The king of War - บทที่ 890 ประธานคนใหม่
แน่นอนว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปยังคงมีบารมีอยู่บ้าง สีหน้าของหลิวฉีเริ่มเคร่งขรึม
“ไอ้หนุ่ม คุณก็รู้ว่าผลของการหลอกลวงผมมันจะเป็นยังไงใช่ไหม?”
หลิวฉีถามอย่างดุร้าย
“คุณในฐานะผู้จัดการของซินเฉ่ากรุ๊ป การจะตรวจสอบชื่อประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ป มันคงจะง่ายมากจริงไหม?”
หยางเฉินกล่าว
หลิวฉีกดโทรออกไปทันที “ประธานหวาง ผมขอสอบถามข้อมูลคนคนหนึ่งจากคุณหน่อย ประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ปชื่ออะไร? อายุเท่าไหร่?”
ไม่นานสีหน้าของหลิวฉีกเปลี่ยนไปจนดูไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็คือหยางเฉิน แถมยังอยู่ในวัยหนุ่มอีกด้วย
“ผู้จัดการหลิว เขาเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเก่าของฉัน ตอนนั้นเขาเป็นแค่พวกกระจอกที่ไล่ตามจีบฉัน แล้วเขาจะมาเป็นประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้ยังไง?”
เซียวจื่อฉิงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่ย่ำแย่ของหลิวฉี เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าตอนนี้หยางเฉินเก่งกาจมาก แต่ก็ไม่อาจยอมรับความจริงได้ว่าหยางเฉินคือประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
“คิดไม่ถึงเลยว่าประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ป จะเข้ามาที่ซินเฉ่ากรุ๊ปของผมด้วยตัวเอง”
หลิวฉีไม่สนใจเซียวจื่อฉิง แต่มองไปที่หยางเฉินแล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าที่คุณมามีอะไรให้รับใช้เหรอครับ?”
หยางเฉินพูดอย่างเฉยชา “ผมวางแผนจะหารือเรื่องความร่วมมือกับบริษัทของคุณ ไม่ทราบว่าผู้จัดการหลิวจะสนใจไหม?”
“สนใจอยู่แล้วครับ!”
หลิวฉีหัวเราะขึ้นมา
“แต่เมื่อกี้ดูเหมือนผู้จัดการหลิวจะไม่ค่อยต้อนรับผมสักเท่าไรนะ ประกาศให้คนมาหักแขนหักขาพี่น้องของผม แล้วจับโยนออกไป”
หยางเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ผู้จัดการหลิว คุณไม่ได้เชื่อจริงๆ หรอกนะว่าเขาคือประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ป?”
เซียวจื่อฉิงรีบเอ่ยขึ้น “ผู้จัดการหลิว ไอ้สารเลวนี่เป็นพวก 18 มงกุฎ คุณอย่าถูกเขาหลอกเด็ดขาดเลยนะ”
“หุบปากไปซะ!”
หลิวฉีผลักเซียวจื่อฉิงออกไปและตะคอกใส่เธออย่างโกรธเคือง
หยางเฉินจะใช่ประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ปหรือไม่ เขาเองนั้นรู้ดี
“ผู้จัดการหลิว…”
เซียวจื่อฉิงยังคิดจะพูดเกลี้ยกล่อมเขาอยู่
“ผัวะ!”
หลิวฉีตบเธอและตะคอกใส่ด้วยความโกรธ “หุบปากไปซะ!”
เซียวจื่อฉิงตกใจรีบหุบปากทันที แค่เอาความเกลียดชังที่เกิดจากถูกตบหน้ากลางสาธารณชนทั้งหมดไปลงที่ตัวหยางเฉิน
“ประธานหยางล้อเล่นใช่ไหม พวกเราทำร้ายคนกันเอง ถ้าพวกเรารู้ว่าเป็นประธานหยาง ผมจะไม่พูดแบบนั้นเด็ดขาด”
หลิวฉีหัวเราะขึ้นมา “ไม่ทราบว่าประธานหยางต้องการคุยเรื่องการร่วมงานอะไรกับผมเหรอ?”
หยางเฉินพูดอย่างเฉยชา “การค้าขายที่ผมจะเจรจาด้วยมันใหญ่มาก คุณเป็นแค่ผู้จัดการของซินเฉ่ากรุ๊ป คุณไม่มีอำนาจตัดสินใจ”
ได้ยินดังนั้น การแสดงออกบนใบหน้าของหลิวฉีชะงักงันไปในทันที ประกายความเยือกเย็นฉายผ่านดวงตา
“ประธานหยางดูถูกผมเหรอ?”
หลิวฉีมองหยางเฉินด้วยสายตาเย็นชา
“ผมเป็นประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป คุณเป็นแค่ผู้จัดการของซินเฉ่ากรุ๊ป ต่อให้ต้องการเจรจาการค้า ก็ควรจะเป็นประธานของพวกคุณ คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?”
หยางเฉินถามอย่างเย็นชา
ในเมื่อได้เห็นตัวตนของหลิวฉีอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเล่นกับคนโง่คนนี้ต่อไป
“คุณกำลังรนหาที่ตาย!”
หลิวฉีพูดอย่างโกรธเคือง “ต่อให้คุณจะเป็นประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ป แล้วยังไง?”
“ผมเป็นผู้จัดการของซินเฉ่ากรุ๊ป คุณควรรู้ว่ามีตระกูลใหญ่คอยหนุนหลังซินเฉ่ากรุ๊ปอยู่ แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ยังไม่กล้ายุ่งด้วย”
“เมื่อเผชิญหน้ากับตระกูลนั้น คุณก็เป็นได้แค่อากาศ คุณกล้าดียังไงมาทำจองหองต่อหน้าผม?”
หลิวฉีโพล่งออกมาทันที
“คุณไม่ถามหน่อยเหรอว่า ผมต้องการร่วมมืออะไรกับซินเฉ่ากรุ๊ป?”
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของหยางเฉินในทันใด
“ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะเจรจาธุรกิจอะไร ต่อให้ประธานซินเฉ่ากรุ๊ปมาอยู่ที่นี่ ผมก็กล้าที่จะไล่คุณออกไป”
หลิวฉีจองหองอย่างถึงขีดสุด เขาโบกมือสั่งการ “หักแขนขาของไอ้สัตว์เดรัจฉานสองตัวนี่ซะ แล้วจับโยนออกไป!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนก็กรูเข้ามาหาหยางเฉินและหม่าชาว
สีหน้าของเซียวจื่อฉิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ทำให้พวกมันพิการ ให้พวกมันอยู่บนรถเข็นไปตลอดชีวิต”
“ไม่เจียมกะลาหัว!”
หยางเฉินยิ้มเยาะ ก่อนจะส่งสัญญาหลายฉบับให้กับหลิวฉี “จงลืมตาของคุณให้กว้าง ดูเนื้อหาของสัญญาพวกนี้ก่อน”
หลิวฉีรับสัญญามา เมื่อเขากวาดสายตามองดูเนื้อหาในสัญญาคร่าวๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันใด
เขามองหยางเฉินอย่างไม่เชื่อสายตา “คุณ คุณเป็นประธานคนใหม่ของซินเฉ่ากรุ๊ป?”
ทันทีที่คำพูดของหลิวฉีออกมาจากปาก ก็ทำให้ทุกคนในที่นี้ตกใจ
แม้แต่หม่าชาวก็ตกตะลึง เมื่อครู่หยางเฉินขอให้เขามาที่ซินเฉ่ากรุ๊ป เขายังคิดว่าเป็นเรื่องงานอะไรสักอย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมารับช่วงต่อซินเฉ่ากรุ๊ป
เซียวจื่อฉิงเป็นคนที่รู้สึกช็อกมากที่สุด
ในเวลานี้เธอเบิกตากว้าง “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน ซินเฉ่ากรุ๊ปมีตระกูลใหญ่คอยหนุนหลังอยู่ กิจการที่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ประธานจะเป็นคุณได้ยังไง?”
หลิวฉีมองดูรายละเอียดสัญญาด้วยสองมือที่สั่นเทา
“ท่านประธาน ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่าเป็นคุณ ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางหยาบคายกับคุณเด็ดขาด ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”
หลิวฉีก้าวไปข้างหน้าและส่งสัญญาคืนให้หยางเฉินสองมือด้วยความเคารพ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ล้อมหยางเฉินและหม่าชาวไว้ก็ถอยกลับทันที
พอคิดว่าเมื่อครู่ตนเองเกือบจะลงไม้ลงมือกับประธานคนใหม่ของบริษัท พวกเขาก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น
“ผู้จัดการหลิว คุณกำลังทำอะไรอยู่”
เซียวจื่อฉิงปรี่เข้าไปจับมือหลิวฉี และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เขาเป็นพวก 18 มงกุฎ ไม่มีทางเป็นประธานคนใหม่ของซินเฉ่ากรุ๊ปได้”
“ผัวะ!”
หลิวฉีตบหน้าเซียวจื่อฉิง แล้วตวาดใส่ “คุณช่วยหุบปากไปซะ!”
“เปิดตาให้กว้าง แล้วดูเนื้อหาของสัญญานี้!”
เซียวจื่อฉิงถูกตบจนงง เมื่อเห็นรายละเอียดของสัญญาที่หลิวฉีแสดงต่อหน้าเธอก็ตกตะลึงพรึงเพริดไป
“นี่มัน นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”
“ตระกูลกษัตริย์เซว ทำไมถึงยกซินเฉ่ากรุ๊ปให้หยางเฉินฟรีๆ?”
“เขาเป็นแค่พวก 18 มงกุฎ! หรือว่าตระกูลกษัตริย์เซวก็ถูกหลอกด้วย?”
เซียวจื่อฉิงพึมพำกับตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา
“ผัวะ!”
หลิวฉีตบหน้าเซียวจื่อฉิงอีกครั้ง คราวนี้ออกแรงมาก เซียวจื่อฉิงกระเด็นออกไปและร่วงลงกับพื้น เลือดกบปาก
“ไปให้พ้น! เธอมันหญิงชั่ว ไสหัวออกไปจากซินเฉ่ากรุ๊ปเดี๋ยวนี้!”
หลิวฉีคำราม “ถ้าไม่ใช่เพราะหญิงชั่วอย่างเธอมาขัดขวาง จะทำให้ฉันชวดโอกาสในการรับตำแหน่งประธานได้ยังไง?”
“ใช่แล้ว หญิงชั่วอย่างเธอด้วย ไสหัวไปให้พ้น!”
หลิวฉีมองไปยังพนักงานต้อนรับที่กำลังตัวสั่นงันงก แล้วตวาดใส่อย่างโกรธจัด
“ท่านประธาน ห้องทำงานได้จัดเตรียมพร้อมสำหรับท่านแล้ว ให้ผมพาคุณขึ้นไปตอนนี้เลยไหม?”
หลิวฉีเดินเข้ามาตรงหน้าหยางเฉิน ก้มหน้าคำนับและพูดขึ้น
หยางเฉินกวาดสายตามองอย่างเฉยเมย เขายื่นสัญญาให้หม่าชาว “ซินเฉ่ากรุ๊ป ถือว่าให้เป็นของขวัญแต่งงานของนาย ขั้นตอนทั้งหมดได้จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เหลือแค่นายเซ็นชื่อและปั๊มลายนิ้วมือ ต่อไปนายก็คือประธานของซินเฉ่ากรุ๊ปแล้ว”
เมื่อพูดออกไปเช่นนี้ ทุกคนก็ตกใจอย่างสุดขีด
มูลค่าตลาดของซินเฉ่ากรุ๊ปอยู่ที่หลายหมื่นล้าน แต่หยางเฉินจะให้หม่าชาวเป็นของขวัญวันแต่งงาน?
นี่คือกิจการมูลค่าหลายหมื่นล้าน มันให้เป็นของขวัญได้จริงหรือ?
หลิวฉีก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขามองไปที่หม่าชาวด้วยความอิจฉา
หลังจากตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง หม่าชาวก็รีบปฏิเสธ “พี่เฉิน ของขวัญชิ้นนี้มันมีมูลค่ามากเกินไป ผมรับไว้ไม่ได้”
หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น “นี่คือคำสั่ง!