The king of War - บทที่ 1176 จินกางจู่โจม
“เมื่อมองไปที่จิ่วโจว คาดว่าผู้แข็งแกร่งที่ถึงแดนราชานั้น น่าจะหลายหมื่นคน ผู้แข็งแกร่งที่สามารถมาเข้าร่วมการแข่งขันในเยี่ยนตู อย่างน้อยก็หลายพันคน”
“ทุกคนมาเพื่อตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู แน่นอนว่า ยังมีคนที่มาดูความสนุกและแค่อยากจะมีส่วนร่วมด้วยเท่านั้น”
“ไม่ว่ามันจะเป็นใคร เมื่อพวกเขากล้าที่จะขัดขวางการแข่งขันแย่งชิงในเวลานี้ มันจะทำให้เกิดความโกลาหลแน่นอน”
หยางเฉินพยักหน้า “ถูกต้อง ถ้าผมเดาไม่ผิด อีกฝ่ายน่าจะส่งการ์ดเชิญไปให้ผู้แข็งแกร่งต่างแดน และจากนั้นค่อยส่งการ์ดเชิญไปยังผู้แข็งแกร่งในเยี่ยนตู”
“พวกเขาทำเช่นนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงให้เราเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า และมาหยุดการแข่งขันครั้งนี้”
หม่าชาวตระหนักในทันใด พยักหน้าและกล่าวว่า “พี่เฉิน อย่างที่คุณคาดไว้ ผู้แข็งแกร่งจากที่อื่นได้รับการ์ดเชิญก่อน”
“ในเมื่อไม่สามารถหยุดมันได้ ก็ทำได้แค่เผชิญหน้ากับมัน”
สีหน้าของหยางเฉินเคร่งขรึมอย่างยิ่ง และเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “สามารถควบคุมตี้ชุนได้หรือไม่นั้น ไม่มีใครรู้ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คราวนี้ เราต้องชนะการแข่งขันชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู!”
“ครับพี่เฉิน!”
หม่าชาวตอบอย่างรวดเร็ว
เขารู้ว่า นี่เป็นคำสั่งที่หยางเฉินมอบให้เขา
การตู่สู้แย่งชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อแย่งเยี่ยนตูเท่านั้น แต่ยังเป็นการต่อสู้เพื่อตี้ชุนด้วย ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อทั้งจิ่วโจว
ในเวลาเดียวกัน ที่สนามบินนานาชาติเยี่ยนตู เครื่องบินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศลงจอดอย่างช้าๆ
ชายชราในชุดจีนโบราณก้าวลงจากเครื่องบิน โดยได้รับการติดตามจากกลุ่มคน
“หลายปีแล้ว ไม่ได้กลับจีนเลย!”
ชายชรามีท่าทางหวนคิดถึงอดีต และแววตาที่เฉียบคมนั้นก็ดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“หัวหน้าสมาคม จริงๆแล้ว ท่านน่าจะไม่ได้หลับมาที่เยี่ยนตูเกือบยี่สิบปีแล้ว”
ในเวลานี้ ชายวัยกลางคนก็รีบพูดออกมา
“ยี่สิบปีแล้วเหรอ?คิดไม่ถึงว่า ผมหวาอิงเจี๋ยจะจากบ้านเกิดไปนานขนาดนี้ สมาคมบูโดในประเทศ ไม่รู้ว่ามีพัฒนาการไปถึงไหนแล้ว?”
หวาอิงเจี๋ยเอ่ยถาม
“หัวหน้าสมาคม ให้หัวหน้าสาขาจินรายงานให้ท่านเถอะ!”
ในขณะนี้ ชายผู้แข็งแกร่งหลายคนในชุดเครื่องแบบบูโดก้าวไปข้างหน้า
“สมาคมบูโด หัวหน้าสาขาจิ่วโจว จินกางยินดีต้อนรับหัวหน้าสมาคม!”
เห็นเพียงชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำ คุกเข่าข้างหนึ่งลงทันทีต่อหน้าหวาอิงเจี๋ย
ชายผู้แข็งแกร่งสองสามคนข้างหลังเขาก็คุกเข่าข้างหนึ่ง และกล่าวอย่างสุภาพว่า “ยินดีต้อนรับหัวหน้าสมาคม!”
“ลุกขึ้นเถอะ!”
หวาอิงเจี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ จากนั้น พลังอันนุ่มนวลก็แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา จินกางและคนอื่นๆถูกพยุงขึ้นมาด้วยพลังอันนุ่มนวลนี้
ในฐานะสมาคมบูโด จินกางในฐานะหัวหน้าสาขาหลักในจิ่วโจว รู้สึกตกใจอย่างมาก
จากร่างกายของหวาอิงเจี๋ย เขารู้สึกถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งเขาไม่สามารถต้านทานได้เลย
ในขณะนี้ เขามีความรู้สึกว่า แม้ว่าหวาอิงเจี๋ยไม่ได้เคลื่อนไหว และด้วยแรงกดบนร่างกายของเขา ก็สามารถทำให้เขาคุกเข่าลงกับพื้นได้
“หัวหน้าจิน การพัฒนาของสมาคมบูโดในจิ่วโจวเป็นอย่างไร?”
หวาอิงเจี๋ยถามทันที
จินกางไม่กล้าละเลยและกล่าวอย่างรวดเร็วว่า”หัวหน้าสมาคม การพัฒนาสาขาจิ่วโจวถือว่าพอใช้ได้ แต่ตอนนี้ สถานการณ์ในเยี่ยนตูเปลี่ยนไปอย่างมาก ราชวงศ์และตระกูลคิงในจิ่วโจวได้เข้าสู่สนาม และมีผู้แข็งแกร่งมากมายเกิดขึ้น ดังนั้นการพัฒนาสาขาจิ่วโจวจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า”
“แต่ตอนนี้ ท่านหัวหน้าสมาคมกลับมาแล้ว เชื่อว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของสาขาจิ่วโจวของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก!”
หวาอิงเจี๋ยขมวดคิ้วและพูดด้วยท่าทางไม่พอใจ“แค่พอใช้ได้เหรอ? สู้ราชวงศ์ในจิ่วโจวไม่ได้ยังพอว่า แต่ว่า แม้แต่ตระกูลคิงในจิ่วโจวก็สู้ไม่ไหวเหรอ?”
“ตุ้ม!”
จินกางและคนอื่นๆผู้ทรงเกียรติทั้งหมดที่เป็นหัวหน้าสาขาจิ่วโจว คุกเข่าลงทีละคน
“หัวหน้าสมาคมใจเย็นๆ! ผมไม่ดีเอง ที่แดนบูโดของผมไม่สามารถทะลุเข้าสู่แดนเทพได้ และทำให้การพัฒนาสาขาจิ่วโจวไม่ก้าวหน้า ทุกอย่างเป็นความผิดของจินกาง ได้โปรดทำโทษผมเถอะ!”
จินกางกล่าวด้วยความจริงใจและเกรงกลัว
หวาอิงเจี๋ยพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณสมควรตาย! แต่ไม่ว่ายังไง คุณก็ได้ทุ่มเทอย่างมากเพื่อการพัฒนาของสมาคมบูโดในจิ่วโจว และครั้งนี้ผมจะให้อภัยคุณ!”
“ลุกขึ้นเถอะ!”
เมื่อเสียงของหวาอิงเจี๋ยดังขึ้น จินกางและคนอื่นๆต่างพากันดีใจและกล่าวว่า “ขอบคุณท่านหัวหน้าสมาคม!”
จินกางเองเป็นแดนราชาสูงสุด แต่ต่อหน้าหวาอิงเจี๋ย เขารู้สึกกดดันอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าแดนบูโดของหวาอิงเจี๋ย ได้บุกเข้าสู่แดนเทพแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้จินกางตกใจคือ ไม่เพียงแต่หวาอิงเจี๋ยเท่านั้นที่บุกเข้าไปสู่แดนเทพ แต่ยังรวมถึงชายชราสองคนในชุดบูโดที่อยู่ข้างหลังหวาอิงเจี๋ยรัศมีในร่างกายของพวกเขาก็น่ากลัวมากเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า แม้แต่ผู้ติดตามสองคนที่อยู่หลังหวาอิงเจี๋ย ก็ได้บุกเข้าไปในแดนเทพแล้ว
สมาคมบูโด มีสาขาย่อยอยู่ทั่วโลก และสาขาย่อยในจิ่วโจว เป็นหนึ่งในหลายกลุ่มย่อยของสมาคมบูโด ซึ่งอยู่ในอันดับที่สามของทั้งหมด
และภายในสมาคมบูโด พวกเขาจัดอันดับในแง่ของความแข็งแกร่ง ใครแข็งแกร่งกว่า ก็มีอำนาจในการควบคุมมากกว่า
จินกางเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในสาขาจิ่วโจว ในวันธรรมดา ผู้แข็งแกร่งในสาขาจิ่วโจว ยังคิดว่าจินกางแข็งแกร่งเป็นอันดับสามในสมาคมบูโด
อันที่จริงแล้ว มันไม่เป็นเช่นนั้น สาขาในจิ่วโจวอยู่ในอันดับที่ 3 โดยรวม แต่เป็นเพราะขนาดที่มากกว่าเท่านั้น จึงสามารถจัดอยู่ในอันดับต้นๆได้ ส่วนความแข็งแกร่งของผู้แข็งแกร่งระดับบนในสาขานั้น ไม่อาจเทียบได้กับผู้แข็งแกร่งอันดับที่ต่ำกว่าในสาขาจิ่วโจว
ตัวอย่างเช่น ในเวลานี้ ผู้ติดตามสองคนที่อยู่หลังหวาอิงเจี๋ยก็ก้าวเข้าสู่แดนเทพแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากผู้ติดตามแดนเทพสองคนนี้ ยังมีกึ่งแดนเทพอีกหลายคน รวมถึงผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุด
ในบรรดาคนเหล่านี้ จินกางเป็นคนธรรมดามาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีตำแหน่งของหัวหน้าสาขาในจิ่วโจว เขาทำได้เพียงยืนด้านหลังสุดเท่านั้น
“ไปกันเถอะ กลับไปที่สาขา!”
หวาอิงเจี๋ยออกคำสั่ง และพวกเขาก็นั่งรถหรูจากสาขาจิ่วโจวและมุ่งหน้าไปยังสาขา
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในคฤหาสน์อันหรูหรา ผู้แข็งแกร่งสมาคมบูโดก็ลงจากรถทีละคน
ในห้องจัดเลี้ยงสุดหรู จินกางต้อนรับและรินชาให้กับหวาอิงเจี๋ยและคนอื่นๆเป็นการส่วนตัว
“หัวหน้าสาขาจินในจิ่วโจว ไม่ว่ายังไง ทั้งในสมาคมบูโด เขาก็เป็นหัวหน้าสาขาอันดับสามในสมาคมบูโด แต่ดูจากสิ่งหรูหราเหล่านี้ ไม่เหมือนแค่ที่สามเลยนะ!”
ในเวลานี้ ชายผู้แข็งแกร่งในแดนเทพกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาเป็นหัวหน้าสาขาอันดับสองในบรรดาหัวหน้าสาขาย่อยของสมาคมบูโด บูโดของเขาในตอนนี้ได้เข้าสู่แดนเทพแล้ว
สีหน้าของจินกางเคร่งขรึมเล็กน้อย แน่นอนว่าเขารู้ว่า ความหมายของหัวหน้าสาขารอง เป็นการบอกเป็นนัยว่าไม่มีใครในสาขาจิ่วโจวที่เก่งกาจ
“ถ้าผมจำไม่ผิด หัวหน้าหงปีนี้อายุ 53 ปีแล้วใช่ไหม?”
จินกางพูดอย่างใจเย็น “เท่าที่ผมรู้ หัวหน้าหงเพิ่งบุกเข้าไปในแดนเทพชั้นต้นต้นปีนี้ใช่ไหม และหัวหน้าสมาคมได้ให้ยาวิเศษแก่คุณ เพื่อช่วยให้คุณฝ่าแดน”
เมื่อได้ยินคำพูดของจินกาง สีหน้าของหัวหน้าหงก็แดง ขมวดคิ้วและพูดว่า “หัวหน้าจิน คุณประชดผมนะเหรอ!”
“จินกางไม่กล้า!”