The king of War - บทที่ 1209 เผด็จการปราบปราม
ไม่มีใครคาดคิดว่าหวาอิงเจี๋ยจะลงมือกับหม่าชาว
แม้ว่าหม่าชาวจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพได้เทียบได้แดนเทพชั้นยอด แต่เขาก็ยังจำเป็นต้องปลดล็อคพลังต่อสู้ และกินยาเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง จึงจะสามารถมีความสามารถระดับแดนเทพชั้นยอด
เขาเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อน ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงแดนเทพชั้นยอด แม้แต่ความสามารถระดับแดนเทพชั้นต้น ก็อาจจะปลดปล่อยออกมาไม่ได้
หวาอิงเจี๋ยเป็นยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นยอด จากการโจมตีนี้ หม่าชาวได้กระอักเลือดออกมาทันทีและกระเด็นถอยหลังออกไป เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว และตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสยิ่งกว่าเดิม
“คุณกำลังรนหาที่ตาย!”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็โกรธจัด เขาสาวเท้าและปรากฏกายขึ้นตรงหน้าหวาอิงเจี๋ยในชั่วพริบตา ก่อนจะปล่อยหมัดออกไป
“ฮึ่ม!”
หวาอิงเจี๋ยพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและสะบัดมืออย่างแรง ลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่น่าสะพรึงกลัวได้รวมตัวกันที่ฝ่ามือของเขา และยกกำลังออกรับมือทันที
“ปัง!”
เสียงดังสนั่น คนสองคนเข้าปะทะกัน
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้น หวาอิงเจี๋ยก็ถอยหลังออกไป 7-8 ก้าว และ หยางเฉินก็ถอยหลังออกไป 3-4 ก้าวเช่นกัน
“นี่…”
ยอดฝีมือของแต่ละตระกูลรอบๆ ต่างตกตะลึง
พวกเขาคิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะทำให้หวาอิงเจี๋ยถอยหลังออกไปได้ถึง 7-8 ก้าว
แม้ว่าหยางเฉินจะมีความสามารถในการต่อสู้กับยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์มาก่อน แต่นั่นก็ไม่ใช่ความสามารถของเขาเอง!
นอกจากนี้ หยางเฉินยังได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อต่อสู้กับหวงจิ้น
แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขายังสามารถโจมตีจนหวาอิงเจี๋ยต้องถอยออกไป 7-8 ก้าว สิ่งนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าตกใจ
สีหน้าของหวาอิงเจี๋ยแย่ลงอย่างที่สุด เขาจ้องเขม็งไปที่หยางเฉิน แค่การโจมตีเพียงกระบวนท่าเดียว ก็ตัดสินดีชั่วได้แล้วหรือ?
“พี่เฉิน!”
แม้ว่าหม่าชาวจะถูกกระแทกอย่างแรงอีกครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่า ตอนนี้หยางเฉินใช้กำลังมากเกินไปแล้ว บางทีอาจจะใกล้หมดกำลังแล้วก็ได้
จากการที่หยางเฉินไม่ได้ฆ่าหวาอิงเจี๋ยภายในไม่กี่วินาทีก็สามารถทำนายได้ว่า เขากลัวว่าอาการของหยางเฉินจะแย่ลงไปอีก ดังนั้นจึงรีบเอ่ยปากห้ามไว้
“พี่เฉิน วันนี้ช่างมันเถอะ ต้องมีวันหนึ่งที่ผมจะปลิดชีวิตสุนัขเฒ่าตัวนี้ด้วยมือผมเอง!”
หม่าชาวเลียเลือดจากมุมปากและจ้องไปที่หวาอิงเจี๋ยอย่างโหดเหี้ยม
“คุณกำลังรนหาที่ตาย!”
หัวหน้าสาขาหงที่อยู่ถัดจากหวาอิงเจี๋ยพูดอย่างโกรธเคือง “คุณกล้าดูถูกหัวหน้าของพวกเรา ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรจริงๆ!”
หม่าชาวไม่ได้มองที่หัวหน้าสาขาหงเลย ยังคงจ้องไปที่หวาอิงเจี๋ยด้วยสายตาอาฆาตตลอดเวลา
หวาอิงเจี๋ญขมวดคิ้ว จากสายตาของหม่าชาว ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นความอาฆาตที่มีต่อเขา
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ไว้ชีวิตคุณไม่ได้เหมือนกัน!”
หวาอิงเจี๋ยพูดพลางหรี่ตามอง
ทันใดนั้น ลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่ทวีความแข็งแกร่งมากขึ้นก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
“หัวหน้าหวา คุณไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอ?”
ทันใดนั้นต้วนหวูหยาก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณหยางได้ต่อสู้กับยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์และได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้คุณจะฉวยโอกาสโจมตีเขาในขณะที่เขากำลังอ่อนแอที่สุดงั้นหรือ?”
ซ่างกวนโหรวก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล เธอจ้องไปที่หวาอิงเจี๋ยอย่างเย็นชาพลางกล่าวว่า “หัวหน้าหวา การแข่งขันชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตูในวันนี้ไม่มีความหมายที่จะดำเนินการต่อไปอีกแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันไปดีกว่า วันหลังค่อยจัดการแข่งขันขึ้นใหม่อีกครั้ง”
“วันนี้เป็นการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู แต่สถานที่นั้นถูกทำลาย ใครมีกฎว่าการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตูจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้หากไม่มีสถานที่เหรอ?”
เย่ชงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่าในเวลาไหน เขาก็มักจะมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เช่นนี้
หลงเคอก็พูดขึ้นว่า “ใช่แล้ว! วันนี้พวกเราทุกคนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การแข่งขันจะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะได้คิงแห่งเยี่ยนตู!”
หวาอิงเจี๋ยชำเลืองมองต้วนหวูหยาและซ่างกวนโหรวอย่างเย็นชา พลางหรี่ตากล่าวว่า “ราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ซ่างกวน คิดจะเป็นศัตรูของสมาคมบูโดงั้นหรือ?”
“หวาอิงเจี๋ย คุณไม่ประเมินตัวตนของคุณสูงเกินไปหน่อยหรือ?”
ต้วนหวูหยายิ้มเยาะ “สมาคมบูโดนั้นแข็งแกร่งมาก แต่อย่าลืมว่านี่คือเมืองจิ่วโจว ด้วยความสามารถของคนนอกพื้นที่ ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะออกคำสั่งให้กับกองกำลังในเมืองจิ่วโจว!”
“คิดจริงๆ เหรอว่าราชวงศ์ต้วนของเราจะกลัวสมาคมบูโดของคุณ? ถึงแม้ว่าเราจะเป็นศัตรูของคุณ แล้วยังไงล่ะ?”
ซ่างกวนโหรวพูดด้วยสีหน้าไม่เกรงกลัว “คิดว่าราชวงศ์ซ่างกวนของเราเป็นพวกหัวอ่อนจริงเหรอ? ถ้าจะต่อสู้จริงๆ พวกเราต้องกลัวพวกคุณทำไม?”
“ดี ดีมาก!”
หวาอิงเจี๋ยโกรธมาก กัดฟันพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจพวกคุณก็แล้วกัน!”
“หลังจากที่ผมควบคุมตี้ชุนได้แล้ว ก็จะโจมตีราชวงศ์ต้วนของพวกคุณและราชวงศ์ซ่างกวนก่อน!”
หวาอิงเจี๋ยมิได้ปิดบังเจตนาที่จ้องอยากจะได้ตี้ชุนตาเป็นมัน พลางทำหน้าข่มขู่
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของยอดฝีมือของราชวงศ์ทั้งสี่ก็แย่ลงเล็กน้อย
โดยเฉพาะหลงเคอและเย่ชง พวกเขาวางแผนที่จะทำให้ราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ซ่างกวนอ่อนแอลงจากความช่วยเหลือของสมาคมบูโด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหวาอิงเจี๋ยอาจจะไม่ร่วมมือกับพวกเขา
หวาอิงเจี๋ยแข็งกร้าวและเย่อหยิ่งเกินไป ราวกับว่าจะได้ตี้ชุนมาอย่างง่ายดาย
“หัวหน้าหวา คุณไม่ต้องกังวล แม้ว่าราชวงศ์ซ่างกวนและราชวงศ์ต้วนอยากจะเป็นศัตรูกับสมาคมบูโด แต่ราชวงศ์หลงของเราจะไม่มีวันเป็นศัตรูกับพวกคุณแน่นอน”
หลงเคอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่าอย่างไร หวาอิงเจี๋ยก็เคยได้รับความช่วยเหลือจากหลงหวงมาก่อน หากหวาอิงเจี๋ยสามารถทำให้ราชวงศ์ซ่างกวนและราชวงศ์ต้วนอ่อนแอลงได้จริงๆ ราชวงศ์หลงจะไม่รังเกียจที่จะร่วมมือกับสมาคมบูโดชั่วคราว
เย่ชงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ราชวงศ์เย่ของเราก็จะไม่เป็นศัตรูของสมาคมบูโดแน่นอน!”
แต่หวาอิงเจี๋ยกลับไม่ได้มองทั้งสองคนเลย แค่มองไปทางต้วนหวูหยาและซ่างกวนโหรวอย่างเย็นชา “จะให้โอกาสพวกคุณเป็นครั้งสุดท้าย ออกไปจากเมืองเยี่ยนตู ผมจะให้โอกาสพวกคุณสองราชวงศ์อีกครั้ง!”
สีหน้าของยอดฝีมือของราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ซ่างกวนมืดมนลงอย่างถึงขีดสุด หวาอิงเจี๋ยเย่อหยิ่งเกินกว่าจะเห็นพวกเขาอยู่ในสายตา
“หวาอิงเจี๋ย คุณกำลังรนหาที่ตาย!”
ต้วนหวูหยาคำรามเสียงทุ้มต่ำ ลมปราณแห่งวิถีบู๊ของแดนเทพขั้นปลายได้ปะทุขึ้นทันที
ยอดฝีมือแดนเทพของราชวงศ์ต้วนหลายคนข้างหลังเขา ก็พากันระเบิดวรยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา
ยอดฝีมือของราชวงศ์ซ่างกวนก็ระเบิดศักยภาพอันแข็งแกร่งที่สุดออกมา พร้อมต่อสู้กับยอดฝีมือของสมาคมบูโดได้ทุกเวลา
หยางเฉินมองทุกอย่างด้วยสายตาเย็นชา ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่พยายามฟื้นฟูความแข็งแกร่งให้ตัวเองโดยเร็วที่สุด
การประมือกับยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ แม้ว่าจะขัดเกลาวรยุทธของเขา แต่ก็ใช้พลังงานมากและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บมากมาย
ตอนนี้ หากสมาคมบูโดร่วมมือกับราชวงศ์เย่และราชวงศ์หลงขึ้นมา เขาอาจจะไม่สามารถฆ่าหวาอิงเจี๋ยได้อย่างง่ายดาย
เขาต้องหาทางฟื้นฟูความสามารถในขณะที่ราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ซ่างกวนกำลังพัวพันกับพวกเขา
“ต้วนหวูหยา ซ่างกวนโหรว พวกคุณคิดจะเปิดศึกในตอนนี้งั้นหรือ?”
หลงเคอก็ก้าวออกมาข้างหน้าเช่นกัน ยอดฝีมือของราชวงศ์หลงที่อยู่ข้างหลัง ต่างจ้องมองยอดฝีมือของราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ซ่างกวนตาเป็นมัน
ยอดฝีมือของราชวงศ์เย่ก็เช่นกัน แต่ละคนระเบิดลมปราณแห่งวิถีบู๊ออกมา พยายามข่มราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ซ่างกวน
ชั่วขณะหนึ่ง ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยอานุภาพวิถีบู๊ระดับแดนเทพ ทำให้สีหน้าของยอดฝีมือราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ของซ่างกวนย่ำแย่อย่างหาที่เปรียบมิได้
ตอนนี้พวกเขามีเพียงสองกองกำลัง แต่อีกฝ่ายมีสามกองกำลัง ประการแรกพวกเขาเสียเปรียบเรื่องจำนวนยอดฝีมือแดนเทพเป็นอย่างมากแล้ว