The king of War - บทที่ 112 คิงค่ำมืด
ใบหน้าเฉียนเปียวในขณะนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตัวตนของเขา หลายปีมานี้ ไม่มีใครรู้มาก่อน
วันนี้เมื่อปรากฏตัว ก็ถูกจำได้ ที่สำคัญคืออายุของอีกฝ่ายยังวัยรุ่นอยู่เลย
หม่าชาวดูแคลน “ฉันเป็นใคร ผู้หนีทหารของแดนเหนือ ไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้!”
เมื่อพูดจบ หม่าชาวขยับเท้า แล้วหายไปจากจุดเดินทันที
เฉียนเปียวรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายเป็นวาฬตัวหนึ่ง ที่จู่ๆก็ระเบิดพลังออกมา กดดันเขาไว้จนหมด
เขาไม่กล้าประมาท จับมีดสั้นที่อยู่ในมือ แล้วฟันไปอย่างบ้าคลั่ง เพื่อต่อสู้กับหม่าชาว
“แกมีฝีมือแค่นี้เองเหรอ?”
หม่าชาวต่อยเฉียนเปียวจนถอยไปไกลสิบกว่าเมตร พูดด้วยสีหน้าเยือกเย็น
หลังจากที่ต่อสู้กันไม่นานสายตาของเฉียนเปียวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ กล่าวอย่างหวาดกลัวว่า “วิชาต่อสู้แดนเหนือ!”
จนกระทั่งตอนนี้ เฉียนเปียวเพิ่งจะเข้าใจ ว่าอีกฝ่ายก็มาจากแดนเหนือเช่นกัน
ตอนที่เขายังอยู่ที่แดนเหนือ ได้รับการยอมรับว่าเป็นคิงค่ำมืด เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอด ตอนนี้เผชิญหน้ากับวัยรุ่นที่อายุราวๆยี่สิบห้าปี นึกไม่ถึงว่าฝีมือจะแข็งแกร่งกว่าตัวเอง
สามารถจินตนาการได้ ตอนที่อีกฝ่ายอยู่แดนเหนือ ก็ต้องเป็นคนธรรมดาทั่วไปแน่นอน นัยน์ตาของเฉียนเปียวเต็มไปด้วยความกลัว
เขาไม่กลัวความเป็นความตาย แต่กลัวสิ่งที่ทำมาทั้งหมดในช่วงหลายปีนี้ จะทำให้แดนเหนือเสียหาย
“เอาใหม่!”
หม่าชาวเห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไร จึงได้ขยับขา แล้วพุ่งไปที่เฉียนเปียวอีกครั้ง
เฉียนเปียวรับรู้ได้ถึงการกระหายในการต่อสู้อย่างเด่นชัดของหม่าชาว จะไม่ต่อสู้ก็ไม่ได้ ต่อให้ฝีมือไม่เท่าหม่าชาว เขาก็ต้องทำให้สุดความสามารถ
เซินปาที่อยู่ไม่ไกล ตาทั้งสองลูกโต เต็มไปด้วยความตะลึง
ไม่ว่าจะเป็นหม่าชาว หรือเฉียนเปียว พลังต่อสู้อันทรงพลังที่ปล่อยออกมาในขณะนี้ เกินกว่าที่เขาได้จินตนาการไว้แล้วอย่างสิ้นเชิง
เขาถึงขั้นไม่สามารถจับวิถีการโจมตีของทั้งสองได้เลย ทำได้เพียงมองทั้งสอง พุ่งเข้าหากันอย่างไม่หยุดยั้ง ดูจนตาลายไปหมด
“ไม่มีเวลาเล่นกับแกแล้ว!”
หม่าชาวดูแคลนทันใด เมื่อพูดจบ ก็ต่อยเข้าไป
“ปัง!”
อกของเฉียนเปียวราวกับถูกค้อนทุบเข้ามาอย่างหนัก ร่างลอยออกไป เกิดเป็นเสียงดัง”ตึง” มีดสั้นหล่นลงกับพื้น
หม่าชาวเดินไปที่ด้านหน้าของเฉียนเปียวทีละก้าว มองเขาจากมุมสูง “คิงค่ำมืดแท้ๆ ก็ยังเป็นแบบนี้!”
“แกเป็นใครกันแน่?”
เฉียนเปียวปาดเลือดที่มุมปาก กัดฟันถาม
“ทหารที่หนีทหารคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาถามตัวตนของฉัน?”
หม่าชาวกล่าวอย่างไม่พอใจ
“หุบปาก! ฉันไม่ได้หนีทหาร! ไม่ใช่!”
อารมณ์ของเฉียนเปียวร้อนรนมาก จึงตะคอกออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“ที่แดนเหนือ ชื่อของวีรบุรุษทุกคน ล้วนตราตรึงอยู่ในใจของนายทหารทุกคน ชื่อคิงค่ำมืดของแก ก็อยู่ในนั้นเช่นเดียวกัน ชีวประวัติของแก ฉันท่องจำได้เหมือนกับน้ำไหลไม่ขาดสาย!"
"เฉียนเปียว ชาย ชาวฮั่น สามสิบปี คิงค่ำมืดแดนเหนือ เคยได้แชมป์ความดีความชอบในการรบหนึ่งครั้ง รองชนะเลิศความดีความชอบในการรบสามครั้ง แชมป์ความดีความชอบในการทหารหกครั้ง รองชนะเลิศความดีความชอบในการทหารสิบครั้ง"
"สหายเฉียนเปียวเข้าร่วมภารกิจลอบฆ่า108ครั้ง ไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง มีความโดดเด่นในการทำภารกิจลอบฆ่าทุกครั้ง เขาเข้าร่วมแข่งขันการต่อสู้นานาชาติหลายครั้ง ได้รองชนะเลิศอันดับสองของโลกสองครั้ง และเข้าร่วมการกู้ภัยหลายครั้ง……"
หม่าชาวเล่าชีวประวัติของเฉียนเปียว เล่าออกมาเป็นช็อตเป็นช็อต ทุกๆช็อต เฉียนเปียวจะรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว
เมื่อพูดถึงท้ายๆ ใบหน้าของเฉียนเปียวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด "หุบปาก!หยุดพูดได้แล้ว!หยุดพูดได้แล้ว!"
เกียรติยศเหล่านี้เขาซ่อนมันเป็นความลับที่อยู่ลึกๆในใจ เป็นความเจ็บปวดภายในใจมาโดยตลอด วันนี้กลับถูกหม่าชาวขุดขึ้นมา ราวกับทุกอย่างปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้า แต่กลับเหมือนอยู่กันคนละโลก รู้สึกอับอายขึ้นมา
หม่าชาวดูแคลน "ที่แดนเหนือ แกคือวีรบุรุษที่ตราตรึงอยู่ในใจของทุกคน แต่แกละ?กลับหนีทหาร โกหกทุกคนที่มองแกเป็นวีรบุรุษ พอพูดถึงเรื่องของแก ทุกคนต่างน้ำตาไหลริน แกไม่เพียงแค่หนีทหาร แต่ยังเป็นคนลวงโลกอีกด้วย!"
คำพูดของหม่าชาว เหมือนกับมีดคม ทิ่มเข้าไปที่ใจของเฉียนเปียวอย่างรุนแรง
"หยุดพูดได้แล้ว ได้โปรดหยุดเดี๋ยวนี้……"
เฉียนเปียวคุกเข่าลงกับพื้น ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด
"เดิมที แค่แกคิดจะสังหารรักษาดินแดนเหนือโทษฐานนี้ ฉันก็มีสิทธิ์จะฆ่าแกได้ในทันที แต่จอมพลพูดไว้ แดนเหนือไม่ฆ่าฟันกันเอง"
หม่าชาวพูดต่ออีก “แต่ถ้ายังมีครั้งต่อไป ต่อให้ต้องทำผิดต่อคำสั่งของจอมพล ฉันก็ไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!”
เมื่อพูดจบ เขาหันหลังแล้วจากไป
เฉียนเปียวชะงัก คำพูดของหม่าชาวดังก้องขึ้นในหัวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะรักษาดินแดนเหนือกี่คำนี้ ทำให้เขาช็อกที่สุด
ตระกูลหยางให้เขามาเจียงโจวลอบสังหารหยางเฉิน หม่าชาวมารอที่นี่ก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อกี้ยังพูดอีกว่า คนที่เขาจะฆ่าคือรักษาดินแดนเหนือ นั่นหมายความว่า หยางเฉินคือรักษาดินแดนเหนือ?
เมื่อเขารู้สึกตัว หม่าชาวได้ขึ้นรถThe Herdsmanสีดำคันนั้นไปแล้ว และเซินปาได้ขับรถจากไป
“ตูมแคร็กๆ!”
จู่ๆฟ้าผ่าลงมาจากฟ้า ตามด้วยฟ้าแลบ และมีฝนตกห่าใหญ่ลงมาทันใด
เฉียนเปียวคุกเข่าท่ามกลางสายฝน ถูกสายฝนเปียกปอนไปทั้งตัว เขาร้องคำรามเสียงดัง ด้วยความเจ็บปวด
หลังจากที่หม่าชาวเห็นหยางเฉินที่ชั้นบนสุดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป จึงได้เล่าเรื่องที่เฉียนเปียวเป็นคนที่ออกมาจากแดนเหนือให้ฟัง
หยางเฉินค่อยๆหลับตาลง "คนของแดนเหนือ ไม่มีใครขี้ขลาดตาขาว ฉันไม่เชื่อว่าคิงค่ำมืด จะหนีทหารได้!"
นี่ไม่ใช่เพราะเขาเชื่อจนไม่ลืมหูลืมตา แต่เพราะเขาเชื่อมั่นต่อแดนเหนือ
"เขาน่าจะน้ำท่วมปาก ตอนที่ผมพูดถึงชีวประวัติของเขา เขาเจ็บปวดมาก ดูออกชัดเจนว่ารู้สึกดีต่อแดนเหนืออย่างมาก" หม่าชาวก็พูดออกมา
"แกไปสืบเดี๋ยวนี้ ดูว่าเขาเจอกับอะไรมากันแน่"หยางเฉินสั่งการ
"ครั้บ พี่เฉิน!"
หลังจากที่หม่าชาวจากไปแล้ว หยางเฉินยืนอยู่ที่หน้าหน้าต่างยาวถึงพื้นบานยักษ์ มองอย่างเคร่งเครียดไปทางทิศเหนือ ด้วยความคิดถึง
เมืองโจวเฉิงตระกูลหยาง
หยางเซี่ยงหมิงเห็นเฉียนเปียวกลับมากะทันหัน จึงยิ้มอย่างยโส "คุณเฉียนออกโรง ไม่มีทางพลาดแน่นอน!"
ตอนนี้หยางเวยยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่เส้นเอ็นของแขนขาถูกทำลาย กระดูกแตกละเอียด ไม่มีทางจะฟื้นฟูได้อีกต่อไป อนาคตต้องนอนติดกับเตียงตลอดไป
แต่หยางเวยเป็นหลานชายที่น่าภูมิใจที่สุดของหยางเซี่ยงหมิง ตอนนี้กลับอยู่จุดนี้ แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าหยางเซี่ยงหมิงมีความอาฆาตต่อหยางเฉินมากขนาดไหน
ในขณะที่ตระกูลหยางต่างพากันขอบคุณเฉียนเปียวอยู่นั้น เฉียนเปียวเดินมาที่ข้างหน้าของหยางเซี่ยงหมิง จู่ๆก็กล่าวออกมา “ผู้นำตระกูลหยาง ขอโทษนะครับ ที่ทำให้คุณผิดหวัง!”
หยางเซี่ยวหมิงที่ใบหน้ายิ้มแย้ม จู่ๆก็หุบยิ้มแข็งทื่อทันใด นัยน์ตาเริ่มไม่สบอารมณ์ “เฉียนเปียว แกหมายความว่าไง?”
“ภารกิจครั้งนี้ อภัยให้ผมด้วยผมทำไม่ได้!”
เฉียนเปียวกล่าวอย่างสงบ “ผมอยู่กับตระกูลหยางมาแปดปีเต็มๆ ช่วยชีวิตผู้นำตระกูลหยางมาแล้ว และยังช่วยผู้นำจัดการมาหลายปัญหา เรื่องบุญคุณที่ตระกูลหยางช่วยชีวิตผมไว้ จบสิ้นกันไปนานแล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องไปแล้วครับ”
สีหน้าของหยางเซี่ยงหมิงแย่มากๆ หลายปีมานี้ เพราะมีเฉียนเปียว เขาจึงไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ ทำผิดกับหลายๆคน ถ้าเฉียนเปียวจากไป เขาจะลำบากเข้าไปอีก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงได้ทำให้แกไปจากตระกูลหยาง?" หยางเซี่ยงหมิงสีหน้าไม่เต็มใจ
"คนที่คุณทำผิด ต่อคนที่ผมและคุณไม่ควรทำผิด!อภัยให้ผมที่ทำอะไรไม่ได้!"เฉียนเปียวกล่าวอย่างสงบ
"บังอาจ!"
เขาเพียงแต่พูดความจริง กลับทำให้หยางเซี่ยงหมิงลุกฮือขึ้นมา "ตระกูลหยางของฉันตั้งแต่ยังเป็นตระกูลเล็กๆ แล้วมาถึงจุดนี้ได้ ไม่เคยเจอกับคนใหญ่คนโตคนไหนมาก่อนบ้าง?อย่าว่าแต่เมืองโจวเฉิงเล็กๆแห่งนี้เลย ต่อให้เป็นมณฑลเจียงผิง จะมีใครที่ทำให้ตระกูลหยางของฉันต้องหวาดกลัวบ้าง?