The king of War - บทที่ 1274 มีคนสะกดรอยตาม
ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนเดิมทีมีค่าความงามที่สวยล้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เวลานี้มีการเสริมแต่งเพิ่มขึ้น จึงงามล้ำไปถึงที่สุด ขนาดดารานางเอกในกระแสก็ต้องถูกปัดตกขอบไปเลย
“พี่เสี่ยว มองพอได้แล้ว ขืนมองจ้องต่อไปอีกพี่ฉิงเสว่คงจะต้องอายม้วนลงไปแน่”
มู่ฉิงเสว่พูดด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก
หยางเฉินถึงกับหน้าแดง หัวเราะแล้วพูดว่า “เธอทั้งสองนี่ สวยมากจริง ๆ นะ!”
มู่เชียนเชียนหัวเราะอย่างพึงใจ “ก็แน่นอนอยู่แล้ว ให้รู้เสียบ้างว่า เราเป็นใคร”
ได้รับคำชมจากหยางเฉิน ลู่ฉิงเสว่ให้รู้สึกหวานชื่นจับใจ
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง โรลส์-รอยซ์สีดำคันหนึ่ง จอดลงอย่างช้า ๆ ที่หนิงโจวสแควร์
หนิงโจวสแควร์ สินค้าฟุ่มเฟือยทั้งหลาย รวมแหล่งอยู่ที่นี่
กลุ่มคนสามคนนี้มีค่าความงามเป็นเลิศ จึงเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนเป็นจำนวนมาก
สำหรับลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนนั้นคุ้นชินกับสายตาแบบนี้อยู่แล้ว จึงไม่ได้มีความรู้สึกผิดปกติแต่อย่างใด สำหรับหยางเฉิน โดนจ้องเอาจากสายตาคนมากมาย ก็ให้อึดอัดวางตัวไม่ถูก
“พี่สาว พี่ว่าชุดสูตรสีขาวนั่น เป็นยังไง?”
เดินผ่านร้านสินค้าของเวอร์ซาเช จู่ ๆ มู่เชียนเชียนชี้ไปที่ชุดที่ใส่บนตัวหุ่นโชว์เสื้อผ้า พูดอย่างพึงพอใจ
“ไม่เลวเลยทีเดียวนะ ซื้อเลย!”
ลู่ฉิงเสว่ก็รู้สึกถูกใจมาก สั่งให้พนักงานประจำร้านจัดการใส่ห่อ
“ฉิงเสว่…..”
หยางเฉินกำลังจะห้ามปราม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ลู่ฉิงเสว่จัดการรูดบัตรจ่ายบัญชีเรียบร้อย
พนักงานในร้านที่ต่างกำลังมองหยางเฉิน แววตาเปลี่ยนไป
ต่างดูเหมือนว่า หยางเฉินเป็นหนุ่มหล่อเด็กเลี้ยงของลู่ฉิงเสว่ไปนั่น
“รองเท้าคู่นี้ก็ดีนะ ซื้อ!”
“เข็มขัดเส้นนี้ ซื้อ!”
“ที-เชิร์ตตัวนี้ดีทีเดียว เอา!”
………
เวลาสั้น ๆ เพียงชั่วโมงเดียว ในมือของหยางเฉิน หอบเต็มไปด้วยเสื้อผ้าอยู่หลายแบบ
ตั้งแต่ชิ้นใหญ่จนชิ้นเล็ก ทั้งขุดเสื้อผ้า จนถึงเสื้อผ้าชั้นใน ซื้อได้มาไว้อยู่หลายชุด
หยางเฉินก็ได้ห้ามปรามอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผล ขอแต่เป็นที่ต้องตาของลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียน เป็นซื้อหมด
“ฉิงเสว่ เชียนเชียน พอแล้ว พอแล้วจริง ๆ เสื้อผ้าที่ซื้อมากมายมาขนาดนี้ ให้ผมใส่ไปได้อยู่หลายปี ก็ยังเหลือพอ”
หยางเฉินพูดอย่างระอาแก่ใจ “ไม่งั้น ซื้อเป็นของพวกเธอเองเถอะ?”
มาถึงขณะนี้ สองสาวมัวแต่เลือกซื้อของให้หยางเฉิน แต่ของ ๆ พวกหล่อนเอง ชิ้นเดียวก็ยังไม่มีซื้อ
หยางเฉินเองก็รู้สึกไม่สายใจ ชีวิตของเขา ก็สองสาวนี้ช่วยมา เวลานี้ยังได้อาศัยเข้าอยู่ในคฤหาสน์หรูของลู่ฉิงเสว่ ตอนนี้แม้แต่เสื้อผ้า ก็ยังเป็นลู่ฉิงเสว่ซื้อให้
สายตาของพนักงานที่มองเขา ล้วนแล้วแต่มองเขาเป็นพวกเกาะสาวกิน
“แค่นี้พอที่ไหนหละ?”
มู่เชียนเชียนรีบพูดต่ออีก “คุณเดินตามก็พอ จ่ายเงินเรื่องของพวกฉันเอง!”
หยางเฉินเบี้ยวกระตุกมุมปากขึ้นนิด ก็ได้แต่ตามใจสองสาว เดินตามปล่อยพวกหล่อนซื้อของต่อไป
ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียน ดูไม่มีท่าทีจะเหนื่อยล้ากันเลย เดินแวะไปตามแต่ละร้านค้า ใช้เวลาไปตลอดทั้งช่วงเช้า ล้วนอยู่ในการช้อปปิ้งทั้งหมด
ในที่สุดก็เพราะมู่เชียนเชียนรู้สึกหิว สองสาวถึงได้ยอมหยุดพัก แล้วจึงได้พาหยางเฉินไปหากินมื้อเที่ยงกัน
หลังอาหารมื้อเที่ยง ก็ไปช้อปปิ้งกันต่อ คราวนี้ดีขึ้นมาหน่อย ไม่ได้ซื้อของเครื่องใช้ของหยางเฉิน แต่ซื้อเป็นเสื้อผ้าให้กับพวกหล่อนกันเอง
แล้วก็หมดเวลากันไปอีกทั้งช่วงบ่าย ที่ให้หยางเฉินประหลาดใจคือ แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกเพลีย แต่ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียน กลับไม่เห็นมีอาการอ่อนล้าเลยแม้แต่น้อย ยังคงสีหน้าชื่นมื่นสนุกสนาน
“พี่เสี่ยว ทีหลังพวกฉันจะไปไหน ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ในที่สุดพวกฉันก็มีคนช่วยเข็นของให้แล้ว!”
ระหว่างเดินทางกลับ มู่เชียนเชียนพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
สีหน้าหยางเฉินเต็มไปด้วยความระอาเอือม ยิ้มแหย ๆ ว่า “ทีหลัง ผมจะขอไม่มาชอปปิ้งกับพวกคุณได้ไหมนี่?”
“ไม่ได้!”
“ไม่ได้!”
สองสาวเหมือนได้นัดกันไว้ พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
ในขณะนั้นเอง หยางเฉินเกิดรู้สึกมีสัญญาณอันตรายรุนแรงบางอย่าง เลิกคิ้วสูงขึ้น มองไปที่กระจกส่องหลัง พูดเสียงเยือก “ข้างหลังมีคนสะกดรอยตามพวกเราอยู่!”
“อะไรนะ?”
มู่เชียนเชียนเครียดขึ้นมาทันที “ใครมันจะกล้าอะไรแบบนี้ บังอาจมาตามสะกดรอยเรา ใช้ชีวิตกันเบื่อแล้วหรือไง?”
ลู่ฉิงเสว่ฉายแววกังวลขึ้นมาบนใบหน้า เอ่ยปากพูดว่า “จะใช่พวกคนของหลี่จิ้นหรือเปล่า?”
“เร่งเครื่อง!”
หยางเฉินสั่งออกไปในทันใด
โชเฟอร์ไม่พูดพล่าม เหยียบคันเร่ง รถพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่ รถคันข้างหลังนั้น ก็เร่งเครื่องตามขึ้นมา
ใช่มีปัญหาจริง ๆ
พี่น้องสองสาวสีหน้าเครียดกันขึ้นมา โดยเฉพาะลู่ฉิงเสว่ เวลานี้ที่กังวลที่สุดก็คือหลี่จิ้น
หลี่จิ้นคอยตามรังความหล่อนมาตลอดเวลา ตระกูลลู่ก็กำลังเตรียมยอมยกหล่อนให้แต่งงานไป ด้วยว่าสภาพตระกูลลู่ตอนนี้ ไม่มีทางที่จะไปกระทบกระทั่งตระกูลหลี่ที่กำลังมาแรงในวงการ
“คุณหนูครับ เป็นรถของบ้านตระกูลหลี่”
โชว์เฟอร์ที่กำลังขับรถอยู่ พลันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “หรือไม่งั้น คุณหนูติดต่อกับท่านผู้นำ ให้ท่านจัดผู้แข็งแกร่งมารับพวกเรา”
“ไม่ต้อง!”
หยางเฉินพูดขึ้นมาในเดี๋ยวนั้น
หลายวันมานี้ เขาได้พอรู้คร่าว ๆ ถึงเรื่องภายในของตระกูลลู่ แน่นอนที่รู้เรื่องที่ว่า หลี่จิ้นคอยตามรังควานลู่ฉิงเสว่อยู่
ไม่ว่าอะไรก็ตาม ลู่ฉิงเสว่เป็นผู้มีบุญคุณในการช่วยชีวิตเขา เวลานี้ก็กินของ ๆ เธอ อาศัยอยู่กับเธอ ใช้จ่ายของเธอ มันควรได้โอกาสที่จะทำอะไรเพื่อเธอแล้ว
พอได้ยินหยางเฉินพูดว่าไม่ต้อง เหล่าหวางโชว์เฟอร์คนนี้ถึงกับงง รีบย้ำไปว่า “คุณเสี่ยว รถคันข้างหลังเป็นของบ้านตระกูลหลี่นะ คนที่นั่งอยู่ในรถนั่น ก็น่าจะใช่เป็นหลี่จิ้น”
“ข้างตัวหลี่จิ้น โดยปกติก็จะมีสุดยอดผู้แข็งแกร่งตระกูลหลี่คุ้มกันอยู่ ถ้าพวกมันตามทันพวกเรา จะอันตรายมากนะครับ”
น้ำเสียงของเหล่าหวางยังมีอารมณ์ไม่พอใจอยู่ด้วย
เขาไม่ได้เป็นเพียงคนขับรถประจำให้ลู่ฉิงเสว่ ขณะเดียวกันยังเป็นหนึ่งในยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งของตระกูลลู่ ในความรู้สึกที่เขาเห็นต่อหยางเฉิน ดูไม่ค่อยจะเข้าท่าสักเท่าไหร่
แต่คิดไม่ถึงว่า พอเหล่าหวางพูดจบ ก็ได้ยินลู่ฉิงเสว่พูดว่า “ในเมื่อคุณเสี่ยวบอกว่าไม่ต้อง งั้นก็ไม่ต้องติดต่อหาคุณปู่หรอก อาหวาง อาวางใจเถอะ”
ที่บ้านตระกูลลู่ก่อนหน้านี้ ลู่ฉิงเสว่เห็นมากับตาด้วยตัวเอง ให้แม้กระทั่งอาจารย์ฉียอดฝีมือสูงสุดของตระกูลลู่ ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉินเลย เธอจึงไม่มีอะไรต้องกลัวยอดฝีมือตระกูลหลี่อีกแล้ว
ได้ยินลู่ฉินเสว่พูดมาแบบนี้ เหล่าหวางก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก ได้แต่ถอนหายใจ ให้รู้สึกว่าลู่ฉิงเสว่จะจมปรักลึกเกินไปแล้ว จึงได้เร่งเครื่องยนต์ขึ้น หวังว่าจะทิ้งพ้นการติดตามของรถตระกูลหลี่
“ครืด ๆ ๆ”
ทันใดนั้น เหล่าหวางเบรกรถลงกะทันหัน รถจอดนิ่งบนถนนในช่วงที่ไม่ค่อยมีรถผ่าน
“อาหวาง เกิดอะไรขึ้น?”
ลู่ฉิงเสว่หน้าตื่นขึ้นมาทันที รีบถามออกไป
เหล่าหวางตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “คุณหนู ข้างหน้านั่นก็รถของตระกูลหลี่ พวกเราถูกขวางปิดทางไป”
ตอนนี้ลู่ฉิงเสว่จึงได้มองไปเห็น ข้างหน้ารถของพวกเขา มีเล็กซัสออฟโรดจอดอยู่สองคัน ปิดกั้นทางข้างหน้าไว้หมด
และในขณะเดียวกันนั้น ข้างหลังยังมีรถเบนท์ลีย์คันที่ตามพวกเขามา จอดขวางอยู่ข้างหลัง
ในชั่วเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาถูกสกัดกั้นไว้ทั้งหน้าหลัง ไม่มีทางที่จะออกไปทางไหนได้
“คุณหนู คุณรีบติดต่อกับท่านผู้นำเถอะ ปิดล็อคประตูรถไว้ ผมจะลงไปรับมือพวกมันก่อน”
เหล่าหวางพูดจบ ก็ได้เปิดประตูรถออกเดินลงจากรถ หยางเฉินก็เดินตามลงจากรถไปด้วย
“ใครให้คุณลงมา?รีบขึ้นรถไป ล็อครถให้ดีด้วย!”
เหล่าหวางเห็นหยางเฉินเดินตามลงมาด้วย สีหน้าตึงขึ้นมาทันที พูดเสียงเคียด
เขาถึงแม้จะมองหยางเฉินไม่ขึ้น เข้าใจว่าหยางเฉินเป็นคนขี้คุยไม่ได้เรื่อง แต่จะว่ายังไง หยางเฉินก็เป็นคนที่มากับลู่ฉิงเสว่ อีกทั้งดูแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูไม่ธรรมดา
ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับหยางเฉิน เขาคงไม่สามารถรับผิดชอบกับลู่ฉิงเสว่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่สามารถตอบรับความรับผิดชอบกับลู่หยวนทงด้วย
“ขึ้นรถหลบรึ?เฮอะ ๆ ช้าไปแล้ว!”
ขณะนั้นเอง เสียงเย็นเยือกดังขึ้นมาในทันใด
เงาร่างชายหนุ่มคนหนี่ง เดินลงมาจากรถเบนท์ลีย์ ยิ้มยียวนจ้องที่หยางเฉิน ตาเหยี่ยวทั้งคู่ สาดส่องประกายฆ่า