The king of War - บทที่ 114 ฆ่าคนด้วยใบไม้
หยางเฉินมองหยางเซี่ยวหมิงอย่างไร้ความรู้สึก ทันใดนั้นก็มองไปที่เฉียนเปียว ที่ขณะนี้ถูกปืนสิบกว่ากระบอกเล็งอยู่
เมื่อเฉียนเปียวเห็นหยางเฉิน ก็ไม่กล้าสบตาเขา หลบสายตา ด้วยความรู้สึกผิด
หยางเฉินเพียงแค่อยากเห็นเฉียนเปียว จากนั้นจึงได้มองกลับไปที่หยางเซี่ยงหมิง
"แกอยากฆ่าฉัน?"
หยางเฉินกล่าวออกมาทันใด ด้วยสีหน้าสงบ
หยางเซี่ยงหมิงเป็นราชาแห่งความดุร้าย มิเช่นนั้นคงจะไม่จัดคนไปฆ่าหยางเฉิน เพียงเพราะหยางเวยถูกทำให้พิการ ตอนนี้เห็นหยางเฉินท่าทีสงบ ในใจเขากลับไม่สงบอย่างมาก
เฉียนเปียวกำลังถูกปืนสิบกว่ากระบอกจ่ออยู่ เพียงแค่เขาสั่งการ ปากปืนเหล่านี้ก็จะเล็งไปที่หยางเฉินอย่างพร้อมเพรียงกัน
คนแบบนี้ ถ้าไม่มั่นใจเต็มร้อย ก็เป็นคนบ้า
หยางเซี่ยงหมิงเชื่อมั่นมากว่าเขาเป็นพวกมั่นใจเต็มร้อย
“แกทำให้หลานชายฉันพิการ ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตติดเตียงตลอดไป ถ้าฉันจะฆ่าแก จะมีปัญหางั้นเหรอ?” หยางเซี่ยงหมิงหน้าตาเกรี้ยวกราด
หยางเฉินยิ้มเบาๆ “แกตัวจริงกับแกในอุดมคติของฉัน ต่างกันโดยสิ้นเชิง!”
“ต่างกันตรงไหน?”
หยางเซี่ยงหมิงถาม
“เดิมทีฉันคิดว่า ที่แกทำให้ตระกูลเล็กๆตระกูลหนึ่ง กลายเป็นตระกูลชั้นนำของเมืองโจวเฉิงได้ เพราะรู้ความผิดชอบชั่วดีและมีความสามารถ แต่ตอนนี้ดูๆแล้ว ฉันเข้าใจไปเอง”
หยางเฉินกล่าวด้วยหน้าตามีเลศนัย “ถ้าจะให้ฉันติชม แปดคำเพียงพอแล้ว! คิดอะไรสั้นๆ กบในกะลา!
“บังอาจ!”
หยางเซี่ยงหมิงเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันใด “แกคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าแกจริงๆเหรอ?”
เมื่อเขาพูดจบ เดิมทีปืนสิบกว่ากระบอกจ่อไปที่เฉียนเปียว ปากปืนที่เป็นช่องดำๆ ได้เปลี่ยนไปจ่อที่หยางเฉินทันใด
เฉินเปียวหน้าถอดสี หลังจากที่เดาตัวตนของหยางเฉินออกแล้วนั้น แล้วเขาจะมองหยางเฉินถูกคนอื่นเอาปืนจ่ออย่างไม่ไยดีได้อย่างไรกัน? เขาขยับตัว แว็บเดียวได้ไปขวางที่ด้านหน้าของหยางเฉินไว้ แล้วเกรี้ยวกราด “ใครกล้าแตะต้องเขา!”
เมื่อหยางเซี่ยงหมิงเห็นการกระทำของเฉียนเปียว ก็ประหลาดใจขึ้นมา เฉียนเปียวที่ไม่กลัวแม้แต่ความตาย ขณะนี้ได้ปกป้องอยู่ด้านหน้าของหยางเฉิน
แม้ในใจจะตะลึง แต่ไม่นาน หยางเซี่ยงหมิงก็หัวเราะออกมา “เฉียนเปียว เดิมทีฉันหาจุดอ่อนของแกไม่เจอ แต่ตอนนี้ ก็หาเจอแล้ว”
“แกหมายความว่าไง?” เฉียนเปียวพูดเบาๆ
“ในเมื่อแกยอมตายเพื่อปกป้องมัน แสดงว่ามัน คือจุดอ่อนของแก”
หยางเซี่ยงหมิงยิ้มอย่างสะใจ “เพียงแค่แกทำงานให้ตระกูลหยาง แล้วฉันจะปล่อยมันไป!”
เฉียนเปียนหน้าถอดสี สำหรับเขา ต่อให้ตาย ก็ไม่ยอมที่จะอยู่ที่ตระกูลหยางอีกต่อไป แต่ใครจะรู้ ว่าหยางเฉินจะปรากฏกาย ถ้าหยางเฉินเป็นอะไรไป เขาจะเป็นนักโทษที่เลวที่สุดของแดนเหนือ
หยางเฉินไม่พูดอะไร มองเฉียนเปียวอย่างชื่นชมมาก ก่อนหน้านี้ หม่าชาวได้สืบเรื่องของเฉียนเปียวอย่างละเอียด
แม้เฉียนเปียวไปจากแดนเหนือตั้งแต่เมื่อแปดปีที่แล้ว แต่บางเรื่อง จะโทษเขาก็ไม่ได้
“ตระกูลหยางไร้มโนธรรม ฉันไม่มีทางอยู่ที่ตระกูลหยางต่ออย่างแน่นอน!”
สักพัก เฉียนเปียวเอ่ยปากออกมา ด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“ในเมื่อแกปฏิเสธ งั้นก็ตายไปพร้อมกับมันเลยละกัน”
หยางเซี่ยงหมิงค่อยๆหลับตา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอาฆาตอย่างรุนแรง
เฉียนเปียวไม่พูดใดๆ ได้แต่กัดฟัน ป้องกันหยางเฉินไว้ด้านหลังอย่างแน่วแน่ จู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า “เพียงแค่พวกมันยิง ผมจะต้านกระสุนทุกนัดไว้ แล้วพวกคุณฉวยโอกาสหนีไป”
เขารู้ดีถึงความสามารถของผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดของแดนเหนือ และเชื่อมั่นในตัวของหยางเฉินและหม่าชาว และเขาเตรียมตัวที่จะตายแล้ว
จู่ๆหยางเฉินก็หัวเราะขึ้นมา เดินไปด้านหลังของเฉียนเปียว ตบบ่าเขาเบาๆ “ฉันไม่ให้แกตายหรอก ใครจะฆ่าแกได้?”
คำพูดของหยางเฉินเต็มไปความยโสโอหังบ้าคลั่ง แต่เฉียนเปียวกลับไม่รู้สึกว่าหยางเฉินกำลังคุยโวโอ้อวดอยู่ ในใจเต็มไปด้วยความตะลึง วัยรุ่นรักษาดินแดนเหนือคนนี้ แข็งแกร่งถึงขั้นนั้นแล้วเหรอ?
“ฮ่าฮ่า……”
คำพูดของหยางเฉิน กลับทำให้ผู้คนของตระกูลหยางทั้งหมดหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา
หลังจากที่หยางเซี่ยงหมิงหัวเราะเพียงพอแล้ว ได้จ้องไปที่หยางเฉินอย่างไม่ละสายตาด้วยความดุดัน “ฉันละอยากจะรู้ ถูกปืนสิบกว่ากระบอกจ่ออยู่ แล้วแกจะขัดขวางไม่ให้ฉันฆ่ามันได้อย่างไรกัน?”
“ไม่งั้น ลองดูมั้ย?”
หยางเฉินยิ้มมุมปาก ด้วยสีหน้าสบายใจ
“หยางเฉิน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกคิดอะไรอยู่ แกคิดว่าฉันกลัวตัวตนของตระกูลอวี่เหวินของแก ดังนั้นจึงคิดว่าฉันไม่กล้าลงมือสินะ”
หยางเซี่ยงหมิงกล่าวด้วยท่าทางรู้ทะลุปรุโปร่ง “ฉันสืบมาตั้งนานแล้ว สิบปีก่อน แกถูกไล่ออกจากตระกูลอวี่เหวิน ต่อให้ตระกูลจะยกเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้แกไปแล้ว แต่แกทำได้เพียงครอบครองสาขาเจียงโจวที่เล็กๆนั้นเท่านั้น ผู้ที่ครอบครองเยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่แท้จริง ก็ยังเป็นตระกูลอวี่เหวินอยู่!
“แกคิดว่า อย่างแก ฉันจะไม่กล้าฆ่าเหรอ?”
หยางเฉินส่ายหน้า “ผู้ที่ไม่รู้ย่อมไม่กลัว แกไม่รู้อะไรเลย ว่าตระกูลหยางของแกพลาดโอกาสอะไรไป แล้วทำผิดกับคนแบบไหนไปแล้วบ้าง”
“จองหอง!”
หยางเซี่ยงหมองเกรี้ยวกราด “ในเมื่อแกโอหังได้ขนาดนี้ งั้นฉันจะฆ่าหมาของแกก่อนก็แล้วกัน ดูว่าแกจะโอหังแบบนี้ได้อีกมั้ย”
หยางเฉินสายตาอาฆาต กล้าเหยียดหยามพี่น้องของเขา ต้องตายสถานเดียว!
“ยิง!”
หยางเซี่ยงหมิงสั่งการทันใด
เฉียนเปียวหน้าถอดสี ในตอนที่หยางเซี่ยงหมิวสั่งการนั้น ได้เข้าไปขวางด้านหน้าของหยางเฉินไว้ทันใด
“หมอบ!”
หยางเฉินตะคอกออกมาทันที กดบ่าของเฉียนเปียวลง ร่างของเขาหมอบลงกับพื้นอย่างควบคุมไม่ได้
และชาวหม่าปฏิกิริยาโต้ตอบเร็วกว่า ตอนที่หยางเซี่ยวหมิงพูดจบ เขาได้หมอบลงกับพื้นแล้ง
“ปัง!ปัง!ปัง!……”
ในขณะเดียวกันนี้ ปืนสิบกว่านัดได้ยิงออกมา ในตระกูลหยางเต็มไปด้วยเสียงปืนดังแสบแก้วหูไปหมด
จู่ๆหยางเฉินก็ได้หายไปจากที่เดิม ราวกับปีศาจอย่างไรอย่างนั้น มองเห็นไม่ชัดแต่อย่างใด
ทุกๆคนเพียงแค่ลั่นไกปืน ก็พบว่าเป้าหมายได้หมอบลงกับพื้นแล้ว ส่วนหยางเฉิน หายไปแล้ว ทุกคนเหมือนรู้สึกเห็นผี
และหยางเฉินได้เด้ดใบไม้มาสิบใบ แล้วโบกมือไป
“พู!พู!พู!……”
เสียงเบาๆดังขึ้น มือปืนสิบกว่าคนที่ยืนอยู่ที่เดิมเมื่อกี้ ล้มลงกับพื้นทั้งหมด ตรงกลางหน้าผากของทุกคน เต็มไปด้วยรอยแดง ใบไม้ได้ทะลุเข้าไปในหัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นเพียงใบไม้สิบใบที่หยางเฉินเด็ดมา จากนั้นมือปืนสิบกว่าคนก็ล้มลงกับพื้น ตายตาไม่หลับ
ฆ่าคนด้วยใบไม้!
ตายราบคาบ!
หยางเซี่ยวหมิงตัวสั่นไม่หยุด รู้สึกเหมือนทุกอย่างคือความฝัน ที่พึ่งพิงที่ดีที่สุดของเขาไม่ใช่เฉียนเปียว แต่เป็นมือปืนสิบกว่าคนนั้นต่างหาก
ขณะนี้ กลับนอนกับพื้นอย่างลึกลับ แม้แต่ตาย ความรู้สึกของพวกเขาเหมือนไม่เปลี่ยนแปลงไปไหน คิดไม่ถึงว่าจะพบจุดจบเป็นแบบนี้
จู่ๆเฉียนเปียวถูกหยางเฉินกดลงกับพื้น ได้ยินแค่เสียงปืนดังขึ้นติดๆกัน จากนั้นเสียงปืนก็หายไป
ตอนที่เขายืนขึ้นมา ก็ได้เห็นมือปืนสิบกว่าคนที่เมื่อกี้ยังจ่อปืนมาที่พวกเขา ได้ตายลงทั้งหมด ที่หน้าผากของทุกคนมีรอยเลือดอยู่
ขณะนี้ รอยเลือดเพิ่งจะเหมือนกับกลีบดอกกุหลาบ ค่อยๆโผล่ออกมาช้าๆที่หน้าผาก