The king of War - บทที่ 939 ช่วยคน
อู่หนิงสะกดกลั้นความโกรธ “เธอไม่ใช่ภรรยาลูก กลับมาเดี๋ยวนี้!”
“เธอเป็นภรรยาผม! ผมจะปกป้องเธอ!”
อู่จื่อไคมีท่าทีแน่วแน่มาก ถึงเป็นคำพูดของพ่อ เขาก็ไม่ฟังแล้ว
“อู่จือไค ฉันไม่ใช่ภรรยานาย รีบไปหาพ่อนายเลย”
กวนเย่วทนไม่ได้ที่จะให้อู่จื่อไคปกป้องตัวเอง จึงอดพูดออกมาไม่ได้
“ภรรยา ฉันรู้ว่าเธอกลัวว่าจะพลอยทำฉันลำบากไปด้วย ถึงพูดแบบนี้ เธอวางใจเถอะ ฉันเป็นคนตระกูลอู่หวง มีฉันอยู่ ใครก็ห้ามรังแกเธอ”
อู่จื่อไคพูดพลาง เหวี่ยงหมัดไปมา รูปร่างอ้วนท้วน ดูน่ารักเล็กน้อย
“หัวหน้ารอง คุณว่าเรื่องนี้ควรทำยังไง”
กวนหงอี้มองอู่หนิงแล้วถามขึ้น
อู่หนิงกังวลว่าเบื้องหลังหยางเฉิน จะมีอำนาจยิ่งใหญ่ แล้วทำไมกวนหงอี้จะไม่กังวลล่ะ
เขาต้องการฆ่าหยางเฉิน ถ้าสามารถดึงตระกูลอู่หวงเข้ามาได้ ถึงเบื้องหลังหยางเฉินจะมีอำนาจใหญ่ ก็สามารถลดแรงกดดันของตระกูลคิงกวนไปได้มาก
คำพูดที่ว่ารองหัวหน้าคิดยังไง กวนหงอี้โยนมาให้อู่หนิงแล้ว
อู่หนิงไม่พูดอะไร มองกวนหงอี้ด้วยสายตาราบเรียบ “นี่เป็นตระกูลคิงกวนของนาย จะทำยังไง คนตระกูลคิงกวนอย่างนาย ควรตัดสินใจไม่ใช่หรือไง”
เขาจะไม่รู้เจตนาของกวนหงอี้ได้อย่างไรล่ะ
ระหว่างสองตระกูล เดิมทีก็เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน เรื่องตอนนี้ เกี่ยวกับผลประโยชน์ของแต่ละคน อู่หนิงไม่ประมาทเข้าไปหรอก
กวนหงอี้ยิ้มบางๆ “หัวหน้ารองพูดถูก แต่ตอนนี้หลานจื่อไค เอาแต่จะปกป้องกวนเย่ว เรื่องนี้จึงจัดการค่อนข้างยาก”
“ถึงไม่มีหลานจื่อไคมาก้าวก่าย กวนเย่วเป็นผู้หญิงที่จะแต่งเข้าตระกูลอู่หวงแล้ว ตอนนี้คนนอกเพียงคนเดียว จะพาตัวกวนเย่วไป เมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้จึงเกี่ยวข้องกับตระกูลอู่หวง”
“ถ้าหยางเฉินพาสะใภ้ของหัวหน้ารอง ไปต่อหน้าต่อตา ขืนเรื่องนี้ถูกพูดออกไป เกรงว่าน่าจะไม่ดีนะ”
“เมื่อถึงตอนนั้น คนจะพูดกันยังไง กลัวว่าหน้าของหัวหน้ารอง คงจะไม่ดี”
อู่หนิงแสยะยิ้ม “ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ยังไม่แต่งเข้าตระกูลอู่หวง งั้นเธอยังเป็นผู้หญิงของตระกูลคิงกวน เกี่ยวอะไรกับตระกูลอู่หวงไม่ทราบ”
“อีกอย่าง ฉันพูดตอนไหนว่าเรื่องแต่งงานนี้จะสำเร็จ”
“ตอนนี้ฉันบอกนายได้อย่างชัดเจน ผู้หญิงคนนี้กล้าดูหมิ่นลูกชายฉัน ไม่มีสิทธิ์เข้ามาในตระกูลอู่หวง”
พูดจบ อู่หนิงมองอู่จื่อไค แล้วพูดอย่างโมโห “ไสหัวมา!”
“ไม่!”
อู่จื่อไคเหมือนเด็กน้อย ที่เห็นของเล่นที่ตัวเองชอบ ไม่ยอมออกห่างกวนเย่ว
“เอาตัวเขามาให้ฉัน!”
อู่หนิงสั่งลูกน้องข้างกายตัวเอง
“ครับ!”
ลูกน้องทั้งสองคน เดินไปหาอู่จื่อไคทันที ดึงแขนทั้งซ้ายและขวาของอู่จื่อไคให้ออกมา
“ปล่อยฉัน! พวกนายปล่อยฉัน!”
“ฉันจะปกป้องภรรยาฉัน พวกนายปล่อยฉัน!”
อู่จื่อไคขัดขืนอย่างบ้าคลั่ง แต่โดนผู้คุ้มกันระดับสุดยอด ของตระกูลอู่หวงจับไว้ เขาจะดิ้นหลุดได้อย่างไร
“ตอนนี้ไม่มีใครขวางเจ้าชายใหญ่แล้วสินะ”
อู่หนิงมองกวนหงอี้อย่างเย็นชา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความประชดประชัน
เห็นได้ชัดว่ากวนหงอี้คิดไม่ถึง ว่าอู่หนิงจะทำเช่นนี้ จู่ๆ เขารู้สึกขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก
เมื่อกี้อู่จื่อไคยืนบังกวนเย่ว เขายังพูดได้ ตอนนี้อู่จื่อไคถูกพาไปแล้ว อู่หนิงยังไม่ยอมรับสะใภ้อย่างกวนเย่วอีก
งั้นเรื่องที่หยางเฉินบุกเข้ามาในงานเลี้ยงหมั้น คงไม่เกี่ยวกับตระกูลอู่หวงจริงๆ
“หัวหน้ารองพูดถูก ในเมื่อหลานจื่อไคถูกพาตัวไปแล้ว งั้นฉันก็ไม่กังวลว่าจะทำร้ายโดนเขาแล้ว”
กวนหงอี้ฝืนยิ้ม “แต่หัวหน้ารองวางใจเถอะ เรื่องแต่งงานครั้งนี้ไม่สำเร็จ แต่ตระกูลคิงกวนของฉัน ยังมีผู้หญิงยอดเยี่ยมคนอื่น เมื่อถึงตอนนั้น หลานจื่อไคเลือกได้ตามใจชอบเลย”
“หึ!”
อู่หนิงไม่รับน้ำใจสักนิด เขาส่งเสียงหึอย่างเย็นชา และไม่รับปาก
“กวนเย่ว จื่อไคชอบเธอ เป็นวาสนาแปดชาติของเธอ แต่เธอกลับไม่รักษาไว้ ตอนนี้ไม่มีจื่อไคปกป้องเธอแล้ว ฉันจะดูสิ ว่าอาจารย์ของเธอ จะพาเธอออกจากตระกูลคิงกวนได้หรือเปล่า”
กวนหงอี้มองกวนเย่ว และถามด้วยสีหน้าเฉยชา
กวนเย่วกัดริมฝีปากแดงแน่น มองหยางเฉินที่อยู่ข้างๆ จากนั้นจึงพูดว่า “ฉันไม่เคยคิดว่าจะให้ใครมาปกป้องฉัน ทำเองรับเอง ฉันไม่ยอมแต่งเข้าตระกูลอู่หวง ไม่เกี่ยวกับอาจารย์ฉัน ให้อาจารย์ฉันกลับไป”
“กลับเหรอ จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ”
กวนหงอี้ยิ้มและมองหยางเฉิน “นายมาได้พอดิบพอดี เมื่อคืนวาน หม่าชาวน้องชายของนาย บุกเข้ามาในตระกูลคิงกวนยามวิกาล แถมยังฆ่ากวนซิน หลานสาวของฉัน”
“ถ้าวันนี้นายไม่ส่งคนมา อย่าหวังว่าจะได้ออกจากตระกูลคิงกวนแม้แต่ก้าวเดียว”
กวนเย่วร้อนใจ รีบพูดว่า “ลุง……”
“กวนเย่ว ตอนนี้เธอยังไม่เข้าใจเหรอ ตระกูลคิงกวน ไม่เคยเห็นเธอเป็นคนในตระกูล ในสายตาของพวกเขา เธอเป็นเพียงสิ่งที่สามารถเสียสละได้ทุกเมื่อ ก็เท่านั้นเอง”
หยางเฉินพูดขัดกวนเย่ว แล้วพูดด้วยสีหน้าเฉยชา “อีกอย่าง ฉันมาวันนี้ เรื่องแรกคือพาเธอออกไป แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องทำ”
“อาจารย์ ถือว่าฉันขอเถอะ คุณไม่ต้องสนใจฉัน รีบออกไป ได้หรือเปล่า”
กวนเย่วพูดด้วยตาแดงระเรื่อ “ผู้แข็งแกร่งแดนราชาของตระกูลคิงกวน มีเยอะมาก ผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดก็มีไม่น้อย ฉันไม่อยากให้คุณติดร่างแหเพราะฉัน”
เธอกลัวหยางเฉินจะติดอยู่ที่ตระกูลคิงกวนจริงๆ
ตอนเจอหยางเฉินครั้งแรกในตอนนั้น เธอเอาแต่จะให้หยางเฉินเป็นอาจารย์ อยากหาที่พึ่งอันแข็งแกร่งจริงๆ หวังว่าหยางเฉินจะช่วยเธอ ขัดขวางคนตระกูลคิงกวนได้
เมืองเยี่ยนตูไม่เหมือนที่อื่น ผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดอย่างแท้จริงของตระกูลคิง ไม่กล้าประมาทเข้ามาก้าวก่าย
เธอเข้าใจว่าใช้พละกำลังของหยางเฉิน ก็เพียงพอที่จะรับมือแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่า เพื่อจับเธอกลับมาแต่งงาน กวนหงอี้ถึงกับไปเมืองเยี่ยนตูด้วยตัวเอง
รู้จักหยางเฉินได้ไม่นาน แต่การรู้จักในระยะเวลาไม่นาน กลับทำให้เธอรู้สึกถึงคนที่จริงใจกับเธอเป็นคนแรก นอกจากพ่อกับแม่
ตอนนี้ในใจเธอ หยางเฉินไม่ใช่แค่อาจารย์ แต่เป็นพี่ชายเธอด้วย
เธอไม่อยากให้พี่ชาย พลอยลำบากเพราะตัวเอง และตายที่ตระกูลคิงกวน
หยางเฉินฟังกวนเย่วพูดด้วยสีหน้าราบเรียบจนจบ จากนั้นจึงพูดอย่างแน่วแน่ “เธอคิดว่าฉันเป็นพวกคนไร้สมองจริงเหรอ”
“ในเมื่อฉันกล้ามาตระกูลคิงกวน ฉันจะไม่รู้หรือว่า ตระกูลคิงกวนมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดเยอะแค่ไหน”
คำพูดของหยางเฉิน ทำให้กวนเย่วอึ้งไป
ใช่ หยางเฉินหนุ่มขนาดนี้ ก็มีพละกำลังแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าโง่จริง จะรอดมาถึงทุกวันนี้ไหม
จู่ๆ กวนหงอี้มีลางสังหรณ์ไม่ดี ประโยคที่หยางเฉินย้อนถามกวนเย่ว เป็นเหมือนการย้อนถามตระกูลคิงกวน
ถ้าหยางเฉินรู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งตระกูลคิงกวน เข้ายังจะบุกเข้ามาที่ตระกูลด้วยตัวคนเดียวไหม
ไม่เพียงแค่นี้ แถมยังทำร้ายหัวหน้ารองของตระกูลอู่หวง อย่างอู่หนิงด้วย
หันกลับมามองอู่หนิง ไม่เป็นฝ่ายยั่วยุ กลับยืนนิ่งอยู่อีกด้าน มองตระกูลคิงกวนกับหยางเฉินเผชิญหน้ากัน
ฐานะของหัวหน้ารองตระกูลอู่หวง สูงส่งขนาดไหน
โดนหยางเฉินตบจนปลิวต่อหน้าทุกคน แถมยังเหมือนคนไม่เป็นอะไร ไม่โต้เถียงกับหยางเฉินเหรอ
อู่หนิงเป็นคนโง่ไหม
แน่นอนว่าไม่ใช่!
นี่แสดงว่า พรสวรรค์วิถีบู๊ของหยางเฉิน เพียงพอที่จะทำให้ผู้มีอำนาจของตระกูลอู่หวงเกรงกลัวแล้ว
เมื่อคิดเช่นนี้ สีหน้าของกวนหงอี้ยิ่งไม่สู้ดี
ตอนนี้ขี่หลังเสือแล้วลงยากจริงๆ