The king of War - บทที่ 942 ใช้บู๊แก้ไข
“คุณหยางวางใจได้เลย ในเมื่อคุณเป็นอาจารย์ของกวนเย่ว คุณก็เป็นอาจารย์ของจื่อไคลูกชายผมด้วย ใครกล้าล่วงเกินคุณหยาง ก็เท่ากับล่วงเกินตระกูลอู่หวง!”
กวนเย่วช็อกมาก ตอนแรกยังกังวลกับหยางเฉิน คิดไม่ถึงว่าตระกูลอู่หวง จะออกหน้าแทนหยางเฉิน
เมื่อเป็นเช่นนี้ เกรงว่าตระกูลคิงกวนจะถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็บอกใครไม่ได้จริงเสียแล้ว
หยางเฉินย้อนถาม “หัวหน้ารองว่า เรื่องที่ตระกูลคิงกวน ทำกับน้องชายผม ควรจะชดใช้ให้ผมยังไงดี”
อู่หนิงเข้าใจความหมายของหยางเฉินทันที แววตาเย็นชาลงเรื่อยๆ เขามองกวนหงอี้แล้วพูดว่า “เรื่องเกิดขึ้นแล้ว อยากเอากลับมา คงเป็นไปไม่ได้”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตระกูลคิงกวนชดใช้ให้น้องคุณหยางแสนล้าน นอกจากนี้ กวนหงอี้ที่เป็นเจ้าชายใหญ่ของตระกูลคิงกวน แอบทำเรื่องลอบคิดบัญชีแบบนี้ ต้องของโทษน้องชายของคุณหยาง”
“นอกจากนี้ กวนหงอี้ยิงปืนมือไหน ก็ต้องหักแขนนั้นด้วยตัวเอง!”
พูดจบ อู่หนิงมองหยางเฉิน “ไม่ทราบว่าการชดใช้เช่นนี้ คุณหยางพอใจหรือเปล่า”
อู่หนิงไม่สนใจสีหน้าของคนตระกูลคิงกวน ว่าจะไม่สู้ดีแค่ไหน และไม่สนใจว่าพวกเขาจะยอมรับหรือไม่ ก็ถามว่าหยางเฉินพอใจก่อนหรือเปล่า
คนในตระกูลคิงกวนแต่ละคนต่างมีสีหน้าโกรธ กวนหงอี้โกรธจนคุมตัวเองไม่อยู่ กำหมัดทั้งสองข้างแน่น ในชีวิตนี้ เขาไม่เคยคับอกคับใจขนาดนี้มาก่อน
“สิ่งที่หัวหน้ารองช่วยผมเรียกค่าชดใช้ ไม่ต่างจากที่ผมคิดเท่าไร ไม่ทราบว่าเจ้าชายใหญ่ ยอมชดใช้ให้ผมเช่นนี้หรือเปล่า”
หยางเฉินหรี่ตามองกวนหงอี้
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนมองไปยังกวนหงอี้ เขาจะทำลายแขนข้างที่ยิงปืน หรือยอมจ่ายแสนล้าน ล้วนเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวงสำหรับเจ้าชายอย่างเขา
ที่นี่คือตระกูลคิงกวน ถึงหยางเฉินอยากฆ่ากวนหงอี้ เพื่อแก้แค้นให้หม่าชาว แต่เขารู้ว่า ถ้าเขาฆ่ากวนหงอี้ในตระกูลคิงกวนจริง ผลที่ตามมาจะร้ายแรงแค่ไหน
อีกอย่าง เมื่อครู่เขาได้รับข้อความที่ต่งจ้านกังส่งมา หม่าชาวฟื้นแล้ว
ไม่งั้น เขาคงไม่เสียเวลายืดเยื้อในตระกูลคิงกวนนานขนาดนี้หรอก
ตอนนี้มีคนของตระกูลอู่หวง เป็นฝ่ายออกหน้า ไม่เพียงแต่จะสร้างความกดดันให้ตระกูลคิงกวน แถมยังแก้แค้นให้หม่าชาวได้ด้วย เขาจะไม่พอใจอะไรอีก
สำหรับตระกูลคิงกวน ถึงหาเงินแสนล้านมาได้ แต่ก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องทำให้แขนของกวนหงอี้พิการไปข้างหนึ่ง เพียงพอที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้หม่าชาวแล้ว
แต่ทว่าไม่รู้ว่าตระกูลคิงกวน จะยอมชดใช้ให้แบบนี้หรือเปล่า
สีหน้าของกวนหงอี้ไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก อู่หนิงไม่สนหน้าของตระกูลคิงกวนสักนิด
“หัวหน้ารอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตระกูลอู่หวง คุณมาก้าวก่าย ไม่น่าจะดีนะ”
ขณะนั้น ผู้อาวุโสฝ่ายกวนหงอี้ มองอู่หนิงแล้วถามขึ้น
อู่หนิงแววตาเย็นยะเยือก “เจ้านายของนายยังไม่ได้พูด นายเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาสอนฉัน”
ผู้อาวุโสของตระกูลคิงกวนสีหน้าชะงักไป โกรธจนตัวสั่น เขาเป็นบุคคลสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ต่างๆ ของตระกูลคิงกวน เคยเจอการดูหมิ่นแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ
ถึงอู่หนิงเป็นคนตระกูลอู่หวง และเป็นคนของราชวงศ์ ที่มีอำนาจควบคุมตระกูลอู่หวงในฝ่ายรอง แล้วยังไง ถึงเป็นกวนหงอี้ ยืนต่อหน้าอู่หนิง ก็ไม่กล้าแสดงท่าทีก้าวร้าว
“ถ้านายเป็นชายแท้ ก็ออกมาสู้กับตระกูลคิงกวนด้วยตัวเอง หลบอยู่หลังตระกูลอู่หวง จะนับประสาอะไร”
กวนหงอี้ไม่สนใจอู่หนิง แต่กลับมองหยางเฉินแล้วเอ่ยขึ้น
หยางเฉินยิ้มเย้ยหยัน “ตอนคนตระกูลคิงกวน ลอบฆ่าผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่ง ทำไมพวกนายไม่พูดว่าจะสู้กับฉันต่อหน้าล่ะ”
“พวกผู้แข็งแกร่งตระกูลคิงกวน ล้อมโจมตีน้องชายฉัน เจ้าชายใหญ่อย่างนายยิงปืน ฆ่าน้องชายฉัน ทำไมไม่พูดล่ะว่าจะสู้กับฉันต่อหน้า”
หยางเฉินถามไม่หยุด สีหน้ากวนหงอี้ไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่หยางเฉินพูด เป็นความจริงทั้งหมด
อู่หนิงก็ยิ้มเย้ยหยัน “กษัตริย์กวนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมาทั้งชีวิต คิดไม่ถึงว่าเจ้าชายใหญ่อย่างนาย จะเป็นสวะที่ไร้ยางอายและไร้ความสามารถเช่นนี้”
ในเมื่อเลือกดีแล้ว อู่หนิงจึงพูดอย่างไร้เยื่อใย ไม่ปกปิดการดูหมิ่นที่มีต่อกวนหงอี้
อู่หนิงกำลังจะพูดต่อ แต่โดนหยางเฉินขัดขึ้นมา “แต่ไม่เป็นไร เจ้าชายใหญ่กวนจะไร้ยางอายก็ได้ แต่คนอย่างหยางเฉินจะไร้ยางอายไม่ได้ ในเมื่อนายอยากให้ฉันออกมาสู้กับพวกนายต่อหน้าขนาดนี้ งั้นฉันจะสนองให้”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน อู่หนิงรีบพูดว่า “คุณหยาง คุณวางใจเถอะ ถ้าตระกูลคิงกวนกล้าทำเรื่องไร้ยางอาย ผมก็ไม่ปล่อยเอาไว้เหมือนกัน”
หยางเฉินหัวเราะ “งั้นขอบคุณความหวังดีของหัวหน้ารองด้วย”
อู่หนิงรีบส่ายหน้า “คุณหยางเกรงใจแล้ว!”
หยางเฉินก้าวออกมาด้านหน้าทันที เขามองกวนหงอี้ ด้วยสีหน้ายียวน “เจ้าชายใหญ่กวน ไม่อยากให้ฉันหลบอยู่หลังคนอื่นไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ฉันออกมาแล้ว ไม่ทราบว่าเจ้าชายใหญ่กวนจะชี้แนะฉันยังไง”
“แน่นอนว่าวิธีที่เจ้าชายใหญ่กวน ใช้กับน้องชายฉันก่อนหน้านี้ จะใช้ปืนยิงฉัน หรือจะให้ผู้แข็งแกร่งตระกูลคิงกวนทั้งหมด มาล้อมโจมตีฉันก็ได้ ถึงพวกนายต่อสู้ ฉันก็จะรับมือทั้งหมด!”
มีอู่หนิงสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กวนหงอี้ก็ไม่กล้าทำแบบนี้
สายเลือดทางตรงของตระกูลคิงกวน แต่ละคนมีสีหน้าอึมครึม ตอนมองหยางเฉิน แทบอยากใช้สายตาฆ่าเขาจนทนไม่ไหว
หยางเฉินมีสีหน้าไม่หวาดกลัว ยืนตรงข้าม ห่างจากกวนหงอี้ประมาณสองเมตร รอให้กวนหงอี้พูด
อู่หนิงยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่มีความหมายล้ำลึก
กวนเย่วมีสีหน้ากังวล อู่จื่อไคพูดปลอบใจอยู่ข้างๆ “ภรรยา เธอวางใจเถอะ มีฉันอยู่ ใครก็อย่าคิดมาทำร้ายอาจารย์”
อู่หนิงปรายตามองกวนเย่ว ยิ้มแล้วพูดว่า “เธอวางใจเถอะ มีฉันอยู่ ถึงกษัตริย์กวนมา ก็ทำอะไรอาจารย์เธอไม่ได้”
“ขอบคุณหัวหน้ารอง!”
กวนเย่วพยักหน้าเบาๆ พูดด้วยสีหน้าซาบซึ้ง
ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ สายตาทุกคนมองไปที่กวนหงอี้
ในแววตาลึกๆ ของกวนหงอี้ เต็มไปด้วยความอาฆาตรุนแรง แต่เขารู้ดี พละกำลังแดนราชาขั้นต้นของตัวเอง ไม่สามารถทำอะไรหยางเฉินได้
“เรื่องมาถึงขนาดนี้ ใครถูกใครผิด ไม่มีความหมายอะไรแล้ว”
หลังกวนหงอี้เงียบอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดว่า “ไม่ว่ายังไง กวนเย่วเป็นสายเลือดของตระกูลคิงกวน ในเมื่อนายเป็นอาจารย์เธอ ควรเป็นเพื่อนของตระกูลคิงกวน”
“ฉันหวังว่าจะจัดการเรื่องตามมารยาท ถ้านายยอมไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง ฉันจะให้เงินของฉันเอง กับน้องชายนายหมื่นล้าน เพื่อเป็นค่าชดใช้”
“นอกจากนี้ ตำแหน่งหัวหน้าสามในตระกูลคิงกวน เดิมควรเป็นของพ่อกวนเย่ว แต่พ่อกวนเย่ว สิ้นใจไปก่อนวัยอันควร ในเมื่อตอนนี้กวนเย่วกลับมาตระกูลแล้ว ตำแหน่งหัวหน้าสาม ก็ควรคืนให้กวนเย่ว”
“อีกทั้งฉันสามารถรับรองกับนาย ต่อไปเรื่องแต่งงานของกวนเย่ว จะให้เธอคิดเอง ถึงเธอแต่งงาน ก็ยังคงเป็นหัวหน้าสามของตระกูลคิงกวน”
เมื่อกวนหงอี้พูดคำเหล่านี้ออกมา คนตระกูลคิงกวนแต่ละคน ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
“ไม่ได้!”
กวนเจิ้นไห่พูดคัดค้านขึ้นเป็นคนแรก “ตอนนี้ฝ่ายสาม ไม่ใช่ฝ่ายสามเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีผู้หญิงรับตำแหน่งหัวหน้าในตระกูลคิงกวน”