The king of War - บทที่ 1048 หลิวฟางถูกฆ่า
ขณะที่หลิวฟางกำลังจะตามเข้าไป ก็ถูกองครักษ์ขวางไว้ “คุณชายเฉาต้องการพบเพียงคุณเซี่ยเท่านั้น!”
หลิวฟางมีสายตาแปลกๆ ดูท่าทางเซี่ยเหอจะหนีไม่พ้นจากเงื้อมมือของเฉาจื้อในคืนนี้แล้ว
เธอย่อมรู้ดีว่า ที่คุณชายเฉาต้องการพบเซี่ยเหอนั้นมีจุดประสงค์อะไร
หลังจากเซี่ยเหอเข้าไปในห้องวีไอพี ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะยาวทางด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านก็จัดเตรียมภาชนะสำหรับใช้บนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
ข้างโต๊ะมีนักดนตรีชาวตะวันตกกำลังเล่นไวโอลินอยู่
เสียงเพลงอันไพเราะดังขึ้น ทั่วทั้งห้องก็เต็มไปด้วยบรรยากาศคลุมเครือ
ทันทีที่เซี่ยเหอเข้ามาในห้องวีไอพี สายตาของเฉาจื้อก็ไม่ละไปจากตัวเธอเลย ในแววตามีประกายระยิบระยับ
“สมกับที่เธอถูกชาวเน็ตเรียกว่าสาวสวยในรอบพันปี ตัวจริงเธอสวยกว่าในทีวีมาก”
เฉาจื้อก็ไม่ได้เก็บซ่อนความชื่นชมของตัวเอง กิริยาวาจาสุภาพอ่อนโยน เขาชี้ไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามและพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณเซี่ย เชิญนั่งครับ!”
ดูเหมือนว่าเฉาจื้อจะมีความเป็นสุภาพบุรุษพอสมควร แต่เมื่อเขามองไปทางเซี่ยเหออีกครั้ง สายตาก็เต็มไปด้วยการคุกคาม ซึ่งทำให้เซี่ยเหอไม่สบายใจอย่างมาก
แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั่งลงตรงข้ามเฉาจื้อ และพูดอย่างเย็นชาว่า “คิดไม่ถึงเลยว่า คุณชายเฉาจะเอาแม่ของฉันมาขู่เพื่อที่จะได้พบฉัน ช่างไร้ยางอายจริงๆ!”
สีหน้าของเฉาจื้อชะงักงันในทันที เหมือนคิดไม่ถึงว่าเซี่ยเหอจะกล้าพูดกับเขาแบบนี้
เซี่ยเหอจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาดุจน้ำแข็ง ไม่กลัวเฉาจื้อแม้แต่นิด ยังคงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา
เฉาจื้อที่เมื่อครู่ยังโกรธนิดหน่อย จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา “คุณเซี่ย ผมไม่ได้บอกให้หลิวฟางเอาแม่ของคุณมาข่มขู่นะ”
“พูดอีกอย่างก็คือ ด้วยสถานะของผมถ้าจะบังคับให้คุณทำอะไร คุณคิดว่าจำเป็นต้องข่มขู่ด้วยเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉาจื้อ สีหน้าของเซี่ยเหอก็อ่อนลงเล็กน้อย สำหรับเธอ ขอแค่ไม่เอาแม่มาข่มขู่เธอ ไม่ว่าเฉาจื้อจะทำอะไรนอกลู่นอกทาง เธอก็ยังอดทนได้
แต่เพราะเธอรู้ว่าเฉาจื้อได้แย่งชิงซินเฉินมีเดียที่เป็นของหยางเฉินไป เมื่อเผชิญหน้ากับเฉาจื้อ เธอจึงมีสีหน้าไม่ค่อยดีนักเช่นเคย
“ป๊อก!”
เฉาจื้อดีดนิ้วขึ้นมาอย่างกะทันหัน จากนั้นประตูห้องวีไอพีก็ถูกเปิดออก องครักษ์ตระกูลคิงเฉาเข้ามา “คุณชายเฉา มีอะไรให้รับใช้ครับ?”
เฉาจื้อกล่าวว่า “พาหลิวฟางเข้ามาหาผม!”
“ครับท่าน!”
องครักษ์หันหลังเดินออกไป ไม่ถึงสิบวินาทีต่อมา หลิวฟางก็องครักษ์นำตัวเข้ามา
“คุณชายเฉา ต้องการพบฉันเหรอคะ?”
เมื่อหลิวฟางถูกเรียกเข้ามา เธอก็ตื่นเต้นและคิดว่าเฉาจื้อจะเชิญเธอไปรับประทานทานอาหารเย็น
ถ้าเธอรับประทานอาหารกับเฉาจื้อจริงๆ เอาไปคุยที่ไหนก็จะทำให้เธอได้หน้าได้ตา
“ผมให้คุณไปเชิญคุณเซี่ยมาที่นี่ คุณไปเชิญเธอมายังไง?”
เฉาจื้อถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หลิวฟางถึงกับอึ้งไป ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เฉาจิ้อถึงถามแบบนี้ เธอรีบยิ้มและพูดว่า “ก็ต้องไปเชิญเซี่ยเหอด้วยความจริงใจตามคำสั่งของคุณชายเฉาน่ะสิคะ!”
“จริงเหรอ?”
สีหน้าของเฉาจื้อเยือกเย็นลงทันใด “ทำไมคุณถึงเอาแม่ของคุณเซี่ยไปข่มขู่เธอในนามของผม บังคับให้เธอมาพบผมล่ะ?”
จนถึงขณะนี้หลิวฟางเพิ่งตระหนักว่าเหตุใด เฉาจื้อจึงเรียกเธอเข้ามา สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัวทันที
“พรึ่บ!”
หลิวฟางคุกเข่าลงอ้อนวอนอย่างลนลาน “คุณชายเฉา ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรใช้ชื่อของคุณมาข่มขู่เซี่ยเหอ”
“วันหลังฉันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว คุณชายเฉาได้โปรดยกโทษให้ฉันสักครั้ง”
หลิวฟางกลัวมากจริงๆ เธอรู้ดีว่าเฉาจื้อเป็นคนแบบไหน ว่ากันว่าแม้แต่ซุนซวี่ซึ่งเป็นผู้นำของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ถูกเขาฆ่า
เมื่อเทียบกับซุนซวี่ เธอไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าเฉาจื้อโกรธ การฆ่าเธอนั้นง่ายดายเหมือนเหยียบมดตายสักตัว
“กล้าใช้ชื่อของฉันไปทำงาน ฆ่าเธอซะ!”
เฉาจื้อตวาดใส่
“แกร๊ก!”
องครักษ์ที่พาหลิวฟางเข้ามาได้ก้าวออกมาข้างหน้า จับศีรษะของหลิวฟางด้วยมือทั้งสองข้างและบิดอย่างแรง หักคอของหลิวฟางในทันที
“อา…”
เซี่ยเหอกรีดร้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เธอไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อนงั้นเหรอ?
แม้ว่าเธอจะเกลียดหลิวฟางมาก แต่หลิวฟางก็เป็นผู้จัดการของเธอ ทั้งสองพึ่งพาอาศัยกันมานานแล้ว
แต่ตอนนี้หลิวฟางถูกฆ่าตายเพราะคำพูดประโยคเดียวของตัวเธอเอง
แถมยังถูกคนจับหักคอตรงๆ แบบนั้นอีก ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ไม่ใช่แค่กลัว แต่ยังนึกโกรธอยู่ในใจด้วย
“คุณเซี่ย คุณก็ได้ยินแล้วนะ ผู้หญิงคนนี้เอาแม่ไปข่มขู่ในนามของผม มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยสักนิด”
เฉาจื้อมองไปที่เซี่ยเหอแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คุณ…ทำไมคุณถึงทำแบบนี้?”
เซี่ยเหอพูดอย่างโกรธเคือง “แค่อาศัยชื่อของคุณทำงาน คุณก็ฆ่าเธอแล้ว? คุณยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหม?”
ไม่รู้ว่าเป็นความโกรธหรือความกลัว เสียงของเซี่ยเหอจึงสั่นเครือในตอนที่พูด
ร่างของหลิวฟางถูกองครักษ์นำออกไป เฉาจื้อยิ้มเล็กน้อยราวกับว่าไม่สนใจว่าเซี่ยเหอจะโกรธ
“นี่คือกฎของตระกูลคิงเฉา ผมเป็นใคร? แล้วเธอเป็นใคร?”
เฉาจื้อพูดเคล้าเสียงหัวเราะ “ผู้ใดกล้าทำลายชื่อเสียงของผมจะถูกตัดสินโทษตาย ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่คุณเซี่ย เธอคงถูกพาไปเป็นอาหารเลี้ยงจระเข้ทั้งเป็นแล้ว เธอควรจะขอบคุณผมด้วยซ้ำที่มอบความตายให้เธออย่างสบายๆ”
“คุณ…”
เซี่ยเหอตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่เธอไม่สามารถพูดอะไรได้
“เป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น คุณอย่าไปโกรธแทนเธอเลย ผู้หญิงคนนี้ใจร้ายนัก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองก็เลยใช้คุณ คุณยังต้องการปกป้องความยุติธรรมให้เธออยู่หรือเปล่า?”
เฉาจื้อกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ผมเชิญคุณมารับประทานอาหารโดยเฉพาะ ทุกอย่างก็เพื่อคุณ อย่าทำให้ตัวคุณต้องอารมณ์เสียเพราะเรื่องไม่สำคัญเหล่านั้นเลย”
สิ้นเสียง เฉาจื้อก็ดีดนิ้ว นักดนตรีชาวตะวันตกหลายคนเข้ามา
ในไม่ช้า ดนตรีอันไพเราะและผ่อนคลายก็ดังขึ้นในห้องวีไอพี
มีเพียงเซี่ยเหอเท่านั้นที่มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว ดูเหมือนจะขัดแย้งกับทุกอย่างในนี้
“มาสิ คุณเซี่ย เรามาดื่มกันเถอะ!”
เฉาจื้อยิ้มเล็กน้อยชูแก้วไวน์ขึ้น
แต่เซี่ยเหอไม่ได้หยิบแก้วเลย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ เธอกล่าวอย่างเย็นชา “การรับประทานอาหารกับคนอย่างคุณมีแต่จะทำให้ฉันรู้สึกเบื่ออาหาร ขอโทษที่ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุณได้!”
เซี่ยเหอพูดพลางลุกขึ้น เสียงเงียบลง กำลังจะหันหลังเดินจากไป
แต่ทันทีที่เธอไปถึงประตูห้องวีไอพี ก็ถูกองครักษ์สองนายขวางไว้ สีหน้าของเซี่ยเหอเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอหันไปมองเฉาจื้ออย่างเกรี้ยวกราดและตะโกนว่า “ให้คนของคุณหลีกไป!”
เฉาจื้อนั่งอยู่บนเบาะนั่งแสนสบาย มองเซี่ยเหอด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ผมหาเวลามากินข้าวกับคุณเป็นพิเศษ คุณคงไม่ทำให้ผมเสียหน้าแบบนี้หรอกนะ?”
“ฉันเพิ่งพบคุณเป็นครั้งแรก ทำไมฉันต้องรักษาหน้าคุณด้วย?”
ดูเหมือนว่าเซี่ยเหอจะลืมความหวาดกลัวเมื่อครู่ไปแล้ว ในหัวใจมีเพียงความโกรธเท่านั้น