The king of War - บทที่ 1245 สู้หยางเฉินไม่ได้
ต้วนหวูหยาพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ถ้าท่านคิดอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ข้าเป็นคนพาคุณหยางกลับมาที่ราชวงศ์ต้วน ต้วนหวูเหยียนถูกฆ่า ถือว่าหาเรื่องใส่ตัวเอง”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหยางออกหน้า คนที่ตายก็คือลูกสาวของข้า คุณหยางเป็นผู้มีบุญคุณช่วยข้าไว้ และช่วยชีวิตลูกสาวของข้าไว้ ถ้าข้าไม่สนใจความอยู่รอดของเขา ก็ไม่แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉาน”
“เสด็จพ่อได้โปรดตรวจสอบความจริง!”
เมื่อได้ยินคำพูดของต้วนหวูหยา ความโกรธบนใบหน้าของกษัตริย์ต้วนก็หายไปในทันใด สงบนิ่งจนดูน่ากลัว
เป็นเวลานานกว่าเขาจะพูดขึ้นอีกครั้ง “พูดแบบนี้หมายความว่า ตราบใดที่ข้าไม่ปล่อยหยางเฉินไป เจ้าก็จะเป็นศัตรูกับข้า? หรือจนถึงขนาดยึดอำนาจใช่ไหม?”
ต้วนหวูหยาพยักหน้า “ข้ากำลังช่วยราชวงศ์ต้วนอยู่!”
“ช่วยราชวงศ์ต้วนงั้นเหรอ!”
กษัตริย์ต้วนเยาะเย้ย “เช่นนี้ ข้าก็ต้องทนเจ็บปวดและฆ่าเจ้าไปด้วยกัน!”
ทันทีที่เขาพูดจบ พลังวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งวังราชวงศ์ต้วน
“ระวัง!”
ต้วนหวูหยาตกใจหน้าถอดสี รีบพูดขึ้น
ในขณะเดียวกัน เขาก็สาวเท้าก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าต้วนหยู่เยียนภายในชั่วพริบตา
เพราะเงาร่างของกษัตริย์ต้วนได้หายไปจากจุดเดิม ส่วนยอดฝีมือแดนเทพชั้นยอดทั้งสองที่อยู่ข้างกายกษัตริย์ต้วนก็หายไปพร้อมกันด้วย
ตู๋โยวไม่รอช้า กระทืบเท้าอย่างแรง พุ่งตรงออกไปทันทีราวกับลูกศรที่ออกจากคันธนู
“ปัง!”
แผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทางหยางเฉิน
ทันใดนั้นเขาที่ยังยืนอยู่ที่เดิมก็เหวี่ยงฝ่ามือไปข้างหน้า ร่างของกษัตริย์ต้วนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา พร้อมกับเหวี่ยงฝ่ามือออกมาเช่นกัน ฝ่ามือทั้งสองเข้าปะทะกัน
ทันใดนั้นคลื่นพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวก็ม้วนกวาดไปทุกทิศทาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่จุดที่ทั้งสองปะทะกัน
“ปังๆๆ!”
พลังทำลายล้างเหมือนวันโลกาวินาศ ได้ทำลายเครื่องแก้วทั้งหมดภายในวังราชวงศ์ต้วนอันยิ่งใหญ่
ในขณะเดียวกัน โต๊ะประชุมขนาดใหญ่อันล้ำค่าก็พังทลายลงทันที แตกหักออกเป็น 4-5 ส่วน
พื้นหินอ่อนแตกหักเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางคลื่นพลังงานที่น่าสะพรึงกลัว
ในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ลมหายใจ พื้นหินอ่อนทั้งหมดก็แตกสลาย
ยอดฝีมือแดนเทพเหล่านั้นพากันกระเด็นไปข้างหลังเหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก
แม้แต่ยอดฝีมือแดนเทพเหล่านั้นก็ยังรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานมหาศาลที่กำลังอาละวาดอยู่ในวังราชวงศ์ต้วน
“ตึ้งๆๆ!!”
ต้วนหวูหยาซึ่งยืนขวางอยู่ตรงหน้าต้วนหยู่เยียน ได้ก้าวถอยหลังออกไปหลายก้าวติดต่อกันจากพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้
โชคดีก็คือ ขณะที่หยางเฉินและกษัตริย์ต้วนเข้าปะทะกัน เขาได้เข้ามายืนขวางอยู่ตรงหน้าต้วนหยู่เยียนแล้ว และปกป้องต้วนหยู่เยียนจากพลังกดดันของวิถีบู๊ เพื่อไม่ให้ต้วนหยู่เยียนได้รับบาดเจ็บ
แม้แต่ยอดฝีมือกึ่งแดนเทพเหล่านั้นก็ยังกระเด็นออกไปด้วยแรงสั่นสะเทือนทั้งหมด ถ้าต้วนหยู่เยียนต้องรับแรงกดดันจากวิถีบู๊ เธออาจจะตายได้ในทันที
“ท่านพ่อ!”
สีหน้าของต้วนหยู่เยียนเต็มไปด้วยความกังวล
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของต้วนหวูหยา เขามองไปที่กษัตริย์ต้วน จากนั้นกัดฟันพูดว่า “ถอย!”
ทันทีที่พูดจบ เขาก็จับมือของต้วนหยู่เยียน รีบออกจากวังราชวงศ์ต้วน ตู๋โยวรีบตามไป
ต้วนหวูหยาเคยเห็นภาพการต่อสู้ระหว่างหยางเฉินกับยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์จากเมืองเหมียวด้วยตาตัวเอง ในตอนนั้นทุกคนอยู่ห่างจากศูนย์กลางของการต่อสู้เป็นพันเมตร
การปะทะกันระหว่างหยางเฉินและกษัตริย์ต้วนเมื่อครู่เป็นเพียงการเริ่มต้น ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ระเบิดออกมา แค่นี้ก็รู้ว่าหากมันระเบิดออกมาจนหมดสิ้น มันจะเกิดเรื่องราวที่น่ากลัวเพียงใด
ต้วนหวูหยาเป็นยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นยอด แม้แต่เขาก็ยังไม่อาจทานทนต่ออานุภาพของการปะทะวิถีบู๊กัน ซึ่งก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่า ทั้งสองคนได้ข้ามผ่านระดับแดนเทพชั้นยอดไปแล้ว
มันไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อไป
ไม่กี่วินาทีต่อมา ภายในวังราชวงศ์ต้วนที่เคยมีกำแพงไฟวิจิตรงดงาม กลายเป็นซากปรักหักพังมากมาย
นอกจากหยางเฉินและกษัตริย์ต้วนที่กำลังปะทะกัน ก็มีเพียงสองยอดฝีมือแดนเทพชั้นยอดเท่านั้น
ยอดฝีมือแดนเทพชั้นยอดสองคนยืนอยู่ขนาบซ้ายขวาข้างกายหยางเฉิน สีหน้ามีแต่ความเคร่งขรึม
“พวกเจ้าก็ออกไปจากที่นี่ด้วย!”
ในที่สุดกษัตริย์ต้วนก็เอ่ยปากทำลายความเงียบลง
“ครับท่าน!”
ทั้งสองเข้าใจดีว่า การต่อสู้ในระดับนี้ พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมได้เลย ถ้ากษัตริย์ไม่ได้ออกปาก พวกเขาก็ไม่กล้าออกไป
ยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นยอดทั้งสองได้ออกไปแล้ว เพียงชั่วครู่ภายในวังราชวงศ์ต้วนก็เหลือเพียงหยางเฉินและกษัตริย์ต้วนอยู่
“คุณควรจะรู้ดีว่าตอนนี้คุณยังไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อกับผม!”
หยางเฉินพูดอย่างใจเย็น
เมื่อครู่กษัตริย์ต้วนเป็นคนเริ่มโจมตีก่อน เขาเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งสองไม่ได้ล่าถอยเมื่อเข้าปะทะกัน แต่เหนือกว่าหรือด้อยกว่าก็เห็นได้ชัดเจน!
กษัตริย์ต้วนสู้หยางเฉินไม่ได้!
กษัตริย์ต้วนย่อมรู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ นอกจากตกใจเขาก็พูดอย่างจริงจังว่า “ท่านน่าจะรู้ดีว่า ต่อให้ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน แต่ท่านก็ฆ่าข้าไม่ได้หรอก!”
“งั้นเหรอ?”
หยางเฉินยิ้มเยาะ
ทันใดนั้นพลังอันยิ่งใหญ่ได้แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา
รูม่านตาของกษัตริย์ต้วนหดลง สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!”
หยางเฉินกล่าวด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ระดับวิถีบู๊อย่างคุณกับผมน่าจะรู้ดีว่า โลกใบนี้กว้างใหญ่กว่าที่เราคิด เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน กษัตริย์ต้วนก็น่าจะรู้ดีนะ?”
“เหตุผลที่ผมอดทนคุณมาจนถึงตอนนี้ ไม่ใช่เพราะเกรงกลัวราชวงศ์ต้วน แต่เป็นเพราะไม่อยากทำให้ต้วนหวูหยาเดือดร้อน”
“คุณเป็นพ่อของเขา ผมเป็นเพื่อนของเขา ระหว่างเราไม่ควรมาทะเลาะกัน”
จากนั้นหยางเฉินก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาและถามว่า “ต้วนหวูเหยียนเป็นคนอย่างไร?”
พอพูดเช่นนี้ออกมา ดวงตาของกษัตริย์ต้วนก็เบิกกว้าง เมื่อเขาตระหนักว่าตัวเองยั้งสติไม่อยู่ ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว
“เป็นเช่นนี้จริงๆ!”
เมื่อรู้สึกถึงคลื่นอารมณ์ของกษัตริย์ต้วน หยางเฉินก็ดูเหมือนจะเข้าใจ
หยางเฉินไม่เคยเข้าใจว่า ต้วนหวูหยากับต้วนหวูเหยียนล้วนเป็นโอรสของกษัตริย์ต้วนเหมือนกัน เหตุใดกษัตริย์ต้วนถึงเข้าข้างต้วนหวูเหยียนขนาดนี้?
แม้ว่าคนจะตายไปแล้ว แต่เขาก็ยังยืนกรานที่จะให้ต้วนหวูหยาชดใช้ จนถึงขนาดต้องการฆ่าต้วนหวูหยาด้วยซ้ำ
มันไม่สมเหตุสมผลเลย ถึงอย่างไรต้วนหวูหยาก็ได้ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นยอดแล้ว ยังหนุ่มยังแน่นเช่นนี้ อยู่ในระดับเช่นนี้ ในบรรดาราชวงศ์ทั้งสี่ มีเพียงต้วนหวูหยาคนเดียวเท่านั้น
อาจกล่าวได้ว่า ต้วนหวูหยาต่างหากที่รัชทายาทที่เหมาะสมที่สุดสำหรับราชวงศ์ต้วน
แต่เพราะหยางเฉินต้องการช่วยต้วนหยู่เยียน จึงได้ฆ่าต้วนหวูเหยียน กษัตริย์ต้วนก็ต้องการฆ่าต้วนหวูหยาไปพร้อมกัน
ทุกอย่างมันแปลกมาก!
“ที่นี่มีแค่เราสองคน ถึงจะพูดความจริงก็ไม่มีใครรู้”
หยางเฉินพูดอย่างเฉยชา “ผมคิดว่า คุณคงไม่อยากทำให้ราชวงศ์ต้วนต้องแตกแยกใช่ไหม?”
กษัตริย์ต้วนจับจ้องมาที่หยางเฉินอย่างไม่ละสายตาอยู่นาน พลังต่อสู้ในตัวเขาจางหายไปในทันใด ก่อนจะยิ้มเยาะให้ตัวเอง
“ท่านเดาถูก เหตุผลที่ข้ายืนกรานจะฆ่าต้วนหวูหยา ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ แต่เป็นเพราะต้วนหวูเหยียน เพราะสถานะอื่นของเขา”
ทันใดนั้นกษัตริย์ต้วนก็ดูแก่ลงไปสิบกว่าปี สีหน้าหงอยเหงา
“สถานะอื่น?”
หยางเฉินพยักหน้าและถามว่า “เป็นเพราะแม่ของเขาหรือเปล่า?”
อาจเป็นเพราะยีนของกษัตริย์ต้วนนั้นแข็งแกร่งมาก ต้วนหวูหยาก็ดี ต้วนหวูเหยียนก็ดี ต่างมีหน้าตาคล้ายกับกษัตริย์ต้วนมาก
แทบจะไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้วนหวูเหยียนเป็นลูกชายแท้ๆ ของกษัตริย์ต้วน
ในเมื่อกษัตริย์ต้วนบอกว่าต้วนหวูเหยียนมีสถานะอื่น นอกจากพระโอรสของกษัตริย์ต้วนแล้ว ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับแม่ของต้วนหวูเหยียนด้วย
กษัตริย์ต้วนพยักหน้า มีร่องรอยความหวาดกลัวอยู่ลึกเข้าไปในดวงตาของเขา “ท่านรู้จักราชวงศ์อู่หรือไม่?”
“ราชวงศ์อู่?”