The king of War - บทที่ 782 เฉาชิงโง่เง่า
“นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
เฉาชิงถามอย่างโกรธเคือง ทันใดนั้นเขาก็มีข้อสงสัยบางอย่าง เจ้าของบาร์ไม่ได้ชี้แจงตัวตนของเขาในตอนนี้หรือไม่?
มิฉะนั้น หลังจากที่เป็นเจ้าตระกูลเดอะคิงที่สง่างามแล้ว หยางเฉินกล้าดีอย่างไรกับเขาเช่นนี้?
ตามบทของเขา ไม่ใช่หรือว่าหลังจากที่หยางเฉินรู้ว่าตัวตนของเขาแล้ว เขาก็คุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตาทันที แล้วส่งมอบผู้หญิงของเขาให้?
“นายเป็นคนตระกูลเดอะคิงตระกูลเฉาไม่ใช่เหรอ?”
หยางเฉินพูดอย่างเฉยเมย”ฉันไม่เพียงแต่รู้ว่านายมาจากตระกูลเฉา แต่ยังรู้ว่นายเป็นสมาชิกในตระกูลเฉา นายยังมีน้องชายที่เป็นทายาทของตระกูลที่มีชื่อว่าเฉาจื้อ”
“นายรู้ได้ไง?”
เฉาชิงถามโดยไม่รู้ตัว
เขาเพิ่งมาถึงเมืองเยี่ยนตูวันนี้ และเขายังไม่เคยพบเจอกับเฉาจื้อการมาที่เมืองเยี่ยนตูครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางที่ไม่ค่อยมีใครรู้ นอกจากน้องของเขาเอง และเฉาจื้อนอกจากนี้ก็ไม่มีใครรู้แล้ว
หยางเฉินไม่เพียงแต่รู้ว่าเขาเป็นคนของตระกูลไหน แต่ยังรู้ว่าเขาเป็นน้องชายของเฉาจื้อทายาทของตระกูล
“ฉันแค่จีบนิ้วคำนวณ ฉันก็รู้ทุกอย่างแล้ว” หยางเฉินพูดไปหัวเราะไป
เฉาชิงขมวดคิ้ว ถ้าเขาเชื่อจริงๆ ว่าหยางเฉินกำลังคำนวณอยู่ เขาคงเป็นคนงี่เง่าจริงๆ
“ไอ้หนู ในเมื่อนายรู้ว่าพี่ชายของฉันเป็นทายาทของตระกูลเฉา นายยังกล้าที่จะมาต่อโต้กลับฉันอีก ไม่กลัวพี่ชายของฉันรู้เหรอห้ะ แล้วฆ่านายให้ตาย!”
เฉาชิงหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องไปที่ หยางเฉินและถาม
หยางเฉินยิ้มอย่างแผ่วเบา“ฉันจะบอกนายนะ เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ฉันพึ่งตบหน้าพี่ชายนายไปแล้วหลายที?”
“นายว่าไปเรื่อย!”
เฉาชิงเริ่มโกรธและไม่เชื่อว่าหยางเฉินกล้าตบเฉาจื้อ
เฉาจื้อในฐานะทายาทขอบ้านสาม บอดี้การ์ดรอบตัวเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของตะกูล และบอดี้การ์ดเหล่านั้นปกป้องเฉาจื้อเป็นการส่วนตัวอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ในเมืองหลวงเมืองเยี่ยนตูนี้ ใครสามารถตบหน้าเฉาจื้อได้!
“ไอ้หนู ถ้านายพูดโม้ ฉันจะตัดลิ้นนาย!”
เฉาชิงพูดอย่างโกรธเคือง“เดิมที ฉันคิดที่จะให้ผู้หญิงของนายอยู่กับฉันคืนเดียว แต่ถ้านายกล้าพูดจาหยาบคายและดูถูกพี่ชายของฉัน ฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่”
“คนโง่เขลาไม่มีความกลัว ฉันแนะนำให้นายโทรหาพี่ชายของนายก่อน มิฉะนั้นนายจะต้องเสียใจทีหลัง”
หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
“ก็ได้ ในเมื่อนายอยากตาย ฉันจะจัดให้”
เฉาชิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรออก และพูดว่า “พี่ชายของฉันโหดกว่าฉันเยอะเลยนะ สิ่งที่นายพูดตอนนี้ก็เพียงพอแล้วที่พี่ชายของฉันจะฆ่านาย”
ระหว่างตอบพูด โทรศัพท์ก็โทรติด
“พี่ชาย ฉันมาถึงเมืองเยี่ยนตูแล้ว และได้พบกับไอ้เด็กที่หยิ่งผยองที่ บาร์หงเหยียน”
“เขาต่อยคนของเราในบาร์หงเหยียน และแม้แต่ขาของเจ้าของก็ยังหักโดยเด็กนี้อีกด้วย”
“เขาขู่ด้วยว่าแม้ว่านายเห็นเขา นายก็จะคุกเข่าขอความเมตตา เขายังบอกด้วยว่านายเป็นคนขี้กลัวขนะ เขากำลังรออยู่ที่นี่ นายก็ไม่กล้ามาหาเขา”
เฉาชิงพูดซ้ำเติมเข้าไปด้วย โดยไม่ได้พูดถึงชื่อ หยางเฉินเลย
แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้พูดถึงชื่อหยางเฉิน แต่เขายังไม่รู้ชื่อหยางเฉิน
แน่นอนว่าคำพูดของเขาจะทำให้เฉาจื้อโกรธอย่างมาก
“ใช่ ที่บาร์หงเหยียน เขายังขู่ว่าจะขอให้นายพาคนมาเพิ่ม เขาไม่ไปไหน และจะรอให้นายคุกเข่าขอความเมตตาที่ บาร์หงเหยียน”
เฉาชิงพูดอีกครั้งแล้ววางสาย
“ไอ้หนู ฉันจะบอกนาย นายตายแน่ พี่ชายของฉันโกรธมาก และรีบพาคนมาที่บาร์หงเหยียนอีกด้วย”
เฉาชิงพูดอย่างเย่อหยิ่ง“แม้ว่าจะเป็นแปดประตูแห่งเยี่ยนตูก็ตาม ถ้าเป็นพี่ชายของฉัน พวกเขาก็เป็นแค่หมาตัวหนึ่งที่คิดตามพี่ชายฉัน”
“ยิ่งเป็นนายอีก? รอพี่ชายฉันมา พรุ่งนี้นายจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์อีกด้วยซ้ำ”
“แต่ไม่ต้องกังวล รอนายตายแล้ว ฉันจะดูแลผู้หญิงของนายอย่างดี”
“ฮ่าฮ่า เซี่ยเหอ ไม่ต้องกังวล ฉันอ่อนโยนมาก ฉันยังมีกลุ่มพี่น้องที่ดื้อรั้น เมื่อฉันเบื่อที่จะเล่น ฉันจะมอบคุณให้กับพี่น้องที่ดื้อรั้นและทำให้คุณเป็นเจ้าสาวทุกคืน”
ใบหน้าของ เฉาชิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่น่าขยะแขยง เซี่ยเหอตัวสั่นด้วยความโกรธ”ไอ้สารเลว! ไอ้สารเลว!”
เจตนาสังหารฉายแววในดวงตาของหยางเฉิน“หากนายกล้าดูหมิ่น เซี่ยเหออีกครั้ง ก่อนที่พี่ชายของนายจะมา ฉันจะตัดลิ้นของนายก่อน”
เฉาชิงกำลังจะอ้าปากพูด แต่เขาถูกบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ หยุดไว้ กระซิบที่หูของเขาว่า “อย่าใจร้อนครับ เขาสามารถทำลายขาของท่านได้ ดูจากการเตะแก้วไวน์ที่ทำให้เจ้าของบาร์ขาหัก แสดงว่าหมอนั้นแข็งแกร่งจริงๆ”
“รอคุณชายเฉามา ท่านอยากจัดการหมอนี้ยังไงก็แล้วแต่ท่านเลยครับ มันจะปลอดภัยกว่าครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดขอบอดี้การ์ด เฉาชิงก็ปิดปากของเขา แต่เมื่อเขามองไปที่ หยางเฉิน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
เขาได้เริ่มวางแผนในใจแล้วว่าจะทรมานหยางเฉินอย่างไร
“หยางเฉิน ไม่สนใจฉันเลย ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ คุณจะสามารถจากไปอย่างปลอดภัย”
เซี่ยเหอพูดด้วยดวงตาแดงๆ “ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไว้คนเดียว แล้วไปจากที่นี่โดยเร็วโอเคไหม?”
“ไม่โอเค!”
หยางเฉินส่ายหัว“ฉันพูดไปหมดแล้ว แม้ว่าราชาแห่งสวรรค์จะอยู่ที่นี่ ก็ไม่สามารถทำไรฉันได้ คุณไม่เชื่อใจฉันเหรอ?”
เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของหยางเฉิน เซี่ยเหอก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
หลังจากงงอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กัดริมฝีปากสีแดงและพยักหน้า“ฉันเชื่อใจคุณ!”
แม้แต่ เซี่ยเหอก็ไม่รู้ว่าทำไม คำพูดของ หยางเฉินดูเหมือนจะมีพลังวิเศษ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอย่างไร พวกเขาก็ไม่มีโอกาสชนะ แต่คำพูดของ หยางเฉิน สามารถโน้มน้าวใจเธอได้
ดูเหมือนว่าตราบใดที่ผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้างเขา ก็ไม่มีใครสามารถรังแกเธอได้
แต่ในไม่ช้า ใบหน้าที่ไร้เดียงสาและน่ารักก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธอ เมื่อนึกถึงเสี้ยวเสี้ยว เธอก็ได้ขจัดความคิดที่ไม่สมจริงบางอย่างในใจออกไป
เมื่อเขามองไปที่หยางเฉินอีกครั้ง ใบหน้าของเธอยังรู้สึกผิดเล็กน้อย
เวลาผ่านไปทีละนิดทีละน้อย และในเวลาเพียงสิบนาที เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นที่ทางเข้าบาร์
“พี่ชาย ในที่สุดนายก็มาถึงแล้ว!”
เฉาชิงดีใจมากเมื่อเห็นคนที่กำลังมา และรีบก้าวไปข้างหน้า
“ไอ้เด็กน้อย!กลับมาก็ไม่มาหาฉัน มาสนุกนี่เอง”
เฉาจื้อตบไหล่ของ เฉาชิงอย่างหนักและพูดด้วยท่าทางไม่พอใจ
เห็นได้ชัดว่าพี่น้องสนิทกันมาก
“พี่ นายอย่าโทษฉันได้ไหม! ตอนแรกฉันมาที่นี่เพื่อดื่มและกำลังจะไปหานาย”
เฉาชิงพูดแต่งเติมเข้าไป และชี้ไปที่ หยางเฉิน”ฉันไม่คิดว่าจะเจอคนโง่เง่าคนนี้ที่นี่ และขู่ว่าจะทำให้นายต้องคุกเข่าไหว้และขอความเมตตา”
ดวงตาของ เฉาชิงเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ราวกับว่าเขากำลังบอก หยางเฉินว่านี่เป็นผลมาจากการต่อต้านเขา
“ไอ้หนู นายกล้าดียังไง จะให้ฉัน เฉาจื้อคุกเข่าลงขอความเมตตา?”
เฉาจื้อไม่ได้เห็นใบหน้าของ หยางเฉินอย่างชัดเจน และในขณะที่เดินไปหา หยางเฉิน เขาก็พูดว่า “นายเป็นอะไร กล้า…”
เพียงแต่เขาก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าว และคำพูดที่โหดร้ายที่เขากำลังจะพูดก็ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป
เพราะเขาได้เห็นใบหน้าของหยางเฉินอย่างชัดเจนแล้ว และเขาก็รู้สึกประหลาดใจในทันที
“ไอ้หนู เมื่อกี้นายยังกล้าดีไม่ใช้เหรอ ที่ขู่ว่าจะให้พี่ชายฉันจะคุกเข่าขอความเมตตา?”
“ตอนนี้พี่ชายของฉันอยู่ที่นี่แล้ว นายยังกล้าดีอีกเหรอ?”
“กล้าให้พี่ชายฉันคุกเข่าขอความเมตตา นายเอาความกล้ามาจากไหนห้ะ?”
เฉาชิงไม่ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกบนใบหน้าของเฉาจื้อเมื่อเฉาจื้ออยู่กับเขา เขาก็ยิ่งจองหองมากขึ้น เดินตรงไปหาหยางเฉิน และจะเอื้อมมือไปตบหยางเฉิน