The king of War - บทที่ 1054 ท่าที
กษัตริย์กวนรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน เขาไม่รู้ว่าทำไมกษัตริย์เซวถึงรู้ว่าหยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ?
ไม่เพียงเท่านี้ กษัตริย์เซวยังกล้าที่จะพูดออกมาในที่สาธารณะด้วย
“กษัตริย์เซว คุณกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?”
กษัตริย์เฉายิ้มเยาะ “เท่าที่ผมรู้ หยางเฉินมีอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปี บอกผมที เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพหรือเปล่า?”
กษัตริย์ไป๋ยิ้มพลางส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับผู้แข็งแกร่งแดนราชาที่อายุไม่ถึง 30 ปี แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี”
กษัตริย์หม่าก็หัวเราะเช่นกัน “กษัตริย์เซว คุณอย่าบอกผมนะว่า คนของตระกูลคิงเซวที่คุณปลดออกจากเมืองเยี่ยนตู เพราะหวาดกลัวหยางเฉินผู้นี้?”
เดิมทีเป็นแค่เรื่องล้อเล่นของกษัตริย์หม่าผู้เดียว แต่คิดไม่ถึงว่ากษัตริย์เซวจะพยักหน้าอย่างจริงจังและกล่าวว่า “ใช่ เพราะผมรู้ว่าหยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ดังนั้นจึงส่งคนของตระกูลคิงเซวออกจากเมืองเยี่ยนตู”
คราวนี้ไม่มีใครหัวเราะอีก ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังมาก
กษัตริย์เซวไม่มีทางเอาเรื่องสำคัญแบบนี้มาล้อเล่นกับพวกเขา
ยิ่งกว่านั้น กษัตริย์เซวได้ส่งคนของเขาออกจากเมืองเยี่ยนตู แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากอุบัติเหตุของหยางเฉิน คนของตระกูลคิงเซวก็กลับเข้ามาในเมืองเยี่ยนตูอีกครั้ง
หรือว่านี่คือปัญหาที่อธิบายไม่ได้?
กษัตริย์กวนเกิดความลังเลในใจ ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่
ในเวลานี้ขอเพียงเขาเอ่ยปากยอมรับว่า หยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ก็น่าจะไม่มีใครสงสัยในความจริงข้อนี้อีกแล้ว
แต่หยางเฉินนั้นทำให้เขาตื่นตระหนกมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีหมอวิเศษอย่างเฝิงเสียวหว่านอยู่ข้างกายเขาอีกด้วย
ถ้าเขาเปิดเผยตัวตนของหยางเฉินในเวลานี้ เกรงว่าอาจจะทำให้หยางเฉินไม่พอใจได้
ถ้าหยางเฉินตายไปแล้วก็แล้วไป แต่ในเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ ในอนาคตตระกูลคิงกวนจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน
ถึงอย่างไรตระกูลคิงกวนในตอนนนี้ ก็มีตระกูลเจียงและตระกูลหลินสองตระกูลทรงอิทธิพลในเมืองหลวงแล้ว ได้รับการน้ำใจจากหยางเฉินและมีความสัมพันธ์ฉาบฉวยกับเขา
ถ้าหยางเฉินไม่พอใจเขา เกรงว่ากษัตริย์ของเมืองกษัตริย์กวนจะต้องเปลี่ยนมือไป
“กษัตริย์กวน คุณไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเหรอ?”
ทันใดนั้นกษัตริย์เซวก็มองไปทางกษัตริย์กวนด้วยรอยยิ้มและกล่าวขึ้น
ในเวลานี้ กษัตริย์องค์อื่นๆ ล้วนมองไปทางกษัตริย์กวน เพราะกษัตริย์กวนก็เหมือนกับกษัตริย์เซว ได้ส่งคนของตระกูลคิงกวนออกจากเมืองเยี่ยนตูก่อนที่หยางเฉินจะเกิดอุบัติเหตุ
แต่หลังจากอุบัติเหตุของหยางเฉิน กษัตริย์กวนได้ส่งคนของตระกูลคิงกวนไปที่เมืองเยี่ยนตูอีกครั้ง
“กษัตริย์กวน คุณคงไม่ได้ส่งคนของตระกูลกษัตริย์กวนออกไปจากเมืองเยี่ยนตูเพราะหยางเฉินหรอกนะ?”
กษัตริย์หม่าถามอย่างแปลกใจ
ทันใดนั้นกษัตริย์กวนก็ยิ้มเยาะ “ตลก ผมเป็นถึงสมาชิกของตระกูลคิงกวน จะให้ตระกูลเดอะคิงออกจากเมืองเยี่ยนตูเพราะชายหนุ่มคนเดียวได้อย่างไร?”
“ในเมื่อไม่ใช่แล้วกษัตริย์กวนจะอธิบายอย่างไร? เรื่องที่ตระกูลคิงกวนเข้าไปในเมืองเยี่ยนตูอีกครั้งหลังจากอุบัติเหตุของหยางเฉิน?”
กษัตริย์เซวถามกษัตริย์กวนด้วยรอยยิ้ม
“นี่เป็นความลับของตระกูลคิงกวนของเรา ขอโทษที่ไม่สามารถบอกคุณได้!”
กษัตริย์กวนพูดอย่างเย็นชา
เห็นได้ชัดว่าเขาได้เลือกแล้ว
เมื่อได้ยินสิ่งที่กษัตริย์กวนพูด ผู้นำของตระกูลเดอะคิงทั้งหลายก็มีข้อสงสัยอยู่บ้าง แต่ไม่ได้คิดอะไรจริงจัง
ถึงอย่างไรสิ่งที่กษัตริย์กวนพูดก็มีเหตุผล ตระกูลเดอะคิงทุกตระกูลต่างมีความลับของตัวเอง จะบอกว่ากษัตริย์กวนหวาดกลัวหยางเฉิน เพียงเพราะตระกูลคิงกวนได้กลับเข้าไปในเมืองเยี่ยนตูอีกครั้งหลังจากหยางเฉินประสบอุบัติเหตุไม่ได้หรอกมั้ง?
แต่ในหมู่กษัตริย์ มีเพียงกษัตริย์เซวเท่านั้นที่หรี่ตาลงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อกษัตริย์กวนไม่ยินดีพูด ถ้าอย่างนั้นผมก็จะไม่ถามอะไรมากไปกว่านี้แล้ว”
กษัตริย์กวนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “กษัตริย์เซวอย่ามาประชดประชัน ผมบอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่”
“ฮ่าฮ่า กษัตริย์กวนอย่าได้ถือโทษ!”
ในเวลานี้กษัตริย์ไป๋พยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “วันนี้ที่ผมเรียกประชุมวิดีโอคอลเพื่อหารือเรื่องสำคัญกับทุกท่าน”
“ตอนนี้กองยุทธการได้เข้ามามีส่วนร่วมเรื่องการแย่งชิงตี้ชุนแล้ว พวกเราตระกูลเดอะคิงไม่มีทางชนะ นอกจากพวกเราต้องร่วมมือกันและสร้างพันธมิตรตระกูลเดอะคิงเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้ต่อสู้กับกองยุทธการ”
“ไม่ทราบว่าทุกท่านมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
ทันทีที่กษัตริย์ไป๋บอกความคิดว่าต้องการให้เกิดพันธมิตรตระกูลเดอะคิงออกมา กษัตริย์ทั้งห้าก็มีสีหน้าตกใจทันที
เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน พวกเขาตระกูลเดอะคิงทั้งห้ายังอยู่ในราชวงศ์ทั้งเก้า และนี่เป็นพันธมิตรเพียงครั้งเดียวของตระกูลเดอะคิงทั้งห้าในร้อยปีถัดมา
ในเวลานั้นมีเพียงราชวงศ์ทั้งเก้าเท่านั้น ยังไม่มีตระกูลเดอะคิงทั้งห้า
แต่พันธมิตรในครั้งนั้น พวกเขาได้พยายามที่จะเข้าควบคุมเมืองเยี่ยนตู แต่บุคคลนั้นได้ปรากฏตัวและปราบปรามห้าราชวงศ์ใหญ่ตามลำพัง
นับแต่เวลานั้นเป็นต้นมา ราชวงศ์ทั้งเก้าก็กลายเป็นราชวงศ์ทั้งสี่ พันธมิตรราชวงศ์ทั้งห้าก็ถูกลดขั้นลงมาเป็นตระกูลเดอะคิงทั้งห้า
เพราะบุคคลนั้นได้นำพาเงามืดใหญ่หลวงมาสู่ตระกูลเดอะคิง แม้จะผ่านไปร้อยปี แต่ตระกูลเดอะคิงก็ยังไม่กล้าที่จะก้าวมาเหยียบเมืองเยี่ยนตู พวกเขาได้แต่เฝ้ารอให้คิงแห่งเยี่ยนตูปรากฏตัวขึ้น
มีเพียงการปรากฏตัวของคิงแห่งเยี่ยนตูเท่านั้น พวกเขาจึงจะสามารถก้าวเข้าสู่เมืองเยี่ยนตูได้
เวลานี้จะกลับมาเป็นพันธมิตรกันอีกครั้งหรือ?
กษัตริย์อีกสี่องค์ที่เหลือไม่พูดอะไร สีหน้าดูเคร่งขรึมจริงจังมาก
“กษัตริย์ไป๋ ผมเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน มีเพียงพันธมิตรเท่านั้นที่มีศักยภาพกล้าต่อกรกับกองยุทธการเมืองเยี่ยนตู”
“แต่เมื่อร้อยปีที่แล้ว เป็นเพราะพันธมิตรห้าตระกูลของเรา ไม่เพียงแต่ไม่สามารถแซงหน้าราชวงศ์ทั้งสี่ แต่ยังถูกลดขั้นให้เป็นตระกูลเดอะคิงด้วย”
“ถ้ารวมพันธมิตรอีกแล้วชนะก็แล้วไป แต่ถ้าแพ้เราจะทำยังไง?”
“พวกเราห้าตระกูลถูกลดขั้นให้เป็นตระกูลเดอะคิง หากยังตกชั้นอีก เราจะกลายเป็นตระกูลแบบไหนกัน?”
กษัตริย์กวนพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ความมั่งคั่งต้องเสี่ยงอันตราย เมื่อร้อยปีก่อน บรรพบุรุษของเราเสี่ยงอันตรายต่อสู้แย่งชิงเมืองเยี่ยนตูเพื่อทำให้ตระกูลของเราแข็งแกร่งขึ้น”
“อย่าลืมว่าราชวงศ์ทั้งสี่ในปัจจุบันนี้ เมื่อร้อยปีก่อนมีศักยภาพไม่เท่าพวกเราตระกูลเดอะคิงทั้งห้า ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของบุคคลนั้น ตระกูลเดอะคิงทั้งห้าของพวกเราอาจจะเหนือกว่าราชวงศ์ทั้งสี่ในตอนนี้ก็ได้”
กษัตริย์ไป๋กล่าวด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมเมืองเยี่ยนตูไว้ในกำมือแล้ว เพื่อที่จะได้สืบทอดตี้ชุน และสามารถสั่งการราชวงศ์ทั้งสี่ได้
ในเวลานี้กษัตริย์เฉาก็พูดขึ้นว่า “ใช่แล้ว ตระกูลเดะคิงทั้งห้าของเราแต่เดิมเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งหมดเป็นเพราะคนคนนั้น”
“พวกเราห้าตระกูลถูกกดขี่มาร้อยปีแล้ว หากยังไม่ก้าวไปข้างหน้า เกรงว่าเราจะไม่มีความหวังที่จะพลิกฟื้นกลับมาอีกครั้งแล้ว ตี้ชุนเป็นโอกาสแรกที่พวกเราห้าตระกูลได้พบเจอในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา เราต้องคว้าไว้ให้ได้!”
“ตระกูลคิงเฉายินดีที่จะสร้างพันธมิตรตระกูลเดอะคิง!”
กษัตริย์เฉาแสดงท่าทีในทันใด
กษัตริย์หม่าก็แสดงท่าทีด้วย “ตระกูลคิงหม่าของผมก็ยินดีสร้างพันธมิตรตระกูลเดอะคิง!”
กษัตริย์เซวชำเลืองมองกษัตริย์กวนและกล่าวว่า “ตระกูลคิงเซวก็ยินดีสร้างพันธมิตรตระกูลเดอะคิง ฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์ดั่งร้อยปีก่อน!”
ครู่หนึ่ง ตระกูลเดอะคิงทั้งห้ายกเว้นกษัตริย์กวน กษัตริย์อีกสี่องค์ที่เหลือก็ได้แสดงท่าทีเห็นด้วยกับการจัดตั้งพันธมิตรตระกูลเดอะคิง
“กษัตริย์กวน ถึงตาคุณแล้ว!”
กษัตริย์เซวมองไปที่กษัตริย์กวนและพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น