงการเมืองจิ่วโจว ทางเยี่ยนเฉินกรุ๊ปไม่มีแผนจะร่วมมือกับบริษัทใดๆ เลยค่ะ”
ฉินซีกล่าวขอโทษ
“แบบนี้นี่เอง!”
ลือหยิงแสร้งทำเป็นมีสีหน้าผิดหวัง
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ยิ้มออกแล้วบอกว่า “ไม่เป็นไร ในเมื่อโครงการนี้ไม่รับเงินลงทุน งั้นฉันก็จะไม่ทำให้ประธานฉินลำบากใจค่ะ”
“ในเมื่อไม่สามารถลงทุนได้ แต่เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการตกแต่งภายหลังของโครงการจิ่วโจวได้ใช่ไหมคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉินซีก็ดีใจมาก เธอรีบพยักหน้าและกล่าวว่า “บริษัทของเรากำลังมองหาผู้จัดจำหน่ายวัสดุที่เหมาะสมอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าการตกแต่งจะอยู่ในช่วงหลัง แต่เราก็สามารถพูดคุยเรื่องความร่วมมือกันได้”
“งั้นก็เยี่ยมไปเลยค่ะ!”
ลือหยิงยิ้มแก้มแทบปริ กล่าวว่า “ประธานของเราบอกว่า ขอเพียงเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ยินดีที่จะร่วมมือกับเรา เราสามารถเสนอวัสดุให้คุณได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดประมาณสิบเปอร์เซ็นต์”
เมื่อได้ยินคำพูดของลือหยิง ฉินซีก็รู้สึกเหมือนส้มหล่น
โครงการเมืองจิ่วโจวนั้นใหญ่มาก ความต้องการวัสดุก็มีมาก
โดยทั่วไป ต่ำกว่าราคาตลาดห้าเปอร์เซ็นต์นั้นเป็นขีดจำกัดสำหรับผู้ผลิตสินค้าแล้ว
แต่เซิ่งเทียนกรุ๊ป ยินดีให้ต่ำกว่าราคาตลาดสิบเปอร์เซ็นต์
ความแตกต่างจำนวนห้าเปอร์เซ็นต์ สำหรับโครงการเมืองจิ่วโจวที่มีมูลค่าการลงทุนนับหมื่นล้าน นั่นเท่ากับประหยัดค่าวัสดุไปหลายพันล้าน
ลือหยิงดูเหมือนจะอ่านใจของฉินซีออก เธอยิ้มและกล่าวว่า “ประธานฉิน คุณไม่ต้องกังวล เซิ่งเทียนกรุ๊ปของเราเป็นหนึ่งในห้าร้อยบริษัทชั้นนำของโลก เราไม่มีทางหลอกคุณแน่นอน”
“ท่านประธานของเราเคยบอกไว้ว่า ที่เสนอผลประโยชน์มากมายแก่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป ก็เพราะต้องการผูกมิตรกับเรา”
“พูดอีกอย่างก็คือ ภายใต้ชายคาของเซิ่งเทียนกรุ๊ปนั้นมีโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างทุกชนิด ราคาที่เราให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปนั้นเป็นราคาขายส่ง มากสุดก็แค่รายได้น้อยลงเท่านั้น”
“รายได้น้อยลงหลายพันล้าน ถ้าเทียบกับการได้ผูกมิตรกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป มันถือว่าเป็นรายได้มหาศาลของเรา แน่นอน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันพูด แต่เป็นสิ่งที่ประธานของเราพูด”
หลังจากได้ยินคำอธิบายของลือหยิง ในที่สุดฉินซีก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
“งั้นก็ต้องขอบคุณประธานลือแล้วค่ะ เรื่องความร่วมมือ ฉันจะหาผู้จัดการรวบรวมข้อมูล ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ฉันจะติดต่อกลับไป”
ฉินซีพูดอย่างระมัดระวัง
ความร่วมมือใหญ่เช่นนี้ แม้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเยี่ยนเฉินกรุ๊ป แต่เธอก็จำเป็นต้องแจ้งให้ลั่วปิงทราบก่อน
ลือหยิงไม่ขัดข้อง พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา!”
ในเวลานี้ อาหารก็มาเสิร์ฟบนโต๊ะแล้ว
“เอาล่ะ คุยเรื่องงานเสร็จแล้ว ต่อไปเราหยุดคุยเรื่องงานกันก่อน มากินไปคุยไปกันเถอะ”
ลือหยิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลือหยิงมีคารมดีมาก รู้อะไรมากมาย ทั่วทุกสารทิศดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่เธอไม่รู้
ทั้งสองพูดคุยกันตั้งแต่เรื่องเสื้อผ้าไปจนถึงเครื่องสำอาง เรื่องการกินดื่มไปจนถึงเรื่องความงาม
มื้ออาหารใช้เวลาไปสองชั่วโมงเต็มๆ ถึงสิ้นสุดลง
“ฉินซี มา เรามาดื่มแก้วสุดท้ายกันเถอะ ดื่มแก้วนี้เสร็จก็ได้เวลากลับไปทำงานแล้ว”
ลือหยิงรินชาส้มโอให้ฉินซีหนึ่งแก้ว แล้วรินให้ตัวเองอีกหนึ่งแก้ว
ฉินซีก็มีความสุขมากเช่นกัน เธอรับชาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่ลือ ฉันดีใจมากที่ได้รู้จักกับผู้หญิงที่ฉลาดอย่างคุณ”
“พี่ลือ แก้วสุดท้ายแล้ว ฉันขอเอาน้ำชาแทนเหล้า คารวะให้คุณ!”
อาหารมื้อเดียว ก็ทำให้ผู้หญิงสองคนเรียกกันว่าพี่น้องแล้ว
ดวงตาอันลุ่มลึกของลือหยิงมีแววยั่วเย้า ภายนอกชูแก้วอย่างตื่นเต้นดีใจ “ดี เรามาชนแก้วกัน!”
ทั้งสองดื่มรวดเดียวจนหมด
“ฉินซี เดี๋ยวฉันต้องไปพบลูกค้ารายใหญ่ ผ่านทางกลับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปพอดี ฉันจะไปส่งคุณที่บริษัท!”
ขณะที่เดินออกไปข้างนอก ลือหยิงก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ตอนที่ทั้งสองมากินข้าว ฉินซีไม่ได้ขับรถมา เธอนั่งรถของลือหยิงมา
ฉินซีไม่ทันได้สังเกตอะไรเลย พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “โอเค งั้นก็รบกวนพี่ลือแล้วล่ะ!”
หลังจากขึ้นรถ เสียงเพลงเปียโนอันไพเราะก็เริ่มบรรเลง
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆ ฉินซีก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพลงเปียโนนี้คืออะไร ทำนองเหมือนกำลังสะกดจิต
ฉินซีผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีก
ลือหยิงเหลือบมองฉินซีที่หลับใหลไม่ได้สติ แล้วพูดด้วยสีหน้าดูถูก “คนสวยแต่ไร้ความสามารถ คู่ควรจะเป็นเพื่อนของลือหยิงด้วยเหรอ?”
พูดจบเธอก็กดโทรออกหมายเลขหนึ่ง “เจ้าบ้านหลี ตอนนี้เธออยู่ในรถของฉันแล้ว คุณสั่งการมาได้เลย!”
“วิ่งไปตามเส้นทางที่วางแผนไว้และขับต่อไป!” หลีเจ๋อกล่าว
ฉินซีจะนึกไม่ถึงเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้คิดจะร่วมมือกับเธออยู่แล้ว แต่เป็นคนที่หลีเจ๋อส่งมา
ส่วนลือหยิงนั้นเป็นรองประธานเซิ่งเทียนกรุ๊ปจริงๆ แต่นอกเหนือจากตัวตนนี้แล้ว เธอยังมีตัวตนที่สดใสงดงามด้วยเหมือนกัน เธอเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลหลี
รถ Passat สีดำคันหนึ่งวิ่งตามมาทางด้านหลังรถของลือหยิงอยู่ไม่ไกล
ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินที่อยู่ในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ทันใดนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากเฉียนเปียว “พี่เฉิน พี่สะใภ้ขึ้นรถอาวดี้ A8 ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบมาพากล”
ตอนนี้ เฉียนเปียวมีหน้าที่คอยปกป้องฉินซีอย่างลับๆ
ภารกิจของเขาคือคุ้มครองความปลอดภัยของฉินซีเท่านั้น จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเธอ
ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบสถานการณ์ของฉินซีโดยละเอียด รู้แค่ว่าเธอขึ้นรถของลือหยิงไป จากนั้นรถก็ไม่ได้มุ่งหน้าไปที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป
เค้าลางทุกอย่างส่อให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล เขาจึงส่งข่าวไปให้หยางเฉินทันที
หยางเฉินอยู่ไกลออกไปในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หลังจากได้รับรายงานสถานการณ์ของฉินซีก็เลิกคิ้วขึ้น พลางกล่าวว่า “ผมจะโทรหาเธอเดี๋ยวนี้!”
หยางเฉินยังไม่ได้วางสายของเฉียนเปียว แต่ใช้โทรศัพท์ตั้งโต๊ะโทรหาฉินซี แต่ทว่ามีสัญญาณปิดเครื่องดังออกมา
หยางเฉินมีสีหน้าขรึมลงในทันที พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “คุณสะกดรอยตามไปอย่างลับๆ ก่อน แล้วรายงานเส้นทางของคุณให้ผมทราบได้ทุกเมื่อ!”
“ครับผม!”
เฉียนเปียวรับคำทันที
แต่ทว่า ทันทีที่เขาวางสายก็มีรถบรรทุกหนักพุ่งเข้ามาชนเขา
“โครม!”
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว รถ Passat พลิกไปหลายตลบในอากาศ ก่อนจะตกลงสู่พื้นอย่างแรง แล้วยังไถลไปข้างหน้าเป็นทางยาวหลายสิบเมตร ก่อนจะหยุดลง