The king of War - บทที่ 1030 เกิดเรื่อง
อวี๋เหวินเกาหยางขมวดคิ้วย่นตะคอกใส่ ปากพูดว่าลนลานอะไรนัก แต่ในใจตัวเองก็ให้รู้สึกลนลานผิดปกติ
“นายน้อย เกิดเรื่องแล้ว!”
หานเทียนเฉิงกัดฟันพูดออกมา
ในตระกูลอวี๋เหวิน มีแต่หานเทียนเฉิงที่รู้อยู่ว่า อวี๋เหวินเกาหยางเห็นความสำคัญของลูกบุญธรรมคนนี้ขนาดไหน ในสายตาของหานเทียนเฉิง หยางเฉินก็คือนายน้อยของตระกูลอวี๋เหวิน
พออวี๋เหวินเกาหยางได้ยินที่หานเทียนเฉิงพูดมา พลันพรวดพราดลุกขึ้น คว้าคอเสื้อหานเทียนเฉิงดึงตัวเข้ามา ถามเสียงเกรี้ยวกราดไปว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”
หานเทียนเฉิงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดหน้าข่าวในเครื่อง พูดด้วยตาแดง ๆ ว่า “นายน้อยเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ ทั้งคนทั้งรถถูกฝังอยู่ในกองหินถล่มสูงถึงสี่ห้าเมตร!”
“อะไรนะ!”
อวี๋เหวินเกาหยางให้รู้สึกว่าเลือดพุ่งขึ้นสมอง พอเห็นเรื่องราวในรายงานข่าว ทั้งตัวเหมือนถูกสายฟ้าฟาดใส่ กระแทกนั่งลงกับเก้าอี้หวายอย่างหมดเรี่ยวแรง
ในเวลานั้นเอง ตาของเขาแดงก่ำ พูดเสียงสะอื้น “เสว่เยี่ยน ผมต้องขอโทษ ผมปกป้องลูกชายของเธออย่างดีไม่ได้!”
เยี่ยนตู ตระกูลซุน
เมื่อวานนี้เพิ่งได้ตัดสินใจ ถึงจะต้องตาย ก็จะติดตามหยางเฉิน พอได้ข่าวหยางเฉินเกิดเหตุ ซุนซวี่สีหน้าเปลี่ยนอย่างรุนแรง
“หรือจะว่า นี่เพราะฟ้าดินต้องการจะให้ตระกูลซุนล่มสลาย?”
ก็เพราะเขาเลือกข้างอยู่กับหยางเฉิน จึงได้แตกคอกับตระกูลคิงเฉาด้วยตัวเอง มันเป็นการใช้ทั้งตระกูลซุนเป็นเดิมพันกันเลยทีเดียว
แต่แค่เพียงวันเดียว เขายังไม่ทันได้รับการคุ้มครองจากหยางเฉิน ก็ได้ข่าวมาอย่างทันใดว่าหยางเฉินเกิดเรื่องเสียแล้ว
“ท่านผู้นำ ที่หยางเฉินเกิดเรื่อง ต้องเป็นการล้างแค้นเป็นแน่ อุบัติเหตุรถยนต์รุนแรงขนาดนี้ ทั้งรถทั้งคนถูกฝังอยู่ใต้กองหินสูงถึงสี่ห้าเมตร เขาคงกลายเป็นเศษเนื้อบดไปแล้ว”
บุคลากรระดับสูงตระกูลซุนคนหนึ่ง พูดด้วยสีหน้ากังวล “แล้วต่อไปพวกเราตระกูลซุน ควรจะทำยังไงกันดี?เฉาจื้อมันไม่ปล่อยพวกเราแน่”
“ข้าจะติดต่อเฉาจื้อเดี๋ยวนี้เลย ขอร้องให้เขาให้โอกาสตระกูลซุนเราอีกสักครั้ง”
ซุนซวี่จัดการโทรศัพท์ไปทันที
“บรึม!”
แค่เพียงกำลังต่อโทรศัพท์ออกไป ข้างนอกก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมาในทันใด ติดตามด้วย คนรับใช้ตระกูลซุนคนหนึ่งวิ่งเข้ามา พูดกระหืดกระหอบว่า “ท่านผู้นำ เฉาจื้อได้นำกำลังคนมาแล้ว เห็นว่าจะถล่มตระกูลซุนของเรา!”
ซุนซวี่หน้าเสียขึ้นมาทันที รีบวิ่งออกไปข้างนอก ก็ได้เห็นผู้แข็งแกร่งที่มีฝีมือสูงกว่าผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดของตระกูลซุน กำลังตะลุยใส่การ์ดของตระกูลซุนอยู่
การ์ดของตระกูลซุนไม่มีทางสู้ได้เลยแม้แต่น้อย แทบจะว่าโดนฝ่ายตรงข้ามซัดมาทีหนึ่งก็หมอบไปคนหนึ่ง
“คุณชายเฉา ขอท่านโปรดกรุณาออมมือด้วย!”
ซุนซวี่รีบเข้าไปหา ทันทีนั้นก็คุกเข่าลง อ้อนวอนออกไป “คุณชายเฉา ผมผิดไปแล้ว ขอท่านได้โปรดให้โอกาสตระกูลซุนอีกเป็นครั้งสุดท้ายด้วยนะครับ ต่อไปตระกูลซุนจะไม่ทรยศต่อท่านอย่างเด็ดขาด!”
เฉาจื้อตีหน้าทะเล้นยียวน ยิ้มจ้องมองซุนซวี่พูดไปว่า “เมื่อวานไม่เห็นแกพูดแบบนี้นะ ได้ยินมาอีกว่า แกยังพาคนระดับสูงในตระกูลซุนทั้งหมด ไปขอขมากับหยางเฉินด้วยไม่ใช่หรือ?”
“เป็นไงแล้วหละ?ตอนนี้รู้ว่าหยางเฉินเกิดเรื่อง ตระกูลซุนไม่มีที่พึ่งเสียแล้ว ตระกูลซุนก็คิดกลับมาพึ่งตระกูลคิงเฉาของข้าอีกแล้วสิ?”
สีหน้าซุนซวี่บัดเดี๋ยวเขียวบัดเดี๋ยวม่วงคล้ำ แต่ก็เข้าใจแจ่มแจ้งในเรื่องจริงที่เฉาจื้อพูด ตีหน้ายิ้มพูดไปว่า “คุณชายเฉา มันไม่ใช่เรื่องนะ เพียงแต่ผมห่วงว่าหยางเฉินจะล้างแค้น ก็จึงทำเป็นไปขอขมา แต่ในใจจริงแท้ของผม ได้มอบให้ตระกูลเฉาทั้งหมดแล้ว”
“มาแสดงความภักดีตอนนี้ สายไปแล้ว!”
เฉาจื้อแค่นหัวเราะเหี้ยม ยกมือขึ้นโบกในทันทีนั้น “ฆ่า!”
ตามมาหลังจากจบคำพูดสั่ง ผู้แข็งแกร่งตระกูลคิงเฉาคนหนึ่งกระโจนเข้าใส่ซุนซวี่ ขาที่ลอยพุ่งไป ใส่ตรงเข้าที่หัวซุนซวี่
ซุนซวี่ตาเหลือกถลนออกมาทั้งคู่ จบการมีชีวิตในทันที ตายอย่างตาไม่ได้หลับ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลซุนแห่งเยี่ยนตู ขึ้นเป็นของตระกูลคิงเฉาของข้า หากใครยังคิดทรยศ ตายไม่มีการยกเว้น!”
เฉาจื้อกวาดตามองไปที่คนตระกูลเฉาทั้งหมด พูดเสียงเหี้ยม
ในขณะเดียวกันที่เฉาจื้อพาคนเข้ายึดครองตระกูลซุน ตระกูลคิงไป๋กับตระกูลคิงหม่า ก็ต่างพากำลังคน เข้ายึดตระกูลหลินกับตระกูลซ่ง
ไม่เพียงเฉพาะตระกูลคิงไป๋กับตระกูลคิงหม่า ยังอีกพวกกลุ่มตระกูลสูงศักดิ์ที่อยู่เมืองคิงต่าง ๆ ที่ติดตามมาด้วย ต่างก็เข้ายึดครองตระกูลเศรษฐีระดับสุดยอดในพื้นที่เยี่ยนตู
ชั่วเวลาไม่นาน ห้าตระกูลคิงแห่งจิ่วโจว นอกจากตระกูลคิงกวนกับตระกูลคิงเซว่ อีกสามตระกูลคิงในตระกูลคิง ต่างนำกลุ่มตระกูลสูงศักดิ์จากตระกูลคิง เข้ายึดครองเยี่ยนตู
แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเดิม ก็เป็นอันสิ้นสุด ตกกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลบริวารของแต่ละตระกูลคิงไปเรียบร้อย
ในขณะเดียวกันนั้น บริเวณที่หยางเฉินเกิดเหตุ อาณาบริเวณรอบในห้ากิโลเมตร ได้ถูกกองยุทธการเยี่ยนตูเข้าควบคุมพื้นที่ ผู้บังคับการสูงสุดของกองยุทธการเยี่ยนตูต่งจ้านกัง ได้เข้ามาบัญชาการด้วยตัวเอง
เครื่องขุดขนาดใหญ่สองเครื่อง พร้อมทั้งรถลำเลียงหินอีกหลายคัน อีกทั้งคนงานอีกนับร้อย กำลังทำงาน
สีหน้าของหม่าชาวเครียดอย่างสุด ๆ สองตาจ้องเขม็งอยู่ที่กองหินถล่ม
“ท่านวางใจเถอะ เจ้านายท่านเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพ แรงทำลายขนาดนี้ ไม่มีทางทำให้ท่านมีอันตรายถึงชีวิตได้หรอก”
เห็นสีหน้าเต็มไปด้วยความห่วงกังวลของหม่าชาว ต่งจ้านกังเอ่ยปากพูด “ผู้บัญชาการสูงสุดกองยุทธการได้ออกคำสั่งให้ทำการออกสืบแล้ว เชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นานนัก ก็จะสืบรู้ถึงผู้ร้ายตัวจริงที่ทำร้ายเจ้านายเราได้แน่นอน”
ดวงตาทั้งคู่ของหม่าชาวทอประกายฆ่าอย่างเข้มข้น “หากแม้นพี่เฉินเป็นอะไรไป ไม่ว่ามันคนไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้าจะจัดการฆ่ามันกับมือของข้าเอง!”
จนถึงขณะนี้ ยังสืบหาเหตุที่เกิดกับหยางเฉินไม่ได้เลย ว่าใครเป็นผู้บงการ
สีหน้าต่งจ้านกังเต็มไปด้วยแววของการฆ่าเช่นเดียวกัน “ท่านพูดถูก ไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง โทษตายสถานเดียว!”
เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาที หม่าชาวยังคงยืนอยู่กับที่ มีแต่เขาที่ต้องจ้องอยู่เอง จึงจะเป็นที่ไว้ใจ
เริ่มตั้งแต่เช้า มาจวบจนอาทิตย์กำลังจะลับเหลี่ยมเขา ในที่สุดก็ขุดเอาตัวรถออกมา
รถโฟล์คเภาตันของหยางเฉินนั่นเอง
“ได้รถออกมาแล้ว!”
ต่งจ้านกังร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น รีบวิ่งตรงเข้าไป
หม่าชาวยิ่งเร็วไปกว่า แทบจะเพียงพริบตา ก็ไปถึงรถของหยางเฉิน ตะโกนเรียกเสียงอย่างดัง “พี่เฉิน!”
ในขณะนั้นเอง หยางเฉินในร่างที่เต็มไปด้วยเลือด มองเห็นอยู่ในรถ เหมือนกับคนตายแล้ว
หม่าชาวก็ยังไม่เคยเห็นหยางเฉินอยู่ในสภาพเลวร้ายขนาดนี้ น้ำตาถึงกับทะลักหลั่งออกมา เขาเก็บกลั้นความเจ็บปวดใจอย่างสุด ๆ นำเอาร่างที่บาดเจ็บสาหัสของหยางเฉิน ค่อย ๆ อุ้มออกมาจากรถ
เฝิงเสียวหว่านที่เตรียมการรักษาอยู่พร้อมแล้ว ก็ได้วิ่งเข้าไป รีบหยิบยาเม็ดสีดำออกมาจากขวดกระเบื้องเคลือบสีขาว ยัดใส่เข้าในปากหยางเฉิน
อ้ายหลินที่นำทีมแพทย์เฉพาะทางเตรียมรออยู่ ก็ได้วิ่งเข้ามาตรวจอาการหยางเฉิน
ไม่นานนัก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านนั้นวางมือ แต่ละคนส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ต้องขออภัยจริง ๆ พวกเราได้ช่วยเต็มที่แล้ว”
“พวกคุณพูดอะไรกัน?ช่วยเต็มที่แล้ว?หมายถึงอะไรกันเต็มที่แล้ว?”
สีหน้าต่งจ้านกังเปลี่ยนไปในฉับพลัน ตะคอกใส่ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ “ผมไม่ได้ต้องการการช่วยเต็มที่ของพวกคุณ ผมต้องการให้พวกคุณช่วยชีวิตเขา!”
หม่าชาวก็ตะคอกใส่อย่างเกรี้ยวกราด “มันเป็นไปได้ยังไง?ตอนสมัยที่อยู่ในสนามรบ พี่เฉินเคยโดนหนักยิ่งกว่านี้อีกเป็นหลายเท่า ยังช่วยฟื้นกลับมาได้ ตอนนี้พูดได้ยังไงว่าช่วยไม่ได้แล้ว?”
“หม่าชาว”