The king of War - บทที่ 1059 จัดตั้งทีมรบ
กษัตริย์เซวถามว่า “พวกเขาทำแบบนี้ หรือว่าไม่กลัวพวกเราพันธมิตรตระกูลเดอะคิง จะไปตระกูลคิงสักเที่ยวจริงเหรอ?”
กษัตริย์หม่าก็สงสัยอยู่บ้างเช่นกัน “ทำแบบนี้ ตระกูลคิงกวนต้องแบกรับความเสี่ยงใหญ่หลวงมาก”
ทุกคนล้วนมองทางกษัตริย์เซว รอคอยการอธิบายของเขา
กษัตริย์เซวพูดอย่างไม่รีบร้อน “ถ้าพวกเขาไม่ทำแบบนี้ หรือว่าพวกเราก็จะไม่ส่งคนไปเมืองกษัตริย์กวนงั้นเหรอ?”
“กษัตริย์กวนรู้ดีมาก ตอนแรกที่เขาปฏิเสธเข้าร่วมพันธมิตรตระกูลเดอะคิง เกรงว่าคงเดาออกแล้ว หลังจากตั้งพันธมิตรตระกูลเดอะคิง อันดับแรกที่จะจัดการ ก็คือตระกูลคิงกวน”
“ในเมื่อรู้สึกว่าพวกเราจะต้องแตะต้องตระกูลคิงกวน ทำไมเขายังจะนั่งนิ่งดูดายอยู่?”
“แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงการคาดเดาของผม แต่สิ่งที่ผมมั่นใจได้คือ กษัตริย์กวนขอความช่วยเหลือจากกองยุทธการแน่นอน”
“ผู้แข็งแกร่งแดนเทพของกองยุทธการ มีหลายคนขนาดนั้น โดยเฉพาะล้วนตำแหน่งสูงอำนาจมาก ภารกิจมากมาย จะมีใครปลีกตัวไปตระกูลคิงกวนได้?”
“ดังนั้นพูดว่า ความเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือแบบนั้นที่พวกคุณทายกัน คนที่ตระกูลกวนอยากไปรับ ต้องเป็นบุคคลใหญ่โตของกองยุทธการ ถ้าเป็นแบบนี้จริง คนผู้นี้ ได้แต่เป็นหยางเฉิน!”
“ความเป็นไปได้อีกอย่าง คือแบบที่ผมเพิ่งพูดไป เดิมทีพวกเขาไม่ได้ไปรับใคร นี่คือตระกูลคิงกวนร่วมมือกับกองยุทธการ แสดงละครฉากหนึ่งให้พวกเราดู”
กษัตริย์เซวพูดจบ ยกถ้วยชาพอร์ซเลนขึ้นอีก ดื่มชาร้อนอึกใหญ่อีกที
ในการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ จมสู่ในความเงียบสงบช่วงสั้นๆ อีกครั้ง
สีหน้าของกษัตริย์คนอื่นต่างดูไม่ดีเท่าไร ถ้าสามารถยืนยันได้ว่า บุคคลใหญ่โตของกองยุทธการไปเมืองกษัตริย์กวนหรือไม่ พวกเขาก็จะจัดเตรียมเรื่องจัดการตระกูลคิงกวนได้ง่าย
แต่ว่า ตอนนี้ไม่รู้ทำไม พวกเขาถึงเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างมาก
“กษัตริย์เซว ในเมื่อคุณมองเรื่องนี้จนทะลุปรุโปร่งขนาดนี้ น่าจะมีวิธีอะไรอยู่มั้ง? พูดออกมาเถอะ ให้ทุกคนแสดงความเห็นกันสักหน่อย”
กษัตริย์ไป๋เอ่ยปากบอก
กษัตริย์เซวพยักหน้า “ผมคิดว่า จุดหลักของพันธมิตรตระกูลเดอะคิง น่าจะอยู่ที่เมืองเยี่ยนตู แต่ไม่ใช่ตระกูลคิงกวน”
“ขอเพียงพันธมิตรตระกูลเดอะคิงควบคุมเมืองเยี่ยนตูได้อย่างราบรื่น หลังจากสืบทอดตี้ชุน ความสามารถของพวกเราสมาชิกพันธมิตรตระกูลเดอะคิง ล้วนจะยิ่งเพิ่มขึ้น ต่อให้เป็นราชวงศ์ ก็สามารถต่อสู้ได้”
“รอให้ถึงตอนนั้น ตระกูลคิงกวนเล็กๆ จะถือว่าเป็นอะไรกัน?”
“พวกเราถือโอกาสส่งผู้แข็งแกร่งตี้ชุนไปไม่กี่คน ก็ทำลายตระกูลคิงกวนทิ้งได้แล้วมั้ง?”
ฟังคำพูดของกษัตริย์เซวแล้ว กษัตริย์เฉาตอบสนองเป็นคนแรก “ไม่ได้! พวกเราต้องลงมือกับตระกูลคิงกวนก่อน! ศึกของเมืองเยี่ยนตู มีตัวแปรมากเกินไป ถ้าพวกเราพันธมิตรตระกูลเดอะคิงแพ้แล้ว เกรงว่าตระกูลคิงกวนอาจเหยียบบนหัวพวกเราได้เลย”
“มีเพียงพังตระกูลคิงกวนทิ้งลงตอนนี้ ถึงจะเลี่ยงให้พวกเขาใช้กลอุบายลับหลังพวกเราได้”
“อีกอย่าง ถึงแม้เป็นกองยุทธการส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพออกมาคุ้มครองตระกูลคิงกวนจริง แล้วจะทำอะไรได้? พันธมิตรตระกูลเดอะคิงของพวกเรา ก็ไม่อ่อนแอเหมือนกัน!”
“ถ้าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพคนหนึ่งที่กองยุทธการส่งออกมา พวกเรายังไม่มีทางรับมือ จำเป็นต้องดันทุรังไปหาเรื่องอัปยศอดสูด้วยตัวเองทำไม?”
กษัตริย์เฉาเพิ่งพูดจบ กษัตริย์หม่าก็ออกปากพูดตามมาติดๆ “ถูกต้อง ถ้าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่ถูกส่งไปคุ้มครองตระกูลคิงกวนคนหนึ่งยังรับมือไม่ได้ พวกเราพันธมิตรตระกูลเดอะคิง ยังไม่สู้เลิกล้มกันไปเลยล่ะ”
กษัตริย์ไป๋ไม่ได้พูดจาอะไร เห็นได้ชัดว่ากำลังครุ่นคิดถึงผลลัพธ์ของเรื่องนี้
กษัตริย์เซวหัวเราะนิ่งๆ “ผมเพียงแค่แสดงความคิดเห็นของผมนิดหน่อย ไม่ว่าการตัดสินใจสุดท้ายของพันธมิตรตระกูลเดอะคิงคืออะไร ตระกูลคิงเซวล้วนให้ความร่วมมือสุดกำลัง!”
“กษัตริย์ไป๋ ความคิดของพันธมิตรตระกูลเดอะคิงเป็นคุณเสนอออกมา คุณพูดความเห็นสักหน่อยเถอะ!”
กษัตริย์เฉามองทางกษัตริย์ไป๋แล้วพูดขึ้น
ความลังเลในสายตาของกษัตริย์ไป๋หายไปฉับพลัน ชั่วพริบตาเดียวสาดยิงแสงหนาวเหน็บสองสายออกมา “กษัตริย์เฉากับกษัตริย์หม่าพูดไม่ผิด ถ้าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่กองยุทธการส่งไปคุ้มครองตระกูลคิงกวนยังรับมือไม่ได้ แล้วพวกเรายังมีหน้าอะไร ไปช่วงชิงตี้ชุน?”
“ยิ่งไปกว่านั้น สรุปว่ากองยุทธการส่งคนไปคุ้มครองตระกูลคิงกวนหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้ทั้งนั้น”
กษัตริย์คนอื่นต่างพยักหน้า กษัตริย์เฉาพูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ตกลงตามนี้แล้วกัน พวกเราดำเนินแผนการเมื่อตอนบ่ายต่อไป!”
“ไม่ว่ากองยุทธการจะส่งบุคคลใหญ่โตไปเมืองกษัตริย์กวนหรือไม่ แผนการก่อนหน้านี้ ล้วนไม่เหมาะสมอยู่บ้างแล้ว”
กษัตริย์ไป๋หรี่ตาบอกว่า “ทีมพันธมิตรที่พวกเราส่งออกมา ควรเลื่อนขั้นขึ้น ตระกูลเดอะคิงแต่ละที่ ล้วนต้องส่งผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายสามคนและแดนราชาสูงสุดสองคนออกมา”
“ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายสิบสองคนกับแดนราชาสูงสุดแปดคนไปเยือนตระกูลคิงกวน ต่อให้มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาจริง ก็ไม่แน่ว่าจะคุ้มครองตระกูลคิงกวนไว้ได้!”
กษัตริย์ไป๋พูดแบบทำหน้าดุร้าย
ที่ตระกูลเดอะคิง ถึงแม้แดนราชาสูงสุดจะมีน้อยมาก แม้กระทั่งผู้นำของตระกูลเดอะคิง ก็เป็นเพียงความสามารถของแดนราชาสูงสุด
แต่ว่าหลายคนในที่นี้ จะมีใครกล้าพูดว่า ในมือของตนเองไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดอยู่หลายคน?
ขบวนการสู้แบบนี้ แทบจะเป็นกำลังสู้รบแกร่งที่สุดที่ตระกูลเดอะคิงสามารถเอาออกมาแสดงภายนอกได้แล้ว
กษัตริย์คนอื่นต่างสีหน้าเคร่งขรึมไร้ที่เปรียบ ใครๆ ต่างไม่ได้รับปากไปก่อน
“ทุกท่าน มาถึงเวลาแบบนี้แล้ว หรือว่ายังอยากปิดบังไว้อีก?”
กษัตริย์ไป๋เห็นหลายคนไม่แสดงท่าที ชั่วขณะนั้นโกรธอยู่บ้างแล้ว เอ่ยปากพูดว่า “งั้นผมแสดงท่าทีก่อน ตระกูลคิงไป๋ ส่งผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดสามคนกับแดนราชาขั้นปลายสองคน”
พูดแบบนี้ออกมา กษัตริย์คนอื่นล้วนทำหน้าตกใจกันหมด
กษัตริย์ไป๋ยินยอมส่งผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดสามคนออกมา ยังมีความกล้าหาญเสียจริง
ถึงแม้เพียงแค่เพิ่มผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดมาอีกคนหนึ่ง กลับเปิดเผยความสามารถของตระกูลคิงไป๋ออกมาแล้ว
ดูแล้ว หลายปีมานี้ ตระกูลคิงไป๋ปิดซ่อนได้ลึกมาก ผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุด กลัวว่ายังมีอีกไม่น้อย
มิฉะนั้น แค่ชั่วครู่เดียวกษัตริย์ไป๋คงไม่เอาผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดสามคนออกมาแล้ว
“ตระกูลคิงเฉา ยินยอมส่งผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดสองคนกับแดนราชาขั้นปลายสองคนออกไป”
ในที่สุดกษัตริย์เฉาก็เอ่ยปาก
ถึงแม้ตระกูลคิงเฉาจะสามารถเอาผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดสามคนออกมาได้ แต่เขายังไม่ยินยอมเปิดเผยความสามารถของตระกูลคิงเฉามากจนเกินไป
“ตระกูลคิงเซว ยินยอมส่งผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดสองคนกับแดนราชาขั้นปลายสองคนออกไป”
ตระกูลคิงหม่า ยินยอมส่งผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดสองคนกับแดนราชาขั้นปลายสองคนออกไป”
กษัตริย์เซวและกษัตริย์หม่าต่างเอ่ยปากกันหมด ใครๆ ต่างก็ไม่ยินยอมเปิดเผยความสามารถของตนเองมากเกินไป
“ดี ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นตกลงกันตามนี้แล้วกัน ผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดเก้าคนกับแดนราชาขั้นปลายสิบเอ็ดคน ออกเดินทางทันที มุ่งหน้าไปเมืองกษัตริย์กวน สร้างทีมพันธมิตรตระกูลเดอะคิงที่เมืองกษัตริย์กวน”
กษัตริย์ไป๋รีบเอ่ยปากบอกทันที “ภารกิจมีเพียงหนึ่งเดียว ล้มล้างตระกูลคิงกวน เทพขวางก็ฆ่าเทพ อรหันต์ขวางก็ฆ่าอรหันต์!” (ไม่ว่าใครก็ขวางไม่ได้)
“คืนนี้ ให้ตระกูลคิงกวนหายไปจากตำแหน่งของตระกูลเดอะคิง!”
“ดี!”
กษัตริย์สามคนที่เหลือ ต่างตอบรับตามๆ กัน
ในขณะเดียวกัน หยางเฉินก็พาเฝิงเสียวหว่านมาถึงตระกูลคิงกวนแล้ว
“คุณหยาง ขอเพียงมีท่านอยู่ ผมก็วางใจแล้ว”
ในตระกูลคิงกวน กษัตริย์กวนให้หยางเฉินมาที่นั่งตำแหน่งทรงเกียรติแล้ว พูดแบบทำหน้าฮึกเหิม
ถึงตอนนี้ เขามีความรู้สึกเหมือนกำลังฝันไปอยู่
หยางเฉิน คาดไม่ถึงจะมาจริงแล้ว!