The king of War - บทที่ 959 ขัดขวางการรักษา
ตอนนี้เจียงสยงบาดเจ็บสาหัส หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามคิดว่า เขาเป็นแค่คนป่วยเกินเยียวยา เป็นคนไร้ประโยชน์ที่อยู่ได้อีกไม่นาน
แม้เมื่อก่อนเจียงสยงจะมีพละกำลัง ที่ลึกล้ำจนยากจะคาดเดา ถึงพวกเขาร่วมมือกัน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่นั่นกลายเป็นอดีตไปแล้ว
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามไม่กังวลสักนิด เจียงสยงจะทำอะไรพวกเขาได้
“นายกำลังรนหาที่ตาย!”
เจียงสยงโมโหสุดขีด ในดวงตาแดงก่ำ ฉายแววอาฆาต “คุณหยางไม่ใช่คนที่พวกนายจะดูถูกได้ พวกนายรีบขอโทษคุณหยางเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าโทษฉัน ที่ต้องลงโทษพวกนายตามกฎตระกูล”
เมื่อเขาพูดจบ ผู้อาวุโสคนหนึ่ง ปรากฏตัวข้างหลังเจียงสยงอย่างเงียบๆ มองหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ด้วยใบหน้าเฉยชา
“กฎตระกูลเหรอ”
หัวหน้าสามแสยะยิ้ม “ขอถามหน่อย เราทำผิดกฎตระกูลข้อไหน คุณจะลงโทษพวกเรายังไง”
หัวหน้ารองก็หัวเราะ แล้วพูดว่า “จะให้เราขอโทษเด็กน้อยคนนี้ ไม่มีทาง อย่าว่าแต่ลงโทษเราตามกฎตระกูลเลย ถึงคุณจะฆ่าเรา ก็ไม่มีทางเป็นไปได้!”
ท่าทีของทั้งสองคนแน่วแน่มาก นั่นก็คือไม่มีทางขอโทษ
การเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจของตระกูลเจียง ข้างกายเจียงสยงมีผู้แข็งแกร่ง แล้วข้างกายพวกเขา จะไม่มีผู้แข็งแกร่งได้อย่างไร
ผู้คุ้มกันที่ดูแข็งแกร่งสองสามคน ปรากฏตัวด้านหลังหัวหน้ารองกับหัวหน้าสามเรื่อยๆ จ้องเจียงสยงด้วยแววตาดุร้ายราวกับเสือ
ราวกับว่าถ้าเจียงสยงกล้าสั่งให้แตะต้องหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม พวกเขาก็กล้าจัดการเจียงสยง
ทั้งตระกูลเจียง ปกคลุมไปด้วยกลิ่นดินปืน
หยางเฉินหรี่ตาทั้งสองข้างลงเบาๆ หลังเขารู้ว่าเจียงสยง เป็นผู้นำตระกูลเจียง เดิมทียังคิดว่าตระกูลเจียงแข็งแกร่งไม่สามารถทำอะไรได้ คำพูดของเจียงสยงล้วนเป็นใหญ่
ดูท่าว่าตอนนี้จะไม่ใช่เช่นนั้น
ตาเฒ่าสองคนนี้ ดูเหมือนจะคิดว่าเจียงสยง ใกล้จะไม่ไหวแล้ว จึงคิดจะแก่งแย่งตำแหน่งผู้นำ
“พวกนายคิดจะแบ่งแยกตระกูลเจียงใช่ไหม”
เจียงสยงสะกดกลั้นความโกรธ และกัดฟันถามขึ้น
เขาอยากแตะต้องหัวหน้ารองกับหัวหน้าสามมาก แต่เขารู้ดีแก่ใจ ถ้าแตะต้องสองคนนี้ ตระกูลเจียงต้องกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์แน่นอน
อย่าว่าแต่ตระกูลที่เป็นรองตระกูลคิงกวน ขนาดตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองกษัตริย์กวน ก็ไม่น่าจะรักษาเอาไว้ได้
“เราไม่ได้อยากแบ่งแยกตระกูลเจียง แต่ผู้นำเอาแต่บีบบังคับคนอื่น บีบบังคับเราสองคน ใช้กฎตระกูลมาเล่นงานเรา เพราะคนนอกสองคนนี้”
หัวหน้ารองหัวเราะแล้วพูดว่า “เราแค่ทำเพื่อปกป้องตัวเอง หลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้นำหาข้ออ้าง ใช้โอกาสมาลงโทษเรา ทำให้เราหายไป”
หัวหน้าสามสีหน้าอึมครึม จ้องเจียงสยงแล้วพูดว่า “เรายอมรับว่าคุณเป็นผู้นำตระกูลเจียง แต่ถ้าคุณเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ไม่สนใจความปลอดภัยของตระกูลเจียง ตอนนี้เราคงทำได้เพียงให้คุณวางมือให้คลื่นลูกใหม่”
เจียงสยงโกรธจนแสยะยิ้มออกมา “ไม่สนใจความปลอดภัยของตระกูลเจียงงั้นเหรอ ฉันทำเรื่องร้ายแรงมากขนาดนั้น จนไม่สนใจความปลอดภัยของตระกูลเหรอ”
“คุณเป็นผู้นำของตระกูล ถ้าจะหาหมอเทวดามารักษาจริง จำเป็นต้องผ่านการยินยอม จากหัวหน้าทั้งห้าอย่างพวกเราเสียก่อน”
หัวหน้ารองยิ้มเย็นชา “แต่ดูคุณสิ กลับหาเด็กสองคนตามอำเภอใจ จะให้มารักษาคุณ ขืนคุณเป็นอะไรขึ้นมา ตระกูลเจียงยังไม่มีผู้สืบทอด เมื่อถึงตอนนั้นต้องวุ่นวายแน่นอน”
“ถ้าตระกูลอื่นใช้โอกาสนี้เล่นงานตระกูลเจียง ตระกูลเจียงจะเลือกยังไง”
“ในเมื่อคุณเป็นผู้นำตระกูลเจียง ก็ต้องรับผิดชอบตระกูลเจียง คุณหาหมอเทวดาได้ แต่จะหาใครก็ไม่รู้ มารักษาคุณไม่ได้”
เมื่อหัวหน้ารองพูดออกมา หัวหน้าสามก็พูดต่อ “ใช่ คุณจะหาหมอเทวดา ต้องผ่านการยอมรับของหัวหน้าทั้งห้าก่อน ถึงจะทำได้”
ทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ความหมายชัดเจนมาก นั่นก็คือไม่ให้เฝิงเสียวหว่านรักษาเจียงสยง
จะหาคนมารักษาได้ แต่ต้องให้พวกเขาเห็นด้วยก่อน
“บังอาจ!”
เจียงสยงโมโหจนตวาดออกมา “ฉันเจียงสยง เป็นผู้นำตระกูล ขนาดฉันจะหาหมอเทวดามารักษาตัวเอง ยังทำไม่ได้อย่างนั้นเหรอ”
“พวกนายเอาแต่พูดว่ายอมรับฉันเป็นผู้นำตระกูลเจียง แต่การกระทำของพวกนายทุกอย่าง เรียกว่ายอมรับไหม”
“ฉันจะดูสิ ใครจะกล้าขวาง แขกวีไอพีที่ฉันเชิญมา”
พูดจบ เขาสั่งผู้คุ้มกันด้านหลังว่า “ใครกล้าขวางคุณหยางกับหมอเทวดาเฝิง ฆ่าให้หมด!”
“ครับ!”
ผู้คุ้มกันตอบรับ พลานุภาพแดนราชาขั้นกลาง แผ่ออกมาจากตัวเขา
“คุณหยาง หมอเทวดาเฝิง เราไปกันเถอะครับ!”
เจียงสยงพูดกับหยางเฉินและเฝิงเสียวหว่าน ด้วยสีหน้านอบน้อม
ในขณะเดียวกัน พลานุภาพของแดนราชาขั้นปลาย แผ่ออกมาจากตัวเจียงสยง
“ผู้อาวุโสเจียง!”
เฝิงเสียวหว่านหน้าเปลี่ยนสีทันที เธอพยายามส่งเสียงเพื่อห้าม
แต่โดนเจียงสยงพูดขัด “เราไปกันเถอะครับ!”
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ที่เอาแต่พยายามขัดขวางด้วยเจตนาร้าย ตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีทันที
ตอนนี้พลานุภาพบนตัวเจียงสยง มากเพียงพอ ไม่เหมือนคนป่วยเกินเยียวยา แถมยังอยู่ในสภาวะสุดยอดอีกด้วย
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม มีพละกำลังอยู่แค่แดนราชาขั้นกลาง ถึงข้างกายพวกเขามีผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอด แข็งแกร่งสุดก็แค่แดนราชาขั้นกลางเท่านั้น
เจียงสยงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลาย ข้างกายยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลาง อีกหนึ่งคน
ถ้าเกิดความขัดแย้งระหว่างพวกเขา เกรงว่าเจียงสยงจะฆ่าหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ได้ภายในพริบตา
ดังนั้น หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ยังลังเลไม่กล้าออกคำสั่ง มองเจียงสยงพาหยางเฉินกับเฝิงเสียวหว่านออกไป
จนกระทั่งพวกนั้นหายลับไปจากสายตาพวกเขา หัวหน้าสามจึงพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม “ไอ้เลว เขาใกล้จะตายแล้ว ยังปลดปล่อยสภาวะสุดยอดออกมาได้อีก”
หัวหน้าสามพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ดูเหมือนว่าเราประเมินเขาต่ำไป ถ้าเขารักษาหายจริง กลัวว่าจะไม่มีที่ยืนให้เราในตระกูลเจียงอีก!”
“ดังนั้น เราต้องขัดขวางไม่ให้ใครรักษาเขา”
หัวหน้าสามกัดฟันพูด
“ในเมื่อเขาสามารถปล่อยพลังสภาวะสุดยอดได้ งั้นก็สามารถฆ่าเราได้ง่ายดาย เราจะขัดขวางยังไง”
หัวหน้ารองเอ่ยถาม
แน่นอนว่าเขาก็ไม่อยากให้เจียงสยงรักษาหาย แต่ก็กลัวพละกำลังของเจียงสยงเหมือนกัน
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราคงทำได้แค่ใช้วิธีอื่น”
หัวหน้าสามหรี่ตาลง แล้วเอ่ยขึ้น ในตาทั้งสองข้าง ฉายแววอาฆาต
“นายมีวิธีอะไร”
หัวหน้ารองตาเป็นประกาย แค่ขัดขวางไม่ให้เจียงสยงได้รับการรักษา อีกไม่นาน พวกเขาก็จะได้ควบคุมตระกูลเจียงโดยสมบูรณ์
หัวหน้าสามหรี่ตาลง แล้วพูดว่า “เขาหาเด็กสองคนมาไม่ใช่เหรอ แถมยังบอกว่าหนึ่งในนั้นเป็นหมอเทวดา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเราก็รอดูก่อน รอดูว่าหมอเทวดาอายุน้อยคนนี้ มีความสามารถขนาดไหนกันแน่”
หัวหน้าสามยังไม่ทันพูดจบ หัวหน้ารองก็เข้าใจความหมายของเขา จู่ๆ เขาดีใจ “นายหมายความว่า ถ้าหมอเทวดาอายุน้อยคนนี้ มีฝีมือจริงๆ และรักษาเจียงสยงหาย เราก็จะฆ่าเธองั้นเหรอ”
“ถ้าหมอเทวดาอายุน้อยคนนี้ เป็นแค่คนหลอกลวง ก็จะให้เธอรักษาเจียงสยงต่อใช่ไหม”
หัวหน้ารองพยักหน้า ยกยิ้มยียวนมุมปาก “แค่เด็กสองคนเท่านั้น ฆ่าพวกเขา ง่ายนิดเดียว!”
ขณะที่หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม กำลังหารือแผนการ เจียงสยงพาหยางเฉินกับเฝิงเสียวหว่าน เข้ามาในห้องโถงงานเลี้ยง
แต่ทว่า เพิ่งเข้ามาข้างในโถงงานเลี้ยง เจียงสยงก็กระอักเลือดสีดำออกมา
“ผู้อาวุโสเจียง!”
หยางเฉินหน้าเปลี่ยนสีทันที เขารีบเข้าไปประคองเจียงสยง