The king of War - บทที่ 1224 มาเป็นครั้งแรก
คำพูดของต้วนหวูหยาทำให้หม่าชาวสงบลง
เขามองไปที่ต้วนหวูหยาพักใหญ่ ถึงได้พูดไปว่า “ผมเชื่อใจคุณ แต่ผมไม่เชื่อใจราชวงศ์!”
ต้วนหวูหยาเงียบไปทันที
เขานั้นรู้ดีว่า ความสัมพันธ์พี่น้องของหม่าชาวกับหยางเฉินนั้นลึกซึ้งแค่ไหน ตอนนี้หยางเฉินไม่ได้สติ จะฟื้นขึ้นมาได้อีกรึเปล่าก็ยังไม่รู้
ถ้าเขาพาหยางเฉินไปที่ราชวงศ์ต้วน ใครจะรับประกันว่าหมอวิเศษของราชวงศ์ต้วนจะยอมช่วยรึเปล่า?
ต่อให้เขายอม แล้วต้วนหวงล่ะจะยอมมั้ย?
หยางเฉินจะเป็นอันตรายรึเปล่า สำหรับหม่าชาวแล้ว สิ่งเหล่านี้ต่างก็เป็นอะไรที่ไม่สามารถมั่นใจได้
“ฉันสามารถรับประกันกับเธอได้ ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้คุณหยางได้รับอันตรายใดๆ เด็ดขาด!”
ต้วนหวูหยาทำหน้าจริงจัง และพูดต่อว่า “พูดตามตรง ฉันในวันนี้ เป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในราชวงศ์ต้วน แถมยังเป็นผู้สืบทอดของราชวงศ์ต้วนด้วย”
“บอกได้เลยว่า ในราชวงศ์ต้วน นอกจากพ่อของฉัน ก็ฉันนี่แหละที่มีอำนาจที่สุด ในเมื่อเธอเชื่อใจฉันได้ ก็ต้องเชื่อใจฉันว่าจะสามารถปกป้องคุณหยางได้”
หม่าชาวสามารถรับรู้ได้ว่าต้วนหวูหยานั้นต้องการที่จะช่วยหยางเฉินจริงๆ แต่เขาก็รู้สถานการณ์ตอนนี้ดี ความแข็งแกร่งที่หยางเฉินแสดงออกมาก่อนหน้านี้ ต้องรู้ไปถึงหูของราชวงศ์ทั้งสี่แน่
หยางเฉินอายุแค่นี้ ก็มีความแข็งแกร่งระดับแดนเหนือธรรมชาติ สำหรับเหล่าตระกูลชั้นสูงแล้ว ถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยากเลย
อายุแค่นี้ ก็มีพรสวรรค์ในวิถีบู๊ได้ถึงขนาดนี้ เชื่อว่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพทุกคนจะต้องอยากค้นหาความลับที่ซ่อนในตัวหยางเฉินอย่างแน่นอน
ถึงต้วนหวูหยาจะน่าเชื่อถือ แต่ยังไงพวกเขาก็เพิ่งรู้จักกันไม่นาน รวมๆ แล้วก็แค่วันเดียว
ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าหลังจากที่ต้วนหวูหยาพาตัวหยางเฉินไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ต้องขออภัยด้วยครับ!”
หม่าชาวทำหน้าเกรงใจ
เขาไม่สามารถเอาชีวิตของหยางเฉินไปเสี่ยงได้ ต้วนหวูหยายังคงดึงดัน “เสี่ยวหม่า ฉันเข้าใจว่าเธอกังวลอะไร แต่เธอเองก็น่าจะเข้าใจดี คุณหยางในตอนนี้ ค่อนข้างวิกฤต จะฟื้นขึ้นมาได้อีกรึเปล่า จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็ยังไม่อาจรู้ได้”
“ยิ่งเสียเวลา คุณหยางก็ยิ่งอันตราย น้องหมอวิเศษยังช่วยไม่ได้เลย แล้วเธอยังจะรอต่อไปอีกเหรอ?”
พอได้ฟังคำพูดของต้วนหวูหยา หม่าชาวก็เริ่มคล้อยตาม เขาจึงหันไปมองเฝิงเสียวหว่านย่างอัตโนมัติ
แล้วเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของเฝิงเสียวหว่าน ยังคงทำใจไม่ได้ และยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“พี่หม่า ฉันพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่รู้จริงๆ ว่าพี่หยางจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่”
เฝิงเสียวหว่านพูดกับหม่าชาวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ทันใดนั้น หม่าชาวก็รู้สึกกดดันมาก สำหรับเขา เฝิงเสียวหว่านเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถรักษาหยางเฉินได้
แต่ว่าตอนนี้ ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเขา เหมือนมันได้พังทลายลงไปแล้ว
ราชวงศ์ต้วนจะสามารถรักษาหยางเฉินให้หายได้รึเปล่า เขาเองก็ไม่รู้ เขารู้แค่ว่า ถ้าหยางเฉินไปราชวงศ์ต้วนแล้ว ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากอย่างแน่นอน
แต่ถ้าไม่ไปราชวงศ์ต้วน แล้วเสียเวลาต่อไป อาการของหยางเฉินก็มีแต่จะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ไม่ใช่รึไง?
ในใจของเขาสับสนวุ่นวาย ทั้งไม่อยากให้หยางเฉินไปราชวงศ์ต้วน ทั้งอยากให้หยางเฉินไปราชวงศ์ต้วน
ต้วนหวูหยาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาอยากให้หมอวิเศษของราชวงศ์ต้วนรักษาหยางเฉินให้หายจริงๆ ก่อนหน้านี้ในศึกชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู หยางเฉินให้เขารับมือกับผู้แข็งแกร่งแดนเทพหกคนตามลำพัง ความจริงก็เพื่อให้เขาได้ขัดเกลาวิถีบู๊
ตอนนี้ ถึงแม้ต้วนหวูหยาจะยังไม่ได้บรรลุถึงขั้นแดนเทพชั้นยอด แต่เขาก็รับรู้ได้ว่า เขานั้นอยู่ห่างจากแดนเทพชั้นยอดอีกแค่นิดเดียว
ถ้าไม่มีหยางเฉิน ก็ไม่มีเขาในตอนนี้ ไม่แน่เขาอาจจะตายจากการลอบสังหารของราชวงศ์หลงแล้วก็ได้
ในใจของเขา หยางเฉินมีพระคุณต่อเขา เขาจึงไม่อยากให้หยางเฉินตาย มันก็เท่านั้นเอง
“ได้ ผมจะยอมให้พี่เฉินไปกับคุณ”
ผ่านไปพักใหญ่ ในที่สุดหม่าชาวก็ยอมตกลง
ถ้าไม่ใช่ว่าไม่มีทางเลือก เขาจะเลือกแบบนี้ได้ยังไง?
ต้วนหวูหยาเองก็แปลกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าหม่าชาวจะยอมเอาด้วยจริงๆ แววตายังแสดงความตื้นตันออกมา แสดงว่าหม่าชาวเชื่อใจเขา ถึงได้ตัดสินใจเลือกแบบนี้
“เธอไม่ต้องห่วง ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ฉันก็ไม่มีทางปล่อยให้ใครมาทำร้ายคุณหยางได้เด็ดขาด!”
ต้วนหวูหยาพูดอย่างแน่วแน่ที่สุด
หม่าชาวพยักหน้า “ผมเชื่อ!”
“แล้วเธอจะไปราชวงศ์ต้วนกับฉันรึเปล่า?”
จู่ๆ ต้วนหวูหยาก็ถามขึ้น
หม่าชาวส่ายหน้าอย่าไม่ลังเล แล้วได้ยิ้มออกมา “พี่เฉินไม่อยู่ ผมต้องช่วยปกป้องครอบครัวของเขา ถ้าพี่เฉินเกิดเจอกับอันตรายอะไร…..” พูดถึงตรงนี้ หม่าชาวก็ชะงักไป หลังจากที่เงียบไปสองวิ แววตาของเขาก็เป็นประกาย แล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพี่เฉิน ผมจะไม่ได้แก้แค้น แต่ผมจะซ่อนตัว แล้วทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น”
คำพูดของเขา เยือกเย็นอย่างถึงที่สุด แม้แต่ต้วนหวูหยาก็ยังรู้สึกเสียวสันหลังเลย
ต้วนหวูหยานั้นรู้ดี หม่าชาวไม่ได้ข่มขู่เขา แค่พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาต่างหาก
หม่าชาวที่อยู่ในระดับแดนเทพขั้นต้น หลังจากที่ใช้ทุกวิถีทางแล้ว ก็สามารถแข็งแกร่งจนถึงขั้นสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดได้ ประเด็นคือเขาอายุยังน้อยมาก ด้วยพรสวรรค์ระดับนี้ ถ้าให้เวลากับเขา เขาจะต้องเหนือกว่าแดนเทพอย่างแน่นอน
“เธอไม่ต้องห่วง ฉันไม่มีทางให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!”
ต้วนหวูหยาพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
หม่าชาวพยักหน้า แสดงแววตาอ้อนวอน แล้วพูดอย่างจริงใจว่า “รบกวนด้วยครับ!”
“ได้!”
ต้วนหวูหยาพยักหน้า
“จะมัวชักช้าไม่ได้ คุณรีบพาพี่เฉินไปราชวงศ์ต้วนตอนนี้เลย!”
หม่าชาวพูดเร่ง
“ตกลง ฉันจะจัดการทุกอย่างตอนนี้เลย มั่นใจว่าถ้าไปถึงราชวงศ์ต้วนแล้ว คุณหยางจะได้รับการรักษาทันที!”
ต้วนหวูหยาหยิบมือถือออกมา แล้วสั่งการทุกอย่างด้วยตนเอง
พอเห็นต้วนหวูหยาใส่ใจขนาดนี้ หม่าชาวก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ไม่นาน ต้วนหวูหยาก็พาหยางเฉินไป แต่กลับสั่งให้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพสองคนของราชวงศ์ต้วนอยู่ที่เยี่ยนตูต่อ เพื่อปกป้องคนในครอบครัวของหยางเฉินอย่างลับๆ
หม่าชาวไม่ได้ปฏิเสธ ตอนนี้สถานการณ์ในเยี่ยนตูค่อนข้างเลวร้าย ใครก็รับประกันไม่ได้ว่า หลังหยางเฉินจากไป พวก “หนู” ที่ซ่อนอยู่ในเงามืดจะคิดเล่นงานครอบครัวของหยางเฉินรึเปล่า
ในเวลาเดียวกัน สนามบินนานาชาติเยี่ยนตู เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งค่อยๆ ลงจอด
และเหมือนจะผ่านไปไม่นาน ก็มีเครื่องบินส่วนตัวอีกสองลำลงจอดตามมา
“กษัตริย์ไป๋!”
“กษัตริย์หม่า!”
“กษัตริย์เซว!”
เครื่องบินส่วนตัวทุกลำ ได้มีผู้แข็งแกร่งในวิถีบู๊ลงมาหลายคน พอเห็นอีกฝ่าย ต่างพากันกล่าวทักทาย
คนสามกลุ่มนี้ ก็คือเหล่าผู้แข็งแกร่งที่สามกษัตริย์แห่งพันธมิตรตระกูลเดอะคิงพามาเยี่ยนตูด้วยตนเอง
“หลังผ่านไปหลายปี ในที่สุดกษัตริย์แห่งตระกูลเดอะคิงก็ได้มาเยือนเยี่ยนตูอีกครั้ง”
กษัตริย์ไป๋พูดด้วยสีหน้าที่ตื้นตัน
ร้อยปีก่อน หลังจากที่ตระกูลของพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับคนคนหนึ่ง แล้วลดขั้นพวกเขาให้กลายเป็นตระกูลเดอะคิงกษัตริย์แห่งตระกูลเดอะคิงก็ไม่เคยไม้มาที่เยี่ยนตูอีกเลย
พูดได้เลยว่า หลังผ่านไปร้อยปี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่กษัตริย์ของตระกูลเดอะคิงมาเยือนเยี่ยนตูเป็นครั้งแรก
“ถูกต้อง! ในที่สุดพวกเราก็มาแล้ว!”
กษัตริย์เซวพูดด้วยสีหน้าที่ตื้นตัน แววตายังดูตื่นเต้นมาก
พวกเขาในตอนนี้ ไม่รู้เลยว่า หลิวเหล่าก้วยที่เป็นความหวังเดียวของพวกเขา ไม่สามารถจัดการหยางเฉินให้พวกเขาได้เลย แถมยังเกือบถูกหยางเฉินฆ่าด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติที่มาจากเมืองเหมียว หลิวเหล่าก้วยก็คงจะตายอย่างไม่มีที่ฝังศพไปแล้ว