The king of War - บทที่ 982 หนอนดูดจิต
“ใช้ไฟเผามัน!”
เฝิงเสียวหว่านรีบพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินคำพูดของเฝิงเสียวหว่าน มีคนเอากองไม้ฟืนมา หลังจุดไฟ หนอนกู่ที่ดิ้นไปมา ค่อยๆ นิ่งไป
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า คนตระกูลเจียง ถึงกับขนลุกทุกคน
“ดูเหมือนว่า เขาโดนเจ้าสำนักมาร ใช้พิษกู่ควบคุม เมื่อเขาพูดจุดประสงค์ ที่มาตระกูลเจียง ก็จะโดนพิษกู่แว้งกัด”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าหนักใจ
ถึงเป็นเขา ภาพเมื่อกี้ ก็ทำให้เขาตกใจมากเหมือนกัน
“แต่เขามาตระกูลเจียง เพราะอะไรกันแน่”
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร เจียงสยงตระหนักขึ้นมา เขาเดินมาข้างหยางเฉิน มองเหมียวเจิ้งเฟิง ที่ตายไปแล้ว และถามอย่างเคร่งขรึม
“ตอนนี้เรายืนยันได้แค่ว่า เจ้าสำนักมาร อาจารย์ของเขา ส่งให้เขามาปลอมตัวเป็นหัวหน้าสาม”
หยางเฉินมองเจียงสยง แล้วถามว่า “คุณแน่ใจว่าไม่เคยเจอกับคนของสำนักมารเมืองเหมียวใช่ไหม”
เจียงสยงส่ายหน้า “ผมแน่ใจมาก ตระกูลเจียงไม่เคยเจอคนของสำนักมารที่เมืองเหมียว หรือบางที……”
เขานิ่งไป จากนั้นจึงพูดว่า “หรือบางที ตระกูลหลินอาจรู้เรื่องของสำนักมาร ที่เมืองเหมียว”
หยางเฉินก็นึกได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้หลินเทียนเสียง เจ้าบ้านหลิน มาที่ตระกูลเจียง เพื่อให้เฝิงเสียวหว่านรักษาอาการป่วยให้เขา
สุดท้าย เฝิงเสียวหว่าน ขับหนอนดูดจิต ออกมาจากตัวเขาได้
ในขณะเดียวกัน ที่สำนักมารแห่งเมืองเหมียว อันไกลแสนไกล
ผู้อาวุโสในชุดเหมียว สีหน้าอึมครึมเป็นอย่างมาก มุมปากยังมีคราบเลือด
“ไม่ว่าใคร กล้ามาทำลายเรื่องดีของฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยไว้แน่!”
ผู้อาวุโสพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
ตระกูลหลิน หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ที่เมืองกษัตริย์กวน
ตอนนี้ ในคฤหาสน์สุดหรูแห่งหนึ่ง หลินเทียนเสียง ผู้นำตระกูลหลิน กำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
รอบๆ เตียง มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ วางอยู่มากมาย แพทย์ส่วนตัวในชุดกาวน์สองคน กำลังวุ่นอยู่กับการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ตรวจให้หลินเทียนเสียง
หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทั้งสองคน เสร็จสิ้นการตรวจ สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“รีบบอกมา พ่อฉันเป็นยังไงบ้าง”
เมื่อเห็นผู้เชี่ยวชาญมีสีหน้าตกใจ หลินเฮ่ารีบถามทันที
หลังผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคน มองหน้ากัน หนึ่งในนั้นพูดว่า “อาการป่วยของเจ้าบ้านหลิน หายแล้วครับ!”
“คุณบอกผมได้ไหม ว่าคุณทำได้ยังไง”
ในแววตาของผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคน เต็มไปด้วยความคาดหวัง
เป็นแพทย์ส่วนตัวของหลินเทียนเสียง ฝีมือทางการแพทย์ของพวกเขา สุดยอดอยู่แล้ว พวกเขามั่นใจในฝีมือการแพทย์ของตัวเองมาก
แต่หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ พวกเขาเพิ่งช่วยชีวิตหลินเทียนเสียง แถมยังออกใบแจ้งว่าป่วยขั้นรุนแรงถึงชีวิต ถึงกระทั่งให้ตระกูลหลิน เตรียมงานศพหลินเทียนเสียง
แต่หลินเฮ่าไม่ยอม และพาหลินเทียนเสียงออกมา
พอพวกเขากลับมาใหม่ อาการป่วยของหลินเทียนเสียง ก็หายแล้ว โดยเฉพาะหัวใจ ฟื้นฟูกำลังขึ้นมา นี่เป็นความมหัศจรรย์ด้านการแพทย์
“ฮ่าๆ ดี! ดีมาก!”
หลินเฮ่าดีใจจนหัวเราะออกมา
เพื่อที่จะช่วยหลินเทียนเสียง เขาถึงกับยอมแพ้ ที่จะแย่งชิงอำนาจในตระกูลหลิน
ตอนที่แพทย์ออกใบแจ้งว่าหลินเทียนเสียง อาการรุนแรงถึงชีวิต ตระกูลหลินโกลาหลเป็นอย่างมาก ลูกชายของหลินเทียนเสียง รวมไปถึงฝ่ายต่างๆ ในตระกูลหลิน ต่างพากันช่วงชิงอำนาจ
มีเพียงหลินเฮ่า ที่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ เมื่อรู้ว่าอาการของหลินเทียนเสียงรุนแรงถึงชีวิต เขาไม่ได้ช่วงชิงอำนาจ แต่กลับคิดหาวิธีหาหมอเทวดา มารักษาหลินเทียนเสียง
ตอนนี้ อาการป่วยของหลินเทียนเสียงคงที่แล้ว ส่วนเรื่องฟื้นฟู ก็ต้องใช้เวลา
หลินเทียนเสียงปลื้มใจมาก หายนะครั้งนี้ ทำให้เขารู้ถึงใจคนอย่างถ่องแท้ มีเพียงลูกชายแบบหลินเฮ่า ที่สนใจเขามากที่สุด
“เสี่ยวเฮ่า ลำบากนายแล้ว!”
หลินเทียนเสียงมองหลินเฮ่า แล้วพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“พ่อ ดูพูดเข้าสิ พ่อเป็นพ่อผม เพื่อพ่อ สิ่งที่ผมทำทั้งหมด เป็นเรื่องที่สมควรทำแล้ว”
หลินเฮ่ายิ้มและเอ่ยขึ้น
“พวกนายออกไปเถอะ!”
จู่ๆ หลินเทียนเสียงโบกมือ บอกให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนไปพัก
ไม่นาน ภายในห้องขนาดใหญ่ เหลือเพียงแค่สองพ่อลูก หลินเทียนเสียงกับหลินเฮ่า
“พ่อ มีเรื่องอะไรจะสั่งหรือเปล่า”
หลินเฮ่ารู้สึกอะไรบางอย่าง จึงถามขึ้น
หลินเทียนเสียงพยักหน้าเบาๆ ความเย็นยะเยือก ฉายออกมาจากแววตา “กลัวว่าตอนนี้พวกเขาคงกำลังวุ่นอยู่กับการช่วงชิงอำนาจ และเข้าใจว่าฉันตายแล้ว”
หลินเฮ่าถอนหายใจ “ถ้าให้พวกเขารู้ว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้พวกเขาจะคิดยังไง”
“ตอนนี้ นายเอาพินัยกรรมของฉัน ไปเอาตำแหน่งผู้นำกลับมา!”
จู่ๆ หลินเทียนเสียงเอ่ยขึ้น
หลินเฮ่าอึ้งไป ไม่นานก็เข้าใจความหมายของหลินเทียนเสียง “พ่อหมายความว่า จะจงใจปล่อยข่าวการตายของพ่อ แล้วให้ผมเอาพินัยกรรมลายมือของพ่อ ไปลองเชิงพวกเขาเหรอครับ”
“ถูกต้อง!”
ในแววตาของหลินเทียนเสียง ฉายแววเย็นยะเยือก “ตระกูลเจียงกำจัดส่วนไม่ดีออกไปแล้ว อนาคตตระกูลเจียงจะยิ่งแข็งแกร่ง ตระกูลหลินของเรา ก็ถึงเวลาที่จะกำจัดส่วนไม่ดีออกเหมือนกัน”
“ฉันจะคอยดู ว่าใครกัน ที่ทำเพื่ออำนาจ โดยไร้พื้นฐานความเป็นคน และจะเป็นใคร ที่ทำเรื่องน่าขยะแขยง เพื่อตำแหน่งผู้นำ”
“นายรีบไปจัดการเรื่องนี้อย่างสบายใจ แค่จำไว้ว่า นายมีฉันอยู่เบื้องหลัง!”
หลินเทียนเสียงหันมามองหลินเฮ่า แววตาหลงเหลือเพียงความรักและเมตตา
การป่วยหนักแต่รอดมาได้ในครั้งนี้ ทำให้เขาเห็นอย่างถ่องแท้ ว่าใครที่จริงใจกับตัวเอง
“ครับพ่อ!”
หลินเฮ่าพูดด้วยสีหน้าตื้นตัน รีบตอบรับทันที
เขาเข้าใจ หลินเทียนเสียงจะสนับสนุนให้เขาเลื่อนตำแหน่ง ถึงเขายังไม่อยากทำตัวเด่น แต่ก็เข้าใจว่าพ่ออายุมากแล้ว ควรถึงเวลาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัยชราแล้ว
คนเป็นลูกชาย เขายอมแบกรับทุกอย่างแทนพ่อ
“พ่อ หนอนดูดจิตในตัวพ่อ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
จู่ๆ หลินเฮ่าถามขึ้นมา
หลินเทียนเสียงไม่เคยพูด เรื่องที่เขาถูกหนอนดูดจิต ถึงเชิญหมอชื่อดังมารักษาเป็นจำนวนมาก ก็ไม่มีใครรู้เรื่องหนอนดูดจิต
มีเพียงเฝิงเสียวหว่าน ที่รู้ว่าหลินเทียนเสียง โดนหนอนดูดจิต
ตอนนี้ หลินเฮ่าก็รู้แล้ว หนอนดูดจิตมาจากเผ่าเหมียว พวกคนที่วางพิษใส่หลินเทียนเสียงได้ คนประเภทนี้ ต้องอันตรายมากแน่นอน
หลินเทียนเสียงสีหน้าหนักใจ หลังเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขามองหลินเฮ่าด้วยสีหน้าสับสน “พูดขึ้นมา เป็นเรื่องที่ฉันหาเรื่องใส่ตัวเอง ไม่โทษคนอื่น”
หลินเฮ่าอึ้งไป หาเรื่องใส่ตัวงั้นเหรอ
คนเป็นลูกรู้ใจพ่อที่ดีสุด จากสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลินเทียนเสียง หลินเฮ่าพอจะเดาอะไรได้บางส่วน
“นี่เป็นพินัยกรรมที่ฉันทำไว้แต่เดิม นายเอามันไป เอาทุกอย่างที่ควรเป็นของนาย กลับคืนมาทั้งหมด!”
ราวกับว่าหลินเทียนเสียง ไม่อยากจะพูดเรื่องเกี่ยวกับที่โดนพิษสักเท่าไร เขาเอาพินัยกรรมที่เตรียมเอาไว้นานแล้ว ยื่นให้หลินเฮ่า
“พ่อ!”
หลินเฮ่ารับพินัยกรรมมาด้วยสองมือ เมื่อเขาเห็นเนื้อหาบนพินัยกรรม จู่ๆ ดวงตาแดงระเรื่อ แววตาเต็มไปด้วยความตื้นตัน
ที่แท้ พ่อเตรียมไว้ตั้งนานแล้ว ว่าจะเอาตำแหน่งผู้นำให้เขา
“ไปเถอะ!”
หลินเทียนเสียงเดินมาข้างหลินเฮ่า ตบลงบนไหล่ของหลินเฮ่าอย่างแรง แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ครับ!”
หลินเฮ่าไม่ลังเลอีก เขาเอาพินัยกรรม เดินออกไปทันที
เขาจะเอาสิ่งที่ไม่ใช่แค่ของเขา แต่เป็นทั้งหมดที่พ่อต้องการให้เขาด้วย
“เสี่ยวหรู ยังไงฉันก็ทำเรื่องที่ผิดต่อเธอ ตอนนี้พิษรักกู่ ถูกทำลายไปแล้ว โชคชะตาที่จบไม่สวยระหว่างฉันกับเธอ ก็ควรสิ้นสุดลงแล้ว!”
หลังหลินเฮ่าออกไป หลินเทียนเสียงยืนอยู่หน้าหน้าต่าง สายตามองไปยังทิศใต้ พูดด้วยสีหน้าทอดถอนใจ
ในขณะเดียวกัน รถยนต์โรลส์-รอยซ์สีดำคันหนึ่ง เคลื่อนตัวช้าๆ มาจอดหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลหลิน ร่างสองร่าง เดินลงมา
“คุณหยาง นี่คือตระกูลหลิน!”
เจียงสยงเงยหน้ามองป้ายตระกูลหลิน ที่อยู่ข้างบน แล้วเอ่ยขึ้น
หยางเฉินพยักหน้าเบาๆ แต่เพิ่งลงจากรถ เขารู้สึกถึงพลานุภาพอันแข็งแกร่งประมาณสิบกว่าคน ในตระกูลหลิน
“ดูเหมือนว่า ตระกูลหลินก็กำลังเจอกับสิ่งที่ตระกูลเจียงเจอทั้งหมด”
หยางเฉินพูดขึ้น