The king of War - บทที่ 899 งานมงคลของหม่าชาว
กว่าจะเจอ หมีเสวี่ยไม่ใช่เรื่องง่าย อยากให้เธอมีชีวิตที่ดี แต่ทว่าตอนนี้ หมีเสวี่ยกลับปฏิเสธที่จะเจอหม่าชาว
“เงินสามล้านที่ติดพี่ไว้ ฉันจะพยายามคืนให้ ส่วนงานของอสังหาริมทรัพย์เมืองในฝัน ฉันว่าช่างมันเถอะ ขอโทษ!”
จู่ๆ หมีเสวี่ยลุกขึ้น โค้งคำนับหยางเฉิน และวิ่งออกไป
“เสียวเสวี่ย!”
หยางเฉินตะโกนเสียงดัง
แต่ หมีเสวี่ยไม่หันกลับมา และหันหลังวิ่งไปทันที
หยางเฉินจะตามไป แต่เมื่อคิดถึงความรู้สึกของ หมีเสวี่ยในตอนนี้ เขาทนไม่ได้ที่จะทำร้ายผู้หญิงคนนี้อีก
“เสียวเสวี่ย เธอกังวลอะไรอยู่กันแน่”
หยางเฉินเศร้าใจมาก ถึงรู้จัก หมีเสวี่ยได้ไม่นาน แต่เขาเห็น หมีเสวี่ยเป็นน้องสาวแท้ๆ ตั้งนานแล้ว
จากที่เขารู้จัก หมีเสวี่ยมาไม่กี่วัน หลังจากที่เธอรู้ว่าหาพี่ชายแท้ๆ เจอ ควรจะดีใจและรอคอยเป็นอย่างมากสิ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ
ตอนนี้ หมีเสวี่ยวิ่งออกมาจากร้านอาหารแซ่เฉินแล้ว
“ทำไม ทำไม”
หมีเสวี่ยร้องไห้โวยวาย สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ทำไม ทำไมตอนนั้นต้องทิ้งฉัน แล้วหนีไปคนเดียว รู้ไหมว่าตอนนั้น หลังจากที่หาพี่ไม่เจอ ฉันกลัวขนาดไหน”
“ตอนนั้นฉันเพิ่งสิบเอ็ดขวบ เพิ่งสิบเอ็ดขวบเองนะ! พี่คือโลกทั้งใบในใจฉัน!”
“ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ฉันกลัวแค่การเสียพี่ไป!”
หมีเสวี่ยร้องไห้สะอึกสะอื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา
ตอนนั้นเธอกับหม่าชาว โดนพวกค้ามนุย์ลักพาตัว ก่อนหม่าชาวจะหนีไป เขาบอกว่าจะกลับมาช่วยเธอ
แต่เธอรอมาสามวันเต็มๆ ก็รอหม่าชาวไม่ได้อีก กลับโดนพวกค้ามนุยษ์ ขายให้กับบ้านของพ่อแม่บุญธรรม
ผ่านไปหลายปี เธอสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายบ่อยๆ ในฝัน เธอเห็นพี่ชายตัวเอง นอนบนถนนอันเย็นเฉียบ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด
เหมือนที่พ่อแม่โดนรถชนตายในปีนั้น
เธอเข้าใจมาตลอดว่าพี่ชายตายไปแล้ว เหมือนพ่อแม่ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตาย
จู่ๆ วันหนึ่ง คนที่เธอถือเป็นพี่ชายมาบอกเธอว่า หาพี่ชายแท้ๆ ของเธอเจอแล้ว เธอไม่สามารถยอบรับความจริงได้ทันที
“พี่บอกว่าจะมาช่วยฉัน พี่บอกว่าจะมาช่วยฉัน แต่พี่ไม่มา พี่ไม่มา!”
หมีเสวี่ยร้องไห้โวยวาย
จู่ๆ ท้องฟ้ามืดสนิท มีเกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาไม่หยุด
หมีเสวี่ยนั่งยองอยู่ใต้ไฟข้างถนน ร้องไห้เสียงดัง ราวกับต้องการร้องไห้ เอาความน้อยเนื้อต่ำใจที่มีมาหลายปีออกมาให้หมด
ฤดูหนาวของเมืองเยี่ยนตู หิมะตกไม่บ่อย แต่คืนนี้กลับมีหิมะโปรยปราย
หยางเฉินยืนอยู่ตรงบานหน้าต่างใหญ่ ในห้องอาหารสุดหรู มองเด็กผู้หญิงที่เอามือกุมหัว ร้องไห้อยู่ใต้ไฟข้างถนน เขารู้สึกแย่มาก
“ร้องเถอะ ร้องไห้ออกมา จะได้สบายใจขึ้น”
หยางเฉินมอง หมีเสวี่ยด้วยสีหน้าเจ็บปวด และพูดว่า “ต่อไป เธอไม่ได้เป็นแค่น้องสาวหม่าชาว แต่เป็นน้องสาวของคนอย่างหยางเฉินด้วย”
พูดจบ เขากดเบอร์โทรออก “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จัดเตรียมผู้แข็งแกร่งสูงสุดสองคน จากทีมผู้พิทักษ์เงาลับ คอยคุ้มครอง หมีเสวี่ยน้องสาวฉันอย่างเงียบๆ!”
“ครับ!”
เมื่อได้ยินหยางเฉินพูดว่าน้องสาวของเขา อีกฝ่ายถึงกับมีสีหน้าตกตะลึง และรับปากทันที
เช้าวันต่อมา หยางเฉินตื่นนอน มองภรรยาและลูกสาวที่นอนอยู่ข้างๆ จิตใจเขาเต็มไปด้วยความสุข
จู่ๆ เขานึกถึงหม่าชาว วันนี้เป็นงานแต่งงานของหม่าชาว
ต่อไปหม่าชาวกับอ้ายหลิน ก็คงจะมีความสุขไปตลอดชีวิตสินะ
แต่เมื่อคิดถึง หมีเสวี่ย หยางเฉินเศร้าขึ้นมาทันที
เดิมทีเขาคิดว่าให้ หมีเสวี่ยปรากฏตัวในงานแต่งของหม่าชาววันนี้ เพื่อมอบคำอวยพรที่แสนงดงามให้หม่าชาว
แต่ หมีเสวี่ยกลับปฏิเสธ
“ตื่นแล้วเหรอที่รัก!”
จู่ๆ ฉินซีลืมตาทั้งสองข้าง เห็นหยางเฉินกำลังเหม่อ จึงพูดเบาๆ
หยางเฉินหลุดออกจากภวังค์ และจูบหน้าผากภรรยาเบาๆ “เพิ่งตื่นเมื่อกี้!”
พูดพลาง เขากอดภรรยาแน่น ไม่รู้ทำไม เมื่อเห็นภรรยาและลูกสาวอยู่ข้างกายตัวเอง จู่ๆ เขารู้สึกมีความสุขมาก
ฉินซีกลอกตาใส่หยางเฉินอย่างไม่สบอารมณ์ เธอดันตัวออกเบาๆ ดึงอย่างเฉินให้ลุกขึ้น “วันนี้เป็นงานแต่งของหม่าชาว เรารีบลุกจากที่นอนเถอะ ไปดูกันก่อน ว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
วันนี้อากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆ เมื่อคืนมีหิมะโปรยปรายเล็กน้อย พื้นข้างนอกมีหิมะปกคลุมอยู่บางๆ
หลังจากทั้งครอบครัวแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าไปยังโรงแรมเยี่ยนตู
วันนี้เป็นงานแต่งของหม่าชาว งานจัดขึ้นที่โรงแรมเยี่ยนตู
แต่ไม่รู้ว่าทำไม หยางเฉินรู้สึกไม่ดีขึ้นในใจ ไม่ได้รู้สึกยินดีสักนิด ที่พี่น้องของตัวเองจะแต่งงาน
วันนี้ที่ตระกูลอ้าย ประดับประดาด้วยผ้าและโคมไฟสวยงาม ทุกที่ประดับประดาไปด้วยสีแดง
“เสี่ยวหลิน อิจฉาเธอจริงๆ ได้แต่งงานกับสามีที่ดีแบบนี้”
“เห็นว่าสามีเธอเป็นเพื่อนพี่น้องที่ดีกับหยางเฉิน ประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ปใช่ไหม”
“นับประสาอะไรล่ะ พวกเธอไม่เคยเจอสักหน่อย สามีของอ้ายหลินเก่งขนาดไหน เคยสู้กับผู้แข็งแกร่งทั้งหมด ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ด้วยตัวคนเดียว คนเดียวจัดการทั้งหมด!”
ในบรรดาเพื่อนสนิทของอ้ายหลิน มีเพื่อนสนิทสองสามคน กำลังยืนล้อมเธอ พูดขึ้นมาพร้อมหัวเราะร่า
ช่างแต่งหน้ากำลังแต่งหน้าให้อ้ายหลิน อ้ายหลินยิ้มอย่างเหนื่อยใจ “พวกเธอยิ่งพูดยิ่งเวอร์ เขาเก่งขนาดนั้นซะที่ไหนกันล่ะ”
ถึงปากพูดแบบนี้ แต่ในใจกลับรู้สึกหวานชื่น
เพราะผู้ชายที่ดีที่คนอื่นพูดถึง เป็นผู้ชายของเธอ
ทั้งสองผ่านอะไรมามากมาย จนเดินมาถึงทุกจุดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ
หลังตัดสินใจในความสัมพันธ์ที่จะอยู่ร่วมกัน หม่าชาวเปลี่ยนแปลงมากมาย เพื่อเธอ เช่นเดียวกัน เธอก็เปลี่ยนแปลงมากมาย เพื่อหม่าชาว
จู่ๆ อ้ายหลินคาดหวังกับชีวิตในอนาคต เธอลูบท้องตัวเอง ด้วยสีหน้าแห่งความสุข
เธอไม่ได้บอกใคร หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เธอตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์
เมื่อคิดถึงว่าหลังจากสิบเดือน จะสามารถมีลูกให้หม่าชาวได้ เธอยิ่งรู้สึกมีความสุขเข้าไปอีก
ขณะเดียวกัน นานทีหม่าชาวจะได้แต่งตัวดีๆ สักที
สูทสีดำทั้งตัว เสื้อเชิ้ตสีแดงไวน์ สวมรองเท้าหนังสีดำ ร่างกายที่สูงกำยำ ตระหง่านเหมือนภูเขา
หม่าชาวเคยชินกับผมสั้นสีดำ ดูฉลาดและมีความสามารถ ในดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายแวววาว
“อ้ายหลิน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการ ต่อไปผมจะปฏิบัติกับคุณเป็นอย่างดี!”
เห็นความหล่อของตัวเองในกระจก หม่าชาวพูดด้วยใบหน้าจริงจัง
วันนี้ที่โรงแรมเยี่ยนตู คึกคักเป็นพิเศษ มีรถหรูหลากหลายรูปแบบ จอดเต็มหน้าประตู
ถึงหม่าชาวเป็นเพื่อนพี่น้องที่ดีของหยางเฉิน แต่ในเมืองเยี่ยนตู คนจำนวนมากรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนเป็นอย่างดี ว่าสนิทสนมกันขนาดไหน
งานแต่งของหม่าชาว คือเรื่องใหญ่ของหยางเฉิน แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางละเลย
ในโรงแรมขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความชื่นมื่น
ตอนครอบครัวหยางเฉินเดินออกจากรถ มีคนเข้ามาต้อนรับทันที
“คุณหยาง ยินดีด้วยครับๆ!”
เสียงแสดงความยินดีดังไปทั่ว
วันนี้หยางเฉินอารมณ์ดีมาก ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก ถ้าเข้ามาแสดงความยินดี เขาก็ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
หม่าชาวไม่มีพ่อแม่ คนเป็นพี่ชายต่างแซ่อย่างเขา ต้องต้อนรับคนฝั่งหม่าชาวเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
อันที่จริงฝั่งหมาช่าวไม่มีใคร คนที่มาเพราะเห็นแก่หน้าเขา
แต่ไม่ว่ายังไง แค่มาอวยพรในวันนี้ เขาก็ต้อนรับทั้งนั้น
“คุณหยาง!”
ขณะนั้น ชายวัยกลางคนเดินเข้ามา ข้างกายมีผู้หญิงวัยกลางคนมาด้วยคนหนึ่ง
ตรงหน้าอกของทั้งสองคนติดดอกไม้สีแดง เป็นพ่อแม่ของอ้ายหลิน