The king of War - บทที่ 1249 โดนคนฆ่าแล้ว
พูดแบบนี้ออกมา ชั่วขณะนั้นสีหน้าต้วนหวูหยาก็เปลี่ยนไป “เสด็จพ่อ ท่านอยากไล่ผมออกไป?”
กษัตริย์ต้วนส่ายหน้าแล้ว ตาแดงก่ำบอกว่า “ไม่ใช่ฉันอยากไล่แกออกไป แต่ว่าแกไม่ไปไม่ได้ อู่หยู่หลานบ้าคลั่งมากแค่ไหน ฉันรู้ดียิ่งกว่าใครคนใด”
“ตั้งแต่ตอนนั้นที่หล่อนถูกรับกลับราชวงศ์อู่ ก็ไม่ได้แต่งงานอีก ถ้าไม่ใช่ข้อผูกมัดของตระกูล หล่อนคงรับตัวต้วนหวูเหยียนกลับไปราชวงศ์อู่ตั้งแต่แรกแล้ว”
“ตอนนี้ หล่อนเศร้าใจที่เสียลูกรักไป แกคิดว่าหล่อนจะปล่อยพวกแกไปได้เหรอ?”
“แกอยู่ที่ราชวงศ์ต้วนต่อ มีแต่จะตายทางเดียว แม้กระทั่งยังจะนำหายนะมาให้ราชวงศ์ต้วนด้วย”
“ตอนนี้ มีเพียงฉันไล่แกออกจากราชวงศ์ต้วน ถึงมีโอกาสจะเลี่ยงเคราะห์ร้ายของราชวงศ์ต้วนได้ รอแกไปแล้ว ฉันจะสั่งการให้พี่ชายใหญ่ของแกเป็นผู้สืบทอดราชวงศ์”
“ถึงแม้เขาจะมีเพียงแดนเทพชั้นกลาง พรสวรรค์วิถีบู๊ก็ห่างไกลจากแกกับต้วนหวูเหยียนอีกด้วย แต่สุดท้ายก็ยังเป็นลูกชายคนโตของราชวงศ์ต้วน รอเขาก้าวสู่แดนเทพชั้นยอด ฉันจะพิจารณาเอาตำแหน่งของกษัตริย์ต้วนมอบให้เขา”
หลังพูดเรื่องพวกนี้ออกมา ชั่วพริบตาเดียวกษัตริย์ต้วนเหมือนแก่ลงไปสิบกว่าปีเลย ท่าทางซูบผอม
ดวงตาต้วนหวูหยาแดงก่ำ เขาย่อมเข้าใจสิ่งเหล่านี้ที่กษัตริย์ต้วนพูดมาได้
กษัตริย์ต้วนอยากไล่เขาออกจากราชวงศ์ นี่คือกำลังช่วยชีวิตเขา
“เสด็จพ่อ หวูหยาเนรคุณ ต่อไปไม่อาจตอบแทนอยู่ข้างกายท่านได้ ยังขอให้ท่านดูแลตัวเองดีๆ !”
ต้วนหวูหยาคุกเข่าทั้งสองข้างลงพื้นฉับพลัน พูดจาแบบสะอึกสะอื้นไร้ที่เปรียบ
“ตึกๆๆ!”
เสียงพูดจบลง เขาโขกหน้าผากลงสามที
ต้วนหยู่เยียนก็รีบคุกเข่าลงเช่นกัน ไหว้แล้วไหว้อีก สำหรับเธอนั้น ปู่คนนี้ ดูแปลกหน้าอย่างมาก
“ไปเถอะ! ไปกันให้หมด!”
กษัตริย์ต้วนหมุนตัว ไม่ไปมองต้วนหวูหยาอีกครั้ง เดินไปพลางพูดขึ้น ร่างกายที่เดิมทียืดตรง ก็โค้งงออยู่บ้างเล็กน้อย
ต้วนหวูหยาเศร้าใจครู่หนึ่ง ก่อนจะกุมหมัดทั้งสองขึ้นมาแน่น เขาอยากจะอยู่ที่ราชวงศ์ต้วนต่อ เผชิญหน้ากับความโกรธแค้นของอู่หยู่หลานด้วยกัน แต่เขารู้ว่า อยู่ต่อหน้าราชวงศ์อู่ที่ยิ่งใหญ่ เขาไม่ได้มีตัวตนใดๆ
ขืนอยู่ที่ราชวงศ์ต้วนต่อไป มีแต่จะนำหายนะใหญ่หลวงกว่าเดิมมาสู่ราชวงศ์ต้วน
ในใจหยางเฉินก็มีความคิดความรู้สึกมากมาย แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันแบบนี้เกิดขึ้น
เดิมทีอยู่ที่เมืองเยี่ยนตู หลังต้วนหวูหยาเป็นฝ่ายแสดงมิตรไมตรีก่อนเอง เขาเพียงนำทุกอย่างนี้ เห็นเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ จนกระทั่งสองสามวันนี้ ทุกอย่างที่เกิดที่ราชวงศ์ต้วน ทำให้เขาสำนึกว่ามันไม่ใช่แบบนี้
ต้วนหวูหยา เปิดใจกับเขาจริงๆ มิฉะนั้นตอนที่กษัตริย์ต้วนสั่งการจะฆ่าเขา เขาคงไม่อยากขัดขวาง แม้กระทั่งยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกษัตริย์ต้วนหรอก
ยังมีสิ่งที่กษัตริย์ต้วนพบเจออีก ทำให้เขาเกิดความคิดและความรู้สึกมากมายเช่นกัน
“ไปเถอะ!”
จนกระทั่งภาพด้านหลังของกษัตริย์ต้วนเลือนหายไปถึงที่สุด หยางเฉินถึงเอ่ยปากบอกไป
ทั้งหมดสี่คน หยางเฉินกับต้วนหวูหยา ยังมีต้วนหยู่เยียน และตู๋โยว จากราชวงศ์ต้วน โดยสารเครื่องบินส่วนตัวออกไปโดยตรง
เห็นเมืองราชวงศ์ต้วนที่พื้นนับวันยิ่งเล็กลง ต้วนหวูหยากุมหมัดทั้งคู่ไว้แน่น พูดด้วยท่าทางเด็ดเดี่ยว “ต้องมีสักวันหนึ่ง ฉันจะต้องกลับมาที่นี่ให้ได้!”
ไม่ได้มาเพื่อแย่งชิงอำนาจ แต่เพียงเพราะที่นี่คือบ้านเกิดที่เขาอยู่มาตั้งแต่เด็กจนโต รากเหง้าของเขาอยู่ที่นี่
วันนี้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ของราชวงศ์อู่มาเยือนราชวงศ์ต้วน โจมตีทีเดียวก็ทำวังกษัตริย์ต้วนพังย่อยยับ นี่ได้ทิ้งเมล็ดพันธุ์ของความเคียดแค้นไว้ในใจเขาเรียบร้อยแล้ว
ประสบการณ์ในวันนี้ จะเร่งเร้าให้เขาแกร่งขึ้นกว่าเดิม
“คุณพ่อคะ!”
ต้วนหยู่เยียนจับมือของบิดาไว้แน่น บนหน้ายังมีความกังวลระดับหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน พื้นที่ของตงโจวแห่งจิ่วโจว บนภูเขาเขียวขจีที่อยู่ท่ามกลางเมฆแห่งหนึ่ง มีพระราชวังที่หรูหราอลังการหลังหนึ่ง บนประตูพระราชวัง แขวนป้ายขนาดใหญ่อักษรทองไว้แผ่นหนึ่ง
“วังราชวงศ์อู่” อักษรบรรจงตัวใหญ่เหล่านี้ ขีดเขียนได้อย่างทรงพลัง คาดไม่ถึงนำแรงกดดันวิถีบู๊มาด้วย
ในมุมด้านทิศตะวันตกของวังราชวงศ์อู่ เป็นสิ่งก่อสร้างปลูกล้อมลานกว้างสี่ด้านสไตล์โบราณที่ครอบครองพื้นที่ประมาณสามพันตารางเมตร
ห้องโถงใหญ่ ผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนว่าอายุประมาณห้าสิบ สวมใส่ชุดจีนโบราณ กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะน้ำชา คนรับใช้หญิงที่อายุน้อยสวยงามคนหนึ่ง กำลังคุกเข่าอยู่หน้าโต๊ะน้ำชา
อุ่นกาน้ำ ใส่ใบชา รินน้ำใส่ แช่ชาเอาไว้ เทน้ำชาออก เสิร์ฟชา เป็นการกระทำที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก ดูจนเพลินตาเพลินใจ
“องค์หญิงใหญ่ เชิญดื่มชาค่ะ!”
สาวใช้ยกแก้วชาด้วยมือสองข้าง ส่งให้ด้วยท่าทางเคารพนบนอบ
“ปัง!”
ผู้หญิงชุดจีนโบราณเพิ่งรับแก้วชาเข้ามา ไม่รู้ว่าทำไมแขนถึงสั่นเทากะทันหัน แก้วชาตกลงบนพื้น แตกกระจาย น้ำชาสาดกระเซ็น
“องค์หญิงใหญ่ ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอให้องค์หญิงไว้ชีวิตด้วยค่ะ!”
สาวใช้หน้าตื่นตระหนก คุกเข่าลงที่พื้นตัวสั่นงันงก
ส่วนผู้หญิงที่ใส่ชุดจีนโบราณ ยักคิ้วขึ้น ไม่รู้ทำไมเธอถึงมีลางสังหรณ์ไม่ดีเอามากๆ ขึ้นมาฉับพลัน
“ปัง!”
เห็นเพียงเธอตบบนศีรษะของสาวใช้ไปทีหนึ่ง สาวใช้สิ้นลมตรงนั้น
ในเวลานี้เอง ภาพคนที่ตื่นตกใจไม่สงบพุ่งเข้ามา “องค์หญิงใหญ่ครับ แย่แล้ว องค์ชายน้อยอยู่ที่ราชวงศ์ต้วน โดนคนฆ่าแล้วครับ!”
“นายว่าอะไรนะ?”
องค์หญิงใหญ่ยื่นมือจับคอของคนรับใช้ไว้ ถามอย่างโกรธเคือง “นายว่าใครตายแล้วนะ?”
ผู้แข็งแกร่งที่เข้ามารายงานคนนั้น เดิมคือผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด เวลานี้อยู่ในมือขององค์หญิงใหญ่ คาดไม่ถึงไม่มีแรงต้านทานสักนิด
“เป็น……เป็นองค์……องค์ชายต้วนหวูเหยียนครับ!”
ผู้แข็งแกร่งหวาดผวาอย่างยิ่ง พูดจาประโยคนี้ออกมาด้วยความยากลำบาก
“ปึง!”
องค์หญิงใหญ่ถือโอกาสโบกมือ ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดคนนั้น เหมือนกับขยะ โดนทิ้งออกไปแล้ว
องค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์อู่ท่านนี้ ไม่ใช่ใครอื่น คือมารดาแท้ๆ ของต้วนหวูเหยียนเอง อู่หยู่หลาน
ปัจจุบันนี้อายุหกสิบห้าปี ทว่าผมกลับยังดำอยู่ ดูขึ้นมาเหมือนอายุห้าสิบปี
เวลานี้ ทั่วทั้งตัวเธอคือความอาฆาตแค้น แรงอาฆาตในดวงตาทั้งคู่ราวกับสิ่งที่มีอยู่จริง กราดยิงออกมา
“องค์หญิงใหญ่!”
ในเวลานี้เอง ภาพคนที่สูงวัยคนหนึ่ง กำลังนำศพร่างหนึ่งเข้ามา
หลังจากที่อู่หยู่หลานมองเห็นใบหน้าของศพ ก็อึ้งทึ่งถึงที่สุด ทันใดนั้นพูดแบบโศกเศร้าเหลือเกิน “เหยียนเอ๋อร์!!”
ทั้งราชวงศ์อู่ล้วนจมอยู่ในความโกรธแค้นของเธอ
“ไม่ว่าเป็นใคร กล้าฆ่าลูกชายฉัน ฉันจะต้องให้มันจะตายก็ไม่ตาย จะอยู่ก็ไม่รอด!”
อู่หยู่หลานแทบจะกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา
ตอนนั้นที่เธอกับกษัตริย์ต้วนรักใคร่ซึ่งกันและกัน ยังได้ให้กำเนิดต้วนหวูเหยียนออกมาที่ราชวงศ์ต้วน ถ้าไม่ใช่ว่าราชวงศ์อู่นำตัวเธอกลับมา เธอคงไม่อาจแยกจากกับต้วนหวูเหยียนได้
หลายปีมานี้ เธอไม่ได้แต่งงานใหม่มาตลอด เป็นเพราะในใจยังคงคิดถึงลูกชายของตนเอง
สำหรับต้วนหวูเหยียนนั้น ในใจเธอรู้สึกผิดมาตลอด
มักจะคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของราชวงศ์ต้วน ต้วนหวูเหยียนจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่สิ่งที่ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึง ยังได้รับรู้กะทันหันว่าลูกชายเพียงคนเดียวของตนเองโดนฆ่าที่ราชวงศ์ต้วนแล้ว
“ขอให้องค์หญิงใหญ่อย่าได้เสียใจมากเกินไปครับ!”
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งที่พาต้วนหวูเหยียนกลับมาคนนั้น เอ่ยเสียงทุ้ม
“ฟางหรู ฉันส่งนายไปคุ้มครองเหยียนเอ๋อร์ นึกไม่ถึงนายจะเอาศพของเหยียนเอ๋อร์กลับมาแล้ว?”
อู่หยู่หลานจ้องมองฟางหรูอย่างโกรธเคือง กัดฟันแน่นพูดขึ้น
ฟางหรูก็คือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งคนนั้นซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ที่ราชวงศ์ต้วน และรับต้วนหวูเหยียนกลับมา
เวลานี้ ในใจเขาหวาดผวาระดับหนึ่ง อู่หยู่หลานบ้าคลั่งมากแค่ไหน เขารู้ดีมาก
“องค์หญิงใหญ่ รอตอนที่ผมไปถึงราชวงศ์ต้วน องค์ชายน้อยก็โดนฆ่าแล้ว ขอองค์หญิงใหญ่อภัยให้ด้วยครับ!”
ฟางหรูคุกเข่าทั้งสองข้างลงพื้น กล่าวด้วยท่าทางเสียใจ
ถึงแม้อู่หยู่หลานจะบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่ใช่คนโง่ที่ไร้สมอง ฟางหรูเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง สำหรับราชวงศ์อู่แล้ว มีความสำคัญมากแค่ไหน เธอเข้าใจแจ่มแจ้ง