The king of War - บทที่ 1292 จะเหลือสภาพศพที่สมบูรณ์ให้
ประตูรถเปิดออก ก็มีชายชราผมขาวที่ใส่ชุดจีนคนหนึ่งก้าวลงจากรถ
“กษัตริย์เซว ค่อยๆ เดินครับ!”
“กษัตริย์หม่า ค่อยๆ เดินครับ!”
หลังจากที่ต้อนรับกษัตริย์ไป๋แล้ว จางโฉงก็เข้าไปเปิดประตูรถให้กษัตริย์เซวกับกษัตริย์หม่าด้วยตนเอง
ตอนแรกลู่หยวนทงยังนึกว่ามีแค่กษัตริย์ไป่คนเดียวซะอีก พอได้ยินจางโฉงเรียกชื่อกษัตริย์เซวกับกษัตริย์หม่า สีหน้าก็ซีดยิ่งกว่าเดิม
ห้าตระกูลเดอะคิงแห่งจิ่วโจว ตอนนี้กษัตริย์สามในห้านั้นมาเยือนตระกูลลู่อย่างพร้อมหน้ากัน
ตระกูลลู่นี่ช่างมีหน้ามีตาซะจริง!
“คาราวะกษัตริย์ไป๋!”
“คาราวะกษัตริย์เซว!”
“คาราวะกษัตริย์หม่า!”
ทุกคนของตระกูลจางต่างพากันคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ส่งเสียงออกมาเสียงดัง จนสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน
“ลู่หยวนทง ฉันมาอีกแล้ว!”
จางโฉงหรี่ตายิ้มแล้วมองไปที่ลู่หยวนทงด้วยสีหน้าที่ขบขัน
ลู่หยวนทงถึงกับเซ ถอยหลังไปหลายก้าว ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
ลู่ชวนก็ไม่ต่างกัน ขาทั้งสองข้างสั่นเครือไม่ยอมหยุด
ในตอนนี้ ข้างหลังของกษัตริย์ไป๋กษัตริย์หม่าและกษัตริย์เซวต่างมีผู้แข็งแกร่งหลายคนยืนอยู่ แรงกดดันของวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมอยู่ทั่วร่าง ใช้ก้นคิดก็ยังรู้ว่าผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งชั้นนำของกษัตริย์ทั้งสามคนนี้อย่างน้อยก็เป็นแดนราชาขั้นสูงสุด
ในบรรดาผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ เอาใครออกมาก็สามารถจัดการกับตระกูลเศรษฐีของหนิงโจวได้ทั้งหมดเเล้ว แต่ว่าตอนนี้ กลับมารวมกันอยู่ที่บ้านตระกูลลู่กันทุกคน เพื่อจัดการกับตระกูลลู่
“ผู้แข็งแกร่งของแกสินะที่ฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดของพันธมิตรตระกูลเดอะคิงไป?”
สายตาที่แหลมคมของกษัตริย์ไป๋จ้องไปที่ลู่หยวนทงอย่างกะทันหัน แล้วถามด้วยเสียงที่ดังลั่น
“ผะ….ผม นายท่าน ผมเปล่านะ ผมเปล่าจริงๆ ผมเป็นแค่ผู้นำของตระกูลเล็กๆ จะไปมีผู้แข็งแกร่งที่สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดได้ยังไงครับ?”
ลู่หยวนทงรีบปฏิเสธทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ทุกอย่างมันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดครับ!”
“เข้าใจผิดเหรอ?”
กษัตริย์ไป๋ยิ้มออกมาอย่างไม่ชอบใจ “แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรตระกูลเดอะคิงยังกล้าฆ่า แล้วยังกล้ามาบอกฉันว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดอีก?”
“ส่งตัวคนทำออกมา แล้วฉันจะให้แกได้ตายอย่างไม่ทรมาน!”
“ตุบ!”
ลู่หยวนทงคุกเข่าลงทันที แล้วพูดอย่างหวาดกลัวว่า “นายท่าน ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากส่งตัวคนทำให้ท่าน แต่ผมไม่รู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนทำ!”
ในตอนนี้ ลู่หยวนทงรู้สึกสิ้นหวังแล้วจริงๆ ในสายตาของเขา ตระกูลเดอะคิงนั้นเป็นดั่งดวงดาวบนฟ้า เกินที่จะเอื้อมถึง
ณ ตอนนี้ สามในห้าของตระกูลเดอะคิงทั้งห้าแห่งจิ่วโจว แถมกษัตริย์ของตระกูลเหล่านี้ยังพาคนมาหาคนกับเขาที่ตระกูลลู่ด้วยตนเอง
“ไม่รู้เหรอ?”
กษัตริย์ไป๋ยิ้มออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ในเมื่อไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นก็ฆ่าคนของตระกูลลู่ให้หมด”
“ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ผู้แข็งแกร่งที่เคยช่วยตระกูลลู่จะยอมออกมารึเปล่า”
พอได้ยินอย่างนั้น ลู่หยวนทงก็ทำหน้าสิ้นหวังพูดทั้งน้ำตาว่า “นายท่าน ช่วยไว้ชีวิตตระกูลลู่ด้วยนะครับ!”
“ถึงผมจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายแอบปกป้องชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ในเงามืดครับ”
“หืม?”
กษัตริย์ไป๋รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที “ถ้าแกกล้าปิดบังอะไร ทุกคนในตระกูลลู่จะต้องตายไปพร้อมกับแก!”
“ก่อนหน้านี้ หลานสาวของผม ได้ช่วยชายหนุ่มคนหนึ่งกลับมาจากยอดภูเขาหนิง ปรากฏว่าชายหนุ่มคนนี้ความจำเสื่อมไปแล้ว…..”
ลู่หยวนทงไม่กล้าปิดบังอะไรอีกจึงรีบเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับการปรากฏตัวของหยางเฉินออกมา
“นายท่าน ผมได้มีอะไรปิดบังท่านเลย สิ่งที่ผมพูดมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ท่านต้องเชื่อผมนะครับ!”
ลู่หยวนทงวิงวอน
กษัตริย์ไป๋ไม่ได้พูดอะไร มองไปยังกษัตริย์เซวกับกษัตริย์หม่าที่อยู่ข้างๆ แววตาของทั้งสามก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมา
พวกเขาต้องมองออกอยู่แล้วว่าลู่หยวนทงไม่ได้โกหก เมื่อเป็นอย่างนี้ มันไม่เท่ากับว่า ในตระกูลลู่มีชายหนุ่มที่อย่างน้อยก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ?
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้แข็งแกร่งที่แข็งแกร่งกว่าคอยปกป้องอยู่ในเงามืดด้วย?
“ลู่หยวนทง แกนี่ช่างกล้าเหลือเกินนะ ถึงกล้ามาโกหกพวกท่านเหล่านี้!”
กษัตริย์ทั้งสามของพันธมิตรตระกูลเดอะคิงรู้ดีว่าลู่หยวนทงไม่ได้โกหก จางโฉงนั้นไม่รู้จึงได้ตวาดไปว่า “แกคิดจะหลอกผีรึไง? ชายหนุ่มที่อายุแค่ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดจะแข็งแกร่งถึงระดับแดนราชาขั้นสูงสุดได้ยังไง?”
“หุบปาก!”
กษัตริย์หม่าตบไปที่หน้าของจางโฉง แล้วพูดด้วยความโกรธว่า “ถ้ายังกล้าพูดมากอีก ฉันจะฆ่าแกก่อนเลย!”
จางโฉงรีบหุบปากทันที
ในตอนนี้ ในใจของกษัตริย์ทั้งสามเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ มาเจอกับเรื่องแบบนี้พวกเขาก็ไม่มีทางกังวลแน่นอน แค่กวาดล้างตระกูลลู่ก็หมดเรื่องแล้ว แต่ว่าตอนนี้ พวกเขาไม่กล้า
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ร่วมมือกับหลิวเหว่าก้วยของเมืองเหวียว ตั้งใจจะพาผู้แข็งแกร่งของตระกูลไปเยี่ยนตู เพื่อเตรียมที่จะสืบทอดตี้ชุน แต่กลับได้รู้ว่า หลิวเหล่าก้วยแห่เมืองเหมียวเกือบถูกฆ่าตาย
สุดท้าย ได้ถูกผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติคนหนึ่งของเมืองเหวียวช่วยไป
และชายหนุ่มที่สู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติแล้วไม่แพ้ ก็คือหยางเฉินนั่นเอง!
ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็ได้เบาลงเยอะ กับตี้ชุนก็ไม่มีความคิดที่จะไขว่คว้าอีกแล้ว
เพราะพวกเขารู้ดีว่า ด้วยพันธมิตรตระกูลเดอะคิงของพวกเขา จะทำให้ตำแหน่งของหยางเฉินที่อยู่มีเยี่ยนตูนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงออกจากเยี่ยนตู อาศัยตอนที่การปกครองของเยี่ยนตูกำลังสั่นคลอน ควบคุมตระกูลเศรษฐีของที่อื่นๆ ให้ได้ก่อน
พวกเขาเลือกที่จะไม่เจอกับหยางเฉินอีกเลยในชาตินี้
วันนี้ พอได้รู้ว่าในตระกูลลู่เล็กๆ แห่งนี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีฝีมือระดับแดนราชาขั้นสูงสุด มันจึงทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีไปชั่วขณะ
ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งถึงแดนราชาขั้นสูงสุด ต้องมีอำนาจที่แข็งแกร่งหนุนหลังอยู่แน่นอน
“แกช่วยไปเชิญพ่อหนุ่มคนนั้นมาหน่อย!”
กษัตริย์ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“หา?”
ครั้งนี้ ลู่หยวนทงก็ทำหน้าช็อก ตอนแรกเขาก็เตรียมใจที่จะถูกฆ่าแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่า กษัตริย์ไป๋กลับให้เขาไปเชิญหยางเฉินมา
“ให้เวลาแกห้านาที ถ้าชายหนุ่มที่แกพูดถึงไม่ออกมา ตระกูลลู่ก็เตรียมล่มสลายได้!”
กษัตริย์ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ ลู่หยวนทงถึงตั้งสติได้ และรีบพูดไปว่า “ผมจะรีบไปเชิญคุณเสี่ยวมาเดี๋ยวนี้เลยครับ!”