The king of War - บทที่ 901 กวนหงเหว่ยจู่โจม
ตอนนี้แววตาของหยางเฉิน เป็นประกายเย็นชาจนน่ากลัว
หม่าชาวเป็นเพื่อนพี่น้องที่ดีของเขา เขารอให้หม่าชาวแต่งงานมาหลายปีแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะถึงวันที่แสนงดงามเช่นนี้ แต่กลับเป็นเพราะตัวเอง ที่ทำให้ตระกูลกวนมาทำลายเรื่องมงคลของเพื่อนพี่น้องที่ดี
“คนที่ล่วงเกินตระกูลกวนคือฉัน มีอะไรให้มาหาฉัน มีความจำเป็นอะไร ต้องมาก่อกวนงานแต่งของพี่น้องฉัน”
หยางเฉินมองกวนซินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนนี้พวกเธอออกไปซะ ฉันจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และจะยอมชดใช้ให้ตระกูลกวน”
“ชดใช้เหรอ นายเกือบฆ่าลูกสาวฉัน จะเอาอะไรมาชดใช้”
กวนหงเหว่ยถามอย่างโมโห
เมื่อวานเข้าเพิ่งลงเครื่องบิน ก็ไปหากวนเย่ว เพื่อแก้แค้นให้ลูกสาวตัวเอง แต่กลับโดนลูกน้องของหยางเฉิน ตบหน้าหลายที
นี่เป็นความอัปยศอันยิ่งใหญ่สำหรับเขา
มีผู้แข็งแกร่งของตระกูลกวนยืนอยู่ด้านซ้ายและขวาของเขา ด้านละหนึ่งคน ตอนนี้กำลังจ้องหยางเฉินด้วยแววตาดุร้ายราวกับเสือ
“นายจะให้ชดใช้ยังไง”
หยางเฉินถามเสียงเย็นชา
แขกในงาน ตกใจจนไม่รู้จะตกใจยังไงอยู่แล้ว มาได้ยินคำพูดของกวนหงเหว่ยในตอนนี้ จึงเพิ่งรู้ว่าหยางเฉินเกือบฆ่าลูกสาวของเขา
ดังนั้นตระกูลกวนจึงพาคนบุกเข้ามาในงานแต่งของหม่าชาว
นี่เรียกว่าหม่าชาวซวยโดยไม่มีสาเหตุ ไม่ใช่หรือไง
“โอเค ในเมื่อนายถามฉันว่าอยากได้อะไรชดเชย งั้นก็ฟังฉันให้ดี”
“การชดเชยที่ฉันอยากได้ ง่ายดายมาก แค่นายตาย บุญคุณความแค้นระหว่างตระกูลกวนกับนาย หายกันทั้งหมด”
กวนหงเหว่ยยิ้มแล้วพูดขึ้น “ใช่สิ ได้ยินว่านายก็มีลูกสาวหนึ่งคนใช่ไหม”
“ในเมื่อนายเกือบฆ่าลูกสาวฉัน งั้นฉันก็จะเกือบฆ่าลูกสาวนายเหมือนกัน เป็นไง”
พูดพลาง กวนหงเหว่ยหรี่ตามองเสี้ยวเสี้ยวข้างหยางเฉิน
ฉินซีกอดลูกสาวตัวเองแน่นโดยไม่รู้ตัว ใบหน้างดงาม แฝงด้วยความหวาดกลัว
เมื่อกวนหงเหว่ยพูดจบ ความโหดเหี้ยมอันน่ากลัว พลุ่งพล่านออกจากตัวหยางเฉิน
เหมือนทั้งห้องจัดเลี้ยง จมดิ่งอยู่ในความโกรธของหยางเฉิน
กวนหงเหว่ยสบตากับหยางเฉิน เพราะรู้สึกถึงแรงกดดัน เขาจึงก้าวถอยหลังเล็กน้อย อย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้น ความโกรธบนใบหน้าก็เพิ่มขึ้น
ลูกชายของกษัตริย์กวนผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา กลับโดนวัยรุ่นอายุยี่สิบกว่าปี ทำให้ตกใจ
นี่เป็นความอัปยศอดสูอันยิ่งใหญ่ของเขา
“นายกำลังรนหาที่ตาย!”
หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา
ถึงเป็นคำพูดไม่กี่คำ แต่กลับมีพลานุภาพยิ่งใหญ่ ทำให้กวนหงเหว่ยรู้สึกเหมือนโดนมัจจุราชจ้องมอง
“หยางเฉิน นายพูดผิดแล้ว วันนี้คนที่ควรตาย ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นนาย!”
กวนหงเหว่ยหงุดหงิดจนโกรธ แล้วพูดว่า “ตั้งแต่ตอนที่นายแตะต้องลูกสาวฉัน ก็กำหนดไว้แล้วว่านายต้องตายเท่านั้น”
“แต่ลูกสาวฉันจิตใจดี ถ้านายยอมคุกเข่าอ้อนวอน และเอาหุ้นครึ่งหนึ่งของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมา เธออาจปล่อยนายไปก็ได้”
“ไม่งั้น นายทำให้ลูกสาวฉันเกือบตายยังไง ฉันก็จะทำให้ลูกสาวนายเกือบตายแบบนั้นเหมือนกัน”
“แต่เหมือนลูกของนายยังเด็ก ไม่รู้ว่าจะรับแรงของฉันได้หรือเปล่า”
หยางเฉินพยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเอง จู่ๆ เขารู้สึกอะไรบางอย่าง อีกฝ่ายจงใจบีบบังคับเขาให้ลงมือ
ขอแค่เขาลงมือ เหมือนจะมีอันตรายที่ใหญ่กว่านี้ กำลังรอเขาอยู่
“ที่รัก!”
ฉินซีสัมผัสได้ถึงความโกรธของหยางเฉิน เธอจับมือหยางเฉินเบาๆ แล้วเรียกเสียงเบา
เมื่อสัมผัสถึงความอ่อนโยน ที่มาจากมือของภรรยา หยางเฉินรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย
“หุ้นครึ่งหนึ่งของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ถ้านายต้องการ ฉันให้นายได้”
หยางเฉินจ้องกวนหงเหว่ยเขม็ง แล้วพูดว่า “แต่จะให้ฉันคุกเข่าขอโทษ ไม่มีทาง!”
“ขอแค่พวกนายยอมกลับไปตอนนี้ ฉันจะรีบให้คนส่งสัญญามาทันที”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ทุกคนถึงกับตกตะลึง
โดยเฉพาะคนสนิทของหยางเฉิน อย่างฉินซีกับหม่าชาว พวกเขารู้ดี เยี่ยนเฉินกรุ๊ปสำคัญกับหยางเฉินขนาดไหน
เพราะนี่เป็นความคิดถึงเดียว ที่แม่ของตัวเองเหลือทิ้งไว้บนโลกนี้
ตอนนี้เขากลับให้สัญญาต่อหน้าทุกคน ยอมให้หุ้นครึ่งหนึ่งของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
“พี่เฉิน!”
หม่าชาวกดเสียงต่ำพูดออกมา เขาพยายามควบคุมความโกรธของตัวเอง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ จากนั้นจึงพูดว่า “เยี่ยนเฉินกรุ๊ป ต้องอยู่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์!”
เขารู้ดีว่าทำไมหยางเฉินยอมประนีประนอมในตอนนี้ เพราะอยากให้งานแต่งของเขา ดำเนินต่อไปตามปกติ
แม้ว่าเขาจะรู้ ถึงหยางเฉินให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ป รอให้งานแต่งเขาเสร็จสิ้นลง ก็สามารถเอากลับมาได้
แต่ถึงเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน เขาก็ไม่ยอมให้หยางเฉินเสี่ยงอันตราย เพื่อตัวเอง
หยางเฉินหัวเราะเยาะตัวเอง “ตอนแรกฉันจะใช้ฐานะ ที่เป็นพี่ชายของนาย มอบงานแต่งอันสมบูรณ์แบบให้กับนาย แต่คิดไม่ถึง สุดท้ายก็เป็นเพราะฉัน ที่ทำลายงานแต่งของนาย”
“ขอโทษนะน้องชาย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน จู่ๆ หม่าชาวน้ำตารื้น
หยางเฉินยิ้มอบอุ่นให้หม่าชาว จากนั้นจึงมองอ้ายหลิน พูดด้วยสีหน้าขอโทษ “พี่อ้าย ขอโทษนะครับ!”
อ้ายหลินเข้าใจดี ตระกูลกวนมาก่อเรื่อง จะโยนความผิดให้หยางเฉินไม่ได้
เธอส่ายหน้า “หยางเฉิน เรื่องนี้ไม่โทษนาย นายไม่ต้องโทษตัวเอง”
“ใช่ พี่เฉิน ผมกับอ้ายหลินไม่โทษพี่”
หม่าชาวก็รีบพูดเช่นกัน “พี่อย่าหน้ามืดตามัว เยี่ยนเฉินกรุ๊ป เป็นสิ่งที่คุณป้าเหลือไว้ให้พี่ พี่อย่าทำให้มันเสียหายแม้แต่นิดเดียว”
“ถ้าอยากชดใช้จริง ก็เอา ซินเฉ่ากรุ๊ปให้พวกเขา”
หยางเฉินส่ายหน้า ในเมื่ออีกฝ่ายพูดถึงเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เห็นได้อย่างชัดเจนว่าธุรกิจนี้ มีความหมายสำหรับเขา
จะเอาธุรกิจอื่นมาทดแทนได้อย่างไร
“ช่างเป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างพี่น้อง!”
กวนซินพูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “อย่าบอกนะว่าพวกนายไม่รู้ การที่เรามาที่นี่ในวันนี้ ก็เป็นเพราะพี่ที่ดีของนายยังไงล่ะ”
เธอมองหม่าชาว ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“เธอหุบปาก!”
“ความสัมพันธ์ของฉันกับพี่เฉิน ต้องให้คนนอกมาสร้างความแตกแยกหรือไง”
หม่าชาวพูดอย่างโมโห “ทางที่ดี ฉันเตือนให้พวกเธอฟังพี่เฉิน ออกไปตอนนี้ซะดีๆ ไม่งั้น พวกเธอจะต้องชดใช้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ทำในวันนี้!”
“แต่น่าเสียดายจริงๆ”
กวนซินยิ้มและส่ายหน้า “โดนพี่ชายของนายทำให้พลอยลำบากไปด้วย ทำลายงานแต่ง แต่นายกลับไม่ว่าอะไรสักนิด”
“ดูเหมือนว่า ในใจของนาย ฐานะของพี่ชายคนนี้ คงห่างไกลจากภรรยาของนายมากสินะ”
กวนซินยังคงยั่วยุ สร้างความแตกแยก
“ถ้าเธอแค่ต้องการยั่วยุ สร้างความแตกแยก ฉันขอเตือนให้เธอหยุด”
ไม่รอให้หม่าชาวพูด อ้ายหลินเดินมาข้างหม่าชาว จับมือของหม่าชาวเอาไว้แน่น มองกวนซินแล้วพูดว่า “หยางเฉินเป็นคนยังไง เธอไม่รู้สักนิด และไม่มีวันเข้าใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองสามีภรรยากับหยางเฉิน”
“ไม่ว่าฐานะระหว่างฉันกับหยางเฉิน ใครจะสูงส่งกว่ากัน ในใจของสามีฉัน ฉันไม่มีวันโกรธเลยสักนิด”
“กลับกัน ถ้าให้ฉันรู้ว่าหม่าชาวเห็นฉันสำคัญกว่าหยางเฉิน ฉันจะโกรธมากกว่า”
เมื่ออ้ายหลินพูดออกมา จู่ๆ หม่าชาวมีสีหน้าตื้นตัน
หยางเฉินเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของเขา อ้ายหลินเป็นคนรักชั่วชีวิตของเขา
ฐานะของทั้งสองคน ในใจหม่าชาว ล้วนสูงส่งทั้งนั้น ถึงขนาดที่เกินกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำ
ถ้าให้เขาเลือกระหว่างทั้งสองคนจริงๆ เขาทำไม่ได้ ยอมให้ตัวเองตายดีกว่า
เขารู้นัยสำคัญของคำพูดอ้ายหลินดี