The king of War - บทที่ 824 ซุนจื้อเจียวจู่โจมมา
“อู๋เทียนอิ้วได้ถูกตัดออกจากทีมงานการละครแล้ว เขาไปเรียกพื่สาวลูกพี่ลูกน้องเขามา จะทำอะไรของเขา?”
“เห็นบอกว่าพี่สาวลูกพี่ลูกน้องเขาคนนี้คือซุนจื้อเจียวลูกหลานสายตรงของตระกูลซุน ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้จัดการใหญ่ของซิงเฉินมีเดียนะ”
“ถ้างั้น การที่ซุนจื้อเจียวมานี่ ก็คงจะมาออกหน้าแทนอู๋เทียนอิ้วมัง?”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง น่ากลัวเซี่ยเหอจะหาเรื่องใส่ตัวแล้วละทีนี้”
……
เจ้าหน้าที่ทีมงานการละคร ซุบซิบกันเสียงเบา ๆ
ซุนจื้อเจียวมองยังไม่หันไปมองอู๋เทียนอิ้วเอาเลย สายตาทั้งคู่กวาดมองหาใครสักคนในกลุ่มอยู่
ไม่ทันไร สายตาของหล่อนก็จ้องติดที่เซี่ยเหอที่กำลังถ่ายหนังอยู่ มุมปากเชิดขึ้นเล็กน้อย ส่อรอยยิ้มของความหลงละโมบ “มิน่าถึงได้รุ่งขึ้นมาได้อย่างฉับพลันไม่ทันไร ก็เป็นสาวสวยมากจริงด้วย ตัวจริงสวยกว่าภาพที่โพสต์อยู่ตามสื่อต่าง ๆ เสียอีก”
ซุนจื้อเจียวไม่ปิดบังความรู้สึกตะกละตะกรามของสายตา ภาพที่ทุกคนเห็นนั้น ทำให้หลายคนส่อความประหลาดใจบนใบหน้า ให้รู้สึกว่าสายตาของซุนจื้อเจียวที่มองดูเซี่ยเหอนั้นมีแววแปลก ๆ
“พี่สาว ผู้หญิงคนนั้นไงเซี่ยเหอ ไอ้แฟนหนุ่มของนังคนนี้แหละ ที่เอาคลิปวีดีโอและคลิปเสียงผมไปเปิดโปง ทำเอาเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา ทำลายเส้นทางสู่ดวงดาวของผมพังทะลายหมด”
อู๋เทียนอิ้วชี้มือไปที่เซี่ยเหอ พูดไปขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไป “พี่สาว พี่ต้องเป็นธุระจัดการให้ผมนะ!”
“หลีกไป!”
ซุนจื้อเจียวตบใส่หน้าอู๋เทียนอิ้ว พูดว่าไปด้วยสีหน้าเย็นเยือก “สมนำหน้าแล้วที่แกหมดหนทางอนาคต คนถ่อยไร้ค่าอย่างแก ให้ตายไปเสียเลย ก็เป็นเรื่องสมควร”
“ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ฉันคิดถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของแม่แก มีหรือที่ฉันจะมายุ่งเรื่องไร้สาระของแก”
อู๋เทียนอิ้วรู้สึกถึงความแสบร้อนที่ใบหน้า แต่ด้วยเพราะเรื่องต่าง ๆ ยังต้องพึ่งพิงซุนจื้อเจียวช่วยเขา เขาจึงไม่กล้าเดือดโมโห ต้องฝืนเก็บกดไฟโกรธลงไป
“พี่สาว พี่วางใจได้ ขอเพียงครั้งเดียวนี้ ขอพี่ช่วยจัดการสั่งสอนเจ้าหยางเฉินนั่นให้สาแก่ใจผม ต่อไปผมจะไม่รบกวนพี่อีก”
อู๋เทียนอิ้วรีบพูด
ซุนจื้อเจียวทำเสียงฮึออกจมูก “ไป ไปตามเซี่ยเหอมาพบฉัน!”
อู๋เทียนอิ้วรู้สึกดีใจขึ้นมา รีบวิ่งตรงเข้าไปหาเซี่ยเหอ “เซี่ยเหอ พี่สาวผมขอพบเธอหน่อย รีบไปกับผมเดี๋ยวนี้เลย”
เซี่ยเหอกำลังเข้าฉากอยู่ จู่ ๆ ถูกอู๋เทียนอิ้วบุกเข้ามาลากแขน
“อู๋เทียนอิ้ว แกทำอะไรของแกนั่น?”
จู่ ๆ ก็ถูกขัดจังหวะการถ่ายทำ เซี่ยเหอโกรธขึ้นมาอย่างรุนแรง
หยวนหย่าฉีก็ได้เดินเข้ามา จ้องเครียดมองหน้าอู๋เทียนอิ้ว พูดใส่เสียงหนาวเยือก “อู๋เทียนอิ้ว แกก็ยังแน่มากนะ ถูกไล่ออกจากทีมงานการละครไปแล้ว ยังกล้ากลับมาอีกรึ?”
“แกเชื่อไหมว่าข้าแค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมา ก็จะให้นักข่าวเข้ามาได้ ให้แกรับการสัมภาษก์สดเลยเอามั้ย?”
เห้าเฉินกับพี่หู่ก็รีบเข้ามายืนขวางข้างหน้าเซี่ยเหอในทันที สายตาหนาวเยือกจ้องอู๋เทียนอิ้ว “ไอ้หนู รีบไสหัวออกไปซะ กล้าเข้ามารบกวนการถ่ายทำของเซี่ยเหอ เอ็งจะเบี้ยวเบื่อโลกไปแล้วหรือไง?”
ผู้กำกับหลี่ก็เดินเข้ามา ส่งเสียงสะบัดจมูก “ขนาดผู้กำกับหลี่อย่างข้า แกก็กล้ามาแหย่ อยากตายหรือไง?”
แต่ละขาใหญ่ที่มายืนขวางกันเซี่ยเหอนั้น สำหรับอู๋เทียนอิ้ว ล้วนบุคคลระดับยิ่งใหญ่
ตอนนี้แต่ละบิ๊กออกหน้ามากันขนาดนี้ เขาก็ให้รู้สึกกดดันจนหายใจไม่เต็มปอดเสียแล้ว
แต่หวนกลับคิดได้ว่าวันนี้มีซุนจื้อเจียวอยู่ เขาจึงผ่อนคลายลงไปได้บ้าง พูดเสียงเกรี้ยว “พวกแกหุบปาก!”
“พวกแกมันก็ไอ้พวกตัวแสดงกระจอกกระจอกเท่านั้น ต่อหน้าพี่สาวข้า พวกแกไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น”
“พี่สาวข้าต้องการให้เซี่ยเหอไปพบเดี๋ยวนี้ พวกแกไสหัวไปให้พ้น ไม่งั้นทำให้พี่สาวข้าไม่พอใจ ระวังพวกแกจะต้องถูกบล็อกปิดตายทั้งหมด”
เมื่อสักครู่อู๋เทียนอิ้วยังตกอยู่ในสภาพเป็นฝ่ายรองรับอารมณ์ ตอนนี้พลิกกลับตัวก๋าเป็นเก๋าซ่าขึ้นมา
พวกคนในกลุ่มพี่หู่ในขณะนั้นได้สังเกตเห็นคนที่ยืนอยู่ห่าง ๆ นั่นแล้ว ซุนจื้อเจียวยืนเชิดหน้าหยิ่งอยู่ แต่ละคนสีหน้าเปลี่ยนไปในพลัน
ซุนจื้อเจียวเป็นลูกหลานสายตรงตระกูลซุนแห่งแปดตระกูลเยี่ยนตู ก่อนหน้านี้ยังเคยเป็นผูจัดการใหญ่ซิงเฉินมีเดีย แม้จะเป็นนักธุรกิจ แต่ถ้าจะใส่ความฉาวโฉ่ให้กับเหล่าดาราใหญ่พวกนี้ เป็นเรื่องที่แสนจะง่าย
มาในยุคสมัยนี้ พวกเขาที่เรียกว่าดาราขาใหญ่ มีใครคนไหนบริสุทธิ์สะอาดจริงบ้าง?
เพียงให้มีอำนาจมีอิทธิพล ก็สืบค้นข้อมูลในมุมมืดของพวกเขาได้ เปิดโปงออกไป พวกเขาก็ต้องจมหายไปในเหวลึกเลย
ผู้กำกับหลี่ก็มีสีหน้าเคร่งขรึมลง ถึงยังไงซุนจื้อเจียวก็เป็นอดีตผู้จัดการใหญ่ซิงเฉินมีเดีย เส้นสายในวงการบันเทิงก้กว้างขวางอยู่มาก
คนระดับนี้ จะไปกระทบกระทั่งไม่ได้เด็ดขาด
“อู๋เทียนอิ้ว แกคิดจะทำอะไร?”
เซี่ยเหอรู้ดีถึงความเลวร้ายของเหตุการณ์ ก้าวไปข้างหน้า ตาแดง ๆ พูดกับอู๋เทียนอิ้ว
เห็นท่าทางของเซี่ยเหอ อู๋เทียนอิ้วมีความรู้สึกเหมือนสะใจที่ได้แก้แค้นสมใจ
อันที่จริง เขากับเซี่ยเหอก็ไม่ได้มีความแค้นใจอะไรมาก ความแค้นที่มีทุ่มใส่ไปที่หยางเฉินทั้งหมด
“เซี่ยเหอ พี่สาวผมมาแล้ว หล่อนอยากจะพบเธอหน่อย ส่วนรายละเอียดที่จะคุยกับเธอ ผมก็ยังไม่ชัดเจน”
อู๋เทียนอิ้วพูดอย่างอวดหยิ่ง “ถ้าเธอไม่อยากให้พวกคนรอบข้างของเธอต้องเดือดร้อน ก็ตามผมไปดี ๆ ซะ!”
เซี่ยเหอถึงแม้จะไม่อยากไป แต่ก็ไม่อยากให้พัวพันถึงพวกผู้กำกับหลี่ ก็จึงตอบไปว่า “ก็ได้ ฉันจะไปกับคุณสักครั้ง!”
“เซี่ยเหอ!”
ผู้กำกับหลี่ยืนขวางเซี่ยเหอไว้ในทันใด สีหน้าดูเป็นกังวล
เขามีความรู้สึกชอบในเด็กใหม่คนนี้มาก เพิ่งเข้าฉากครั้งแรก การแสดงออกได้ดีมาก สำคัญคือขยันเรียนรู้ดีมาก
ผู้กำกับหลี่ได้มองเห็นแววดาราระดับซุปเปอร์ที่ซ่อนอยู่ในตัวของเซี่ยเหอ เขาไม่สงสัยเลยว่า หลังจากจบละครเรื่องนี้ ประกายดาราของเซี่ยเหอต้องระเบิดเป็นพลุเจิดจ้า
และขอเพียงแต่ให้ได้งานแสดงภาพยนต์ เซี่ยเหอก็จะต้องได้เป็นดาราที่โด่งดังคับวงการเป็นแน่
“อะไรหรือ?ผู้กำกับหลี่แกคิดจะขวางไม่ให้เซี่ยเหอไปพบพี่สาวข้าหรือ?คุณแน่ใจแล้วหรือว่าจะรองรับไฟโกรธของพี่สาวข้าได้?”
อู๋เทียนอิ้วยิ้มยียวนพูด
เซี่ยเหอก็ได้เห็นถึงความกังวลใจจากนัยน์ตาทั้งคู่ของผู้กำกับหลี่ หล่อนยิ้มน้อย ๆ “ผู้กำกับหลี่ คุณวางใจเถอะ คนที่นี่มีออกมากมาย พวกมันไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก ฉันไปคุยกับหล่อนแล้วก็กลับมา”
“ได้ เธอต้องระวังผู้หญิงคนนี้ให้ดีนะ!”
ผู้กำกับหลี่พูดกำชับเสียงหนักแน่น แสดงว่าเขาพอรู้เรื่องผู้หญิงชื่อซุนจื้อเจียวคนนี้ดีพอควร
เซี่ยเหอยิ้มนิด ๆ แล้วก็ก้าวเดินไปหาซุนจื้อเจียว
ชั่วเดี๋ยวเดียว หล่อนก็มาถึงข้างหน้าซุนจื้อเจียว
ซุนจื้อเจียวไม่พูดอะไร แววตาที่หนาวเยือกก่อนหน้านี้ ตอนที่มองเซี่ยเหอ ค่อย ๆ ดูละลายลง อีกยังให้เห็นมีรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก
“สวยงาม!ช่างเหมือนชิ้นงานศิลปกรรมที่สมบูรณ์แบบ!”
“ต้องขอยอมรับว่า เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา”
“ในที่สุดฉันก็เข้าใจได้แล้ว เว็บซีรีส์ลงทุนระดับหลายสิบล้าน ดาราหน้าใหม่ที่เพิ่งแสดงเป็นครั้งแรกอย่างเธอนี่ ทำไมถึงดังระเบิดขึ้นมาในทันทีได้ ก็เพราะเธอนี่สวยมากจริง ๆ!”
ซุนจื้อเจียวแสดงออกถึงความชื่นชอบเซี่ยเหออย่างไม่มีการสงวนท่าที น้ำเสียงนุ่มเนียน ท่าทางเอื้ออารีสุด ๆ
ทำให้เซี่ยเหอที่เกร็งเครียดมาอยู่ก่อน รู้สึกผ่อนคลายอย่างฉับพลันลงไปไม่น้อย
“คุณก็ชมเกินเลยไปแล้วคะ!”
เซี่ยเหอถูกชมจนให้รู้สึกเขิน และก็ไม่อยากให้ประเด็นเรื่องต้องยืดเยื้อ เปิดฉากถามไปเลยว่า “ไม่ทราบว่าคุณจะหาดิฉัน ด้วยเรื่องอะไรหรือคะ?”
อู๋เทียนอิ้วแค่นหัวเราะ “เซี่ยเหอ พี่สาวผมชมคุณหน่อย เลยทำเป็นไม่รู้เหนือใต้ออกตกกันเลยหรือ?ก็แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของเผม รีบไปบอกไอ้เจ้าหยางเฉินนั่นไสหัวออกมากราบตีนขอขมา……”
“เพี๊ยะ!”
อู๋เทียนอิ้วพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกซุนจื้อเจียวตบหน้าเข้าให้อีกหนึ่งฉาด
“ต่อไปนี้ถ้าแกยังไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน แล้วกล้าพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้อีกโดยพละการ ฉันจะตัดลิ้นแกทิ้ง!”
พลันเห็นซุนจื้อเจียวเย็นเยือกขึ้นมา ทั้งตัวเหมือนเป็นภูเขาน้ำแข็ง พาหนาวกันไปสุด ๆ