The king of War - บทที่ 887 ซินเฉ่ากรุ๊ป
“คุณผู้หญิง ได้โปรดอย่ายั่วยุชายคนนั้นอีกเลย เขาไม่ธรรมดา แม้แต่คุณตู้แห่งตระกูลเซวก็ยังให้ความเคารพต่อเขา ผมคาดว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับแดนราชา”
ผู้เฒ่าตระกูลกวนรีบพูดโน้มน้าว
“ถังซาน หุบปากซะ!”
กวนซินกัดฟันพร้อมกับพูดว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณไร้ประโยชน์ แม้แต่คนหนุ่มอายุแค่ยี่สิบกว่ายังจัดการไม่ได้ ฉันจะได้รับความอัปยศแบบนี้ไหม?”
“คุณกล้าออกหน้าพูดแทนไอ้เวรนั่นได้ยังไง คุณคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าคุณงั้นเหรอ?”
กวนซินพูดจบปืนขนาดพกพาก็ปรากฏขึ้นในมือทันที ปากกระบอกปืนเล็งตรงไปที่ถังซาน แผดเสียงลั่นด้วยดวงตาแดงก่ำ “คุณกล้าพูดจาไร้สาระอีกไหม?”
“คุณผู้หญิง ผมว่าคุณรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่กับกษัตริย์กวนหน่อยดีกว่า”
ถังซานพูดอย่างไม่เกรงกลัว
“ปัง!”
ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น ถังซานถูกยิงที่ช่องท้อง
“ฉันบอกให้คุณหุบปาก! คุณต้องหุบปากเดี๋ยวนี้!”
กวนซินตวาดลั่นด้วยความตื่นเต้นอย่างถึงขีดสุด
แม้ว่าถังซานจะถูกยิง แต่ใบหน้าของเขาแค่ซีดเล็กน้อย ไม่ร้องสักแอะ ไม่มีความหวาดกลัวอยู่บนใบหน้า มีเพียงความผิดหวังอยู่ลึกๆ
เขาพูดในสิ่งที่เขาควรพูดแล้ว ส่วนกวนซินจะทำอย่างไร ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะมาโทษเขาไม่ได้แล้ว
ในขณะเดียวกันหยางเฉินก็ได้ส่งกวนเย่วกลับไปที่โรงพยาบาล
เนื่องจากบาดแผลกระสุนปืนฉีกขาดเป็นครั้งที่สอง ทางโรงพยาบาลจึงทำการผ่าตัดให้กับกวนเย่วอีกครั้ง
อีกกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อมา กวนเย่วก็ถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด
“อย่าทำให้อาการบาดเจ็บของเธอแย่ลง มิฉะนั้นมันอาจจะทำให้ร่างกายของเธอได้รับความบอบช้ำอย่างมาก จนอาจจะทำให้พิการได้”
ศัลยแพทย์บอกกับหยางเฉิน
หยางเฉินพยักหน้า “คุณไม่ต้องเป็นห่วง เธอจะต้องไม่เป็นอะไรอีก”
หยางเฉินเฝ้าอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย มองใบหน้าอันซีดเผือดของกวนเย่ว เขาอยากจะไปฆ่ากวนซินจริงๆ
เขายังรู้ดีว่าทำไมกวนเย่วถึงขัดขวางไม่ให้เขาฆ่ากวนซิน ก็เพราะเธอกลัวว่าเขาจะเป็นศัตรูกับตระกูลกวนโดยสมบูรณ์
ดังนั้นกวนเย่วจึงห้ามเพื่อไม่ให้หยางเฉินเดือดร้อนไปด้วย
ก็เหมือนกับที่กวนเย่วถูกยิงก่อนหน้านี้ เธอเอาแต่บอกว่าเพราะต้องการได้หยางเฉินเป็นอาจารย์ แต่หลังจากที่ถูกยิงเธอก็ไม่เอาแล้ว
ทั้งหมดก็เพราะเป็นห่วงว่าจะทำให้หยางเฉินจะเดือดร้อนไปด้วย
แต่ตอนนี้หยางเฉินได้ยื่นมือเข้ามาแล้ว ก็ต้องช่วยเธอให้ถึงที่สุด
“คุณมาที่นี่อีกทำไม?”
หยางเฉินยืนอยู่ข้างกายกวนเย่ว ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นคนที่มาและหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที
คุณตู้มาอีกแล้ว เขาเผยรอยยิ้มอันมีเจตนาดี เอ่ยขึ้นว่า “คุณหยาง ผมมาหาคุณเพราะมีบางอย่างจะบอกคุณ”
“ออกไปคุยข้างนอก!”
หยางเฉินเดินนำออกจากห้องผู้ป่วยไปก่อน
“พูดมาสิ!”
หยางเฉินกล่าวอย่างราบเรียบ
ถึงอย่างไรคุณตู้ก็มาจากตระกูลเซว เขากับตระกูลเซวมีบุญคุณความแค้นกันอย่างลึกซึ้ง ก็ย่อมไม่ยิ้มแย้มกับคุณตู้อยู่แล้ว
คุณตู้หัวเราะเจื่อนๆ “กษัตริย์เซวให้ผมมาบอกกับคุณ”
“เขาบอกว่า เขาได้ตรวจสอบการตายของเซวหยวนป้าอย่างถี่ถ้วนแล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณหยางจริงๆ”
“เขาแสดงความขอโทษอย่างจริงใจสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้”
พูดจบคุณตู้ก็หยิบสัญญาออกมาหลายฉบับ “นี่คือกิจการทั้งหมดของตระกูลคิงเซวในเมืองเยี่ยนตู มีไม่มาก แค่ประมาณห้าหมื่นล้าน”
“จัดการตามขั้นตอนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว แค่คุณหยางเซ็นชื่อยืนยัน สัญญาให้เปล่าฉบับนี้ก็จะมีผลบังคับใช้ทันที”
หยางเฉินคิดไม่ถึงว่าคุณตู้จะมาเพื่อถ่ายทอดคำขอโทษของกษัตริย์เซว แล้วยังโอนกิจการมูลค่าห้าหมื่นกว่าล้านให้กับเขาฟรีๆ
“กษัตริย์เซวใจป้ำมากทีเดียว!”
หยางเฉินยิ้มออกมาในทันใด
เขาย่อมเข้าใจดีว่า เหตุใดกษัตริย์เซวถึงส่งคุณตู้มาขอโทษแทนเขา แถมยังโอนกิจการมูลค่าห้าหมื่นกว่าล้านให้อีก
คุณตู้ยิ้มๆ “แค่หวังว่าคุณหยางจะลืมความแค้นแต่เก่าก่อน บุญคุณความแค้นที่มีต่อตระกูลเซวก็ให้ถือว่าเลิกแล้วกันไป แค่นี้กษัตริย์เซวก็พอใจแล้ว”
“กษัตริย์เซวยังบอกอีกว่า ถ้าคุณหยางมีเวลาสามารถไปที่เมืองคิงเซวได้ทุกเมื่อ เขาจะมาต้อนรับคุณด้วยตัวเอง”
ของขวัญที่นำมาให้ถึงที่ จะไม่รับได้อย่างไร
หยางเฉินรับสัญญามา มองดูคร่าวๆ มันคือสัญญาที่ทางตระกูลเซวให้กับเขาโดยไม่มีการเรียกค่าตอบแทนใดๆ ตระกูลเซวได้เซ็นชื่อและประทับตราเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้เหลือแค่รอให้เขาเซ็นชื่อและประทับตรา กิจการมูลค่าห้าหมื่นกว่าล้านก็จะตกเป็นของเขาแล้ว
“อ้อ กษัตริย์เซวยังให้ผมมาบอกกับคุณอีกว่า เพื่อเป็นการให้เกียรติคุณ ตระกูลเซวจะถอนตัวจากการแย่งชิงเมืองเยี่ยนตู”
คุณตู้กล่าวต่อทันที “กษัตริย์เซวแค่หวังว่า วันหนึ่งหากคุณหยางได้สืบทอดตี้ชุน จะขอให้คุณหยางมาดูแลตระกูลคิงเซวบ้าง”
หยางเฉินมองคุณตู้ด้วยสีหน้าประหลาด ไม่น่าแปลกใจเลยที่กษัตริย์เซวจะเข้ามาด้วยไมตรีจิตก่อน แล้วยังแสดงความจริงใจอย่างมากมายขนาดนี้ ที่แท้ก็เพราะนึกถึงตี้ชุน
“ผมเคยบอกเมื่อไหร่ว่าผมจะสืบทอดตี้ชุน?”
หยางเฉินถามอย่างยิ้มแย้ม
คุณตู้ยิ้มอย่างลึกลับ “ถ้าคุณหยางไม่สามารถสืบทอดตี้ชุนได้ ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีใครเหมาะสมมาสืบทอดตี้ชุนได้”
“เอาล่ะ ในเมื่อภารกิจของผมสำเร็จลงแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมก็ควรจะออกจากเมืองเยี่ยนตูแล้ว”
“จากนี้ไป คุณหยางจะเป็นผู้มีอำนาจจัดการกิจการทั้งหมดของตระกูลเซวในเมืองเยี่ยนตูแล้ว”
พูดจบคุณตู้ก็หันหลังเดินจากไป
จนกระทั่งแผ่นหลังของคุณตู้ลับสายตาของหยางเฉินไปอย่างสมบูรณ์ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจึงค่อยๆ หุบลง
เขามองดูสัญญาหลายฉบับในมืออย่างงุนงง มันไม่สบายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ของขวัญมูลค่าห้าหมื่นล้านที่กษัตริย์เซวส่งมาให้ มันน่ารับตรงไหน?
เรียกได้ว่ามันคือเผือกร้อนดีๆ นี่เอง
ตอนนี้คนของตระกูลคิงได้ทยอยมาถึงเมืองเยี่ยนตู ล้วนแล้วแต่มีความมุ่งหวังเรื่องตี้ชุน
หยางเฉินต้องการวางตัวออกห่างมาโดยตลอด แต่ทุกตระกูลก็เจาะจงจะมาหาเขาให้ได้
ดูเหมือนว่าเขาจะถลำลึกเข้าไปในวังวนนี้แล้ว แม้เขาจะบอกว่าไม่สนใจตี้ชุนก็ไม่มีใครเชื่อ
“หรือว่า ฉันต้องเข้าไปอยู่ในการต่อสู้แย่งชิงตี้ชุนจริงๆ เหรอ”
หยางเฉินพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็โทรออกไป บอกให้หม่าชาวจัดคนของทีมผู้พิทักษ์เงาลับไปปกป้องกวนเย่ว
ไม่ว่าจะอย่างไร ผู้หญิงคนนี้ก็บังกระสุนให้เขา วันนี้เธอถูกกวนซินบังคับพาตัวไป ก็สร้างความบอบช้ำอย่างหนักต่อบาดแผลที่ถูกยิงของเธอแล้ว
หมอยังกล่าวอีกว่า หากบาดแผลฉีกขาดอีกครั้งก็อาจถึงขั้นพิการได้
กวนเย่วยังอายุน้อยอยู่ หากมีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้น แล้วต่อไปเธอจะทำอย่างไร?
“อาการบาดเจ็บของนายเป็นไงบ้าง?”
หยางเฉินถามขึ้นมาอีกครั้ง
หม่าชาวยิ้มและพูดว่า “พี่เฉิน ไม่ต้องเป็นห่วง พรุ่งนี้เป็นวันแต่งงานของผม ยังไงผมก็ต้องแต่งตัวหล่อๆ ไปแต่งงานกับอ้ายหลินอยู่แล้ว”
“นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
พอเห็นหม่าชาวยังคงพูดเล่นได้อยู่ เขาก็รู้สึกโล่งใจ ทันใดนั้นก็พูดอีกว่า “เออใช่ คุณไปที่ซินเฉ่ากรุ๊ปเดี๋ยวนี้เลย ผมก็กำลังไปเหมือนกัน”
“ครับ!”
หม่าชาวตอบตกลงทันที
ซินเฉ่ากรุ๊ปเป็นกิจการในเมืองเยี่ยนตูของตระกูลเซว สัญญาที่คุณตู้ให้เขาเมื่อครู่ก็คือสัญญาของซินเฉ่ากรุ๊ป
ตอนนี้บ้านและรถยนต์ก็มีพร้อมแล้ว ยังขาดแต่บริษัท
เยี่ยนเฉินกรุ๊ปเป็นเพียงความคิดเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้หยางเฉิน เขาต้องรักษาความมั่นคงของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเอาไว้ให้ได้
แต่ซินเฉ่ากรุ๊ปนั้นเป็นของขวัญจากตระกูลเซว เหตุใดถึงไม่มอบมันให้กับหม่าชาวล่ะ
เมื่อครั้งที่อยู่ในสนามรบ หยางเฉินกับหม่าชาวได้เป็นเพื่อนพี่น้องที่สามารถหันหลังให้แก่กันและกันได้ หลังจากผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายมามาก ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นใกล้ชิดสนิทสนมยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆ เสียอีก
แม้ว่ามูลค่าตลาดของซินเฉ่ากรุ๊ปจะมากถึงห้าหมื่นล้าน แต่หยางเฉินก็มอบให้หม่าชาวได้อย่างไม่ลังเลเลย