The king of War - บทที่ 121 เกมการพนันที่ผิดปกติ
ตอนที่ทุกคนคิดว่าพวกเขาจะเล่นกันที่โถงใหญ่ หลิวข่ายกลับพาหยางเฉินไปภายในห้องส่วนตัวแล้ว
ในห้องส่วนตัวที่กว้างใหญ่ นอกจากหยางเฉินและฉินซี ยังมีซูซานอีกคน ส่วนนอกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนของหลิวข่ายทั้งหมด
แม้กระทั่งเคาน์เตอร์ที่แลกชิปยังมีพร้อม ซึ่งหมายความว่าขอเพียงหยางเฉินมีเงิน สามารถเล่นต่อไปได้แบบไม่หยุด
“พ่อหนุ่ม ยังไม่เคยมีใครกล้ามายั่วยุฉันถึงถิ่นมาก่อน นายเป็นคนแรก!”
หลิวข่ายพิงพนักด้านหลังของเก้าอี้ ในปากคาบซิการ์คิวบาแท่งหนึ่งอยู่ มีลูกน้องรีบเข้ามาทันที จากนั้นช่วยจุดให้เขา
หยางเฉินขี้เกียจพูดไร้สาระกับเขา หยิบแบล็กการ์ดขอบทองใบหนึ่งออกมา ถือโอกาสยื่นไปให้ฉินซีที่อยู่ข้างกาย “ไปแลกชิปมาห้าล้าน!”
ถึงแม้ฉินซีจะรู้ว่าหยางเฉินมีเงิน แต่ต้องมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อตนเองแบบนี้ ในใจเธอไม่ได้รู้สึกดีเท่าไร สุดท้ายยังไปแลกชิปห้าล้านมาอย่างเชื่อฟัง
หลังจากได้ยินว่าหยางเฉินแลกมาห้าล้าน หลิวข่ายส่งเสียงหัวเราะเยาะ “แค่ห้าล้านเอง อยากให้ฉันเล่นจนยอมแพ้?
“ถ้าเกิดผมโชคดีล่ะ เอาชนะไปได้ตลอด เกิดเถ้าแก่หลิวทนต่อไปไม่ไหว ยอมแพ้ล่ะ?” หยางเฉินหัวเราะนิ่งๆ
“อยากจะมาบีบให้ฉันยอมแพ้ในเขตอิทธิพลของฉัน นายกำลังฝันหรือไง?”
หลิวข่ายหัวเราะแล้วพูดขึ้น ลูกน้องพวกนั้นของเขาก็ทำหน้าตาเยาะเย้ยเช่นกัน
ทันใดนั้นหลิวข่ายรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่มัวแต่มาเสียเวลากับหยางเฉินอยู่ที่นี่
ก่อนหน้านี้ได้ยินลูกน้องรายงานว่ามีสาวงามยอดเยี่ยมปรากฏตัวที่ชั้นบนสุด เขาดูผ่านวงจรปิด เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ทั้งหมดแล้ว
ยังคิดว่าหยางเฉินสามารถเอาเงินสิบล้านออกมาได้อย่างง่ายดาย ย่อมมีจุดพิเศษอะไรจริงๆ
“เริ่มเถอะ!”
หยางเฉินไม่อธิบาย รอฉินซีนำชิปเข้ามาแล้ว เขาจึงนำชิปจำนวนห้าล้านมาทิ้งลงกลางโต๊ะไปทั้งหมดเลย
มองเห็นฉากนี้เข้า สีหน้าหลิวข่ายเปลี่ยนไปเล็กน้อย เดิมทียังคิดว่าหยางเฉินจะเล่นจำนวนน้อย นึกไม่ถึงว่าห้าล้านเป็นเงินวางเดิมพันในครั้งเดียว ชั่วขณะหนึ่งในสายตาเขามีความเคร่งขรึมเพิ่มเข้ามา คนหนุ่มที่สามารถเอาเงินทุนหมุนเวียนออกมามากขนาดนี้ได้ ทั้งเมืองเจียงโจวยังคงมีไม่กี่คน
ถึงแม้หยางเฉินจะพูดว่าอยากเล่นจนอีกฝ่ายยอมแพ้ไป นั่นหมายความว่าจำนวนห้าล้านนี้ เป็นเพียงการเริ่มต้น
โดยเฉพาะนี่เป็นถิ่นฐานของหลิวข่าย เขาย่อมไม่สามารถแพ้ได้เป็นธรรมดา จึงวางชิปจำนวนห้าล้านลงมาเช่นกัน
เจ้ามือการพนันเริ่มต้นแจกไพ่ คนหนึ่งใบหนึ่ง หยางเฉินนำไพ่เลข‘4’ใบหนึ่งทิ้งลงไปบนโต๊ะแล้ว
หลิวข่ายยังไม่ได้เปิดไพ่ มองเห็น’4’ของหยางเฉิน เขาส่งเสียงหัวเราะดังขึ้น “โชคของนายเหมือนไม่ค่อยดีเท่าไรมั้ง! ฮ่าๆ……”
“คุณดูมั่นใจขนาดนี้? ถ้าเกิดที่คุณได้มาคือ‘3’ล่ะ?” หยางเฉินพูดหยอกเย้า
หลิวข่ายหัวเราะ “เกรงว่าจะทำให้นายผิดหวังแล้ว!”
เขาเพิ่งพูดจบไป พลิกไพ่ของตนเองกลับมา มั่นใจจนขั้นที่มองยังไม่มองสักแวบ ยื่นมืออยากไปเอาชิปมา
“พี่ข่าย!”
ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังเขารีบพูดเตือนสติขึ้นมาประโยคหนึ่ง หลิวข่ายถลึงตาใส่เขา “รีบๆ พูด!”
“ท่านแพ้แล้วครับ!”
ลูกน้องคนนั้นพูดจาแบบระมัดระวัง
“ฉันรู้…..เดี๋ยวก่อน แกว่าอะไรนะ?”
มือของหลิวข่ายเพิ่งวางบนชิป พอได้ยินคำพูดของลูกน้อง เขาตกใจไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นถึงมองที่ไพ่ของตนเองไป ตอนที่มองเห็นว่าเป็นเลข‘3’จริงๆ ด้วย ชั่วขณะนั้นหน้าตาอึ้งทึ่ง
“เถ้าแก่หลิว มั่นใจมันก็ดี แต่มั่นใจเกินเหตุจะเป็นเรื่องตลกเอานะ” หยางเฉินพูดจาหยอกล้อ
สีหน้าของหลิวข่ายซีดเซียวอย่างมาก มองเจ้ามือการพนันที่แจกไพ่แบบไม่ให้ใครจับได้
“คนเก่งจริงไม่ชนะในสามครั้งแรก นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเอง ตอนนี้แพ้ หมายความว่าโชคดีกำลังรออยู่ช่วงหลัง” หลิวข่ายยิ้มกริ่มพูดขึ้น
หยางเฉินหัวเราะนิ่งๆ และไม่ได้เก็บชิปจำนวนสิบล้านนั้นมา แต่พูดว่า “รอบนี้ ผมลงสิบล้าน! แจกไพ่เถอะ!”
หลิวข่ายหรี่ดวงตามองหยางเฉิน ลงสิบล้านไปตาม
เจ้ามือการพนันแจกไพ่
หยางเฉินถือโอกาสเปิดไพ่ออกมา เลข‘5’ และเป็นไพ่เล็กใบหนึ่ง
หลิวข่ายส่งเสียงหัวเราะเยาะ “รอบนี้ นายคงแพ้แล้วมั้ง?”
เขาพูดจบ พลิกเปิดไพ่ออก ตอนที่เขามองเห็นไพ่ ท่าทางตกตะลึง แพ้อีกแล้ว
เห็นเพียงไพ่โพธิ์แดงเลข‘4’ใบหนึ่งปรากฏออกมา หยางเฉินหัวเราะแล้ว “ดูแล้ววันนี้ดวงของผมดีมาก”
ท่าทางบนหน้าของหลิวข่ายดูบิดเบี้ยวขึ้นมาอยู่บ้าง แพ้แล้วไม่เป็นไร แต่อยู่ในเขตอิทธิพลของตนเอง เจ้ามือการพนันของตนเอง ล้วนเป็นตนเองที่แพ้สองรอบติดต่อกัน
ที่สำคัญคือไพ่ของฝ่ายตรงข้ามจำนวนน้อยมากแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าไพ่ของตนเองยังน้อยกว่าอีก
“ยี่สิบล้าน ผมลงทั้งหมดเลย!”
หยางเฉินหัวเราะเบาๆ “ต่อ!”
แต่ละรอบล้วนเป็นหยางเฉินที่ชนะ แม้แต่โอกาสวางเงินเดิมพันก่อนหลิวข่ายยังทำไม่ได้ ถูกหยางเฉินจูงจมูกเดินไปทั้งหมด
หยางเฉินลงเงินไปเท่าไร เขาได้แต่ลงตามไปเท่านั้น
รอบที่สามเริ่มต้นขึ้น ตอนที่หยางเฉินเปิดไพ่เลข‘6’ออกมา เจ้ามือการพนันสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ในชั่วขณะนั้น เพราะเมื่อสักครู่ตอนที่สับไพ่ ทั้งที่ใช้เล่ห์กลแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเลข‘6’
ตอนนี้หล่อนได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ตัวของหลิวข่าย หวังว่าหลิวข่ายจะสามารถชนะรอบนี้ได้
หลิวข่ายประหม่าพอสมควร และไม่ใช่กลัวแพ้ แต่เกมการพนันนี้ช่างแปลกเกินไป สามรอบติดต่อกันนั้น ไพ่ที่หยางเฉินได้รับมาแบ่งเป็น ‘4, 5, 6’ ส่วนตนเองสองรอบแรกได้ ‘3, 4’ เขากลัวว่ารอบนี้จะเป็นเลข ‘5’
ไม่เพียงแค่หลิวข่ายที่คิดแบบนี้ คนอื่นก็มีความคิดเช่นเดียวกันหมด มองหลิวข่ายที่ค่อยๆ พลิกไพ่กลับมาด้วยหน้าตารอคอย
“5!”
หลังจากมองเห็นของหลิวข่าย ทุกคนล้วนทำหน้าตกใจ ท่าทางบนหน้าของหลิวข่ายก็แข็งค้างเช่นกัน
“เหยดแม่ง ถ้าเอาไพ่ห่วยแตกแบบนี้มาแจกให้ฉันอีก ฉันเอาเธอตายแน่!”
หลิวข่ายด่าใส่หน้าเจ้ามือการพนันขึ้นมาโครมๆ เจ้ามือการพนันตกใจอกสั่นขวัญแขวน ใกล้จะร้องไห้แล้ว
หยางเฉินหัวเราะ “เถ้าแก่หลิว นี่คุณแพ้ไม่เป็นงั้นเหรอ? เมื่อกี้ไม่ใช่คุณพูดว่าคนเก่งจริงไม่ชนะในสามครั้งแรกเหรอ? นี่เพิ่งจะครั้งที่สามเอง คุณก็แพ้จนพาลแล้ว?”
“ไอ้หนุ่ม ดีที่สุดนายหุบปากไปเลย! ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สนใจทำให้นายเจ็บตัวสักหน่อยนะ” หลิวข่ายกัดฟันพูด
“เถ้าแก่หลิว ถ้าแพ้ไม่เป็น สามารถยอมแพ้ได้นะ ทำไมต้องข่มขู่ด้วยล่ะ?”
หยางเฉินไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย หัวเราะนิ่งๆ “บางทีผมก็ไม่ต้องการให้เถ้าแก่หลิวยอมแพ้ เงินที่ชนะมาเมื่อกี้ ผมจะไม่รับสักแดง คุณแค่ให้พวกเราออกไป เป็นยังไง?”
“แค่เงินสามสิบเก้าล้านเท่านั้น ฉันแพ้ได้!” หลิวข่ายพูดอย่างโมโห
หยางเฉินหัวเราะแล้ว “นี่เพิ่งสามตา เถ้าแก่หลิวก็เสียมาสามสิบเก้าล้านแล้ว ถ้ายังแพ้อีกต่อไป เถ้าแก่หลิวน่าจะรับไม่ไหวเอามั้ง?”
“แกแม่งหุบปากไปเลยนะ!”
ครั้งนี้หลิวข่ายระเบิดอารมณ์โกรธจนถึงที่สุด เสียงดัง‘ป้าบ’ ปืนColt Pistolกระบอกหนึ่งกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง
พอมองเห็นปืน ฉินซีและซูซานต่างทำหน้าตกใจและหวาดกลัว
หยางเฉินหน้าตาไร้ความรู้สึก พูดจาอย่างเย็นชา “ในเมื่อเถ้าแก่หลิวอยากเล่นต่อ งั้นผมจะเล่นเป็นเพื่อน รอบที่สี่ ผมลงสี่สิบล้าน!”
ชิปที่อยู่ตรงหน้าของหลิวข่ายไม่มีแล้ว เขาตะโกนออกไปด้วยความโมโห “แม่งตาบอดกันหมดหรือไง? รีบเอาชิปเข้ามาสิ!”
ลูกน้องรีบนำชิปกองใหญ่เข้ามาให้ทันที
เจ้ามือการพนันตกใจค้างไปแล้ว แม้แต่สามครั้งติดกัน หล่อนใช้เล่ห์กลทั้งหมด ทว่าแต่ละครั้งที่แจกไพ่ไป ล้วนแปลกพิลึกขนาดนี้ หล่อนไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
เจ้ามือการพนันแจกไพ่ไปอีกครั้งหนึ่ง ยังเหมือนกับรอบก่อนหน้านี้ หยางเฉินได้รับไพ่ไปก็พลิกกลับมา
หลังจากที่ทุกคนมองเห็นว่าเขาได้เลข‘7’ไป ต่างหน้าตาอึ้งทึ่งกันหมด
การแสดงออกบนใบหน้าของหลิวข่ายบิดเบี้ยวถึงที่สุด ดวงตาเย็นยะเยือกตกลงบนตัวของเจ้ามือการพนันในชั่วพริบตาเดียว “ถ้าที่ฉันได้มาคือ‘6’ ถ้าเธออธิบายไม่กระจ่าง ผลลัพธ์จะร้ายแรงแค่ไหน เธอน่าจะเข้าใจนะ?”
พูดจบ หลิวข่ายพลิกไพ่ของตนเองกลับเข้ามาแล้ว