The king of War - บทที่ 1303 ขาดการติดต่อทั้งหมด
เขาไว้ชีวิตหลงฮุยหวง แต่ตอนที่หลงฮุยหวงกำลังจากไปกลับลงมือกับลู่ฉิงเสว่และโม่เชียนเชียนอย่างกะทันหัน
หลงฮุยหวงใช้เด็กผู้หญิงสองคนที่ไม่เกี่ยวมาข่มขู่หยางเฉิน บีบบังคับให้เขาคุกเข่าลง ทำลายฐานการฝึกของตนเอง
“ไอ้สารเลว แกมันรนหาที่ตาย!”
หยางเฉินได้พาตนเองเข้าไปอยู่ในห้วงความโกรธก่อนหน้านี้ ภายในหัวมีแต่ภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
แม้กระทั่งตัวเขาก็ไม่รู้ตัว เพียงเพราะความทรงจำทำให้ดวงตาทั้งคู่ของเขากลายเป็นสีแดงเลือด รู้สึกโกรธจนถึงขีดสุด กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งของวิธีบู๊แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จิ่วโจวจะไม่มีราชวงศ์หลงอีก!”
หยางเฉินอาจจะกัดฟันพูดประโยคนี้
ทันใดนั้น ความเจ็บปวดที่รุนแรงสายหนึ่งถาโถมใส่ศีรษะของเขา ราวกับต้องการกระชากสมองของเขาให้แรง
“อ๊ากอ๊ากอ๊าก……”
เขาเงยหน้าขึ้นส่งเสียงคำรามราวกับเป็นมัจจุราชที่มาจากขุมนรก
“ตอนนี้แหละ!”
หยางเฉินฝืนทนความเจ็บปวดที่รุนแรงจนถึงขีดสุดตรงศีรษะ ทันใดนั้น เขากระโดดลงจากยอดเขาหนิงอย่างกะทันหัน
เขาปล่อยให้ร่างกายของตนเองเข้าใกล้พื้นดินอย่างต่อเนื่องเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น เสียงของกระแสลมดังซ่า ราวกับเขาไม่ได้กำลังตกลงสู่พื้นดิน แต่กำลังนอนอยู่บนเรือที่โดดเดี่ยวกลางทะเล
สีแดงเลือดในดวงตาทั้งคู่ของเขาเริ่มหายไปทีละนิด
กลิ่นอายที่คลุ้มคลั่งในตอนแรกหายไปราวกลับน้ำลด
“แย่แล้ว!”
หยางเฉินรู้สึกตัวอย่างกะทันหัน ตนเองกำลังจะตกลงสู่พื้นดินแล้ว
เมื่อไม่มีลู่ฉิงเสว่ ลำพังเขาเพียงคนเดียวถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เห็นเพียงดวงตาทั้งคู่ของเขาจ้องก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้เท้า
“ตอนนี้แหละ!”
หยางเฉินออกแรงอย่างกะทันหัน เหยียบลงบนขอบของก้อนหินขนาดใหญ่
พลังที่น่าสะพรึงกลัวทำให้ขอบก้อนหินขนาดใหญ่แตกโดยตรง ส่วนร่างกายของหยางเฉินยังคงเข้าใกล้พื้นดิน
แต่ด้วยกันเหยียบเมื่อกี้ ช่วยลดทอนความเร็วในการตกของเขาลงเยอะมาก
“ปัง!”
หลายวินาทีต่อมา เขาทั้งคู่ของเขาตกลงบนพื้นดินอย่างแรง
บนพื้นปรากฏรอยเท้าที่เป็นหลุมลึกอย่างชัดเจนสองหลุม หยางเฉินกลับดูเหมือนคนไม่เป็นอะไร แค่รู้สึกขาทั้งคู่ถูกสะเทือนจนชา
“ฉันทำสำเร็จแล้ว!”
หยางเฉินรู้สึกดีใจมากทันที
เขาค้นพบอย่างกะทันหัน ตนเองในตอนนี้สามารถควบคุมทำให้ตนเองคลุ้มคลั่งหรือดึงสติกลับจากสภาวะคลุ้มคลั่งได้อย่างอิสระ
เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เข้าใจคือ หลังจากที่เข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง ขอเพียงเขาสามารถร่อนลงพื้นได้อย่างอิสระ ใช้เวลาเพียงแค่สี่ถึงห้าวินาทีก็จะสามารถดึงสติของตนเองกลับมา
ตอนที่เข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง แม้รู้สึกเจ็บปวด ร่างกายแบกรับแรงกดดันจำนวนมหาศาล แต่เขาสามารถระเบิดพลังวิธีบู๊ที่อยู่เหนือขอบเขตของตนเอง
ด้วยพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งของเขาในปัจจุบัน หากเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองเขาก็ไม่กลัว ถึงขั้นสามารถฆ่าอีกฝ่าย
หลังจากที่พลังเข้าสู่ขอบเขตของแดนเหนือมนุษย์ ความแตกต่างระหว่างสองระดับล้วนแต่น่าสะพรึงกลัวจนถึงขีดสุด ถึงเป็นคนประเภทอัจฉริยะวิธีบู๊ ก็ยากที่จะข้ามระดับฆ่าศัตรูได้สำเร็จ
แต่หลังจากที่หยางเฉินเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่งกลับสามารถทำได้
หลังจากนั้นเขาขึ้นยอดเขาหนิงอีกครั้ง พยายามทำให้ตนเองเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง จากนั้นกระโดดลงมาจากยอดเขา ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เขาสามารถดึงสติของตนเองกลับมาได้ทันที
พูดให้ชัดเจนคือหลังกระโดดลงจากยอดเขา เขาสามารถดึงสติของตนเองกลับมาได้ในวินาทีที่สี่
หรือก็คือหากต้องต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งในอนาคต ขอเพียงหาวิธีทำให้ตนเองเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง ก็จะสามารถระเบิดพลังระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองออกมา
หากต้องการดึงสติกลับมา ขอเพียงหาสถานที่ค่อนข้างสูงกระโดดลงมา หลังจากวินาทีที่สี่ก็จะสามารถกลับสู่สภาวะปกติ
เพียงแต่ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เวลาเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่ง มีจุดสูงที่สามารถทำให้เขากระโดดร่อนลงพื้นได้อย่างอิสระในสี่วินาทีทุกครั้งหรอกมั้ง?
หรือก็คือเขาจำเป็นต้องกระโดดจากพื้นที่ที่มีความสูงเกือบสี่สิบเมตร
“ฉันสามารถใช้วิธีจินตนาการ ทำให้ตัวเองเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง แล้วสามารถใช้วิธีจินตนาการว่าฉันโดดลงมาจากภูเขาหนิงเพื่อปลดสภาวะคลุ้มคลั่งหรือเปล่า?”
หยางเฉินพูดถึงทำกับตนเอง หลังจากนั้นพูด “ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นฉันลองดูก็แล้วกัน!”
พูดแล้วก็ลงมือทำทันที เมื่อมีประสบการณ์ก่อนหน้านี้ หยางเฉินเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่งอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น เขาเริ่มจินตนาการว่าตนเองโดดลงมาจากภูเขาหนิง ความรู้สึกที่ตกลงมาสู่พื้นดินอย่างอิสระ มันเหมือนเขากำลังประสบด้วยตนเอง
ครั้งที่หนึ่งล้มเหลว!
หลังจากนั้น เขาเริ่มลองครั้งที่สอง!
ไม่นาน ครั้งที่สองก็ล้มเหลว!
ต่อด้วย!
ครั้งที่สาม ล้มเหลวอีก!
ครั้งแล้วครั้งเล่า!
จนกระทั่งถึงครั้งที่แปด เขาใช้เวลาไปสามสิบเจ็ดวินาที ในที่สุดก็สามารถปลดสภาวะคลุ้มคลั่ง!
“ฉันทำสำเร็จแล้ว!”
บนใบหน้าของหยางเฉินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ เขารู้ดี เมื่อความแข็งแกร่งบรรลุถึงระดับของเขา ต้องการใช้พลังของแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งเอาชนะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง มันเป็นเรื่องที่ยากเพียงใด
ขอเพลงเขาสามารถเข้าสู่สภาวะคลุ้มคลั่ง ก็จะสามารถระเบิดพลังที่เหนือกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองออกมา
ถึงแม้เขาใช้เวลาไปทั้งหมดสามสิบเจ็ดวินาทีถึงสามารถปลดสภาวะคลั่มคลั่ง แต่อย่างน้อยก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามาถูกทางแล้ว ขอเพียงเขาฝึกฝนต่อไป ไม่แน่ เวลาปลดสภาวะคลุ้มคลั่งในอนาคตอาจจะลดลงเหลือเพียงสามถึงสี่วินาที
ในขณะที่หยางเฉินกำลังวิเคราะห์ ควรควบคุมอารมณ์ของตนเองอย่างไรเพื่อเข้าสู่และปลดสภาวะคลุ้มคลั่ง ราชวงศ์เย่ที่อยู่ห่างไกลออกไป
“ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่และราชวงศ์หลงไปถึงหนิงโจวสามชั่วโมงแล้ว ทำไมถึงไม่มีข่าวส่งกลับมาเลย?”
ตำหนักพระราชวังเย่ บนบัลลังก์จักรพรรดิ กษัตริย์เย่ถามด้วยสีหน้าที่เฉยเมย
“คุณปู่ ผมจะติดต่อกับพวกเขาเดี๋ยวนี้!”
ด้านล่างของบัลลังก์จักรพรรดิ ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบพูดขึ้น
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเย่ชงอัจฉริยะวิธีบู๊รุ่นที่สามที่เป็นผู้นำพาผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่เข้าสู่ศึกชิงเจ้าแห่งราชาในเยี่ยนตู
และครั้งนี้ ร่วมมือกับราชวงศ์หลงไปตามหาหยางเฉินในหนิงโจว ยิ่งไปกว่านั้นแผนการร่วมมือสังหารเย่เฉิงก็คือแผนการที่เขาคิดขึ้นเอง
เย่ชงกดโทรติดต่อกันหลายครั้ง แต่ไม่มีการตอบรับ
“คุณปู่ ผู้แข็งแกร่งแดนเทพหกคนที่ถูกส่งไปรับผิดชอบภารกิจขาดการติดต่อทั้งหมดแล้ว!”
เย่ชงมองกษัตริย์เย่ด้วยสีหน้าที่เลื่อนลอย ในส่วนลึกของแววตามีความหวาดกลัวปะปนหลายส่วน
“แกพูดอะไรนะ?”
สีหน้าของกษัตริย์เย่เปลี่ยนไปทันที พูดด้วยความโกรธ “ขาดการติดต่อแล้ว? ขาดการติดต่อได้ยังไง?”
“แกเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอ? ขอแค่ร่วมมือกับราชวงศ์หลง สามารถฆ่าไอ้เด็กคนนั้นได้แน่นอน”
เห็นกษัตริย์เย่โกรธ ร่างกายของเย่ชงสั่นสะท้าน รีบคุกเข่าลงพื้นพูดด้วยความตื่นตระหนกทันที “คุณปู่ ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณใจเย็นก่อน ผมจะรีบติดต่อราชวงศ์หลงเดี๋ยวนี้”
“ฮึ่ม!”
กษัตริย์เย่พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ครั้งนี้ ราชวงศ์เย่ส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพออกไปหกคน และยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดอีกหนึ่งคน ถ้าหากเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรกับพวกเขา ถึงแกมีสิบชีวิตก็ไม่พอชดใช้”
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ร่างกายของเย่ชงสั่นสะท้าน รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาติดต่อราชวงศ์โดยไม่กล้าเสียเวลาอีก
อีกฝ่ายรับสายอย่างรวดเร็ว เย่ชงรีบถาม “ผู้แข็งแกร่งแดนเทพของราชวงศ์เย่ขาดการติดต่อทั้งหมด พวกคุณล่ะ?”
“ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่ก็ขาดการติดต่อเหมือนกันเหรอ?”
น้ำเสียงของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความตกใจ
เขากำลังเตรียมติดต่อเย่ชง คิดไม่ถึงว่าเย่ชงจะเป็นคนติดต่อเขาเสียก่อน ชั่วขณะ ภายในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว