The king of War - บทที่ 738 ไม่ใช่คู่ต่อสู้
เหตุผลที่เขาเลือกสถานที่ให้ห่างไกลเช่นนี้ก็เพราะว่าจะได้ไม่มีคนมาคอยตรวจตราในบริเวณใกล้เคียง
แม้ว่าหยางเฉินจะหาที่แห่งนี้เจอแต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองชั่วโมง แต่ระยะทางที่นำฉินซีมานั้นใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
“สามี!”
ฉินซีตะโกนร้องและร้องไห้ออกมาราวกับสายฝนที่ไหลริน
เธอได้เตรียมการที่จะปลิดชีพแล้ว แต่วินาทีที่เห็นหยางเฉินมันได้ทำให้อารมณ์เหล่านั้นพังทลายลงในทันที
ดวงตาทั้งคู่ของหยางเฉินนั้นแดงก่ำพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด “ภรรยา ฉันอยู่นี่แล้วจะไม่มีใครทำร้ายเธอได้!”
ชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณสองคนที่อยู่ด้านหลังของหลีเจ๋อเมื่อเห็นหยางเฉินก็ดูมีท่าทีที่หนักแน่นขึ้น จากร่างของหยางเฉิน พวกเขารับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรงเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าก่อนที่พวกเขาจะถูกเซวหยวนป้าส่งมาจะรู้อยู่แล้วว่าต้องเผชิญหน้ากับคนที่มีศักยภาพแข็งแกร่ง
แต่หลังจากที่พวกเขาได้เจอกับหยางเฉิน มันกลับทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ยังหนุ่มยังแน่นแต่กลับมีรัศมีความน่าสะพรึงกลัวได้มากมายขนาดนี้
“หลีเจ๋อ ถ้านายปล่อยภรรยาของฉันไปในตอนนี้ ฉันจะไว้ชีวิตนายและตระกูลหลีซะ!”
หยางเฉินพยายามอย่างมากเพื่อระงับความโกรธของตน เขาจ้องมองไปที่หลีเจ๋อพร้อมกับกล่าวออกมา
เขาไม่เคยคิดเลยว่าหลีเจ๋อจะหาคนมาพาตัวฉินซีไป
“หยางเฉิน ตอนนี้ภรรยาของนายอยู่ในเงื้อมมือของฉัน นายยังกล้าที่จะมาปากดีอีกเหรอ?”
ใบหน้าของหลีเจ๋อเต็มไปด้วยการเหน็บแนม ปืนโคลท์คิงคอบร้าในมือจ่อไปที่ขมับของฉินซี
ดวงตาของฉินซีเต็มไปด้วยความกลัว ร่างกายของเธอสั่นเทาไปทั้งตัว
เมื่อเห็นใบหน้าและท่าทางที่ดูหวาดกลัวของภรรยา หยางเฉินรู้สึกว่าหัวใจของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ
เขาจ้องไปที่หลีเจ๋อและพยายามพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่สุด “หลีเจ๋อ คิดว่าทำเพื่อตระกูลหลีเถอะ นายอย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่นเลย!”
“หยางเฉิน มึงยังกล้าดีมาขู่กูอีกเหรอวะ?ในเมื่อกูกล้าไปยุ่งกับผู้หญิงของมึงนั่นก็หมายความว่ากูทิ้งชีวิตตัวเองไปแล้ว มึงจะเอาตระกูลหลีมาขู่กูทำไม มีประโยชน์เหรอ?”
ใครจะไปรู้ว่าอารมณ์ของหลีเจ๋อนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาที่แดงก่ำส่งเสียงร้องคำรามอันดังก้อง “คุกเข่า!คุกเข่าลงให้กูเดี๋ยวนี้!”
“คุกเข่าคำนับขอโทษ คุกเข่าขอโทษ ขอร้องให้ฉันปล่อยภรรยาของแกสิ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลีเจ๋อ ความตื่นตัวของฉินซีก็กระเสือกกระสนขึ้นมา “สามี อย่านะ อย่าไปขอร้องเขา!”
“คนคนนี้สติมันฟั่นเฟืองไปแล้ว ต่อให้นายจะคุกเข่าลง เขาก็ไม่ปล่อยพวกเราไปหรอก”
“สามี ถ้าฉันต้องตายจริงๆ นายจะต้องปกป้องลูกสาวของเราให้ดีนะ”
“คิดซะว่าเพื่อลูกสาวของเรา นายจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อนะ”
ฉินซีเองก็กระเสือกกระสนราวกับเป็นบ้าไปแล้วเช่นกัน
“หุบปาก!ฉันบอกให้เธอหุบปาก!”
หลีเจ๋อโอบแขนไว้รอบคอของฉินซีพร้อมกับคำรามเสียงดังลั่น
บรื้นบรื้นบรื้น!
ขณะนั้นเองก็มีเสียงเครื่องบนต์ดังกึกก้องไปทั่ว รถทีละคันค่อยๆกรูกันเข้ามาในโรงเรียนร้างแห่งนี้
สิบคัน!
สามสิบคัน!
ห้าสิบคัน!
หนึ่งร้อยคัน!
อย่างไรซะรถที่เข้ามาก็มีเกินกว่าร้อยคันแล้ว อีกทั้งยังมีรถที่ทยอยเข้ามาจากด้านนอกไม่หยุดหย่อน
ในรถทุกๆคันต่างมีชายร่างกำยำสี่ถึงห้าคนอยู่
เมื่อหลีเจ๋อเห็นฉากนี้เข้าก็ตกตะลึง เหตุเพราะความกลัวจึงทำให้ร่างกายของเขาสั่นเทาไปทั้งตัว
เขารู้ดีว่าหยางเฉินนั้นไม่ใช่เล่นๆ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถเรียกคนมาในระยะเวลาสามสิบกว่านาทีได้ขนาดนี้
ทูทูทู…
ในเวลานี้เอง ด้านบนของโรงเรียนร้างก็มีเสียงใบพัดดังขึ้นมา
เมื่อหลีเจ๋อเงยหน้าขึ้นไปมองก็ได้เห็นกับเฮลิคอปเตอร์สามลำที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้า
จนถึงตอนนี้ หลีเจ๋อนั้นรู้ดีแล้วว่าอะไรที่เรียกว่าความสิ้นหวัง
เดิมทีเขาคิดว่าหากฉินซีอยู่ในเงื้อมมือแล้ว หยางเฉินจะยอมให้จับโดยไร้ซึ่งการต่อสู้ใดๆ
แต่ในตอนนี้กลับมีคนมากมายแห่มาพร้อมกัน
นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญเลยก็คือท่ามกลางผู้คนมากมายเหล่านี้จะต้องมีมือปืนซุ่มยิงอยู่เป็นแน่
หากไม่ระวังตัวแม้แต่นิดเดียวก็อาจถูกระเบิดหัวให้ก็ได้
เดิมทีเขาคิดว่าเมื่อฆ่าหยางเฉินแล้วก็จะล่าถอยออกไป แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น ต่อให้ฆ่าหยางเฉินตายก็ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถออกไปอย่างคนมีชีวิตได้
สีหน้าของชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณสองคนที่อยู่ด้านหลังของหลีเจ๋อก็ดูเคร่งขรึม งานของพวกเขาก็คือช่วยหลีเจ๋อฆ่าหยางเฉินและรอจนหยางเฉินตายก็จะถึงเวลาตายของหลีเจ๋อต่อ
เรื่องนี้จะต้องไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเซว
แต่ตอนนี้มีคนจำนวนแห่กันเข้ามา ดูเหมือนว่าภารกิจของพวกเขาจะล้มเหลว
“ถอยไป!ให้ทุกคนถอยไป!”
หลีเจ๋อที่รู้ว่าตัวเองจะต้องตายจึงได้แต่ตะโกนออกไปอย่างอึกทึก “ไสหัวไปซะ!”
“หยางเฉิน รีบให้พวกเขาออกไปซะ ไม่เช่นนั้นฉันจะฆ่าภรรยาของนายซะ รีบให้พวกเขาออกไป!”
หลีเจ๋อถอยหลังพร้อมกับจับฉินซีไว้เพื่อหาที่กำบังอีกทั้งยังตะโกนคำรามใส่หยางเฉิน
“ปัง!”
ทันใดนั้นเอง เสียงปืนก็ได้ดังขึ้น
หลีเจ๋อที่จับฉินซีถอยหลังอยู่ ฝีเท้าก็ได้หยุดชะงักงันในทันใด จากนั้นระหว่างคิ้วของเขาก็มีรอยรูของเลือดอยู่
“อ่า…”
ฉินซีกรีดร้องออกมาเสียงดัง ดวงตาทั้งสองข้างเหลือกขึ้นพร้อมกับล้มหมดสติไป
“ลงมือ!”
ในเวลานี้เอง ชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณสองคนที่อยู่ด้านหลังของหลีเจ๋อก็ได้รีบวิ่งเข้าไปหาฉินซี
หน้าที่ของพวกเขาก็คือฆ่าหยางเฉิน ตอนนี้หลีเจ๋อก็ได้ถูกฆ่าไปแล้ว พวกเขาจะต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น
“ไสหัวไปซะ!”
ขณะที่เสียงปืนสไนเปอร์ดังขึ้น หยางเฉินก็ได้หายตัวไปจากที่ตรงนั้นแล้ว
ฉินซีที่ตกใจจนหมดสติลงไปกับพื้น แต่ยังไม่ทันที่ร่างจะตกถึงพื้น หยางเฉินก็ได้รีบเข้าไป
เพียงแต่ชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณทั้งสองคนนั้นมีพละกำลังมาก หยางเฉินที่กำลังอุ้มฉินซีอยู่จึงไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้กลับไป
“ปัง!”
“ปัง!”
ในความกระวนกระวายนี้ หยางเฉินทำได้เพียงปกป้องฉินซีไว้ในอ้อมแขนของตนและหันแผ่นหลังให้แก่ชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณทั้งสองคน
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณที่มีพละกำลังเกินต้านทั้งสองคนก็ได้พุ่งตรงเข้าไปที่ด้านหลังของหยางเฉิน
พลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ดูเหมือนว่าได้เข้าไปทำลายตับไตไส้พุงของหยางเฉินหมดแล้ว
หยางเฉินอาศัยพลังโจมตีของอีกฝ่ายช่วยอุ้มฉินซีออกจากตึกที่อยู่ห่างออกไปราวสิบเมตร
“พี่เฉิน!”
หม่าชาวรีบเข้าไปและถูกโจมตีจากชายแข็งแกร่งชุดสามัญชนโบราณสองคนทันที จากนั้นในขณะเดียวกันก็ได้พูดกับหยางเฉินว่า “ผมเอง!”
ปังปังปัง!
หลังจากที่หลีเจ๋อถูกมือปืนซุ่มยิงยิงและหยางเฉินได้เข้าไปช่วยฉินซี รวมถึงตอนที่หม่าชาวได้เข้าไปเผชิญหน้ากับศัตรู ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันที่ชายร่างกำยำที่อยู่บริเวณรอบๆจะมีการตอบสนองใดๆก็เห็นหม่าชาวนั้นเข้าไปต่อสู้ลงมือแล้ว
“พวกนายเป็นใครกัน?ตระกูลหลีนั้นไม่มีคนแข็งแกร่งแบบพวกนาย!”
หม่าชาวเผชิญหน้ากับชายแข็งแกร่งสองคนนี้และในไม่ช้าหมัดทั้งคู่ของเขาก็ไม่อาจต้านทานมือทั้งสี่ได้ เขาถูกโจมตีขับไล่ออกไป เขาจ้องมองไปที่สองคนนั้นด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมพร้อมกับถาม
แม้ว่าพวกเขานั้นเพิ่งจะต่อสู้กันแต่ความแข็งแกร่งของสองคนนั้นก็เกินความคาดเดาของหม่าชาว
หม่าชาวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสองคนนี้
สิ่งนี้ทำให้เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก หลังจากที่ออกมาจากแดนเหนือ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้
ท่ามกลางคนจำนวนมากเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจะมีเพียงหยางเฉินเท่านั้นที่สามารถต่อกรได้
“ฆ่า!”
ชายแข็งแกร่งทั้งสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองหม่าชาวแต่อย่างใด พวกเขาทั้งสองคนต่างรู้กันและเลือกที่จะโจมตีหม่าชาวซะ
“ฝากเสี่ยวซีด้วยนะ!”
หยางเฉินฝากฉินซีไว้กับเย่ม่าน
เย่ม่านตัวสั่นสะท้านพร้อมกับพูดรับประกันอย่างรวดเร็วว่า “วางใจได้เลย มีฉันอยู่จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเสี่ยวซีแน่นอน!”
“หยางเฉิน นายวางใจเถอะ พวกเราจะดูแลเสี่ยวซีเอง!”
อวี๋เหวินเกาหยางเองก็พาคนร่างกำยำเดินเข้ามาพร้อมกับพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง
หยางเฉินพยักหน้าพร้อมกับก้าวเดินไปยังสนามรบ
“นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ถอยออกมา!”
หยางเฉินเดินขึ้นไปด้านหน้า ร่างทั้งร่างนั้นเหมือนกับอสูรที่ผุดขึ้นมาจากนรก ทั้งตัวเต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่า