The king of War - บทที่ 1148 ผมจะทำให้หงเฉินสิ้นหวังด้วยมือตัวเอง
ชายหนุ่มที่ถูกผูกไว้บนไม้กางเขนก็คือหม่าชาวที่ถูกนักฆ่าหงเฉินจับมาที่นี่นั่นเอง
ขณะนี้ คือหม่าชาวกัดฟันแน่น ไม่ว่าจะต้องถูกทรมานด้วยวิธีไร้มนุษยธรรมแบบไหน เขาก็ไม่ส่งเสียง แต่กลับตะโกนกลับว่า “มาเลย ต่อเลย! แม่งมีแรงกำลังแค่นี้เองเหรอ?”
“ถ้ากูร้องแม้แต่นิดเดียว กูถือเป็นลูกหมา! มาเลย แม่งมาสิ !”
ชายชาวตะวันตกตัวโตโกรธจัด เขายกแส้ของเขาเฆี่ยนหัวหม่าชาวอย่างบ้าคลั่ง “ร้อง! ผมบอกให้ร้อง!”
หม่าชาวก็ยังคงไม่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแม้แต่น้อย ใบหน้าที่ดุร้ายของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างแรงกล้า
เขาสาบานว่าเขาจะฉีกเนื้อไอ้สารเลวนี้เป็นชิ้นๆ
“ลูซิเฟอร์ พอแล้ว!”
ในขณะนั้นเอง มีแดนเทพชั้นกลางผู้แข็งแกร่งด้านตะวันตกเดินเข้ามา มองไปที่ชายร่างกำยำและตะโกนอย่างโกรธเคือง
“ซาตาน คุณไม่ได้ยินเหรอ? ไอ้สารเลวนี่ เขายั่วโมโหผม”
ชายร่างใหญ่ที่ชื่อลูซิเฟอร์ พูดด้วยสีหน้าโกรธจัด
ซาตานขมวดคิ้ว “อย่าลืม จุดประสงค์ของเราในครั้งนี้ ถ้าหากเขาตาย ภารกิจจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน!”
หลังจากฟังคำพูดของซาตานแล้ว ลูซิเฟอร์ก็เฆี่ยนหม่าชาวอย่างแรงอีกครั้งและพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ให้นายมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักสองสามชั่วโมงก่อน”
ในขณะเดียวกัน ที่สนามบินนอกอาณาเขต เที่ยวบินระหว่างประเทศได้ลงจอดอย่างช้าๆ และร่างชายหนุ่ม ก้าวลงจากเครื่องบิน
“จอมพล!”
ทันทีที่หยางเฉินเดินออกจากสนามบิน ชายวัยกลางคนในชุดรบก็คุกเข่าลงทันทีด้วยสีหน้าที่เคารพนับถือ
“ส่งตำแหน่งที่อยู่ให้ผม!”
หยางเฉินเปิดปากพูด เขากำลังระงับความโกรธในตัวเองไว้
หม่าชาวถูกลักพาตัวไป เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว ในหลายชั่วโมงนี้ ไม่มีใครรู้ว่าหม่าชาวจะเจออะไรบ้าง
ชายวัยกลางคนรีบหยิบเครื่องขนาดฝ่ามือออกมา ยื่นให้หยางเฉินและกล่าวว่า “จอมพล บนเรดาร์นี้ ฐานที่มั่นสิบสามจุดถูกทำสัญลักษณ์ไว้หมดแล้ว”
“ดี!”
หยางเฉินรับเรดาร์มา และตามชายวัยกลางคนไปยังรถรบหุ้มเกราะเหล็ก
นี่คือพื้นที่อันเงียบสงบของสนามรบนอกอาณาเขตและไม่อนุญาตให้มีการผจญเพลิง แต่ยกเว้นในสนามบิน สงครามอาจเกิดขึ้นได้ทุกที่
ที่แท้ รถรบพึ่งออกจากสนามบินได้สองกิโล ทันใดนั้นสัญญาณแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
“จอมพล ท่านนั่งให้ดีนะ!”
สิ้นเสียงของชายวัยกลางคน ทันใดนั้นเชาก็เหยียบเกียร์คันเร่ง เครื่องยนต์ของรถรบก็ระเบิดเสียงดังลั่น รถรบพุ่งไปไม่รักษากฎระเบียบ
“บรื้นๆๆ!”
เห็นแต่ลูกกระสุนปืนใหญ่ทีละลูก ตกลงมาจากฟ้าและตกลงมารอบๆของรถรบ
เสียงไซเรนในรถยังคงส่งเสียงดังต่อเนื่อง ชายวัยกลางคนก็ขับรถรบไปอย่างมั่นคง หลบลูกระเบิดทีละลูกๆ
ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเฉินสีหน้าดูสงบนิ่ง เหมือนกับว่าเป้าหมายสถานที่ของเขาคือในเมืองเยี่ยนตูอันเงียบสงบ แต่ไม่ใช่สนามรบนอกอาณาเขต
สิบนาทีต่อมา ในที่สุด การยิงปืนใหญ่ก็หยุดลง และรถรบก็กลับสู่เส้นทางที่ปกติ
ผ่านกระจกหน้าต่างของรถรบศึกหยางเฉินเห็นฉากที่คุ้นเคยมากมาย ถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก
ตอนแรก เขาก้าวเข้าสู่สนามรบครั้งแรก ยังเป็นคนขี้ขลาดอยู่ ถ้าเจอการยิงปืนใหญ่ในเมื่อกี้ คงจะตกใจจนฉี่ราดไปแล้ว
บัดนี้ การได้สัมผัสเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้ง กลับมีความรู้สึกเหมือนของเด็กเล่นโดยสิ้นเชิง
“จอมพล ถ้าไปข้างหน้าอีก ก็เป็นฐานที่มั่นของหงเฉินแล้ว”
หลังจากครึ่งชั่วโมง ชายวัยกลางคนเตือน
ในดวงตาของหยางเฉินแวบผ่านแววเจตนาสังหารอันเจิดจ้า และกัดฟันพูด “การมรณะของหงเฉินเริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้!”
ชายวัยกลางคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้เพียงว่าเขาได้รับคำสั่ง ให้ไปรับหยางเฉินเพื่อค้นหาฐานที่มั่นของหงเฉินทุกแห่ง
หลังจากได้ยินหยางเฉินบอกว่าเขาจะทำลายหงเฉิน เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยและพูดว่า “จอมพล หากท่านต้องการทำลายหงเฉิน ไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนี้ อาวุธในสนามรบนอกอาณาเขตของเราสามารถกำหนดเป้าหมายฐานหงเฉินได้โดยตรง ลูกกระสุนปืนใหญ่สิบสามลูก ก็สามารถทำให้หงเฉินหายไปจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง”
นี่คือความมั่นใจของกองยุทธการจิ่วโจว และยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกองยุทธการจิ่วโจวอีกด้วย
หยางเฉินส่ายศีรษะ “ผมต้องการทำให้หงเฉินสิ้นหวังด้วยมือของผมเอง!”
บุญคุณความแค้นระหว่างเขากับหงเฉินไม่ใช่เรื่องวันหรือสองวัน
เขายังไม่ทันก้าวเข้าสู่เมืองเยี่ยนตูเขาก็ตกเป็นเป้าหมายของนักฆ่าหงเฉินแล้ว จนกระทั่งเดี๋ยวนี่ หงเฉินได้ส่งกลุ่มนักฆ่าหลายกลุ่มเพื่อไปฆ่าเขา
แต่ว่า สุดท้ายนักฆ่าทุกกลุ่มก็เสียชีวิตอยู่ที่เมืองเยี่ยนตู
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า คราวนี้หงเฉินถึงกับส่งนักฆ่าแดนเทพชั้นกลาง เข้าสู่เมืองเยี่ยนตู และยังทำให้ทีมผู้พิทักษ์เงาลับต้องประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก แม้แต่หม่าชาว ผู้บัญชาการของทีมผู้พิทักษ์เงาลับก็ยังถูกพรากไป
นี่เป็นการยั่วยุชัดๆ ถ้าเขาไม่ทำลายหงเฉินด้วยมือของเขาเอง เขาคงไม่มีวันจะสบายใจ
เมืองเยี่ยนตูในวันนี้ สถานการณ์รุนแรงมาก ราชวงศ์ได้เข้าสู่สนามทีละคน แดนเทพผู้แข็งแกร่งของเมืองเหมียว ก็กำลังเคลื่อนไหวเพื่อที่จะก่อการร้าย
ถ้าหากรอถึงเวลาที่ตี้ชุนสู้กัน นักฆ่าหงเฉินค่อยปรากฏตัวอีกครั้ง หากเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง ก็ช่างเถอะ แต่ถ้าหากเหมือนกับครั้งนี้ มาเอาคนรอบข้างของเขาไปโดยตรงแบบนี้ หยางเฉินไม่อาจทนได้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ทำลายหงเฉินให้สิ้นซากก่อน
“จอดรถ!”
เมื่อเห็นว่ากำลังจะไปถึงฐานที่มั่นแห่งแรกของหงเฉิน หยางเฉินก็สั่งทันที
ชายวัยกลางคนรีบจอดรถ แต่รู้สึกงงงวยมาก
ก่อนที่เขาจะถาม หยางเฉินได้ลงจากรถแล้ว และเดินไปที่ฐานที่มั่นของหงเฉินคนเดียว
“จอมพล!”
ชายวัยกลางคนเริ่มวิตกกังวล เขากำลังจะตามไป ก็ได้ยินหยางเฉินพูดว่า “รอผมที่นี่สักครู่!”
“ครับ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายวัยกลางคนก็รีบตอบรับ
แม้ว่าเขาอยากจะตามไป แต่ก็เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องเชื่อฟังคำสั่ง
อีกอย่าง ในฐานะที่หยางเฉินเป็นจอมพลชายแดนเหนือ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย
“วู้~วู้”
ในขณะนี้ ฐานที่มั่นของหงเฉินได้ส่งเสียงเตือนที่แสบแก้วหูดังขึ้น
“ศัตรูโจมตี! มีศัตรูโจมตี!”
ได้กลิ่นอายของผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมา และทุกคนถือปืนหนักอยู่ในมือ
“คุณเป็นใคร? ถึงกล้าบุกรุกดินแดนต้องห้ามแห่งหงเฉิน ตายซะเถอะ!”
นักฆ่าหงเฉินสิบกว่าคนในมือถืออาวุธหนัก ยิงใส่หยางเฉินเกือบพร้อมเพรียงกัน
“ปังปังปัง!”
ชั่วเวลาหนึ่ง เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วินาทีต่อมา เรื่องที่ทำให้พวกนักฆ่าหงเฉิน ตกตะลึงได้เกิดขึ้นแล้ว เห็นเพียงชายหนุ่มเมื่อกี้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็หายตัวไปในทันที
“แล้วคนล่ะ?”
นักฆ่าหงเฉินถามด้วยความประหลาดใจ
“พัฟ!”
วินาทีต่อมา เรื่องที่ทำให้พวกเขาสิ้นหวังก็เกิดขึ้นแล้ว เห็นเพียงหยางเฉินปรากฏตัวต่อหน้านักฆ่าปืนใหญ่ ยื่นมือจับศีรษะของฝ่ายตรงข้าม
“ช่า!”
หัวของฝ่ายตรงข้ามถูกหักออก และเลือดก็ไหลออกมา
“พัฟพัฟ!”
ต่อจากนั้น ร่างของหยางเฉินหายไปอีกครั้ง และทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว นักฆ่าก็จะตายในมือของเขา
ใช้เวลาสั้นๆไม่กี่วินาที นักฆ่าหงเฉินหลายสิบคนก็ล้มลงอยู่ในกองเลือด โดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งหมดถูกฆ่าตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว