The king of War - บทที่ 115 โศกนาฏกรรมตระกูลหยาง
มือปืนสิบกว่าคนเหล่านั้น ที่หน้าผากมีเลือกค่อยๆไหลออกมา สะเทือนจิตใจของทุกคนอย่างมาก
สายตาของเฉียนเปียวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตั้งแต่เขาถูกหยางเฉินกดลงไป แล้วค่อยยืนขึ้นมา เป็นแค่ช่วงเวลาสองวินาทีเท่าไหร่
เขามองไม่เห็นอะไรเลย ได้ยินแค่เสียงปืนดังสนั่น หลังจากที่ยืนขึ้นแล้ว หยางเฉินยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่มือปืนสิบกว่าคนที่เดิมลั่นไกออกมา กลับตายตาไม่หลับทั้งหมด
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
สายตาทั้งคู่ของเฉียนเปียวสะท้อนความช็อก และความไม่เข้าใจออกมา
มีเพียงหม่าชาว ที่หน้าตานิ่งสงบ ไม่รู้สึกแปลกใจใดๆ
หยางเฉินไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นัยน์ตาครุ่นคิด จู่ๆก็เดินไปข้างหน้า
“ตึง!ตึง!ตึง!”
เสียงของฝีเท้าเขา เหมือนเสียงของเทพแห่งความตาย เหยียบย่ำจิตใจของทุกคนตระกูลหยางอย่างรุนแรง
หยางหลิ่วที่ยืนข้างๆหยางเซี่ยงหมิง เห็นหยางเฉินค่อยๆเดินบีบใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ขาทั้งสองข้างอ่อนลง จนก้นกระแทกลงไปกับพื้น และที่ๆเธอนั่งลงไป มีน้ำค่อยๆไหลออกมา ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นฉี่
หยางเฉินไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย เดินไปหยุดตรงหน้าของหยางเซี่ยงหมิง กล่าวด้วยหน้าตาสัพยอก “ผู้นำตระกูลหยาง ที่ฉันว่าแกคิดอะไรสั้นๆ กบในกะลา ตอนนี้ แกติดรู้ใช้ประโยคนี้ติชมแก เป็นไง?
“ปัก!”
หยางเซี่ยงหมิงขาอ่อนนานแล้ว คำพูดของหยางเฉิน ทำให้เขาทรุดลงสุดๆ เข่าทั้งสองคุกเข่าลงกับพื้นอย่างแรง รีบอ้อนวอน “คุณหยาง คุณพูดถูกทุกอย่าง ผมมีตาแต่หามีแววไม่ ในฐานะที่แซ่หยางด้วยกัน ได้โปรดปล่อยตระกูลหยางของฉันด้วยเถิด”
“เดิมทีตั้งแต่หยางเวยอยากได้ภรรยาของฉัน ตระกูลหยางก็ควรที่จะล่มสลายแล้ว แต่ฉันก็ยังให้โอกาสตระกูลหยาง เพียงแค่พวกแกภักดีต่อฉัน ฉันช่วยตระกูลหยางเป็นราชาของเมืองโจวเฉิง แต่ตระกูลหยางเป็นคนก่อปัญหาขึ้นมาเอง
หยางเฉินหน้านิ่ง กล่าวช้าๆ “แต่ก็นะ ตระกูลหยางเลือกที่จะหักหลังกัน ถึงขั้นคิดจะฆ่าฉัน ถ้าแกเป็นฉัน แกจะให้โอกาสตระกูลหยางมั้ย?”
“คุณหยาง ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมไม่กล้าทำอีกต่อไปแล้ว ต่อไปคุณคือพระเจ้าของตระกูลหยาง ตระกูลหยางของเราเชื่อฟังคุณ จะเป็นหมารับใช้ของคุณตลอดไป”
หยางเซึ่ยงหมิงตกใจจนอกสั่นขวัญหาย คำนับยอมรับผิดอย่างสุดชีวิต ขณะเดียวกันในใจก็สำนึกผิดอย่างสุดซึ้ง
แค่ฝีมือทั้งหมดที่หยางเฉินแสดงออกมาเมื่อกี้ เขาจึงไม่สงสัยคำพูดของหยางเฉินเลยแม้แต่น้อย
และแล้วเขาก็เข้าใจ ว่าทำไมเฉียนเปียวจึงได้พูด ว่าตระกูลหยางทำผิดต่อคนที่ไม่ควรจะทำผิดด้วย ที่พูดนั่นหมายถึงหยางเฉินนี่แหละ!
คนอื่นของตระกูลหยางเห็นดังนี้ ต่างก็คลานลงกับพื้น อ้อนวอนหยางเฉินพร้อมๆกัน
ในขณะเดียวกันนี้ มีรถมาจอดที่ด้านนอกหนึ่งคัน หลายคนรีบลงมาจากรถ
หลังจากที่คนกลุ่มนี้เข้ามาในตระกูลหยางแล้วนั้น ก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้คนตะลึงมาก ทุกๆคนของตระกูลหยางต่างคุกเข่าอ้อนวอนต่อวัยรุ่นคนหนึ่ง
และข้างๆ ยังมีมือปืนที่นอนตายตาไม่หลับอีกสิบกว่าคน
“ท่านประธาน ตามคำสั่งของท่าน ทรัพย์สินทุกอย่างของตระกูลหยาง ได้นับไว้เรียบร้อยแล้ว นี่คือสัญญาโอนที่พวกเราร่างไว้ เพียงแค่หยางเซี่ยงหมิงเซ็นชื่อ ทุกอย่างก็จะเป็นของท่าน”
วัยกลางคนคนหนึ่ง ยืนรายงานอยู่ด้านหลังหยางเฉินอย่างเคารพ
วัยกลางคนไม่ใช่ใคร แต่เป็นลั่วปิงที่เมื่อสองวันก่อนเพิ่งมอบตัวไป
หยางเฉินกล่าว “เอาไปให้ตระกูลหยางเซ็นชื่อ!”
ลั่วปิงพยักหน้า ถือเอกสารเดินไปตรงหน้าของหยางเซี่ยงหมิง แล้วกล่าว “นี่คือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอาวุโส หลังจากที่ประเมินสถานการณ์ของตระกูลหยางในปัจจุบันแล้ว ได้ทำแผนการเทคโอเวอร์ออกมา คุณลองดูนะ ถ้าไม่มีปัญหา ก็เซ็นชื่อได้เลย!”
ในตอนนี้ จะมีโอกาสให้ตระกูลหยางปฏิเสธได้อีกที่ไหนกัน?
เมื่อเขาดูเสร็จ จึงรู้ได้อย่างทันทีว่าเมื่อกี้นี้ ที่ฉิงเหอกรุ๊ปและคลังสินค้ากับไซต์งานของตระกูลหยาง ถูกยึด ความจริงแล้วเป็นเพราะการกระทำของหยางเฉิน เพื่อบีบให้ตระกูลหยางสิ้นหวัง แล้วให้เทคโอเวอร์ด้วยต้นทุนที่ถูกที่สุด
“คุณหยาง ได้โปรด……”
เมื่อกี้หยางเซี่ยงหมิงอยากอ้อนวอนต่อ แต่ก็ถูกหยางเฉินขัดคอ “หยางเซี่ยงหมิง ทำผิด ก็ต้องชดใช้ความผิด ฉันไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเลยสักแดง แล้วเอาตระกูลหยางมาเป็นของตัวเองเลย แต่ฉันไม่ทำแบบนั้น”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หยางเซี่ยงหมิงตัวสั่น นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ทั้งหมด เขาจะกล้าไม่พอใจได้อย่างไรกัน เขาหยิบปากกาขึ้นมา สะบัดไปกี่ครั้ง แล้วเซ็นชื่อจริงของตัวเองลงไป
ต่อให้ไม่เต็มใจ ก็ไม่กล้าเป็นศัตรูกับหยางเฉิน
“จากนี้ไป เมืองโจวเฉิงจะไม่มีตระกูลหยางอีก!”
หยางเฉินเงยหน้าขึ้นไปมองป้ายตัวอักษรใหญ่สีทองที่เขียนไว้ว่า‘ตระกูลหยาง’ แล้วสะบัดไป
“ปัง!”
จู่ๆป้ายก็หล่นลงมา บนพื้น แตกเป็นเสี่ยงๆ
ตระกูลหยางไม่มีใครกล้าเอ่ยปากออกมา ตัวสั่นมองดูหยางเฉินจากไป
ลั่วปิงใจสั่น ตระกูลชั้นำของเมืองโจวเฉิงแท้ๆ คิดจะกวาดล้างก็กวาดล้าง ความสามารถของท่านประธานน่ากลัวอย่างนี้นี่เอง
หลังจากที่ออกจากตระกูลหยางแล้ว หยางเฉินได้สั่งลั่วปิงที่อยู่ข้างกาย “ข่าวเรื่องการสลายของตระกูลหยาง ให้ปล่อยออกไปเดี๋ยวนี้ ตระกูลหยางจะอยู่ต่อไปได้มั้ยนั้น ก็ต้องดูพรหมลิขิตของพวกเขาแล้วละ”
ลั่วปิงรีบตอบรับ “ครับ!”
พูดจบ เขาหยิบมือถือขึ้นมา เริ่มวางแผนให้สื่อเปิดโปงเรื่องนี้
เฉียนเปียวที่ติดตามเงียบๆด้านหลัง ใจสั่นรัวๆ
หลายปีมานี้ ตระกูลหยางไม่หยุดพัฒนา และหยางเซี่ยวหมิงพึ่งความแข็งแกร่งของเฉียนเปียว ทำเรื่องด้วยความเอาแต่ใจเป็นอย่างมาก ต่อให้เป็นตระกูลเศรษฐีต้นๆของเมืองโจวเฉิง หยางเซี่ยงหมิงก็ไม่ไว้หน้า ทำผิดกับคนไปจำนวนไม่น้อย
แค่คิดก็รู้แล้ว ว่าหลังจากที่ข่าวการล่มสลายของตระกูลหยางแพร่สะพัดออกไปนั้น ตระกูลหยางจะต้องประสบพบเจอกับอะไรบ้าง แต่ทั้งหมดนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาทั้งนั้น
“ท่านประธาน หน้าหนึ่งของเมืองโจวเฉิง ได้ดันข่าวการล่มสลายของตระกูลหยางแล้ว จากนี้ไปก็จะมีเรื่องเปิดโปงของตระกูลหยางตามมามากมาย”
ลั่วปิงหยิบมือถือยื่นให้หยางเฉินทันที หยางเฉินมองเพียงแว็บเดียว ไม่ดูมาก แล้วสั่งลั่วปิงว่า “คุณอยู่ที่เมืองโจวเฉิงไปก่อน รวมกิจการของตระกูลหยาง รีบฝึกฝนผู้รับผิดชอบเมืองโจวเฉิงขึ้นมาให้เร็ว รอให้จัดการเรื่องที่นี่เสร็จ ยังมีภารกิจสำคัญกว่านี้มอบให้คุณทำ”
ได้ยินดังนี้ ลั่วปิงดีใจมาก เดิมที่ตอนที่หยางเฉินให้เขาอยู่ที่เมืองโจวเฉิง เขาคิดว่าหยางเฉินจะทิ้งเขาแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะเข้าใจ ว่าหยางเฉินใช้เขาในงานสำคัญ
“ท่านประธานวางใจได้ ผมไม่มีทางทำให้คุณผิดหวัง!” ลั่วปิงกล่าวอย่างตื่นเต้น
“พวกเราต้องกลับแล้ว!”
หยางเฉินเอาข้อมือขึ้น มาดุเวลา กลับไปตอนนี้ เป็นช่วงที่ไปรับเสี้ยวเสี้ยวเลิกเรียนพอดี
หม่าชาวขับรถเอง เฉียนเปียวนั่งข้างๆคนขับอย่างตัวสั่น เกิดเป็นความหวาดกลัวขึ้นภายในจิตใจ
เดิมทีเขาอยากตายให้มันจบๆไป แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับหยางเฉิน แล้วยังพาเขาออกมา เขาไม่กล้าขัดคำสั่ง ทำได้เพียงตามออกมา
หยางเฉินไม่พูดจาใดๆตลอดทาง หลับตาพักผ่อน
จนกระทั่งถึงโรงเรียนอนุบาลหลานเทียน หยางเฉินจึงลืมตาขึ้น แล้วสั่งหม่าชาวว่า “แกพาเขาไปที่ของแกก่อน พรุ่งนี้ไปหาฉันที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป”
“ครับ!”
หม่าชาวตอบรับ แล้วพาเฉียนเปียวที่หวาดกลัวจากไป
เมืองโจงเฉิง ตระกูลหยาง
หยางเฉินเพิ่งจากไป จู่ๆผู้ดูแลเก่าแก่ของตระกูลหยางส่งเสียงตกใจออกมา “ผู้นำ ไม่ได้การแล้ว หน้าหนึ่งของเมืองโจวเฉิง ดันข่าวเรื่องการล่มสลายของตระกูลหยางแล้วครับ!”
“อะไรนะ?”
หยางเซี่ยงหมิงที่เมื่อกี้เตรียมเก็บข้าวของที่จะหนีไป จู่ๆเมื่อได้ยินข่าวนี้ ก็หน้าเปลี่ยนสีทันที
“ทุกคน ไม่ต้องเก็บข้าวของแล้ว เอาไปเฉพาะของที่มีค่าที่สุดก็พอแล้ว”
หยางเซี่ยงหมิงสั่งการทันที เขารู้ดีเป็นอย่างมาก ว่าตระกูลหยางทำผิดต่อคนจำนวนมากที่เมืองโจวเฉิง ในเมื่อข่าวถูกปล่อยออกไปแล้ว เกรงว่าผู้คนจำนวนมากกำลังรีบมาที่ตระกูลหยาง
มีคำสั่งของหยางเซี่ยงหมิง ทุกคนตระกูลหยางปฏิบัติอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงห้านาที ทุกคนพกไปแค่เพียงทองเงินเครื่องประดับและบัตรธนาคาร เตรียมพร้อมที่จะหนี
“ทุกๆคน เอาครอบครัวเป็นทีม ใช้เส้นทางที่ต่างกันออกจากเมืองโจวเฉิง พวกเราไปรวมตัวกันที่เมืองจินเหอตระกูลเฝิง! ออกเดินทางเดี๋ยวนี้!” หยางเซี่ยงหมิงสั่งการ
“ผู้นำตระกูลหยาง มีบัญชีที่ยังไม่คิดเลย คุณรีบจากไปขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หยางเซี่ยงหมิงเพิ่งพูดจบ ทันใดนั้นก็มีเสียงสัพยอกดังขึ้น จากนั้นก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยบุกรุกเข้ามาในตระกูลหยาง