The king of War - บทที่ 1295 ช่วยปู่ด้วย
พูดจบ ความแรงกดดันนั้นก็ได้สลายไป
กษัตริย์ทั้งสามราวกับเพิ่งเดินเฉียดประตูนรกมา หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เขาไปเป็นการใหญ่ แววตาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว
“ความจริง เมื่อกี้พวกเรามีจุดที่ปิดบังไว้บ้าง…..”
กษัตริย์ไป๋ไม่กล้าปิดบังอะไรอีก จึงได้เล่าให้หยางเฉินฟังเพิ่มเติม
รวมไปถึงเรื่องที่พันธมิตรตระกูลเดอะคิงอย่างพวกเขาร่วมมือกับหลิวเหล่าก้วยของเมืองเหมียว เพื่อสังหารหยางเฉินส่วนพวกเขาก็รอรับผลประโยชน์อย่างเดียว
สิ่งที่ทำให้พวกเขาดีใจคือ ต่อให้เล่าเรื่องพวกนี้ให้หยางเฉินฟังแล้วหยางเฉินก็ไม่ได้โมโห กลับยังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม
“คุณหยาง เมื่อก่อนพวกเรามันโง่ ไม่รู้จักความยิ่งใหญ่ของคุณ ในเมื่อตอนนี้รู้แล้ว ต่อไปก็ไม่มีทางไปสร้างเรื่องให้คุณอีกแน่นอน”
กษัตริย์ไป๋รีบพูดรับปาก “ได้โปรดอย่าถือสาคนเล็กๆ อย่างพวกเราเลยนะครับ ปล่อยเราไปสักครั้ง ต่อไปตระกูลเดอะคิงของเราจะเป็นข้ารับใช้ให้กับคุณ!”
“ใช่ครับใช่ ตั้งแต่วันนี้ไป พวกเราจะอยู่ใต้อาณัติของคุณหยาง และจะไม่มีทางหักหลังแน่นอนครับ!”
“คุณหยางโปรดรับพวกเราด้วยนะครับ!”
กษัตริย์เซวกับกษัตริย์หม่าก็รีบพูดเหมือนกัน
ในตอนนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเข้าใกล้หยางเฉิน ถ้าสามารถผูกมิตรกับหยางเฉินในสถานการณ์แบบนี้ รอหยางเฉินฟื้นความทรงจำได้แล้ว ก็ไม่มีทางทำร้ายพวกเขา ไม่แน่ยังอาจจะเห็นค่าพวกเขาด้วยก็ได้
หยางเฉินไม่มีการตอบสนองใดๆ เงียบไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ผ่านไปพักใหญ่ เขาถึงได้พูดออกมาว่า “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกคุณสามารถติดต่อภรรยากับลูกของผมได้รึเปล่า?”
ทั้งสามพากันส่ายหน้า ช่วงที่ผ่านมา พวกเขาก็ได้รู้เรื่องที่เกี่ยวกับหยางเฉินไม่น้อยเลย
รู้แค่ว่า หยางเฉินไปมีเรื่องกับคนใหญ่คนโตที่เป็นแดนเหนือธรรมชาติ จากนั้นกันหายตัวไปพร้อมกับคนในครอบครัว
ส่วนเรื่องที่คนพวกนี้ไปอยู่ไหน พวกเขาก็ไม่รู้จริงๆ
พอเห็นพวกเขาส่ายหน้า หยางเฉินก็รู้สึกผิดหวัง แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ขอแค่กลับไปที่เยี่ยนตูอีกครั้ง ก็น่าจะค่อยๆ ตามหาทุกคนจนเจอได้
“คุณหยางครับ ผมกลับรู้สึกว่า คุณอย่าเพิ่งกลับไปจะดีกว่าครับ”
ทันใดนั้น กษัตริย์เซวก็ได้พูดขึ้น
“อย่ากลับไปอย่างนั้นเหรอ?”
หยางเฉินขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่กษัตริย์เซว
กษัตริย์รีบอธิบายว่า “ตอนนี้คุณยังจำอะไรไม่ได้ ตกลงคุณความจำเสื่อมได้ยังไงก็ยังไม่รู้”
“อีกอย่าง ทำไมก่อนหน้านี้คุณถึงพาคนที่อยู่รอบตัวจากไป?”
“ผมเดาว่า คุณต้องไปล่วงเกินคนที่แข็งแกร่งมากๆ เข้า คนเหล่านี้เเข็งแกร่งจนถึงขั้นที่แม้แต่คุณก็ยังรับมือไม่ได้ ดังนั้นคุณจึงเลือกที่จะส่งคนที่อยู่ข้างตัวออกจาเยี่ยนตูไป”
“ถ้าคุณกลับไปตอนนี้ แล้วคนในครอบครัวของคุณรู้เข้า จะต้องกลับมาแน่นอน”
พอพูดถึงตรงนี้ กษัตริย์เซวก็หยุดพูด เชื่อว่าหยางเฉินต้องเข้าใจที่เขาจะสื่อแน่นอน หยางเฉินเงียบไปทันที สีหน้าค่อนข้างบูดเบี้ยว ราวกับกำลังเจ็บปวดมาก
เมื่อกี้ จู่ๆ ในหัวของเขาก็มีเงาของใครบางคนปรากฏขึ้น เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนยอดเขาหนิง เขาเห็นหญิงชราคนหนึ่งจะฆ่าเขา
แต่ว่า ร่างของคนคนนี้ค่อนข้างเบลอ มองไม่ออกเลยว่าหน้าตาเป็นยังไง
“คุณหยาง เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
ผ่านไปพักใหญ่ กษัตริย์ไป๋ถึงค่อยๆ ถามอย่างระมัดระวัง
หยางเฉินได้กลับเป็นปกติแล้ว มองไปที่กษัตริย์เซว แล้วพูดไปว่า “ขอบคุณมาก!”
กษัตริย์ที่ถูกชมถึงกับตกใจ จึงรีบพูดไปว่า “คุณหยางพูดเกินไปแล้วครับ!”
“ในเมื่อพวกคุณมีใจที่จะติดตามผม ถ้าอย่างนั้นผมก็จะให้โอกาสพวกคุณสักครั้ง ช่วงเวลาต่อจากนี้ผมจะอยู่ที่หนิงโจวต่อ สำหรับเบาะเเสของผม ต้องเก็บเป็นความลับ”
หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
พอได้ยินหยางเฉินบอกว่าจะยอมให้พวกเขาติดตาม กษัตริย์ทั้งสามก็หายใจถี่ขึ้นมาทันที คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่พวกเขานั้นรู้ดีว่า หยางเฉินนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งที่สามารถสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติได้
ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ ต่อให้เป็นราชวงศ์ ก็ทำได้แค่แหงนมองเท่านั้น
ถ้าได้ติดตามหยางเฉินตั้งแต่ตอนนี้ ฐานะของพันมิตรตระกูลเดอะคิงในวันข้างหน้า จะต้องสูงตามไปด้วยอย่างแน่นอน
“คุณหยาง คุณไม่ต้องเป็นห่วง พวกผมไม่มีทางปล่อยให้ข้อมูลนี้รั่วไหลออกไปแน่นอนครับ!”
กษัตริย์ทั้งสามรับประกัน
“แต่ว่า คนของตระกูลลู่ ได้รู้ฐานะของคุณแล้ว…..”
ทันใดนั้นกษัตริย์หม่าก็พูดขึ้น พร้อมกับสีหน้าที่อาฆาต “คุณหยาง ให้ผมไปทำลายตระกูลลู่เลยมั้ยครับ?”
“หืม?”
หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น แล้วมองกษัตริย์หม่าอย่างไม่ชอบใจ หรี่ตาแล้วพูดไปว่า “ถ้าคุณกล้าทำร้ายคนของตระกูลลู่ ผมจะฆ่าคุณด้วยมือของผมเลย!”
พอได้ยินอย่างนั้น กษัตริย์หม่าก็แตกตื่นและคุกเข่าลงไปทันที “คุณหยาง ผมผิดไปแล้วครับ!”
“ลุกขึ้นเถอะ!”
หยางเฉินพูดดวยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
ในตอนนี้ ด้านนอกวิลล่า
“พ่อครับ ไม่นึกเลยว่า คุณเสี่ยวจะมีฐานะที่น่ากลัวขนาดนี้”
ลู่ชวนพูดด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ
จนถึงตอนนี้ลู่หยวนทงยังรู้สึกร้อนรนอยู่เลย จึงรีบหันไปพูดกับลู่ฉิงเสว่ว่า “ฉิงเสว่ ถือว่าปู่ขอร้องล่ะ เดี๋ยวช่วยขอร้องคุณเสี่ยวให้ที บอกให้เขาช่วยปล่อยปู่ไปสักครั้งนะ”
“ก่อนหน้านี้ ปู่เองก็ไม่มีทางเลือก ถึงได้ทำอย่างนั้นกับเขา แกต้องช่วยปู่นะ ไม่อย่างนั้นปู่ต้องถูกฆ่าแน่เลย!”
“ลู่ฉิงเสว่ดวงตาแดงก่ำ พูดทั้งน้ำตาว่า “คุณปู่คะ ครั้งนี้คุณปู่ทำผิดไปจริงๆ!”
“แต่ปู่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะขอร้องเขาให้ค่ะ”
ในตอนนั้นเอง เสียงของหยางเฉินก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน “ทุกคนเข้ามาได้!”
พอได้ยินเสียงของหยางเฉิน ประตูของวิลล่าก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ ลู่หยวนกับลู่ชวนทำหน้าตื่นเต้น ก่อนจะหันมองลู่ฉิงเสว่แล้วค่อยเดินเข้าวิลล่าไป
“ตุบ!”
พอเข้ามาในวิลล่า สองพ่อลูกลู่หยวนทงกับลู่ชวนก็รีบคุกเข่าลงพื้น
“คุณหยาง เราผิดไปแล้ว ช่วยเห็นแก่ฉิงเสว่แล้วปล่อยตระกูลลู่ไปสักครั้งเถอะครับ!”
สองพ่อลูกรีบอ้อนวอน
“พวกคุณลุกขึ้นเถอะ!”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
ถึงหยางเฉินจะรู้สึกเบื่อขี้หน้าสองพ่อลูกนี้มากก็ตาม แต่ยังไงพวกเขาก็เป็นปู่กับพ่อของลู่ฉิงเสว่
“คุณหยาง นี่คุณให้อภัยพวกเราแล้วเหรอครับ?”
ลู่หยวนทงทำหน้าตื่นเต้น จึงรีบถามไป
หยางเฉินขมวดคิ้ว “ถ้าพวกคุณไม่อยากให้ผมยกโทษ งั้นพวกคุณก็จงคุกเข่าต่อไป!”
พอได้ยินหยางเฉินพูดมาแบบนั้น สองพ่อลูกก็ไม่กล้าคุกเข่าต่อ จึงรีบลุกขึ้นมาทันที
ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนต่างมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน และไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ในตอนนี้สองสาวมองไปยังเย่เทียนนั้นเอง หยางเฉินก็ได้มองมาที่ลู่ฉิงเสว่พอดี ผ่านไปพักใหญ่เขาถึงได้พูดออกมาว่า “ผมขอโทษ!”
สามพยางค์นี้ เป็นเหมือนกับค้อนหนักๆ ที่ทุบใส่หัวใจของลู่ฉิงเสว่
คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมหยางเฉินถึงต้องพูดคำนี้ออกมา แต่ลู่ฉิงเสว่นั้นรู้ดี คำๆนี้มันหมายถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองที่หมดหวังโดยสิ้นเชิง
“คุณหยางพูดเกินไปแล้วค่ะ!”
ลู่ฉิงเสว่ส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าที่หดหู่ว่า “เราสองคนนั้นพบกันแค่โดยบังเอิญ ต่อให้วันนั้นฉันกับเชียนเชียนไม่เจอคุณ คุณก็จะไม่เป็นไร ถูกมั้ย?”
ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งในวิถีบู๊ แต่กลับรู้ว่าผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดคนหนึ่ง ถ้ายังมีลมหายใจ ยังไงก็รอด
เธอเข้าใจมาตลอดว่า ตัวเองเป็นคนที่ช่วยชีวิตของหยางเฉินไว้ จนมาวันนี้ถึงได้รู้ว่า ต่อให้ไม่ช่วย หยางเฉินก็ไม่เป็นไรอยู่ดี
ในใจของหยางเฉินก็รู้สึกแย่เหมือนกัน โดยเฉพาะความรู้สึกที่ลู่ฉิงเสว่มีต่อเขา จากพี่เสว่กลายมาเป็นคุณหยาง
มู่เชียนเชียนสองตาแดงก่ำ ยื่นมือไปแตะตัวลู่ฉิงเสว่ที่กำลังอ่อนแรง สุดท้ายก็ทนไม่ไหวแล้วพูดทั้งน้ำตาว่า “พี่ยังเป็นพี่เสี่ยวของพวกเราอยู่ ใช่มั้ยคะ?”