The king of War - บทที่ 1340 ใช้อำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้
“ตอนนี้เกรงว่าหยางเฉินจะรู้แล้วว่า พวกเราสองราชวงศ์ร่วมมือกันลอบสังหารเขา หลงหวงคิดว่าหากเขารู้ความจริง เขาจะไม่แก้แค้นพวกเราหรือ?”
“ต่อให้หยางเฉินไม่แก้แค้นพวกเรา แต่ราชวงศ์ซ่านกวนและราชวงศ์ต้วน ก็จับตาดูเราอยู่เช่นกัน แม้แต่ตระกูลชั้นนำในเมืองราชวงศ์ของเรา ก็กำลังจับตาดูเราอยู่เช่นกัน”
“ท่านคิดว่าพวกเราสองตระกูลต่างสูญเสียผู้แข็งแกร่งแดนเทพหกคน หากข่าวรั่วไหลออกไป ผู้คนและกองกำลังเหล่านี้จะปล่อยพวกเราไปไหม?”
เย่ชาวฝานถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือ เขามองไม่เห็นความหวาดกลัวใด ๆ บนใบหน้าของหลงจิ้นเลย กลับเห็นแต่ความรังเกียจในส่วนลึกของนัยน์ตาของเขาแทน
ดูเหมือนกำลังบอกว่า ปัญญาใหญ่พวกนี้เป็นเรื่องเล็กๆ ราชวงศ์หลงไม่รู้สึกหวาดกลัว
“พูดจบแล้วเหรอ?”
เมื่อเย่ชาวฝานไม่พูดสักที หลงจิ้นก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อพูดจบแล้ว งั้นก็ออกไปได้!”
พอพูดออกมาเช่นนี้ สีหน้าของกลุ่มของเย่ชาวฝานทั้งสามก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างถึงขีดสุด
พวกเขาเดินทางหลายหมื่นลี้มายังราชวงศ์หลงเพื่อพูดคุยเรื่องพันธมิตร แต่กลับถูกหลงจิ้นออกคำสั่งขับไล่ ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกขับไล่ออกไปโดยไม่ไว้หน้าราชวงศ์เย่เลย
ทันทีที่หลงจิ้นพูดจบ ผู้แข็งแกร่งที่มีลมปราณแห่งวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวหลายคนได้ก้าวออกไปข้างหน้าทันที จ้องตาเป็นมันใส่กลุ่มของเย่ชาวฝานทั้งสามคน
ขอเพียงหลงจิ้นออกคำสั่ง กลุ่มของเย่ชาวฝานทั้งสามจะถูกฆ่าตายในทันที
นี่คืออาณาเขตของราชวงศ์หลง พวกเขาชอบวางอำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้!
เมื่อรู้สึกถึงเจตนาฆ่าของกลุ่มผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์หลง สีหน้าของเย่ชาวฝานก็ย่ำแย่ถึงขีดสุด เขามาที่ราชวงศ์หลงในวันนี้เพื่อเป็นพันธมิตร แต่ตอนนี้กลับถูกราชวงศ์มองเป็นศัตรูเช่นนี้
ถ้าหลงจิ้นต้องการให้พวกเขาตาย ลำพังพวกเขาสามคนต่อให้ต่อสู้จนตายก็ไม่มีโอกาสหนีรอดได้
“พวกเราไปกันเถอะ!”
เย่ชาวฝานนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกัดฟันพูด
สองผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด ขนาบซ้ายและขวาเย่ชาวฝาน ออกไปด้วยกัน
หลงจิ้นไม่ได้ขัดขวาง ปล่อยให้ทั้งสามออกไป
แต่ทันทีที่ทั้งสามเดินออกจากวังหลงหวง อานุภาพวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวก็โอบล้อมกลุ่มของเย่ชาวฝานทั้งสามไว้ในทันที
“หลงหวง ท่านทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”
เย่ชาวฝานไม่รู้ว่าทำไม ในที่สุดก็อดไม่ได้จึงกัดฟันถาม “ท่านบอกให้ข้าไป ตอนนี้ข้าก็กำลังจะไป แต่ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์หลงของท่านกำลังกดดันพวกเราอยู่ นี่หมายความว่าคิดจะเปิดฉากต่อสู้ระหว่างสองราชวงศ์งั้นหรือ?”
สองผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพชั้นยอด ในเวลานี้กำลังเผชิญกับศัตรูที่น่าเกรงขามเช่นกัน เขายืนขนาบข้างซ้ายขวาเย่ชาวฝานเพื่อปกป้อง ท่าทางดูจริงจังมาก
หลงจิ้นสัมผัสได้ถึงลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่แผ่ออกมาจากใครบางคน
เขายิ้มเยาะ “ลำพังตัวท่านคิดว่ามีคุณสมบัติพอที่จะประกาศสงครามกับราชวงศ์หลงของเรางั้นหรือ?”
เมื่อสิ้นเสียง เขาก็ปลดปล่อยลมปราณแห่งวิถีบู๊ระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ออกมาจากร่างกายของเขา
“ฝ่าบาทระวัง!”
สองผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดของราชวงศ์เย่ต่างหน้าถอดสี ก้าวออกไปข้างหน้าพร้อมกัน ยืนขวางอยู่หน้าเย่ชาวฝาน
ในขณะนั้น จู่ๆ เงาร่างชายหนุ่มก็เดินออกมา มุ่งหน้าไปหาเย่ชาวฝานทีละก้าว
เย่ชาวฝานที่เดิมทีพุ่งความสนใจไปที่หลงจิ้น จู่ๆ พอเห็นหยางเฉินก็ทำหน้าราวกับเห็นผี “ท่าน…ท่าน…ทำไมท่านถึงอยู่ในราชวงศ์หลง?”
ในฐานะทายาทของราชวงศ์เย่ เขาจะจำหยางเฉินไม่ได้ได้อย่างไร?
หนึ่งในจุดประสงค์ที่เขามาเป็นพันธมิตรของราชวงศ์หลงในวันนี้ก็คือ เพื่อจัดการกับหยางเฉิน
แต่ตอนนี้ พันธมิตรยังไม่ทันได้จัดตั้ง หยางเฉินก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
“คุณหยาง!”
และในเวลานี้หลงจิ้นได้เดินเข้าไปถึงตรงหน้าหยางเฉิน โค้งคำนับเล็กน้อยด้วยความเคารพ
“คุณหยาง!”
สมาชิกคนอื่นๆ ของราชวงศ์หลงก็แสดงความเคารพเช่นกัน
ภาพนี้ทำให้กลุ่มของเย่ชาวฝานทั้งสามตกใจเป็นอย่างมาก
มาถึงตอนนี้หากเขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็คงจะเป็นคนโง่จริงๆ
เห็นได้ชัดว่าราชวงศ์หลงในเวลานี้ได้ยอมสวามิภักดิ์ให้หยางเฉินแล้ว
ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจว่าทำไมราชวงศ์ถึงไม่ยินดีร่วมมือกัน ที่แท้หลงหวงนั้นได้รับการสนับสนุนจากหยางเฉิน ถึงขนาดที่ตวาดไล่เขาต่อหน้าทุกคน
จากการตรวจสอบของราชวงศ์เย่ วิถีบู๊ของหยางเฉินได้ฟันฝ่าเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์แล้ว
“เย่ชงเป็นอะไรกับท่าน?”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็มองไปที่เย่ชาวฝานและถามขึ้น
เขาเห็นเงาของเย่ชงบนใบหน้าของเย่ชาวฝาน
เขารู้ด้วยว่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพหกคนที่ราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่ต่างส่งไปฆ่าเขา มาจากการคัดเลือกโดยเย่ชงแห่งราชวงศ์เย่
เดิมทีเขาวางแผนที่จะปล่อยราชวงศ์เย่ไปชั่วคราว ถึงอย่างไรภายในราชวงศ์เย่ อาจมีชายผู้ฟันฝ่าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์เมื่อห้าสิบปีก่อนอยู่ก็ได้
ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา หากไปที่ราชวงศ์เย่ เมื่อสัตว์ประหลาดเก่าแก่ถูกล่อออกมา อาจจะมีแต่ตายกับตายลูกเดียว
แต่ที่นึกไม่ถึงก็คือ ราชวงศ์เย่ได้ส่งผู้แข็งแกร่งสามคนออกไปแสวงหาพันธมิตรกับราชวงศ์หลง
หยางเฉินตัดสินใจดีแล้วว่า ต่อให้เขาไม่แตะต้องสมาชิกของราชวงศ์เย่ แต่ราชวงศ์เย่ก็เห็นเขาเป็นศัตรูอยู่เสมอ ต้องคอยหาโอกาสที่จะฆ่าเขาอย่างแน่นอน
เช่นนี้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยกลุ่มของเย่ชาวฝานทั้งสามคนไป
“ข้าเป็นพ่อของเย่ชง!”
เย่ชาวฝานกล่าวอย่างเย็นชา
เขาดูเฉยเมย แต่ในใจเขากลับหัวใจเต้นแรงมากที่สุด
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเสียใจที่มาราชวงศ์หลง ตอนนี้เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับไปด้วยซ้ำ
“ที่แท้ท่านก็เป็นพ่อของเย่ชงนี่เอง!”
หยางเฉินสีหน้าเรียบเฉย พยักหน้าและถามในทันใด “ถ้าอย่างนั้น ที่เย่ชงเสนอให้ร่วมมือกับราชวงศ์มาฆ่าข้า เกี่ยวข้องกับท่านหรือเปล่า?”
เย่ชาวฝานเป็นพ่อของเย่ชง ถ้าอย่างนั้นเรื่องเย่ชงก็ต้องคุยกับเย่ชาวฝาน
เย่ชาวฝานเห็นสีหน้าที่สงบนิ่งของหยางเฉิน ความหวาดกลัวในหัวใจของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ข้าไม่รู้!”
เย่ชาวฝานตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า “แม้ว่าเขาจะเป็นลูกของข้า แต่ไม่ใช่จะมาพูดคุยกับข้าทุกเรื่อง”
“เป็นแบบนี้เองเหรอ?”
หยางเฉินถามอีกครั้ง
“ใช่…”
ทันทีที่เย่ชาวฝานพยักหน้า หยางเฉินก็สาวเท้าเข้าไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเย่ชาวฝาน ก่อนจะสะบัดฝ่ามือ
“ผัวะ!”
ได้ยินเสียงตบที่คมชัด เย่ชาวฝานที่อยู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย กระเด็นออกไปราวกับลูกบอล
เมื่อทุกคนได้สติกลับมา หยางเฉินก็ปรากฏตัวต่อหน้าเย่ชาวฝานอีกครั้ง โดยเอาขาข้างหนึ่งเหยียบลงบนศีรษะของเขา ถามอย่างใจเย็น “บอกข้าที ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ราชวงศ์เย่ร่วมมือกับราชวงศ์หลงมาฆ่าข้าหรือเปล่า?”
“หยางเฉิน!”
ในเวลานี้ สองผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดของราชวงศ์เย่ได้สติกลับมาแล้ว พากันร้องตะโกน “หยางเฉิน อย่าทำเกินไป!”
“ฆ่ามัน!”
หยางเฉินออกคำสั่งโดยไม่หันกลับมามอง
“ปัง!”
หลงจิ้นที่รอฟังคำสั่งจากหยางเฉินอยู่ได้กลายเป็นเงาและปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดของราชวงศ์เย่ที่เพิ่งพูดจบไป เอาฝ่ามือตบศีรษะผู้ชายคนนั้น
เห็นเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเทพของราชวงศ์เย่เมื่อครู่ยังตัวสั่นด้วยความโกรธ ได้เสียชีวิตลงในที่เกิดเหตุทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาอันสั้น ส่วนเรื่องที่หลงจิ้นสังหารผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่คนหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งอีกคนเพิ่งได้สติกลับมา ถอยกลับอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว