The king of War - บทที่ 808 เซี่ยเหอไม่ได้รับความเป็นธรรม
อู๋เทียนโย่วหรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย มองไปที่ผู้กำกับหวางและพูดว่า “ผู้กำกับหวาง พวกเราพูดตามตรงว่า คุณอยากให้พวกเรากลับไปกองละครตอนนี้ไม่ใช่ว่าไม่ได้ ”
“ผมก็จะไม่ทำให้คุณต้องลำบากใจที่ต้องไล่เซี่ยเหอออกจากกองละคร แต่คุณต้องยอมรับเงื่อนไขของผมสองข้อ พวกเราก็จะกลับไปกองละครถ่ายละครต่อตอนนี้เลย”
ผู้กำกับหวางรีบพูดขึ้นว่า “ได้ คุณพูดมาเลย !”
“เงื่อนไขข้อแรก คือ ค่านักแสดงนำของพวกเราทั้งหมดจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่า ยกเว้นของเซี่ยเหอ”
อู๋เทียนโย่วพูดขึ้น
ผู้กำกับหวางอึ้งอยู่ชั่วครู่ ถึงแม้จะรู้สึกว่า อู๋เทียนโย่วพูดเพราะความโลภมาก แต่ก็เข้าใจได้
ค่าตอบแทนในตอนนี้คือค่าตอบแทนที่ตกลงกันไว้ก่อนเริ่มถ่ายละครเรื่องนี้ แต่เพราะว่าเซี่ยเหอทำให้ละครเรื่องนี้ฮิต และเรื่องของหลิ่วเหมยเมื่อวานนี้ก็ยิ่งทำให้ละครเรื่องนี้ฮิตเข้าไปอีก
จะให้ผู้กำกับเพิ่มค่าจ้างนักแสดงเป็นสองเท่าก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“เรื่องนี้ ผมไม่สามารถตอบคุณได้ในตอนนี้ แต่ผมรับประกันได้ว่าผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยพวกคุณพูดในเรื่องนี้ แต่จะสำเร็จหรือเปล่า ผมก็ไม่รับประกัน”
ผู้กำกับหวางตอบกลับและถามขึ้นอีกว่า “คุณลองบอกเงื่อนไขข้อที่ 2 มาก่อนสิ ถ้าผมทำให้ได้ แล้วผมจะติดต่อบริษัทเรื่องเพิ่มเงินค่าจ้างให้ ”
“ผู้กำกับหวางสุดยอด! ”
อู๋เทียนโย่วหัวเราะอย่างมีความสุข และคนอื่นๆ ต่างก็มีสีหน้าตื่นเต้นดีใจ
“เงื่อนไขข้อที่ 2 ก็คือ หลิ่วเหมยถูกถอดออกจากกองละครแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องมีการเลือกนักแสดงที่จะรับบทเป็นนางเอกใหม่ ดังนั้น ให้ผมเป็นคนเลือกนักแสดงนำหญิงคนใหม่ !”
อู๋เทียนโย่วพูดขึ้นอีกว่า “และคุณสบายใจได้เลยว่านักแสดงนำหญิงที่ผมหามาเหมาะสมกว่าหลิ่วเหมยแน่นอน ”
ผู้กำกับหวางสีหน้าลำบากใจในทันใด เดิมทีเขาตัดสินใจว่าวันนี้จะบอกอู๋เทียนโย่วเรื่องที่จะให้เซี่ยเหอรับบทนางเอก
แต่นึกไม่ถึงเลยว่า อู๋เทียนโย่วคิดจะหานางเอกใหม่
เซี่ยเหอมีสีหน้าสงบเพราะเธอไม่เคยคิดที่จะเป็นนางเอก
เดิมทีเธอเกิดมาจากรากหญ้า และนี่เป็นละครเรื่องแรกของเธอ และเธอรู้สึกพอใจแล้วที่ได้เป็นนางเอกรอง
สำหรับเธอแล้ว การถ่ายทำละครเรื่องนี้ทำให้เธอพอใจแล้วที่สามารถทำให้เธอได้พัฒนาทักษะการแสดงและได้เรียนรู้ความรู้ด้านการแสดง
“เทียนโย่ว ผมรู้ว่าคุณทำเพื่อกองละคร แต่คุณก็น่าจะรู้ดีว่า ตอนนี้บนอินเทอร์เน็ตต่างเรียกร้องอยากให้เซี่ยเหอเป็นนางเอกมาก ”
ผู้กำกับหวางพูดขึ้นว่า “และอีกอย่างพวกคุณก็เคยเล่นด้วยกัน ถ้าหากจับคู่พวกคุณ CP จะต้องวินวินทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน”
“ฉันไม่เห็นด้วย! ”
“ผมไม่เห็นด้วย! ”
ทันทีที่ผู้กำกับหวางพูดจบ เสียงโต้แย้งสองเสียงก็ดังขึ้นติดๆกัน
เสียงแรกคือเสียงของเซี่ยเหอเสียงที่สองคือเสียงของอู๋เทียนโย่ว
“ผู้กำกับหวาง ฉันคุ้นเคยกับบทนางเอกรองแล้ว จะให้เปลี่ยนบทกะทันหันและอีกอย่างให้เป็นนางเอก ฉันไม่มีความมั่นใจหรอกค่ะ”
เซี่ยเหอพูดด้วยสีหน้าแน่วแน่
มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเป็นนางเอก แต่ไม่อยากเป็นคู่กับอู๋เทียนโย่ว
ถ้าหากกองละครจะให้เธอกับอู๋เทียนโย่วเป็นพระนางในละครคู่กัน เธอยอมที่จะลาออกจากละครเรื่องนี้ซะดีกว่า
อู๋เทียนโย่วยิ้มเยาะ “ถือว่าเธอรู้ตัวดี”
ผู้กำกับหวางสีหน้าไม่ดีและพูดโน้มน้าวว่า “เซี่ยเหอคุณอย่าดูถูกตัวเอง แม้ว่าคุณจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่คุณทำงานหนักมาก และทักษะการแสดงของคุณก็ดีมากด้วย ฉันเชื่อว่าถ้าคุณมาเป็นนางเอก ละครเรื่องนี้จะได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างแน่นอน”
“และอีกอย่าง ตอนนี้แฟนคลับจำนวนมากก็เรียกร้องให้คุณมารับบทนางเอก นี่คือสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง ! ”
“ถ้าหากคุณปฏิเสธรับบทนางเอก เกรงว่ามันจะมีผลกระทบต่อความนิยมของละครเรื่องนี้ ไม่แน่ว่าแฟนคลับอาจจะเข้าใจว่ากองละครกดดันคุณ และจะเกลียดกองละครได้ ”
อู๋เทียนโย่วรีบพูดขึ้นว่า “ผู้กำกับหวาง คุณก็พูดเว่อร์ไปหน่อยหรือเปล่า? อะไรมันจะขนาดนั้น? ”
“ฉันไม่ปฏิเสธเรื่องที่แฟนคลับจำนวนมากอยากให้เซี่ยเหอรับบทนางเอก แต่เซี่ยเหอก็เป็นแค่นักแสดงหน้าใหม่ ”
“ไม่ว่าเธอจะเก่งขนาดไหนก็เทียบกับนักแสดงรุ่นก่อนอย่างพวกเราไม่ได้ จริงไหม ? ”
“พูดกันตามตรง ผมได้ติดต่อเนี่ยหย่าฉีแล้ว และเธอเองก็ตอบรับมารับบทนางเอกในละครของพวกเรา”
“ผู้กำกับหวางคงไม่คิดว่าเนี่ยหย่าฉีหนึ่งในสี่นักแสดงหญิงรุ่นเยาว์แห่งจีนจะไม่โด่งดังเท่าเซี่ยเหอใช่ไหม? ”
เมื่อได้ยินที่อู๋เทียนโย่วพูด ทุกคนต่างก็มีสีหน้าตกใจ
แม้แต่ผู้กำกับหวางก็เบิกตากว้างและพูดด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อว่า “เนี่ยหย่าฉีเต็มใจจะมาร่วมงานกับกองละครเราจริงๆเหรอ? ”
อู๋เทียนโย่วพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ผู้กำกับหวางดูเหมือนคุณจะลืมไปแล้วว่าพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของผมเป็นใครใช่ไหม? พี่สาวผมเป็นทายาทตระกูลซุนและที่สำคัญที่สุดก็คือเธอกับ เนี่ยหย่าฉีเป็นเพื่อนสนิทกัน”
“แต่ค่าจ้างของเธอค่อนข้างสูง อยู่ที่กองละครจะเต็มใจจ่ายหรือเปล่า ”
ผู้กำกับหวางรีบพูดขึ้นว่า “เต็มใจสิ ! เต็มใจ! ขอแค่ค่าจ้างเธอไม่สูงจนเกินไป ยังไงบริษัทก็ต้องยอมอยู่แล้ว ! ”
“ถ้าอย่างนั้น ค่าจ้างของนักแสดงนำอย่างพวกเราก็สามารถเพิ่มเป็นสองเท่าได้แล้วใช่ไหม ? ” อู๋เทียนโย่วถามผู้กำกับหวางด้วยรอยยิ้ม
ผู้กำกับหวางพยักหน้างึกๆ “ได้สิ ได้แน่นอน ! ผมจะโทรหาบริษัทเดี๋ยวนี้เลย ”
ผู้กำกับหวางรีบโทรศัพท์แต่ก็วางสายเร็วมาก
“ผู้กำกับหวาง บริษัทว่ายังไงครับ ? ”
อู๋เทียนโย่วและคนอื่นๆ ต่างก็ตั้งตารอ
ผู้กำกับหวางพูดอย่างดีใจว่า “บริษัทตกลงแล้ว ขอแค่หยวนหย่าฉีเต็มใจเล่นละครโดยรับบทเป็นนางเอก ค่าจ้างของพวกคุณทุกคนทั้งหมดเพิ่มเป็นสองเท่า! ”
หยวนหย่าฉีหนึ่งในสี่นักแสดงหญิงรุ่นเยาว์แห่งจีน ตอนนี้กำลังโด่งดังมาก เว้นแต่จะเป็นภาพยนตร์หรือละครที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาลในการถ่ายทำ ถ้าไม่ใช่ก็จะไม่รับ ภาพยนตร์และละครที่หยวนหย่าฉีเป็นนางเอกต่างก็มีเรตติ้งสูงและรายได้สูงมาก
แค่คิดก็รู้แล้วเมื่อ หยวนหย่าฉีมาเข้าร่วมละครเทพสงครามผู้ชนะ ความนิยมของเว็บซีรีส์เรื่องนี้จะต้องพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน
อู๋เทียนโย่วได้สิ่งที่เขาอยากจะได้แล้ว ก็ไม่แสร้งทำต่อจึงลุกขึ้นทันใด
“ผู้กำกับหวาง รถคันนี้มี 7 ที่นั่ง รวมผู้กำกับหวางและคนขับแล้วก็เหลือเพียง 5 ที่นั่ง ดูเหมือนว่าจะเกินมา 1 คนนะ”
เซี่ยเหอกำลังจะเตรียมตัวขึ้นรถก็ถูกอู๋เทียนโย่วบังประตูรถไว้ พูดด้วยรอยยิ้ม
ผู้กำกับหวางก็เป็นคนหัวไวเหมือนกัน แม้ว่าเขาจะชื่นชมทักษะการแสดงและนิสัยของเซี่ยเหอมาก แต่เขาก็รู้ว่าอู๋เทียนโย่วตั้งใจพูดใส่เซี่ยเหอ
ดังนั้น เขาจึงมองไปที่เซี่ยเหอพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดว่า “เซี่ยเหอพวกเขาเข้าวงการก่อนคุณ ถือได้ว่าเป็นรุ่นพี่ของคุณ ถ้ายังไงคุณลำบากเรียกแท็กซี่กลับไปกองละครได้ไหม ? ”
พูดจบ ผู้กำกับหวางหยิบเงินร้อยหยวนออกมาแล้วยัดใส่มือของเซี่ยเหอ “นี่หนึ่งร้อยหยวนถือว่าเป็นค่าแท็กซี่นะ”
อู๋เทียนโย่วฉีกยิ้มมุมปากเบาๆ ยิ้มขึ้นด้วยความเจ้าเล่ห์ “เซี่ยเหอลำบากหน่อยนะ พวกเรารุ่นพี่ไปกองละครก่อนนะ คุณอย่ามาสายนะ ไม่อย่างนั้นกองละครจะหักเงินค่าจ้างของคุณนะ ”
ดวงตาของเซี่ยเหอแดงก่ำ น้ำตาเอ่ออยู่ในดวงตาคู่นั้น แล้วก็ทิ้งเงินร้อยหยวนที่ได้บนตัวผู้กำกับหวางตรงที่นั่งข้างคนขับ “ผู้กำกับหวาง ค่าแท็กซี่เพียงสิบหยวนฉันจ่ายเองได้ !”
หลังจากพูดจบ เซี่ยเหอก็หันหลังเดินจากไป
มองรถตู้ขับออกไป เซี่ยเหอก็ไม่สามารถควบคุมน้ำตาตัวเองได้อีกต่อไป “ทำไม ? ฉันยอมให้พวกเขาแล้ว ทำไมพวกเขาต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วย?”
เซี่ยเหอรู้สึกน้อยใจมาก เป็นครั้งแรกที่เธออยากจะลาออกจากกองละคร
บางทีเส้นทางสายนี้อาจไม่เหมาะกับเธอ!