The king of War - บทที่ 798 เซี่ยเหอระเบิดอารมณ์
ก่อนที่อู๋เทียนโย่วจะได้พูดอะไร หญิงสาวปากร้ายคนนั้นก็พูดอย่างประชดประชัน “ที่แท้ก็เป็นแฟนคุณเองเหรอ? เซี่ยเหอ รสนิยมคุณไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เลยนะ จะยังไงก็เป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง ทำไมถึงได้คบแฟนไม่เลือกแบบนี้?”
ผู้หญิงอีกคนกล่าวเยาะเย้ย “เซี่ยเหอ คุณนี่ล้อเล่นเก่งนะ พี่เทียนโย่วจะเชิญแฟนคุณมากินข้าวตามลำพังได้ยังไง? แฟนคุณเป็นใครเหรอ เขามีดีนักเหรอ?”
“อู๋เทียนโย่วคุณพูดให้ชัดเจนเดี๋ยวนี้!”
เซี่ยเหอจ้องเขม็งใส่อู๋เทียนโย่วและคาดคั้นถาม
อู๋เทียนโย่วยิ้มๆ “เซี่ยเหอ ผมคิดว่าคุณต้องเข้าใจอะไรผิดบางอย่าง ผมบอกว่าผมจะเชิญคุณมากินข้าว แต่ไม่ได้บอกจะเชิญแฟนคุณไปกินข้าว เรื่องขอโทษเขายิ่งเป็นไปไม่ได้เลย”
“พี่ชายท่านนี้ ต้องขอโทษด้วย คืนนี้เป็นงานเลี้ยงของทีมงานละคร คุณก็เห็นแล้ว เพื่อนๆ ของผมไม่ชอบคุณ”
“จะว่าไปแล้ว ที่นี่คือร้านอาหารแซ่เฉิน ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคุณสมบัติเข้ามารับประทานอาหารที่นี่ แค่พวกเราจองห้องส่วนตัว ก็เสียค่าใช้จ่ายถึงสองแสนแล้ว”
“ถ้าคุณอยากกินข้าวที่นี่จริงๆ รอให้งานเลี้ยงของพวกเราเลิกก่อน ค่อยให้เซี่ยเหอห่ออาหารที่พวกเรากินเหลือให้คุณ เพื่อเห็นแก่หน้าของเซี่ยเหอ เราจะให้คุณมีลาภปากแน่”
“ฮ่าๆๆๆ…”
พอได้ยินคำพูดของอู๋เทียนโย่วทุกคนก็พากันหัวเราะ
นอกจากหยางเฉินและเซี่ยเหอ คนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะ
หยางเฉินมองไปยังทุกคนที่กำลังหัวเราะลั่น แล้วรู้สึกว่ามันน่าขำ
คนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นทีมงานละคร หากพวกเขารู้ว่าประธานคนปัจจุบันของซิงเฉินมีเดียคือหยางเฉิน พวกเขาจะยังหัวเราะออกไหม?”
“อู๋เทียนโย่วคุณทำเกินไปแล้ว!”
เซี่ยเหอตัวสั่นด้วยความโกรธ
ทำให้ผู้หญิงใสซื่อจิตใจดีโกรธจนอยู่ในสภาพนี้ได้ แค่คิดก็รู้แล้วว่า เซี่ยเหอนั้นโกรธมากแค่ไหน
“เซี่ยเหอ คุณอย่าหาว่าพี่เทียนโย่วพูดจาไม่น่าฟังเลยนะ มันคือความจริง”
ผู้หญิงนั่งอยู่ทางด้านขวาของอู๋เทียนโย่วกล่าวยิ้มๆ “คนเราต้องรู้จักประมาณตน พวกเราเป็นนักแสดงละครใหม่ แม้ตอนนี้จะไม่ได้โด่งดังอะไรมาก แต่หลังจากที่ละครเรื่องนี้ได้ออกอากาศ พวกเราจะดังระเบิดไปเลยล่ะ”
“ดังระเบิด นั่นก็หมายความว่าค่าตัวจะพุ่งกระฉูด ถึงอย่างไรคุณเป็นหนึ่งในทีมงานละครของเรา ถ้าจะหาแฟน ก็ต้องหาคนที่มันเหมาะสมหน่อย”
ผู้หญิงอีกคนก็พูดขึ้นเช่นกัน “ใช่แล้ว อย่างเช่นผู้ชายอย่างพี่เทียนโย่ว ไม่เพียงแต่แสดงเก่ง มีออร่า แถมยังมีภูมิหลังที่เพียบพร้อม”
“คนที่ยืนอยู่ข้างคุณเป็นใครมาจากไหนกัน? รวมกันทั้งตัวสงสัยจะมีมูลค่าไม่ถึงพันด้วยซ้ำ?”
“ร้านอาหารแซ่เฉินเป็นหนึ่งในร้านอาหารชั้นนำในเมืองเยี่ยนตู คนธรรมดาทั่วไปไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามา พี่เทียนโย่วยินดีให้คุณห่ออาหารที่พวกเรากินเหลือกลับไปให้แฟนของคุณ คุณต้องยกย่องเขาสิ รู้ไหม?”
นักแสดงภายในห้องส่วนตัวพากันเยาะเย้ยถากถางหยางเฉิน
“หุบปากนะ!”
ในที่สุดเซี่ยเหอก็ระเบิดออกมา ตวาดใส่ด้วยความโกรธ
ครู่หนึ่ง ภายในห้องส่วนตัวก็เงียบสงัด ไม่มีใครคาดคิดว่าเซี่ยเหอจะโกรธมากถึงเพียงนี้
เพราะเซี่ยเหอเป็นนักแสดงใหม่ ไม่ได้เรียนจบทางด้านการแสดงมาโดยเฉพาะ แต่กลับได้เป็นนางรองในละคร และความนิยมของละครเรื่องนี้ก็มาจากเซี่ยเหอ
ทุกคนในที่รู้ดี แต่พวกเขาไม่อยากยอมรับมันเท่านั้นเอง
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เซี่ยเหอเปรียบเสมือนลูกแกะตัวน้อย แม้ว่าเธอจะเป็นนางรอง แต่กลับไม่มีใครเห็นเธออยู่ในสายตา
และเซี่ยเหอก็มักจะทำตัวเป็นลูกแกะตัวน้อยหัวอ่อน ไม่เคยโกรธใคร
“อู๋เทียนโย่วคุณมันไอ้คนเลวทรามต่ำช้า!”
เซี่ยเหอจ้องหน้าอู๋เทียนโย่วด้วยความโกรธ ตะโกนใส่ด้วยดวงตาแดงก่ำ “ก็คุณบอกฉันเองว่าจะชวนแฟนของฉันมากินข้าว คุณยังบอกว่าอีกว่าคุณสำนึกผิดแล้ว ต้องการขอโทษแฟนฉัน”
“แต่นึกไม่ถึงคุณจะต่ำช้าแบบนี้ ฉันจะบอกคุณให้นะ ต่อให้ชาตินี้ฉันจะไม่ได้แต่งงาน ฉันก็จะไม่มีวันชายตาแลคุณ!”
หลังจากเซี่ยเหอระบายอารมณ์ใส่อู๋เทียนโย่วแล้ว ก็กวาดสายตามองไปยังคนอื่นๆ ด้วยความโมโห “พวกคุณด้วย ในเวลาที่อยู่ในกองละคร ฉันเชื่อฟังพวกคุณทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้ความจริงใจของพวกคุณกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว”
“พวกคุณคิดว่าคนซื่อๆ รังแกได้ง่ายๆ งั้นเหรอ? ฉันไม่ใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ แต่ไม่อยากจะถือสาหาความพวกคุณ!”
“วันนี้ฉันจะพูดไว้ตรงนี้เลย ต่อไปใครก็อย่าได้คิดรังแกฉัน มิฉะนั้นฉันจะไม่ปล่อยไปแน่!”
“พวกคุณไปอธิษฐานดีกว่า ให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ไม่มีทางดังขึ้นมาได้ตลอดกาล!”
พูดจบเซี่ยเหอก็คว้ามือหยางเฉินขึ้นมา “หยางเฉิน พวกเรากลับกันเถอะ!”
หยางเฉินยิ้มเจื่อนๆ ความจริงเขาไม่ได้อยากจะถือสาหาความพวกทีมงานละครพวกนั้น ถ้าให้หยางเฉินคอยคิดเล็กคิดน้อยกับคนตัวเล็กๆ ทุกคน วันๆ หยางเฉินคงไม่ต้องทำมาหากินแล้ว?
แต่หยางเฉินชื่นชมท่าทีอันแข็งแกร่งและคำพูดที่ข่มขวัญเมื่อครู่มาก
ต้องทำแบบนี้เท่านั้น ถึงจะทำให้คนเหล่านั้นรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะมารังแกได้ง่ายๆ ไม่เช่นนั้นเซี่ยเหอคงไม่เหมาะที่จะอยู่ในวงการบันเทิง
ตอนนี้คนที่คบหากับเธอเป็นนักแสดงที่ไม่ค่อยโด่งดังมากนัก ต่อไปหากเธอโด่งดังขึ้นมา ก็อาจจะได้พบกับการต่อสู้ฟาดฟันและคนไม่ดีมากขึ้นกว่านี้
“เซี่ยเหอ เดี๋ยวก่อน!”
เมื่อเห็นว่าเซี่ยเหอกำลังจะพาหยางเฉินออกไป อู๋เทียนโย่วก็ลุกขึ้นตะโกนเรียก
เซี่ยเหอขมวดคิ้ว มองไปที่อู๋เทียนโย่วและพูดว่า “คุณจะเล่นลูกไม้อะไรอีก?”
อู๋เทียนโย่วยิ้มเยาะ “เซี่ยเหอ มันจำเป็นด้วยเหรอ? ทุกคนก็อยู่ในทีมละครเดียวกัน ต่อไปอีกหลายเดือนทุกคนก็ยังต้องทำงานด้วยกัน”
“ผมก็แค่ล้อเล่นกับพี่หยางเฉินเท่านั้น เขาเป็นแฟนของคุณ ผมจะปล่อยให้เขาได้กินอาหารเหลือได้ยังไงล่ะ?”
อู๋เทียนโย่วพูดจบก็เดินเข้าไปหาอย่างกระตือรือร้น ดึงแขนของหยางเฉินและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่หยาง เมื่อกี้ผมผิดไปแล้ว ไม่สมควรล้อเล่นแบบนั้นเลย”
“คุณคงไม่คิดถือสาหาความกับเด็กๆ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ดีไหม?”
อู๋เทียนโย่วพูดจบก็หยิบแก้วไวน์แดงมาจากโต๊ะอาหาร แล้วดื่มจนหมด
“แก้วนี้ ถือว่าเป็นคำขอโทษที่ผมมีให้พี่หยาง พี่หยางคงจะไม่ปฏิเสธหรอกนะ?”
หยางเฉินมองไปที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มของอู๋เทียนโย่วแล้วยิ้มมุมปากออกมาอย่างมีความหมาย “จะให้อภัยคุณหรือเปล่า มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม มันขึ้นอยู่กับแฟนของผม!”
ได้ยินเช่นนั้นอู๋เทียนโย่วก็ตกตะลึง และเข้าใจความหมายของหยางเฉินในทันที
เขาเทแก้วไวน์แดงอีกแก้วและมองไปที่เซี่ยเหอ “เซี่ยเหอ เมื่อกี้ผมพูดล้อเล่นกับพี่หยาง ผมรู้ว่ามันเกินไปหน่อย คุณดูสิ ผมขอโทษพี่หยางแล้วนะ แก้วนี้ก็ถือว่าเป็นการขอโทษคุณ”
จากนั้นเขาก็ดื่มจนหมดและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เซี่ยเหอ ได้โปรดยกโทษให้ผมสักครั้ง ได้ไหม?”
แม้ว่าอู๋เทียนโย่วจะได้ขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไปแล้ว แต่เซี่ยเหอก็ยังคงโกรธมาก “ตอนนี้คุณบอกทุกคนซิว่า คุณนัดฉันกับแฟนออกมาเพื่อขอโทษเขาหรือเปล่า?”
ประกายความชั่วร้ายฉายผ่านดวงตาอันลุ่มลึกของอู๋เทียนโย่วแต่ดูภายนอกยังคงเป็นใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
เขาพยักหน้าซ้ำๆ และกล่าวว่า “ใช่ๆๆ คุณว่ายังไงก็ยังงั้นแหละ ผมให้คุณนัดพี่หยางออกมา ผมต้องการขอโทษเขา”
“พี่หยาง ผมขอโทษ ผมไม่ควรเสียมารยาทกับคุณเมื่อวานนี้ ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง”
อู๋เทียนโย่วพูดพลางโค้งคำนับให้หยางเฉินอย่างคาดไม่ถึง